| [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ | |
|
|
|
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 1:55 pm | |
| | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:00 pm | |
| Sincere No.42 p.102-103
หยวนหย่งอี๋ให้กำเนิดลูกชายคนแรกแก่จางจื้อหลินโดยพ่อแม่มือใหม่คู่นี้ตั้งชื่อให้ลูกน้อยว่า "จางมู่ถง"(Morton) น้ำหนักเธอก่อนคลอดประมาณ 150 ปอนด์ ใครๆเห็นชอบทักว่าอวบอ้วนเป็นประจำ หลังจากคลอดลูก เธอตั้งใจจะลดน้ำหนักให้ได้ ช่วงแรกแรกลดเหลือ 130 ปอนด์ แต่ด้วยความสูงถึง 5 ฟุต 7 นิ้ว เราคิดว่าน้ำหนักประมาณ 115-118 ปอนด์เหมาะสมที่สุด ให้เวลาเธอสักพัก รับรองหุ่นต้องสวยฟิตเหมือนเดิมแน่
ระหว่างที่หยวนหย่งอี๋ท้องโตนั้นเธอขยันทำงานโดยถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Prote'ge' ซึ่งกำกับโดยปีเตอร์ ชาน คนท้องทำงานค่อนข้างอันตราย หย่งอี๋กล่าวถึงสาเหตุที่ยอมแสดงงานนี้ "ถ้าไม่มีคุณปีเตอร์ในวันนั้น คงไม่มีหยวนหย่งอี้ในวันนี้ เขาเป็นผู้มีพระคุณกับฉันมาก ฉันสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณ" ตั้งแต่เธอเป็นคุณแม่สมใจ ก็เห่อลูกมากเป็นพิเศษ เวลาที่เธอชอบที่สุดคือตอนอุ้มลูกน้อยไว้บนตัว "ฉันชอบอุ้มเขาโดยให้เนื้อแนบเนื้อ ฉันคิดว่าการทำเช่นนี้ลูกสามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นจากแม่ได้ดีเห็นเขามีความสุขและหลับสบายทุกครั้ง ช่างเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดของฉันกับลูกจริงๆ ค่ะ"
ลูกน้อยกินนมจากเต้าคุณแม่
คุณแม่มือใหม่อย่างเธอ เมื่อถึงเวลาป้อนนมจากเต้าให้ลูกกิน ก็รู้สึกแปลกๆชอบกลแหม...ของอย่างนี้มันต้องมีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ "ฉันให้นมลูกมาระยะหนึ่งแล้วค่ะ ครั้งแรกที่ให้นมลูก ฉันเก้งๆกังๆมาก ไม่รู้จะนั่งหรือนอนท่าไหนเพื่อให้ลูกดูดนมสบายที่สุด คุณหมอแนะนำให้ลูกกินนมแม่ให้มากเพราะสามารถสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายเด็กได้ แถมย่อยง่ายอีกด้วย" ฉันอยากให้เขาโตอย่างแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย"
หยวนหย่งอี๋เล่าย้อนถึงประสบการณ์ในห้องคลอดให้ฟัง "ที่จริงฉันอยากคลอดแบบธรรมชาติ แต่หมออยากให้ผ่าตัดเพราะเด็กไม่กลับหัว เขาปลอบใจฉันว่าไม่ต้องกลัวหรอกเพราะเดี๋ยวนี้วิวัฒนาการการแพทย์ก้าวไกล ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น ฉันจึงติดสนใจผ่า ใช้เวลาประมาณสองอาทิตย์เพื่อรักษาตัว"
หยวนหย่งอี้ยังบอกให้เพื่อนๆรอบข้างได้รับรู้ว่าเมื่อมีลูกแล้วความรู้สึกจะเป็นเช่นไร? "ฉันเชื่อ ผู้หญิงทุกคนต้องการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบพ่อแม่ลูก เด็กตัวเล็กๆเวลาอยู่ใกล้ทำให้พ่อแม่ยิ้มได้อย่างไม่มีเหตุผล ไม่ว่าเขาจะหัวเราะหรือยิ้ม ทุกๆสิ่งที่แสดงออก ฉันเห็นก็รู้สึกดีทุกครั้ง ฉันมักพูดกระตุ้นให้เพื่อนมีลูกเร็วๆจะได้มาเล่นกับมาตัน ประสบการณ์ดีๆเช่นนี้ใช้เงินซื้อไม่ได้หรอก ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองคุณจะรู้ว่าความสุขนั้นไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ"
ปฏิเสธถ่ายโฆษณาครอบครัว
มีเอเยนซี่โฆษณาทาบทามให้หยวนหย่งอี้จางจื้อหลินและลูกถ่ายโฆษณานมผงเด็กและแพมเพอร์สโดยเสนอค่าตัวให้มากพอดู แต่เธอกลับพูดปฏิเสธพวกเขา "หลายคนที่รู้เรื่องชอบถามฉันว่า ทำไมถึงไม่รับถ่ายโฆษณาค่าตัวที่ได้รับสามารถเป็นค่านมให้ลูกได้หลายปี สำหรับฉันที่เคยมีประสบการณ์ถ่ายโฆษณา ต้องมีความอดทนสูงภาพที่ออกมาเห็นแค่ไม่กี่วินาที แต่ตอนถ่ายทำจริงใช้เวลานานมาก บางครั้งถ่ายวันเดียวก็ไม่จบ ฉันไม่อยากให้ลูกทรมานอยู่ต่อหน้าแสงไฟนานๆ ตาและผิวหนังเขายังไม่มีแรงต้านทานพอ งานแบบนี้ถึงจะได้เงินดี แต่ความกัดดันก็สูงเช่นกันค่ะ" ไม่ใช่แค่งานโฆษณาเท่านั้นที่เธอบอกปัดหากมีงานภาพยนตร์หรือละครติดต่อมา เธอจะไม่รับเช่นกัน "ถึงให้ค่าตัวสูง ฉันก็ปฏิเสธค่ะ อยากอยู่กับลูกให้มากที่สุดยิ่งวัยนี้ต้องการการเลี้ยงดูอย่างดีเป็นพิเศษ ไม่อยากปล่อยให้คลาดสายตาเลยสักวินาที อาจรอสักสองปี อยากให้ทุกอย่างลงตัวซะก่อน ถึงทำงานช่วงนี้จิตใจมีแต่คิดถึงลูกที่บ้านคงว้าวุ่นใจมากแน่นอนค่ะ"
คุณแม่ทุกคนย่อมมีวิธีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันสำหรับหยวนหย่งอี้อยากจะปฏิบัติต่อลูกเหมือนกับที่คุณแม่เลี้ยงเมื่อตอนเด็กๆ "แม้วิธีเลี้ยงของแม่ฉันไม่ค่อยเหมือนใครแต่ผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างดีทีเดียว ตอนเด็กฉันไม่ชอบเรียนหนังสือแต่ชอบทำกิจกรรมมากกว่าแม่รู้ดีว่าฉันชอบอะไรเกรดการเรียนที่ออกมาจึงไม่ค่อยดีแต่แม่ไม่เคยบ่นเลยสักครั้งกลับกัน ถ้าพี่ชายและน้องสาวการเรียนตก พวกเขาโดนว่าแน่ๆ แม่จะดูความสามารถของลูกแต่ละคน ถ้าเรียนได้ดีในอนาคตก็สบาย หางานทำง่าย แต่หากเรียนไม่ดีก็สามารถไปทางอื่นที่ดีได้เช่นกัน ด้วยประการนี้ฉันเลยตัดสินใจเข้าประกวดนางงามฮ่องกงด้วยตัวเอง คุณแม่แค่บอกว่าหากเข้าประกวดแล้วจะเป็นอย่างไร เมื่อเข้ารอบหรือตกรอบต้องทำอะไรต่อไปเท่านั้นเองค่ะ"
จางจื้อหลินอยากให้ลูกมี EQ สูง
พูดถึงการเลี้ยงลูกของคุณแม่ไปแล้ว ขอถามถึงคุณพ่อมือใหม่หัดขับจางจื้อหลินบ้างดีกว่า "จื้อหลินใจเย็นกว่าฉันมากพูดได้ว่า ทั้งไอคิวและอีคิวค่อนข้างสูง จำได้อย่างแม่นยำเขามักเตือนฉัน มีลูกแล้วให้ใจเย็นๆลงบ้าง ไม่งั้นลูกจะเหมือนฉัน(หัวเราะ) จื้อหลินเคยบอกไว้ อยากให้ลูกมีอีคิวสูงๆจะได้ดูแลตัวเองและปรับเปลี่ยนตามสภาวะแวดล้อมได้ ดังนั้นเราต้องปลูกฝังตั้งแต่เล็ก ส่วนไอคิวนั้นมันเรียนรู้ได้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ"
ตั้งแต่มาตันเกิด มีเพื่อนในหรือนอกวงการมาเยี่ยมหรือยัง? "(หัวเราะ) ฉันไม่อยากจะบอกเลย คนที่มาเยี่ยมโดนบังคับหมด บ่นว่าฉันจุกจิกมาก ถ้าใครอยากอุ้มลูกต้องล้างมือให้สะอาด ไม่ได้รังเกียจแขกนะคะ แต่เพื่ออนามัยที่ดีฉันอยากให้ปลอดภัยไว้ก่อน บางคนส่งเอสเอ็มเอสมาอวยพรเช่น พี่อู๋จิ้นหยู ส่งว่า ขอให้ร่างกายแข็งแรงทั้งแม่และลูกส่วนพ่อแม่บุญธรรมให้เป็นของที่ระลึก ตะเกียบและชามสีทองที่สวยงามมาก แถมมีความหมายดีอีกด้วย" คำถามสุดท้าย คุณคิดว่าหน้าตาลูกชายคนนี้เหมือนคุณหรือจางจื้อหลินล่ะ? "เท่าที่สังเกตดวงตาเหมือนฉันนะ ส่วนจมูกและปากออกไปทางจื้อหลินผสมอย่างละนิดละหน่อยพอดูน่ารักดี อย่างนี้สิ ถึงจะเป็นลูกของเราจริง(หัวเราะ)"
