| [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ | |
|
|
|
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Oct 06, 2008 2:05 pm | |
| ที่มา ทีวีพูล
ฉบับที่ 162
วันที่ 19-25 พฤศจิกายน 2536
จางจื้อหลิน สวมบท ก๊วยเจ๋ง ใน มังกรหยก ชุดใหม่ พ่อพลอยตื่นเต้นให้คำแนะนำเต็มพิกัด
หลังจากทีวีบีประกาศนำ มังกรหยก นวนิยายกำลังภายในอมตะลือลั่นของ กิมย้ง มาสร้างใหม่อีกครั้ง โดยตอนแรกประกาศจะคัดเลือก กัวฟู่เฉิง หลี่เค่อฉิง และ จางจื้อหลิน คนใดคนหนึ่งมารับบท ก๊วยเจ๋ง พระเอกของเรื่อง และนางเอก อึ้งย้ง ก็จะคัดเลือกระหว่างดาราสาววัยรุ่น จูอิน กับ หยวนหย่งอี๋ นั้น กลายเป้นข่าวที่แฟนๆ ให้ความสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งย่อมแน่นอน แฟนจอแก้วส่วนใหญ่มักลงความเห็นอยากให้ กัวฟู่เฉิง รับบท กระเอกในเรื่องนี้
แต่จากสถานการณ์หลายๆ องค์ประกอบ ย่อมแนะนอนที่จะต้องตัด กัวฟู่เฉิง ทิ้งไป โดยเฉพาะประเด็นที่ถ้าหากเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่มีชื่อเรื่องเป็นตัวการรันตีนั้น ทีวีบีมักจะไม่ค่อยนำนักแสดงดังๆ มาเป็นพระเอก นับแต่จากอดีตที่ผ่านมามักจะปั้นคนที่ไม่ดัง หรือคนที่เคยดับ หรืออาจเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เห็นชัดมาแล้ว
ในที่สุด ทีวีบีก็ประกาศยืนยันแน่ชัดว่า บท ก๊วยเจ๋ง เป็น จางจื้อหลิน นำแสดง ส่วน อึ้งย้ง ได้มอบให้แก่ จูอิน ดังที่เรามีสกู๊ปให้แฟนๆ ได้อ่านกันแล้วเมื่อฉบับที่แล้ว
จางจื้อหลิน โดยกำเนิดแล้ว หวังและใฝ่ฝันจะก้าวสู่การเป็นนักร้องมากกว่าการเป็นนักแสดง แล้วก็มีผลงานเพลงเป็นที่ยอมรับของแฟนเพลงไม่เบาทีเดียว แล้วก็ได้รับการผลักดันจากทีวีบีในด้านการแสดงหนังจอแก้วตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่น้อยเหมือนกัน คราวนี้ ทีวีบีตั้งใจเต็มพิกัดที่จะผลักดันให้เขาพุ่งสุดสุดในวงการจอแก้วให้ได้ ด้วยการมอบบทพระเอกใน มังกรหยก ให้เขาได้พุ่งสุดสุด
มังกรหยก เคยสร้างเป็นหนังจอแก้วมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ละครั้งก็ทำให้พระเอกและนางเอกในเรื่องนี้ดังเป็นพลุ โดยเฉพาะดาราที่แสดงเป็นนางเอก อึ้งย้ง ดังเช่น หมีเซี๊ยะ ที่แสดงเป็นนางเอกในการสร้างเป็นหนังจอแก้วครั้งแรก ครั้งต่อมา ทีวีบีนำมาสร้างมอบให้ องคเหม่ยหลิง เป็นนางเอกจนดังคับจอแก้ว
ส่วนบทพระเอกนั้น แม้ผู้แสดงจะดังด้อยกว่าบทนางเอก ดังจะเห็นได้จาก ไป่เปี่ยว ที่แสดงครั้งแรกแล้วมาถึง หวงเย่อหัว กำลังมีชื่อเสียงเริ่มเสื่อมลง แต่การแสดงในครั้งนั้น ทำให้ชื่อเสียงของเขาดังเป็นพลุอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นในการนำกลับมาสร้างใหม่ครั้งนี้ ย่อมแน่นอนที่บทพระเอกและนางเอกกลายเป็นเป้ามหมายแห่งการจับตามองของแฟนจอแก้ว โดยเฉพาะที่จะเขียนถึงในฉบับนี้ได้แก่ จางจื้อหลิน