ก่อนที่หยวนหย่งอี๋จะกลับเธอยังฝากคำพูดถึงคุณแม่ทุกคนว่า "พ่อแม่ทุกคนเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกฉักอยากให้พูดจาด้วยถ้อยคำดีๆกับเขา เพราะเด็กสามารถซับซับและรับรู้ได้คุณอย่าดูถูกว่าเขาไม่รู้เรื่องนะคะ ถึงพูดไม่ได้ แต่จะจำด้วยการมองและฟัง หากปฏิบัติต่อลูกดีๆ ฉันรับรองเมื่อโตขึ้นต้องอยู่ในกรอบที่วางไว้แน่ๆ เชื่อฉันสิ!? | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:05 pm | |
| นักข่าว : เนื่องจากคุณเล่นกับสาวสวยมากมาย จำได้มั้ยว่าเล่นกับใครเยอะสุด? จื้อหลิน : ถ้าเป็นละครก็น่าจะเป็นเสอซือม่านครับ นักข่าว : เสอซือม่าน? จื้อหลิน : อืม... 2 เรื่องครับ นักข่าว : อืม อย่างนี้นี่เอง งั้นเวลาที่เข้าฉากด้วยกัน อะไรที่ทำให้พวกคุณประทับใจที่สุด มีมั้ย? จื้อหลิน : มีครับ ตอนเล่นเรื่องอ้าวเหมินเจีย (หัวใจปรารถนา) เพราะตอนนั้นผมชอบไปก่อกวนคนโน้นคนนี้ พิธีกร : ก่อกวน? จื้อหลิน : ในห้องแต่งตัวมีแมงสาบอยู่ขวดหนึ่ง จริงๆแล้วผมเอาแค่ตัวเดียวเองนะ เอาไปที่ฉากแล้วโชว์ว่า เฮ้ย นี่แมงสาบ จากนั้นก็เตรียมไปทั้งขวดเลย ตอนนั้นเสอซือม่านกำลังแต่งตัวอยู่ตรงนั้น ผมเลยเอาแมงสาบใส่เข้าไปที่ข้างหลังเธอ แล้วตรงนั้นก็เกิดเสียงกรี๊ดสะเทือนฟ้าดิน ตอนนั้นสนุกมาก เพราะว่าถ่ายหนังเหนื่อย ก็เลยหาอะไรเล่นให้คลายเครียดน่ะครับ พิธีกร : ทำไมถึงมีความคิดแบบนั้นได้ สาวๆใครๆก็กลัวแมงสาบทั้งนั้น จื้อหลิน : ก็แค่เล่นน่ะครับ พิธีกร : ไม่คิดเหรอว่ามันเกินไปหน่อย จื้อหลิน : ก็เกินไปจริงๆ ครับ พิธีกร : นั่นสิครับ จื้อหลิน : ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ครับ พิธีกร : ตอนนั้นเธอร้องไห้รึเปล่า? จื้อหลิน : ก็นิดหน่อย พิธีกร : เธอตีคุณมั้ย? จื้อหลิน : ไม่นะครับ แค่เธอกรี๊ดข้างๆ ผมก็ถือว่าลงโทษแล้วน้า เสียงเค้าแหลมมากรู้ป่าว ก็แค่เล่นครั้งเดียวเท่านั้นครับ พิธีกร : ผมว่าเสอซือม่านในหนังค่อนข้างสวยน่ารักนะ คุณว่าไงครับ? จื้อหลิน : เธอร่าเริงดี มีนิดหน่อยที่เหมือนผู้ชาย แบบว่าไม่อาย ไม่แกล้ง ไม่เสแสร้ง เป็นคนตรงๆครับ พิธีกร : แล้วเฉินซงหลิงที่เล่นกับคุณเกิดปัญหาอะไรกันละเนี่ย จื้อหลิน : ผมเล่นกับเขาน่าจะเป็นเรื่อง เยนตี้หนันเอ๋อร์ (ลูกผู้ชายต้องสู้) มีฉากที่ ผกก.บอกว่าต้องจูบ แต่เธอไม่ยอมครับ พิธีกร : เธอปฏิเสธ? เพิ่งเข้าวงการไม่นานมั้งครับ จื้อหลิน : ไม่นะครับ พิธีกร : แล้วทำไมเธอไม่ยอมล่ะครับ จื้อหลิน : เมื่อก่อนเขาไม่เคยจูบใครมาก่อน ก็เลยไม่ยอมทำแบบนี้ (ทำท่าจูบ) ก็เลยเปลี่ยนเป็นหอมแก้มดีกว่า แค่นี้ก็หมดปัญหา ก็แสดงต่อไปได้ ตอนที่เธอเล่นเรื่องซินซั่งไห่ทาน กับเฉินจิ่นหงมีฉากจูบด้วย ครั้งนึงผมเจอเธอโดยบังเอิญเลยถามว่า ทำไมตอนนั้นไม่ยอมถ่ายแบบนี้กับผม พิธีกร : ไหนเมื่อกี้คุณบอกว่าเป็นแค่การแสดงไงครับ จื้อหลิน : ถ้าฉากนั้นต้องจูบต่อหน้ากล้องละก็ อารมณ์ก็จะบิ๊วได้มากขึ้นครับ นักข่าว : ในใจเธอคงคิดไม่เหมือนคุณมั้ง งั้นขอถามเกี่ยวกับกัวเข่ออิ๋งเล่นเรื่องแรกกับคุณชื่อ หวงผู่ชิงฉิง (สองพยัคฆ์เซี่ยงไฮ้) คุณว่าง่ายเหมือนเสอซือม่านมั้ยคะ? จื้อหลิน : แน่นอนครับ ที่จริงใช้คำว่าง่าย ไม่เหมาะเท่าไหร่นะครับ พิธีกร : ว่าง่าย? คำนี้จีนเราไม่ใช้กันนานแล้ว จื้อหลิน : ผมว่าน่าจะใช้คำว่าเหมาะสมกันมากกว่า ถ้าคุณบอกว่าเขาเชื่อฟัง ก็เหมือนว่าผมต้องออกคำสั่งกับเค้าสิใช่มั๊ยครับ ที่จริงอำนาจสูงสุดอยู่ที่ ผกก.ครับ พิธีกร : นี่คือข้อจำกัดของคาสโนวาคร้าบ ที่ทำให้สาวๆต้องยอมสิโรราบ จื้อหลิน : ไม่เกี่ยวกับผมซักหน่อยครับ นักข่าว : ฉันว่ากัวเข่ออิ๋งเทียบกับเสอซือม่านแล้วเธอดูเรียบร้อยกว่านะ จื้อหลิน : งั้นคุณก็ว่าเสอซือม่านไม่เรียบร้อยใช่มั้ยครับ นักข่าว : ไม่ใช่ แบบว่าไม่มีแมนๆแบบเสอซือม่าน ที่ทำให้คุณกล้าเอาแมงสาบไปแหย่ จื้อหลิน : ผมว่ากัวเข่ออิ๋งไม่เหมาะที่จะเล่นแบบนี้นะครับ เธอค่อนข้างกุลสตรีน่ะครับ
พิธีกร : พูดกันตั้งนานแล้วเกี่ยวกับเรื่องรักๆเนี่ย คู่ในทีวีก็ดี หรือชีวิตจริงก็ดี แน่นอนเป็นหยวนหย่งอี๋ซะแล้ว ไหนลองทายซิว่าเหตุผมที่สองที่เรียกว่าเป็น "ฉิงเซิ่ง" คืออะไรครับ? จื้อหลิน : จมอยู่กับรักมานาน พิธีกร : รักเดียวใจเดียว คำมั่นสัญญาต่อกัน สามีผู้ยิ่งใหญ่ นี่แหละเป็นเงื่อนไขที่ฉิงเซิ่งต้องมี จื้อหลิน : จริงครับ ผมหวังว่าสามารถทำได้เหมือนอย่างที่คุณพูด ตราบเท่าผมยังมีชีวิตอยู่ พิธีกร : เอาล่ะ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยถามคำถาม เกี่ยวกับเรื่องความรักนะครับ นักข่าว : ครั้งแรกที่เล่นฉากรักกับหยวนหย่งอี๋ ยังจำบรรยากาศได้มั้ยคะ? จื้อหลิน : จะมีอ่างไม้อยู่ข้างใน ตอนนั้นเป็นฤดูหนาว ลบ 10-20องศา ผมต้องถอดเสื้อลงไปอาบน้ำ น้ำก็เย็น แต่เห็นเธอขี่ม้าผ่านไป รู้สึกว่าเป็นภาพที่สวยมาก นักข่าว : ตอนที่เจอกันครั้งแรก คุณคิดว่าเธอเป็นยังไงคะ? จื้อหลิน : ตอนนั้นไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่พบเค้าหรอกครับ พบเค้าครั้งแรกน่าจะเป็นในทีวีตอนประกวดมิสฮ่องกง พิธีกร : ตอนนั้นคุณก็ว่าเธอสวยเลย จื้อหลิน : ใช่ครับ พิธีกร : ได้ยินว่าตอนนั้นเค้าเป็นฝ่ายจีบคุณก่อนหรือครับ จื้อหลิน : เรื่องนี้จะพูดให้เคลียร์เลย ก็ยากนะครับ เค้าต้องไม่ยอมรับแน่ พิธีกร : งั้นวันนี้เราต้องประกาศว่าเรื่องนี้ที่จริงแล้วใครเริ่มก่อนกันแน่ครับ จื้อหลิน : ว่าไปสิครับ พิธีกร : แล้วใครจีบใครก่อนล่ะครับ จื้อหลิน : จริงๆก็ไม่มีใครจีบใครก่อนหรอก ก็แค่เลิกงานแล้วออกไปหาของกินด้วยกันน่ะครับ พิธีกร : แล้วใครรุกก่อนล่ะครับ จื้อหลิน : เค้านัดผมไป ผมจำได้! พิธีกร : แล้วตอนนั้นสถานการณ์เป็นไงครับ เค้าพูดยังไงกับคุณ จื้อหลิน : ไม่มีอะไร เค้าก็ร่าเริงดี อย่าง... เลิกงานแล้วไปกินสุกี้ด้วยกัน พิธีกร : แล้วกินสุกี้เสร็จ... จื้อหลิน : ก็กินไปหลาย10ปีแล้วครับ พิธีกร : นึกถึงตอนนั้นแล้วยากจะลืมใช่มั้ยครับ จื้อหลิน : ไม่ใช่สุกี้แต่เป็นตอนอยู่ในอ่างไม้ต่างหาก พิธีกร : อ๋อ ฉากนั้นนอกจากในหนังแล้วชีวิตจริงก็ด้วยสิ ประมาณว่าแบบนั้น จื้อหลิน : แปลกๆ ดี พิธีกร : ชีวิตก็เหมือนนิยาย นิยายก็คือชีวิตจริง นักข่าว : ใครๆก็รู้ว่าคุณรักเธอมาก งั้นรู้มั้ยว่าหยวนหย่งอี๋ชอบอะไรที่สุด? จื้อหลิน : ชอบที่สุดหรือครับ มีหลายแบบ เช่นตอนอายุ20 เธอจะชอบมิ๊กกี้เม้าส์ นักข่าว : อ้อ...มิกกี้ จื้อหลิน : ใช่ ไร้เดียงสาจริงๆ ตอนนี้เธอจะชอบดูหนัง ดูทุกวัน ดูละครมากกว่า พิธีกร : ใช่ ดูมิกกี้ด้วย จื้อหลิน : อ้า ดูพวกการ์ตูนนั่นแหละ แต่ว่าติดละครมากกว่า นักข่าว : ถ้าเค้าบอกว่าอยากได้อะไรแม้ว่าจะแพงแค่ไหนคุณจะให้เค้ารึเปล่าคะ? จื้อหลิน : ก็จะทำสุดกำลัง จริงๆยังไงก็ได้ขอแค่มีเงิน อยากได้ความสุขอะไรก็ไปเอามาได้ครับ นักข่าว : แล้วคุณให้อะไรเธอ ที่คิดว่าล้ำค่าที่สุดคะ? จื้อหลิน : น่าจะเป็นของที่เค้าให้ผมมากกว่านะ จริงมั้ยครับ? พิธีกร : อ้อ ก็แบบว่าเรามีกันและกัน จื้อหลิน : เฮ้อ เลี่ยนจริงๆ พูดจนหมดเปลือกแล้วครับ นักข่าว : ของที่หยวนหย่งอี๋ให้คุณที่ล้ำค่าที่สุดก็คือลูกตัวน้อยๆใช่มั้ยคะ? จื้อหลิน : ยังไม่ออกมาเลย ไม่รู้ว่าจะดื้อรึเปล่า ถ้าดื้อก็ไม่ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีนะครับ ----เบรค-----
| |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:11 pm | |
| | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:26 pm | |
| แปลจีน-ไทย โดย น้องป๊อป Alecforever Thailandhttp://www.singpao.com/20061122/gossip/887893.html22-11-2006 หยวนหย่งอี้หลังจากคลอดลูกแล้ว เธอได้บอกว่า การดื่มน้ำซุปต้มขิงเป็นอะไรที่ดีต่อร่างกายเธออย่างมาก ทำให้ร่างกายเธอแข็งแรงไว และเธอก็บอกว่าถ้ามีลูกคนต่อไปจะต้อง ดื่มน้ำซุบขิงนี้อีก
หยวนหย่งอี้....อาทิตย์ที่แล้ว เธอได้หลบพวกนักข่าวออกจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลที่เธออยู่กับโรงพยาบาลที่พวกนักข่าวเขียนลงหนังสือพิมพ์ ไม่ตรงกัน คนที่จะเข้าเยี่ยมเธอได้ต้องใช้รหัสผ่านเท่านั้นถึงสามารถเข้าไปได้ เธอบอกว่า ตอนนี้มีคนช่วยดูแลเป็นอย่างดี เธอเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านมีงานหลายอย่างทำให้เธอยุ่งๆ แต่ก็โชคดีเพราะมีจางจื้อหลินอยู่คอยช่วยเธอตลอดเวลา เธอบอกว่าจางจื้อหลินเห่อลูกชายคนนี้เอามากๆ
ตอนนี้เธอเริ่มเข้าใจว่าต้องใจเย็นๆ เพราะบางครั้งเด็กมีอาการหลายอย่าง ถ้าไม่ใจเย็นเราก็ไม่รู้ว่าเด็กเขาต้องการอะไร
เธอบอกว่าลูกยังไม่ได้ตั้งชื่อตอนนี้เรียกเขาว่า "เสี่ยวจางเซียนเซิง"(จางเล็ก) ปกติแล้วเธอเรียกสามีของเธอว่า "คุณชายจาง"(Mr.Cheung) ส่วนจะมีงานเลี้ยงหรือเปล่าเมื่อลูกครบเดือน เธอบอกว่าต้องรอปู่(พ่อของสามี)กลับมาก่อนแล้วถึงจะตัดสินใจ
เธอบอกว่าตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลเธอก็เตรียมตัวอย่างดี เตรียมตัวที่จะหลบนักข่าว ตอนนี้เธอออกจากโรงพยาบาลแล้วยังไม่มีใครรู้เลย จนกระทั่งนักข่าวได้ยินจากเพื่อนของเธอว่าตอนนี้หยวนหย่งอี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว(นักข่าวหน้าแตกเอามากๆ) รู้ด้วยว่าโรงพยาบาลที่เธออยู่คือโรงพยาบาล "หย่างเหอ" ไม่ใช่ที่นักข่าวลงหนังสือพิมพ์ว่าเธออยู่ โรงพยาบาล "หมิงเต๋อ"(นักข่าวหน้าแตกอีกรอบสองค่ะ)
ตอนนี้หยวนหยงอี้ก็ทานอาหารตามปกติ แต่ก็มีบางครั้งกินได้น้อยลง บางครั้งก็รู้สึกง่วงๆ แต่เธอบอกว่าจางจื้อหลินจะคอยดูแลเธอทุกอย่าง ตั้งแต่เธอคลอดลูกกลับมาบ้าน เขาไม่เคยห่างเธอเลยทำให้เธออบอุ่นมากเวลาที่เธอตื่น เธอก็จะเห็นจางจื้อหลินอยู่ข้างๆเธอเสมอ
หลังจากที่เธอคลอดลูกแม่เธอต้มน้ำขิง (เพื่อนบอกว่ามันไม่เชิงเป็นน้ำขิงเป็นยาบำรุงอะไรซักอย่างซึ่งคนจีนค่อนข้างมีฐานะเท่านั้นถึงจะได้กิน) ให้เธอดื่มเพราะเธอเคยได้ยินว่าคนที่ดื่มแบบนี้เหมาะแก่ผู้หญิงที่คลอดลูก เธอคิดว่าเป็นความจริง เพราะเธอรู้สึกเลยว่าร่างกายเธอแข็งแรงมากกว่าปกติ เธอยังบอกอีกว่าถ้ามีลูกคนต่อไปจะดื่มแบบนี้อีก(ต้องรีบๆมีนะเพราะคุณแม่อายุมากแล้ว ,เห็นด้วยค่ะมูน)
เธอบอกว่า เธอต้องเรียนรู้และควบคุมอารมณ์ร้อนของเธอ เรียนรู้ที่จะใจเย็นๆ เพราะว่าบางครั้งเวลาเห็นลูกร้องไห้ เธอก็งงๆ ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ดีที่มีจางจื้อหลินคอยช่วยเธอ เพราะจางจื้อหลินจะใจเย็นมาก รอบครอบกว่าเธอ แต่ถึงเวลาจริงๆ แล้วเราสองคนกลับทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่มีประสบการณ์เหมือนกัน ทุกอย่างตื่นเต้นไปหมด แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหน่อยนึง เวลาลูกร้องไห้จางจื้อหลินมักเอาโทรศัพท์ให้เพื่อนเขาฟัง (ขี้เล่นไม่เบานะค่ะคุณพ่อ) | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:29 pm | |
| ข่าวเกี่ยวกับการถ่ายภาพลงหนังสือเล่มใหม่ของ Leslie Lee เป็นหนังสือรวมภาพถ่ายกึ่งนู๊ดของดาราดังระดับซุปเปอร์สตาร์ เพื่อนำเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึนามิcredit : http://asianfanatics.net/forum/lofiversion/index.php/t336676.html แปลไทยโดย : จางอ้อม 25-11-2006ช่างถ่ายภาพ Leslie Lee ได้ออกหนังสือภาพถ่ายเล่มใหม่ ชื่อว่า "Superstars Pictorial" ซึ่งประกอบด้วยภาพถ่ายของดาราที่มีชื่อเสียง ดังเช่น Chilam Cheung (จางจื้อหลิน), Aaron Kwok (กัวฟู่เฉิง), Cecilia Cheung (จางป๋อจื่อ), Alex Fong (ฟางจงซิ่น) , Kenny Chung Chun To (เคนนี่ บี) , Wong Ka Lok, Daniel Wu Yiu Cho (อู่เจี้ยนจู่), Andy Hui Chi On (สวี่จี้อัน), Yumiko Cheng Hei Yi, และ Joey Yung เป็นต้น หนังสือภาพถ่ายดังกล่าวประกอบด้วยภาพถ่ายดารา 300 คน ได้วางจำหน่ายจุดประสงค์เพื่อหาเงินการกุศลให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ซึนามิ
(ผู้เขียนบอกว่า ขอเตือนไว้ก่อนนะว่า บางภาพถ่ายของดาราชายค่อนข้างจะส่อไปทางเรท X หรือออกแนวอนาจาร) ( อ๊ายยย มีภาพพี่ชายไม๊ จางอ้อมอยากดู 555 เรท X ไม่กลัวอ่ะ กลัวจาไม่ X อ่าดิ ขอ double X ได้ป่าวววว) , (ไม่ได้คะจางอ้อม หลินกุไม่อนุญาต ไม่อยากให้เรือนร่างปลากรอบโชว์ต่อสายตาสาธารณะค่ะ ขอหลินกุดูได้คนเดียว ฮุฮุ)
สำหรับภาพของชิแลม จะเป็นรูปภาพเปลือยอก สวมกางเกงผ้าฝ้ายตัวเล็กๆที่มีรอยตัด และมองเห็นไรขนจากบริเวณช่องท้อง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับภาพถ่ายจากดาราชายคนอื่นๆ จะเปลือยหมดทั้งตัว อย่างเช่น Andy Hui (สวี่จี้อัน)และ Dantel Wu (อู๋เจี้ยนจู่) ดูเหมือนว่าชิแลมจะมีลิมิตในการถ่ายภาพประเภทนี้อยู่ไม่น้อย ซึ่งชิแลมหัวเราะ และได้กล่าวว่า สาเหตุในการถ่ายภาพก็เพื่อหาเงินการกุศล ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้ภาพของเขาออกมาดูเปิดเผยจนเกินไปนัก
คุณพ่อมือใหม่ชิแลม ยังได้รับการแสดงความยินดีจาก Kenny Chung เกี่ยวกับลูกชาย ซึ่งชิแลมกล่าวว่า เขายังไม่ได้ตัดสินใจตั้งชื่อให้กับลูกชาย เพราะว่าเขาพยายามที่จะเลือกชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ และเขาก็ไม่ได้ปรึกษาใครเกี่ยวกับการตั้งชื่อที่เป็นมงคลให้กับลูกชาย เมื่อถูกถามว่า ลูกชายคนนี้หน้าตาเหมือนใคร ระหว่างคุณกับอนิต้า ชิแลมกล่าวว่า "บอกไม่ได้เหมือนกันว่าหน้าตาเหมือนใคร เพราะครอบครัวของอนิต้าก็บอกว่าลูกหน้าตาเหมือนเธอ ในขณะครอบครัวของผมก็บอกว่าลูกหน้าตาเหมือนผม"