การที่จางจื้อหลินได้รับการประกาศรับบทเป็น ก๊วยเจ๋ง อย่างน้อยๆ ก็กลายเป็นแรงกดดันให้กับเขาอย่างหนักทันที “เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนังเรื่องนี้จะทำให้ชื่อเสียงและงานการแสดงของผมก้าวสู่อีกระดับหนึ่ง แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า บท ก๊วยเจ๋ง เป็นบที่แสดงได้ยากมาก อีกทั้งคนรอบด้านก็จะเฝ้าจับตามองว่า ผลจะแสดงบทนี้ให้มีวิญญาณได้ขนาดไหน มันก็เลยกลายเป็นแรงกดดันให้แก่ผมไม่เบาทีเดียวครับ”
แต่การที่มีโอกาสได้แสดงบทเด่นๆ จากนวนิยายกำลังภายในอมตะเช่นนี้ ก็กลายเป็นความปลื้มปิติยินดีอยู่ในใจเขาไม่น้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะครอบครัวของเขาถึงกับตื่นเต้นดีใจไปด้วย และที่สำคัญกว่านั้น คุณพ่อของเขาเป็นนักอ่านนวนิยายกำลังภายในตัวยง ยิ่งนวนิยายกำลังภายในเรื่อง มังกรหยก นี้ อ่านหลายต่อหลายเที่ยว จนจำรายละเอียดทุกขั้นตอนของเรื่องนี้อย่างแม่นยำ จึงได้ถือโอกาสอบรมสั่งสอนให้ลูกชายได้รู้สึกถึงอุปนิสัยใจคอตลอดจนลายละเอียดทุกขั้นตอนของ ก๊วยเจ๋ง ให้เขาได้เข้าใจกันทีเดียว
ถ้าหาก มังกรหยก เป็นการสร้างครั้งแรก เชื่อว่าคุณพ่อของเขาคงจะไม่ตื่นเต้นกำชับกำชาหนักแน่นสักเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะได้เคยสร้างมาแล้วด้วยความสำเร็จ หลายประการแห่งความเด่นในอดีต กลายเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในความทรจำของใครต่อใคร เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ของใหม่กับของเก่าจะต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกันจนได้
ตรงนี้แหล่ะที่กลายเป็นแรงกดดันหนักหนาสาหัสสากรรจ์ที่สุด ไม่เชื่อก็คอยดูกันไปเถอะ ตอนนี้ จางจื้อหลิน นอกจากมุมานะอ่านนวนิยายกำลังภายในเรื่องนี้เต็มที่แล้ว ก็รับฟังคำชี้แนะของคุณพ่ออย่างหนัก เท่านั้นไม่พอ เขาก็กำลังหาทางขอคำแนะนำจากรุ่นพี่โดยเฉพาะ หวงเย่อหัว ที่เคยแสดงบทนี้มาแล้ว รวมทั้งนักแสดงรุ่นเก่าอีกหลายต่อหลายคน
อีกประเด็นหนึ่งที่กลายเป็นเป้าสายตาของการจับตามองของใครต่อใครก็คือระหว่างพระเอกนางเอกในหนังชุดนี้ จะกลายเป็นพระเอกนางเอกในชีวิตจริงหรือไม่
เพราะในวงการจอแก้ว เคยปรากฏจากความรักในบทละครที่กลายเป็นความรักในชีวิตจริงที่เห็นได้ใกล้ๆ และชัดๆ ก็เป็นคู่ระหว่าง หลิวชิงหวิน กับ กัวอ้ายหมิง จากเรื่อง เจ้าพ่อตลาดหุ้น มาถึงอีกคู่ระหว่าง เว่ยจุ้นเจี๋ย กับ เหอหวั่นอิ๋น จากเรื่อง มังกรหยก ตอน ศึกสองเจ้ายุทธจักร (หนังชุดนี้ เจิ้งอี้เจี้ยน เป็นพระเอกในบท อ๋องใต้ ส่วน เว่ยจุ้นเจี๋ย รับบทเป็น อั้งชิกง ยาจกเหนือ ซึ่งจะทำการแพร่ภาพทางช่อง 3 เป็นหนังชุดที่ได้รับการแพร่ภาพก่อนจะเป็นวิดีโอ)
“ไม่น่าเป็นไปได้ จริงอยู่ จูอิน เป็นคนสวยและร่าเริง สดใส ฉลาด แต่เวลาแสดงหนังนั้น สภาพการแสดงกับสภาพชีวิตจริงมันแตกต่างกันครับ ผมเชื่อว่าผมแบ่งแยกชีวิตการแสดงกับชีวิตจริงออกจากกันได้ และอีกประการหนึ่ง ผมเชื่อในเรื่องของความรักนี้ สิ่งสำคัญอยู่ที่บุพเพสันนิวาสมากกว่าครับ แล้วตอนนี้ผมต้องการทุ่มเทกับอาชีพการแสดงมากกว่าที่จะสนใจเรื่องของหัวใจ”
คงต้องดูกันต่อไป ความรู้สึกตอนนี้เป็นอีกแบบหนึ่ง แต่เมื่อสภาพการได้ร่วมชีวิตแสดงหนังด้วยกันนั้น จะเป็นตัวกำหนดถึงชีวิตรักของเขาจะเป็นไปในรูปแบบใด??