การสัมภาษณ์อนิต้าที่ผ่านมา อนิต้าได้บอกว่า เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก ชิแลมจก็จะถอยหนีออกไปทุกครั้ง ซึ่งชิแลมหัวเราะ และบอกว่า " ผมไม่เคยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กมาก่อน แต่หลังจากผมรู้ว่าฉี่ของเด็กอ่อน จริงๆแล้วมันค่อนข้างสะอาดและไม่มีกลิ่น ผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอีกต่อไป"
ชิแลมจะกลับไปเริ่มทำงานในเดือนหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการติดต่อให้ลูกชายของชิแลมโฆษณาเกี่ยวกับนมผงสำหรับทารก แต่ชิแลมกล่าวว่า " ผมไม่ต้องการใช้เรื่องราวของครอบครัวซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว มาใช้สร้างรายได้ หรือใช้ในการหาเงิน" โดยชิแลมได้ปฏิเสธที่จะให้ลูกชายไปโฆษณาดังกล่าว
เนื่องจากลูกชายของชิแลมเพิ่งจะเกิดได้ไม่นาน ทำให้ชิแลมมักจะได้รับคำกล่าวแสดงความยินดีจากบุคคลอื่นๆที่เขาพบเจอ ในที่สาธารณะ ซึ่งชิแลมกล่าวว่า มันทำให้เขารู้สึกมีความสุขที่สุด (ส่วนที่เหลือไม่แปลนะคะ เพราะเป็นข่าวของดาราคนอื่นที่มาถ่ายภาพ ไม่ใช่ข่าวพี่ชาย จางอ้อมม่ายมีความสนใจที่จะอ่านค่ะ)ความเห็นจากหลินกุอ่านแล้วโล่งใจไปค่ะ คิดว่าอาจื้อหลินถ่ายคนเดียวซะอีก ที่แท้ก็มีเพื่อนๆดาราถ่ายกันเพียบ แถมยังเป็นการกุศลด้วย ใจบุญจังนะพ่อคู๊ณณณ แต่ดีนะที่ยังมีกางเกงปกปิด ไม่นู๊ดเหมือนท่านอื่นๆ โฮะๆ ใครอยากดูภาพนู๊ดของดาราท่านอื่นๆก็กดไปตามลิงค์ที่ให้เครดิตมาเลยค่ะ เห็นแล้วจะหัวใจวายคาคอมฯ โฮะๆ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:33 pm | |
| ข่าวจากบอร์ดเรนๆ แปลคร่าวๆนะคะ เพราะภาษาอังกฤษมันแหม่งๆยังไงไม่รู้ สงสัยคงใช้โปรแกรมแปลภาษา จีน-อังกฤษมาอ่ะ
แปลไทย โดย จางอ้อม
ฟังเสียงของอนิต้าแล้ว รู้สึกว่าเธอจะดูสดชื่นและแข็งเเรงขึ้นมาก ถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งผ่าตัดทำคลอดไปได้ไม่นาน อนิต้ากล่าวว่า เธอต้องการจะดูแลลูกด้วยตัวเอง ไม่ต้องการจ้างพยาบาลมาช่วย โดยอนิต้าได้เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ และป้อนนมลูกด้วยตัวเอง อนิต้าบอกว่า "ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเป็นคนใช้ และตอนนี้ไม่รู้สึกเจ็บแผลผ่าตัดแล้ว แม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวยังประหลาดใจ และคิดว่าฉันจะสามารถกลับไปทำงานได้ภายในเร็วๆนี้ ซึ่งฉันต้องการที่จะเริ่มงานแสดงหนังอีกครั้ง แต่ยังไงเรื่องเลี้ยงดูลูกก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง"
อนิต้านอนห้องเดียวกับลูก หลังจากป้อนนมแล้ว เขาก็หลับ ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ อนิต้ากำลังดูแลลูก ซึ่งเพิ่งจะหลับไปได้ไม่นาน อนิต้ากล่าวว่า "ตอนนี้เขาดูเหมือนกบมากๆ นิ้วเท้าของเขาก็แผ่ออกเหมือนกบ สงสัยเขาคงคิดว่ายังต้องว่ายน้ำเหมือนกับตอนที่อยู่ในท้องของฉัน เวลาที่ชิแลมทำหน้าตลกๆให้ลูกดูเพราะต้องการให้ลูกหัวเราะ เขาจะยกศรีษะขึ้นมา และจ้องมองชิแลมเหมือนกับต้องการจะถามว่า พ่อ กำลังทำอะไรเหรอ หรือเวลาที่พวกเราทำอะไรผิด เช่นกำลังฝึกที่จะป้อนนม เขาก็จะทำเสียงแปลกๆให้รู้ว่าไม่พอใจ และจะไม่ยอมยิ้มให้จนกว่าเราจะขอโทษ"
อนิต้าบอกว่าจะมีรูปถ่ายชิแลมกับลูกให้แฟนๆได้เห็นในไม่ช้านี้ แต่จะไม่มีรูปของเธอรวมอยู่ด้วย เพราะเธอไม่ต้องการจะถ่ายภาพในขณะนี้ จนกว่าร่างกายของเธอจะเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับลูกซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ตั้งชื่อ เธอก็จะเรียกเขาว่า คุณชายจางน้อย
อนิต้ากล่าวว่า ช่วงนี้เธอซื้อน้ำยาทำความสะอาดและกระดาษชำระมากเป็นพิเศษ เธอบอกว่า "จริงๆแล้วใครก็ตามที่ต้องการจะสัมผัสหรืออุ้มเด็กทารก ควรทำความสะอาดมือก่อนทุกครั้ง ซึ่งฉันไม่มีทางเลือกเพราะรอบๆตัวเด็กเต็มไปด้วยเเบคทีเรีย ดังนั้นใครก็ตามที่จะสัมผัสเด็ก ก็ต้องล้างมือก่อน สำหรับคนที่คิดจะจูบลูกของฉัน ฉันคิดว่า ให้เขามาจูบฉันแทนจะดีกว่า" (แล้วพี่ชายจะยอมเหรอเนี่ย)
แก้ไขล่าสุดโดย lingu เมื่อ Mon Oct 06, 2008 11:05 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:36 pm | |
| | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:38 pm | |
| สัมภาษณ์จางจื้อหลิน พูดถึงเบื้องหลังการถ่ายทำละคร "เรื่องนี้สุ่ยหาน"
แปลจีน - ไทย โดย น้องป๊อป Alecforever Thailand
ความจริงเราก็เคยเขียนเรื่องราวกันไปบ้างแล้วแต่เรื่องราวน่าสนใจยังมีมาเล่าอีกเยอะทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังละครเรื่องนี้ถ่ายทำที่ประเทศจีนทั้งเรื่องโดยมีสถานที่ถ่ายทำมากมายแต่ที่หลักๆก็คือที่ “อู๋ซี” ซึ่งเป็นสถานที่มีทิวทัศน์สวยงามโดยช่วงเวลาการถ่ายทำก็จัดว่าเป็นช่วงที่หนาวที่สุดของปี ถึงแม้ว่าค่อนข้างจะเหมาะกับการถ่ายทำละครกำลังภายในเพราะเสื้อผ้าแบบโบราณนั้นค่อนข้างหนาแถมยังมีหลายชั้น แต่ทว่าอากาศที่ติดลบ 8 องศาของที่นั่นกลับทำให้ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าชุดเหล่านี้ไม่มีความหมายเรื่องราวสนุกๆ จึงเกิดขึ้นมากมายด้วยเจ้าความหนาวนี่เอง
จางจื้อหลิน ถ้าได้ยินคงต้องตกใจที่ชุดแต่งกายของหัวหน้าใหญ่ ของเขานั้นมีเสื้อสวยทับกัน 3 ตัว กางเกง 3 ตัว ถุงเท้า 2 คู่แถมชุดเกาะหนาๆ ปรากฎว่าใส่ออกมาแล้วตัวก็จะกลมๆ(เหมาะกับใบหน้ากลมๆ) ดูอุ้ยอ้ายแต่ก็คุ้มเพราะสามารถกันความหนาวได้บ้างการถ่ายส่วนมากก็ต้องถ่ายทำในที่โล่งกันพอถ่ายเสร็จแต่ละฉากทุกคนก็ต้องรีบสวมเสื้อนวมตัวโตๆ และวิ่งขึ้นหลบในรถตู้(ของใช่ถึงเห็นรถตู้สีขาวอยู่ในฉาก) เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นเร็วที่สุด ทุกครั้งนอกจากนี้บทที่เขาถ่ายทำก็ยังเป็นใจให้ต้อง "เปียกน้ำ" (แช่อยู่ในน้ำน่าสงสัยจังเลยจางมูนอยากจะไปอยู่ใกล้ๆคอยดูแลเมื่อยามหนาว) อยู่เรื่อยๆเช่นกัน "อากาศหนาวยะเยือกออกขนาดนั้นแต่เวลาถ่ายฉากต่อสู้บางฉากต้องถ่ายท่ามกลางลมแรงๆ หรือไม่ก็หิมะจริง (หิมะเทียม) จะทำให้ภาพออกมาสวยนั่นเองปรากฎว่าพอถ่ายเสร็จเสื้อที่มีน้ำชุ่มก็จะกลายเป็นน้ำแข็งทันที ทำเอาทุกคนเดินเหมือนหุ่นยนต์กันเลยล่ะครับหนำซ้ำยังมีหนหนึ่งที่ผมต้องถ่ายฉากอาบน้ำในลำธารที่ต้องถอดเสื้อตอนถ่ายฉากขับพิษออก คิดเอาแล้วกันหนาวๆแล้วต้องมาถอดเสื้อแช่น้ำเป็นความรู้สึกที่เกินบรรยายจริ งๆ(มูนดูฉากนี้แล้วก็เห็นว่าท่านพี่หนาวจริงๆ)
และเพื่อไม่ให้เวลาพูดมีไอออกจากปากมากเกินไป "จางจื้อหลิน" ต้องใช้วิธีอมน้ำแข็งไว้ก่อนถ่าย รสชาติก็ไม่ผิดอะไรกับการกินน้ำแข็งไสท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ก็ไม่รู้ว่าอย่างนี้เขาเรียกว่าอร่อยดีหรือเปล่า
จากที่ดูเรื่องนี้แล้ว "นี่สุ่ยหาน" หรือ ทวนน้ำเหมันต์ ช่างสมชื่อจริงๆ คงหนาวน่าดู เพราะดูจากการแต่งตัวของตัวละคร และบรรยากาศรอบๆข้างมันก็คงจะหนาวจริงๆ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:40 pm | |
| จางจื้อหลิน....เส้นทางชีวิตที่ขอกำหนดเอง และเลือกได้
ธันวาคม 2006
แปลจีน - ไทย โดย น้องป๊อป Alecforever Thailand
การที่จะเป็นคนที่มีชื่อเสียงได้นั้นต้องฟันฝาอุปสรรค์ต่างๆมากมาย เพื่อจะให้ประสบความสำเร็จในการทำงานและเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วไปนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากประกอบกับต้องมีความอดทน ขยันและใส่ใจในงานที่ทำอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะได้พัฒนางานนั้นให้ก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ จากที่เห็นอยู่ในตอนนี้มีดาราที่โด่งดังมากมายได้พยายามแสดงฝีมือให้เป็นที่รู้จักในประเทศต่างๆ เพื่อเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับตอนเอง ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีดำเนินการที่แตกต่างกันออกไป สำหรบชายหนุ่มที่จะมาเป็นดาวของเราในครั้งนี้ เขาก็เป็นนักแสดงหนุ่มที่มีผลงานมาไม่น้อย และยังมีอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเองด้วย โดยการมาครั้งนี้เขาจะมาพูดคุยกับเราถือเส้นทางชีวิตที่นับแต่เข้าวงการบันเทิงมาว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ผู้สัมภาษณ์ : หลังจากที่ได้เคยพูดคุยกับคุณไปแล้วครั้งหนึ่งก็ยังคงมีเสียงเรียกร้องจากแฟนๆ ที่ต้องการทราบถึงข่าวความเคลื่อนไหวของคุณเกือบตลอดเวลา ทำให้เราต้องกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งเพียงแต่ในครั้งนี้จะเป็นเรื่องของชีวิตการทำงานของคุณนับแต่เข้ามาในวงการบันเทิงเลยนะค่ะ
จางจื้อหลิน : ยินดีครับ เพราะช่วงนี้ผมเองก็เพิ่งจะมีเวลาพักผ่อนเป็นตัวของตัวเองเหมือนกัน และต้องขอบคุณแฟนๆ ที่ยังคงคิดถึงและให้การต้อนรับผมด้วยดีนะครับ
ผู้สัมภาษณ์ : จากชีวิตของคนทำงานคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานในวงการบันเทิงแล้ว คุณคิดว่าสิ่งสำคัญที่ยึดถือเป็นหลักการทำงานที่ต้องมีคืออะไร
จางจื้อหลิน : ในความคิดของผมและสไตล์การทำงานของผมด้วยจะมีสิ่งสำคัญที่ถือว่าเป็นหลักในการทำงาน นับแต่ได้ก้าวเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นงานแสดง หรืองานเพลง แต่สิ่งเหล่านี้ที่ผมจะถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานก็คือ การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การตรงต่อเวลา ความเชื่อมั่นในตนเองและที่สำคัญคือ ต้องมีความขยันด้วยนะครับ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้มีส่วนมากเลยที่ทำให้ผมเป็นผมอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
ผู้สัมภาษณ์ : เห็นด้วยในสิ่งที่คุณพูดมาเพราะการตรงต่อเวลาความขยันและความเชื่อมั่นในตนเองของคุณจะมีส่วนทำให้คุณหันมาให้ความสนใจและเห็นถึงความสำคัญของคุณ อย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือเรานัดกันวันนี้บ่ายโมงครึ่ง คุณก็มาตรงตามเวลาที่นัดไว้ ทำให้เราทั้งคู่ต่างประทับใจซึ่งกันและกันที่ต่างคนก็ให้ความสำคัญของอีกฝ่ายหนึ่ง เรียกได้ว่าคุณสร้างคะแนนไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะค่ะ
จางจื้อหลิน : ขอบคุณมากครับ ผมจะคิดอยู่เสมอว่าการที่เราสามารถไปพบอีกฝ่ายได้ในเวลาที่กำหนดไว้นั่นจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะผมจะมองในมุมกลับกันว่าหากเป็นผมต้องมานั่งรอคุณเป็นครึ่งชั่วโมง หรือเป็นหลายชั่วโมงแล้วล่ะก็ คงจะทำให้การนัดครั้งนี้ไม่ดีแน่ๆ ใช่ไหมครับ(ยิ้ม)
ผู้สัมภาษณ์ : พูดอีกก็ถูกต้องอีกนะ ว่าแต่ช่วงที่ผ่านมาคุณได้ไปถ่ายโฆษณาที่ไต้หวันและเพื่อจะกลับมาที่ฮ่องกงได้ไม่นานนี้จากการทำงานครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
จางจื้อหลิน : ครับ ผมเพิ่งจะกลับมาไม่นานเท่าไหร่ ซึ่งก็เป็นเพราะว่าทำงานที่สถานที่ๆ ต่างกันและต้องเดินทางไปมาหลายที่ทำให้ร่างกายผมอ่อนแอไปพักหนึ่งก็เป็นไข้หวัดน่ะครับ แต่ตอนนี้ก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมพร้อมที่จะลุยงานหนักต่อไปได้อีก เรื่องของสุขภาพไม่มีปัญหาแล้ว
ผู้สัมภาษณ์ : การที่คุณได้เข้ามาทำงานในวงการนี้ คุณมีวิธีวางตัวอย่างไร ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยได้มั้ยค่ะ
จางจื้อหลิน : ทำงานในวงการนี้ ต้องออกไปพบปะผู้คนอยู่เสมอๆ อีกทั้งนิสัยส่วนตัวของผมก็เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ดังนั้นการที่จะเป็นดาราดูท่าจะลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะเราไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองสักเท่าไหร่นัก แต่เวลาของเราส่วนใหญ่จะหมดไปกับการทำงาน ซึ่งตรงนี้ผมเห็นว่าแค่เราทำตัวของเราให้ดีทำตามหน้าที่ๆ เราต้องทำอย่างเต็มที่แค่นี้ก็พอแล้ว
ผู้สัมภาษณ์ : คุณเข้าวงการบันเทิงมานานกว่า 10 ปีแล้ว และก็มีความก้าวหน้าในงานที่ทำมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีปัญหาในการทำงานอยู่บ้าง แต่ว่าคุณก็จะเตรียมพร้อมเสมอเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเรียกได้ว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่กล้าเผชิญกับปัญหา และยังมีนิสัยการทำงานส่วนตัวที่ดีคือจะทุ่มเทให้กับงานที่ทำอยู่และมักจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอๆ
จางจื้อหลิน : ครับ ผมคิดว่างานเป็นสิ่งที่ทำให้คนเรามีคุณค่า เพราะฉะนั้นหากเราทำงานออกมาดีก็หมายถึงว่าคุณค่าในตัวเราก็จะสูงขึ้นด้วยนะครับ อย่างเรื่อง “หงเฟ่น” Hong Feng ตอนที่ผมเล่นเรื่องนี้ผมกมักจะบอกกับตัวเองเสมอๆ ว่าให้พยายามทำทุกอย่างให้เต็มที่แต่เมื่อทำงานมากๆ เข้าบางครั้งก็อาจะเกิดความท้อแท้ได้นะครับ แต่สำหรับผมแล้วหากเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้น ผมจะไม่สนใจในความพ่ายแพ้หรือความยากลำบากที่เกิดขึ้น เพราะตัวผมเองก็เคยประสบกับความรู้สึกที่ท้อแท้มาแล้ว หรือแม้กระทั่งความสุขแบบสุดๆ ที่ยากเกินคำบรรยายได้เมื่องานที่เราทำนั่นสามารถทำได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:41 pm | |
|
ผู้สัมภาษณ์ : คุณเริ่มการทำงานจากจุดศูนย์เลยก็ว่าได้และต้องฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ มากมายแต่คุณก็ยังคงความสดใส ร่าเริงกระฉับกระเฉงเกือบตลอดเวลาที่คุณต้องพบปะกับใครต่อใครแต่คุณยังคงทำงานหนักมากในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาคุณคิดหรือไม่ว่าคุณเองเป็นคนที่มีความอดทนสูงในเรื่องของการทำงาน
จางจื้อหลิน : ตั้งแต่ผมเริ่มทำงานมา ทำงานวันเดียวเหมือนคนทำงานหนัก 2 วัน บางวันก็เหนื่อยสุดๆ เพราะทำงานเข้ามาถึง 15 งาน เช่น งานละครทีวี รายการทีวี หนังสือพิมพ์มาสัมภาษณ์ ยังมีงานถ่ายแบบ ร้องเพลง เรียกได้ว่าทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงมืดเลย ตารางการทำงานวันหนึ่งของผมจะยาวเหยียดเลยนะครับ
ผู้สัมภาษณ์ : หากจะพูดถึงความมั่นใจในตัวเองแล้ว “จื้อหลิน” นั้นก็เป็นชายหนุ่มที่มีสิ่งนี้อยู่เต็มเปี่ยมเลย เพราะเขาไม่ว่าเขาจะไปไหนก็จะมีแต่สาวๆ คอยห้อมล้อม คอยส่งเสียงให้กำลังใจเขาอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นมีการพยายามจะจับคู่ให้เป็นคู่แข่งของ “กัวฟู่เฉิง” เกือบตลอดเวลาคุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ค่ะ
จางจื้อหลิน : ก็เป็นเรื่องปกติของการทำงานในวงการนี้ ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยจะสนใจกับเรื่องนี้นักหรอกนะครับ(ยิ้ม)เพราะผมจะทำงานของผม ไม่ว่าจะเป็นงานละคร งานเพลง ก็ทำตามปกติ เพราะผมรักในงานที่ผมทำ ด้วยจึงไม่สนใจกับกระแสข่าวที่พยายามจะสร้างข่าวเพื่อขายมากกว่า และผมยังเห็นว่าไม่เห็นมีอะไรที่ต้องกลัว เพราะเราทั้งคู่ต่างคนต่างทำงานของตัวเองก็เท่านั้นน่ะครับ และผมกับเขาก็เป็นเพื่อนรักกันด้วย
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วคุณทำงานหนักมากขนาดนี้ก็จะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองนัก ซึ่งก็ทราบดีว่าศิลปินจะไม่ค่อยมีเวลาว่างเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันวาเลนไทน์ วันเกิด หรือวันไหว้พระจันทร์ คุณมักจะวางแผนที่จะทำอะไรในวันสำคัญเหล่านั้นบ้าง
จางจื้อหลิน : เมื่อถึงช่วงเทศกาลสำคัญเหล่านั้น และผมเองก็ไม่ติดงานสำคัญใดๆ ผมก็มักจะไปหาพ่อกับแม่(คนที่ผมรัก) หรือเพื่อนๆ ของผม ใช่ว่าผมจะทำแต่งานเท่านั้นซะที่ไหนครับ ก็ต้องมีเวลาพักผ่อนกันบ้างไม่อย่างนั้นที่บ้านผมคงจะจำหน้าผมไม่ได้แน่ๆ เลย(หัวเราะ) จะเรียกได้ว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างไวเมื่อ(เจอกับปัญหามากกว่า) จากความมั่นใจที่ผมมีให้กับตัวเองนี้ก็เหมือนกับเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะผลักดันให้ผมทำอะไรได้ตามที่ผมต้องการ ผมรู้สึกว่าแต่ละคนไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะ หรือผู้แพ้ก็ตาม สิ่งที่ทุกคนจะต้องมีก็คือการรู้จักพึ่งพาตัวตนเองไม่ใช่เพราะผมอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้แล้วจะถูกคนอื่นมาจูงจมูกนะ ไม่มีทางหรอก เพราะผมคิดว่าผมมีความคิดเป็นของตัวเองและก็มีความฉลาดพอตัวเหมือนกันนะครับ(หัวเราะ)
ผู้สัมภาษณ์ : พูดแบบนี้เหมือนกับว่าคุณมั่นใจในตัวเองมากเลยนะค่ะ
จางจื้อหลิน : ก็ไม่เชิงหรอกครับ เพียงแต่ว่าคนทั้งหลายจะมองผมว่าเป็นแบบอย่างของความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ ซึ่งผมว่าที่เค้ามองผมกันแบบนั้นนะไม่ใช่เลยนะ เพราะหากเค้าจะดูผมว่าเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกครับ เพียงแต่ว่าแต่ละคนก็มีวิธีของแต่ละคน ผมไม่สนใจว่าต้องทำให้เป็นแบบนั้นหรือแบบนี้หรอกนะ ผมจะคิดว่าแค่ผมทำตัวผมให้ดีก็พอแล้วละครับ(ยิ้ม)
ผู้สัมภาษณ์ : ได้ฟังแค่นี้กพอจะทราบแล้วว่าเส้นทางชีวิตของคุณนั้นคุณต้องเป็นผู้กำหนดเอง เรียกได้ว่าคุณมั่นใจในตัวเองสูงที่เลือกจะทำอะไรก็ตาม เป็นสิ่งที่ดีค่ะ หากคนเราขาดความมั่นใจแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้ประสบความสำเร็จหรอกนะ
จางจื้อหลิน : ครับ ผมเห็นด้วยครับ ว่าแต่ผมต้องรีบไปทำงานต่อแล้วครับ ไว้คราวหน้าค่อยคุยกันอีกนะครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คงจะทราบคำตอบกันดีแล้วนะค่ะว่าในชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ “จางจื้อหลิน” ที่เขามีความคิดและวิธีดำเนินชีวิตในแบบที่เขาจะขอเป็นผู้กำหนดเอง โดยยึดถือหลักของการวางตัวและปฏิบัติตัวให้ดีที่สุดก็พอ ซึ่งนอกจากนี้หนุ่มคนนี้ก็ยังมีอีกหลายแง่มุมให้ค้นหากันอีกต่อไป
ขอบคุณเพื่อนๆ และก็ขอบคุณพี่เหม่ยจี มา ณ โอกาศนี้ด้วยค่ะ
| |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:43 pm | |
| บทความ สัญญาณที่ดีของจางจื้อหลินกับช่องสามตอนที่ หนึ่ง
โดย ซ้อสี่ ต๋อมแต๋ม
ข้อมูล บล๊อกหนังชุดของจางจื้อหลินที่เข้าไทย http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=l...ang&group=3
หลังจากเรื่องลูกผู้ชายต้องสู้ก็ดูเหมือนว่าหนังของจางจื้อหลินจะขาดหายไปจากช่องสามเป็นระยะเวลานาน ถึงแม้จะมีการนำหัวใจปรารถนากับเลือดนักสู้หัวใจทระนงมาฉายในเวลาต่อมา ก็ดันไปฉายเวลาที่คนไม่ดู และช่วงนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่กระแสหนังจีนในบ้านเราตกต่ำไปแล้วด้วย
การที่ช่องสามนำเอาฝ่ามือยูไลมาฉายในตอนนี้ ทำให้เกิดความรู้สึก (ที่ดี) ในใจขึ้นอีกครั้ง เพราะโดยปกติช่องสามมักจะชอบเอาหนังของดาราคนเดียวกันมาฉายซ้ำๆ เพื่อดึงความนิยม และเรื่องนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับจางจื้อหลินมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นสิ่งที่ช่องสามทำมันน่าประทับใจเอามากๆ
เริ่มด้วยการเปิดฉากเอามังกรหยกตอนเดชมารคัมภีร์นพเก้ามาฉาย ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อาจเพราะความสามารถของเดวิดเจียง ความสวยของเหลียงเพ่ยหลิง และความสดของจางจื้อหลินในบทตั้งเฮี๊ยงฮวง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หลังจากเก้าอิมจบลง ช่องสามก็เอามังกรหยก 94 ที่จางจื้อหลินเล่นเป็นก๊วยเจ๋งมาฉายต่อทันทีในสัปดาห์ถัดมา และก็เป็นไปตามความคาดหมาย แม้จะฉายเพียงสัปดาห์ละครั้ง มังกรหยกก็ยังได้รับความนิยมจากคนดู จากนั้นช่องสามก็ดำเนินตามนโยบายขั้นถัดไป เอาฮ่องเต้บัลลังก์เลือดมาจ่อคิวฉายต่อทันที นับว่าช่องสามฉลาดเอามากๆ เพราะในขณะที่คนดูกำลังเสียใจที่มังกรหยกได้จบลงไป แต่พอได้ดูจางจื้อหลินในบทบาทของฮ่องเต้คังซี ก็ทำเอาคนดูเกิดรักฮ่องเต้คนนี้ขึ้นมา ตอนนั้นจางจื้อหลินได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆ เกี่ยวกับความนิยมของเขาในเมืองไทย ซึ่งช่องสามได้นำมาเปิดช่วงท้ายในรายการสีสันบันเทิง จางจื้อหลินให้สัมภาษณ์ว่า
“ได้รับการรายงานว่า ภาพยนตร์เรื่องฮ่องเต้บัลลังก์กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย ผมเองพอได้ยินข่าวนี้ ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ขอบคุณช่องสามและผู้ชมทุกท่านที่ให้การสนับสนุนนะครับ” แม้จะเป็นเพียงคำพูดสั้นๆ แต่ก็แสดงในเห็นว่าคะแนนนิยมของจางจื้อหลินในเวลานั้นดีมากๆ เลยทีเดียว อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า ตอนนั้นทีวีบีและช่องสามมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แม้จะเป็นเพียงหัวข้อเล็กๆ ก็ยังสู้อุตส่าห์ไปสัมภาษณ์ดาราคนหนึ่ง แล้วส่งคลิปนั้นกับมายังเมืองไทย คนดูเห็นแล้วก็อดปลื้มไม่ได้
เว้นช่วงว่างไปไม่ถึงปี คนดูก็ได้หายคิดถึงจางจื้อหลิน ตอนนั้นเขากลับมาอย่างผ่าเผยในหนังฉลองครบรอบทีวีบีเรื่องลูกผู้ชายต้องสู้ ขอวิจารณ์ส่วนตัวว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีที่สุดของทีวีบีที่เคยดูมาเลยทีเดียว เนื้อเรื่องเข้มข้น ดาราคับคั่ง มีการโหมโปรโมทอย่างเต็มที่ ทำให้หนังประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในฮ่องกงและไทย จนต้องขยายเวลาออกไปเป็นสองชั่วโมง ถ้าจำไม่ผิดมีการเพิ่มจากวันอังคารวันเดียวมาเป็นวันจันทร์-อังคารอีกด้วย
หลังจากลูกผู้ชายต้องสู้อวสานลง หนังจีนในบ้านเราก็เข้าสู่สภาวะประคองตัว จนในที่สุดก็ค่อยๆ หายไปจากผังรายการของช่องสาม และเป็นจังหวะที่บังเอิญเอามากๆ ที่จางจื้อหลินเองก็หายไปจากจอแก้ว เพื่อไปลุยจอเงินและตลาดต่างประเทศเช่นกัน จางจื้อหลิน ทีวีบี กับหนังจีนจึงหายไปพร้อมๆ กัน
แก้ไขล่าสุดโดย lingu เมื่อ Mon Oct 06, 2008 11:30 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:43 pm | |
| บทความ สัญญาณที่ดีของจางจื้อหลินกับช่องสาม
ตอนที่ สอง (ตอนจบ)
โดย ซ้อสี่ข้อมูล บ้านจางจื้อหลิน ณ บอร์ดช่องสาม http://www2.thaitv3.com/board/index.php?ตอนนี้จางจื้อหลินกลับมาผงาดอีกครั้งในวงการหนังจีนชุด โดยที่เขาเริ่มต้นได้อย่างสวยงามกับค่ายหนังในไต้หวัน (นางพญาผมขาว ฝ่ามือยูไล มีดบินทะลุฟ้าคู่กับหลินซินหยู) จากนั้นก็เข้าสู่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และโด่งดังอย่างพลิกความคาดหมาย (สี่มือปราพยายมตอนกระบี่สะท้านฟ้า ตำนานเล็กเสี่ยวหงส์ เหมยลี่เทียนซินหนังสากลที่เล่นคู่กับฟ่านปิงปิงและหยังกงหยู หงเฟิ่งหนังประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์คู่กับกัวเข่ออิง) โดยทุกเรื่องล้วนประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น จากผลการสำรวจล่าสุดของจีนแผ่นดินใหญ่ จางจื้อหลินคือดาราชายจากฮ่องกงที่ได้รับความนิยมสูงสุดติดต่อกันมาสองปีซ้อนแล้ว
ตอนนี้มองไปทางไหนก็มีแต่ผลงานของจางจื้อหลินที่น่าสนใจรอนำมาฉาย ประเด็นที่ช่องสามขุดเอาหนังปี 2002 เรื่อง ฝ่ามือยูไลมาฉายจึงน่าสนใจเอามากๆ อย่างแรก ทำไมต้องจางจื้อหลิน อย่างที่สองทำไมต้องเก่าขนาดนี้ อย่างที่สามทำไมต้องเป็นหนังไต้หวัน
มีข้อสังเกตหลายประการว่า ระยะหลังๆ มานี้ความสัมพันธ์ของช่องสามกับทีวีบีเป็นไปแบบธรรมดาๆ ไม่แนบชิดกันเหมือนกับที่ผ่านๆ มา จะเห็นได้ชัดว่าช่องสามเริ่มเอาหนังของทีวีบีมาฉายน้อยลง แต่กลับไปเอาหนังจากไต้หวันและประเทศอื่นๆ มาฉายเพิ่มขึ้น ซึ่งข้อนี้มันดีเอามากๆ เพราะจางจื้อหลินมีผลงานที่ไต้หวันและจีนอยู่ไม่น้อยที่ยังไม่ได้ลงจอและเข้าไทย และต่อให้ช่องสามยังคงต้องการหนังจากทีวีบีอยู่ ก็ยังมีหนังดีๆ ที่จางจื้อหลินเล่นให้กับทีวีอีกอย่างน้อยสามเรื่องที่ช่องสามยังไม่เคยนำมาฉาย ได้แก่ Take my words for it 2001 ICAC 2004 และคู่พยัคฆ์สองภพ 2004 แต่คิดว่าคงยังไม่ถึงเวลาเพราะโดยมากช่องสามจะเริ่มเรียกคะแนนนิยมจากหนังจีนกำลังภายในก่อน จากนั้นค่อยตบท้ายด้วยหนังสากล เหมือนตอนที่ตบท้ายความดังของจางจื้อหลินด้วยหนังสากลสุดฮิตเรื่องลูกผู้ชายต้องสู้นั่นเอง
ประเด็นที่สองคือทำไมต้องเก่าขนาดนี้ เหตุผลง่ายๆ คือ หากจะเริ่มปลุกกระแสของพระเอกคนหนึ่ง ก็ต้องเริ่มจากเรื่องที่เก่าที่สุด จากนั้นก็ค่อยๆ ส่งเรื่องถัดๆ มาตามลำดับ อย่างที่ช่องสามเคยฉายเดชมารคัมภีร์นพเก้า มังกรหยก และฮ่องเต้บัลลังก์เลือดติดต่อกัน หากเป็นเช่นนั้นจริง พวกเราคงจะได้ดูมีดบินทะลุฟ้าทางช่องสามเร็วๆนี้ แต่หากเดาผิด ก็ขอร้องให้ช่องสามลองพิจารณาดูใหม่ เพราะช่องสามเองก็เคยประสบความสำเร็จพร้อมๆ กับจางจื้อหลินคนนี้มาแล้ว แล้วทำไมไม่ลองเสี่ยงดูอีกครั้ง
ทำไมต้องจางจื้อหลิน... หากช่องสามต้องการใครสักคนที่จะมาเป็นตัวแทนในการปลุกกระแสหนังจีนในบ้านเรา ในชั่วโมงนี้จางจื้อหลินก็น่าจะเหมาะสมที่สุด ตอนนี้ดวงของเขากำลังพุ่งแรงเอามากๆ ไม่ว่าหันไปทางไหน จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ หรือว่าฮ่องกง ก็มีแต่ผลงงานของเขาเต็มไปหมด แม้แต่หนังของจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเรื่อง Beautiful New World ทีวีบีเองยังต้องซื้อสิขสิทธิ์เข้ามาฉาย เพราะนอกจากจะเป็นหนังดีแล้วยังเป็นหนังที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมอีกด้วย (แฟนคลับอื่นๆ อย่างเพิ่งหมั่นไส้ โปรดอ่านตอนต่อไปจะรู้ว่า จางจื้อหลินต้องพยายามมากแค่ไหน กว่าจะมาประสบความสำเร็จได้เช่นนี้)
อีกทั้งหนังที่จางจื้อหลินเล่นนั้นหลากหลาย มีทั้งกำลังภายใน สากล และร่วมสมัย แต่ละเรื่องล้วนมีคุณภาพ ดาราคับจอ เรียกว่า ดังตั้งแต่ผู้แต่งบทประพันธ์ยันดาราประกอบ อย่างเรื่องสี่มือปราบพญายมตอนกระบี่สะท้านฟ้านี่น่าสนใจเอามากๆ เพราะเป็นบทประพันธ์ตอนที่ดีที่สุดของอุนสุ่ยอัน ถ้าเป็นแนวสกล ต้องเรื่องคู่พยัคฆ์สองภพ หนังตำรวจที่มีทั้งตลก ชีวิต และแอคชั่น ล้อเลียนหนังดังอย่าง 2 คน 2 คมได้ฮาสุดๆ และยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดของ 108 วีรบุรุษเขาแห่งเหลียงซานอีกด้วย แถมท้ายด้วยนางเอกคนสวยอย่างหลีจือ เรียกว่าถ้าใครได้ดู ก็ต้องหลงรักหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ทุกอย่างล้วนเป็นวัฏจักร มีขึ้นก็มีลง หนังจีนในบ้านเราตอนนี้ซบเซาลงไปมาก แฟนพันธ์แท้ส่วนมากต้องหันไปพึ่งพาหนังแผ่นจากบริษัท เช่น ซีวีดี หรือ เมโทรพิเจอร์ แต่จะโทษคนดูก็ไม่ได้ เพราะช่องสามเล่นขุดเอาหนังที่เคยฉายไปแล้ว มาฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่น ส่วนหนังที่ดีๆ ก็ดันเอาไปฉายตอนตีสามที่ไม่มีใครดูเช่นทุกวันนี้ หนำซ้ำยังไม่มีแม้กระทั่งโฆษณาให้ผู้ชมรู้ว่าตอนนี้กำลังฉายเรื่องอะไรอยู่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะโทษว่าหนังไม่ดีก็ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากช่องสามมีความจริงใจจริง กล้าที่จะลงทุน และมีจุดยืนที่แน่ชัด (ว่ายังต้องการหนังจีนอยู่) การที่ “ต้นตำรับหนังจีนคุณภาพ” จะหวนคืนสู่วงการอีกครั้ง มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก คอหนังจีนทุกคนยังคงหวัง และรอวันนั้น วันที่หนังจีนได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งบนจอช่องสาม
แก้ไขล่าสุดโดย lingu เมื่อ Mon Oct 06, 2008 12:29 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:44 pm | |
| บทความ กว่าจะมาเป็นจางจื้อหลิน (ความสำเร็จไม่ได้มาโดยง่าย)
โดย ซ้อสี่ ต๋อมแต๋มข้อมูล ประวัติ บทสัมภาษณ์ ข่าว ผลงาน และทุกอย่างเกี่ยวกับจางจื้อหลิน ณ บ้านชาเลี่ยน http://charianclub.myfastforum.org/forum2.phpไม่ว่าจะก้าวย่างไปที่ไหนจางจื้อหลินก็มักจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นนักแสดงคุณภาพที่มีทั้งความสามารถ และมีนิสัยที่ใครเห็นก็ยกย่อง
ผู้กำกับทุกคนชมเขาว่าเป็นคนที่มีวินัย ตั้งใจ ขยันและทุ่มเท ตอนที่เขาโหมเล่นหนังใหญ่ จางจื้อหลินมีข่าวว่าเข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ (ไม่กระดูกแตกก็ถูกสริงเกี่ยว) จางจื้อหลินเป็นคนที่เคารพผู้กำกับมากๆ หากผู้กำกับสั่งให้ทำอะไรเขาก็จะพยายามทำมันให้ดีที่สุด แม้บางครั้งมันจะเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากทำ อย่างเช่น ในหนังมาเฟียร์เรื่อง Wo Hu (Lies Tiger) ซึ่งเขาสวมบทผู้ร้าย ผู้กำกับให้เขาสูบบุหรี่เพราะต้องการให้หนังออกมาดูสมจริง จางจื้อหลินที่เพิ่งจะเลิกบุหรี่ได้ ก็ยอมทำตามนั้น ทั้งนี้เพราะเขาเคารพและให้เกียรติการตัดสินใจของผู้กำกับ ทำให้ผู้กำกับหลายคนออกมาเอ่ยปากชมเขาอยู่เสมอ
นักแสดงหญิงหลายคนที่แสดงร่วมกับเขามักกลายมาเป็นคู่ขวัญ ทั้งนี้เพราะจางจื้อหลินเป็นคนน่ารัก เข้ากับคนง่าย ไม่ว่าจะเล่นบทอะไร เขาก็ดูเข้ากับทุกคนได้หมด จางจื้อหลินเคยได้รับการโหวตว่าเป็นดาราชายที่นักแสดงหญิงต้องการเข้าบทเลิฟซีน (ฉากจูบ) ด้วยมากที่สุด เพราะจางจื้อหลินเป็นคนที่ให้เกียรตินักแสดงหญิงเอามากๆ อีกทั้งยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตนมาตั้งแต่เข้าวงการแล้วด้วย เลยทำให้เข้าฉากเลิฟซีนได้อย่างสบายใจ เขาเคยโดนม่อเหวินเหว่ยขโมยจูบบนเวทีคอนเสิร์ตโดยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เจ้าตัวตกใจและน่าแดงมาก นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นแค่ชายหนุ่มขี้อายคนหนึ่ง แต่มีนักแสดงหญิงบางคนให้สัมภาษณ์ว่า จางจื้อหลินเป็นดาราชายที่จูบได้เก่งที่สุด
ขวัญใจนักข่าว ไม่ว่าจะมีนัดกับรายการโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ หรือว่าแมกกาซีน จางจื้อหลินมักจะไปก่อนเวลาเสมอ เล่นเอานักข่าวบางคนตกใจว่า ดาราทำไมถึงมารอนักข่าวได้ นอกจากนี้แล้วจางจื้อหลินยังมีวาทศิลป์ในการตอบคำถามอย่างฉลาดเฉลียว เขาสามารถเลี่ยงคำถามที่ตนเองไม่อยากตอบได้อย่างสุภาพ รู้จักที่จะเล่นมุขกับนักข่าว เวลาจางจื้อหลินตอบคำถามจึงมักจะมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะติดตามมาอยู่เสมอ ที่สำคัญจางจื้อหลินไม่เคยใส่อารมณ์กับนักข่าวหรือว่าพวกปาปาราซซี่เลยแม้แต่น้อย สิ่งเหล่านี้ทำให้เขากล่าวเป็นขวัญใจของพวกนักข่าว
จางจื้อหลินเป็นดาราที่ให้ความสำคัญกับแฟนคลับเป็นอย่างมาก นิสัยของเขาเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เข้าวงการบันเทิง หากเป็นเมื่อก่อนที่แฟนๆ ยังไม่เยอะมากขนาดนี้ จางจื้อหลินจะใช้เวลานั่งอ่านจดหมายทุกฉบับที่แฟนๆ เขียนให้เขา เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะให้ลายเซ็นต์หรือถ่ายรูปกับแฟนๆ ตรงกันข้ามเขาจะเป็นฝ่ายชวนคุยและโอบกอดแฟนคลับเวลาถ่ายรูปอีกด้วย (โอววววว...แม่เจ้า) หลายครั้งบนเวทีคอนเสิร์ต จางจื้อหลินมักจะหลั่งน้ำตาเพราะซาบซึ้งในความรักที่แฟนๆ มีต่อเขา บางครั้งเขาไม่สามารถร้องเพลงต่อให้จบได้ (เพราะร้องไห้) จนแฟนๆ ต้องช่วยกันร้องให้จบเพลง แม้จางจื้อหลินจะไม่ได้ซุปเปอร์สตาร์ที่มีแฟนคลับใหญ่โต แต่แฟนๆ ของเขาทุกคนล้วนเหนียวแน่น จริงจัง จริงใจ และพร้อมที่จะสนับสนุนเขาตลอดไป
หลายคนคาดหวังที่จะให้เขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ แต่จางจื้อหลินนั้นเป็นคนดี และเป็นผู้ชายธรรมดาเกินไป เขาชอบความเรียบง่าย รักเดียวใจเดียว ไม่ชอบแต่งตัว ไม่ชอบทำตัวเป็นข่าว ไม่ชอบมาสาย ไม่ชอบวางมาดว่าตัวเองเป็นดารา ไม่เคยเรียกร้องค่าตัว หรือเลือกนักแสดงที่จะมาเล่นคู่กับเขา จางจื้อหลินจึงขาดคุณสมบัติสำคัญทุกข้อที่จะเป็นดาราดังหรือดาราประเภทขวัญใจ เขาเป็นได้แค่ผู้ชายธรรมดาที่มีอาชีพนักแสดงเท่านั้นเอง
จางจื้อหลินเข้าวงการมาพร้อมกับความกดดันมากมาย ทั้งด้านการงานและความรัก ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกนำไปเปรียบเทียบกับแฟนสาวที่โด่งดังสุดๆ แต่ตอนนี้ด้วยคุณสมบัติทั้งหมด ตอนนี้จางจื้อหลินได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์ และความสามารถ อีกทั้งยังมีความคิดและอุดมการณ์ที่แน่วแน่ ด้วยเหตุนี้ถึงแม้เขาจะไม่ได้โด่งดังสุดๆ แต่จางจื้อหลินก็เป็นนักแสดงซึ่งเป็นที่ต้องการและได้รับความนิยมอยู่เสมอ
แก้ไขล่าสุดโดย lingu เมื่อ Mon Oct 06, 2008 12:30 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:45 pm | |
| | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Thu Oct 02, 2008 2:47 pm | |
|
แก้ไขล่าสุดโดย lingu เมื่อ Mon Oct 06, 2008 12:34 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
| [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ | |
|