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้แฟนจอแก้วทั้งหลายกำลังจับตามอง จางจื้อหลิน อย่างสนใจทีเดียว!! | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Oct 06, 2008 2:06 pm | |
| จางจื้อหลินกับทัศนะชีวิต
ที่มา นิตยสาร Gold Star - May 1996
เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุการณ์ประหลาดบางอย่างเกิดขึ้นรอบๆ ตัวจางจื้อหลิน นั่นคือคุณพ่อก็หย่า คุณแม่ก็หย่า แต่คุณพ่อไม่ได้หย่ากับคุณแม่เพราะนั่นเป็นเหตุการร์ที่กลายเป็นอดีตกาลไปแล้ว แต่เขาทั้งสองหย่ากับคนที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ออสเตรเลีย ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ฮ่องกง
- พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่คุณยังเด็กๆ ไม่ทราบว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง?
ไม่มี เวลามันผ่านไปรวดเร็วมากจนผมก็จำไม่ได้แล้วว่าพวกเขาหย่ากันไปกี่ปีแล้ว รู้แต่ว่าผมไม่ต้องให้พวกเขาคอยดูแลแล้ว ผมเปรียบเสมือนต้นไม้ต้นหนึ่ง ผมอยากให้พวกเขายอมรับว่าผมสามารถดูแลตัวเองได้ วันหลังผมจะระมัดระวังการตัดสินใจเรื่องราวที่สำคัญในชีวิตของผม จะไม่ทำอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งความจริงผมก็เป็นคนที่ค่อนข้างนิ่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
- นี่เป็นสิ่งที่คุณเพิ่งค้นพบจากเหตุการณ์นี้หรือเปล่า?
ไม่ใช่ ที่ผมค้นพบเพราะผมรู้ว่าในโลกนี้ไม่มีคนที่เราเชื่อใจได้ตลอดไปหรอก สิ่งเดียวที่เราไว้ใจได้ก็คืองาน เพระางานมันไม่เคยหลอกเรา อย่างน้อยๆ ขยันทำงานดีกว่าขยันหาแฟน ผมรู้สึกว่าต่อให้คนที่อยู่รอบตัวเราจากเราไปหมด แต่งานของเราหรือประสบการณ์จากงานของเราจะไม่จากเราไป วันข้างหน้าผมจะเอาเวลาส่วนใหญ่ทุ่มเทให้กับงาน” (เฮ้ย...ทำไมมันมีคำว่า “กับต๋อมแต๋ม” เพิ่มเข้ามาอ่ะ :q4: )
ความจริงการหย่ากันมันไม่ได้น่าเลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิดหรอก เหตุผลของการหย่ามันมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิสัยเข้ากันไม่ได้ ไม่มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน หรือแม้แต่มีบุคคลที่สามแต่สรุปแล้วการหย่ามันจะทำให้เราสบายใจ ผมจะไม่ปลอบคุณแม่ด้วยเหตุนี้หรอก เพราะนั่นเป็นเรื่องของเธอ
ตั้งแต่เด็กแล้วผมไม่เคยพูดว่า “ผมรักคุณ” , “ไม่ดีหรอก”, “สุขสันต์วันเกิด” กับคนในครอบครัว เพราะคนในครอบครัวควรจะรู้ข้อดีข้อเสีย ความลำบากใจของแต่ละคน ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องเอ่ยปากมันสบายกว่า
- คุณมีความรู้สึกบ้างไหมว่า จิตใจและความสัมพันธ์ของคนยุคปัจจุบันมันเปราะบางมาก?
ปัจจุบันมันสะดวกมาก ทุกสิ่งทุกอย่างสะดวกไปหมด แม้แต่ซื้อของ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องออกจากบ้านยังได้ เพราะงั้นโอกาสที่เจอะเจอผู้คนก็น้อยลง ผมว่าเราน่าจะย้อนกลับไปใช้ชีวิตอย่างในอดครผู้คนไม่ต้องยึดติดกับพิธีกรรม จุดสำคัญมันอยู่ที่ว่าระหว่างใจของเรายังมีห่วงคล้องเข้าหากันรึเปล่า?
ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างคนมันตั้งอยู่บนความเปราะบาง หลอกลวงซึ่งกันและกัน ผมว่านะโทรศัพท์นี่แหล่ะเป็นวิวัฒนาการที่มนุษย์สร้างขึ้นมาหลอกกันเอง คุณจะไม่มีวันรู้หลอกว่าในขณะที่เขาคุยกับคุณทางโทรศัพท์ เขากำลังคิดหรือกำลังทำอะไร อยู่กับตัวอักษรยังพอเชื่อถือได้บ้าง เพราะมันถ่ายทอดออกมาจากจิตใจ
- รู้สึกขาดความปลอดภัยทั้งตัวคุณและกับคนอื่นหรือเปล่า?
ความรู้สึกปลอดภัยมันเกิดจากการสั่งสม ไม่ใช่ว่าวันนี้ผมพูดแล้ว มันจะทำให้คุณหรือว่าครอบครัว หรือว่าคนรักเกิดความรู้สึกปลอดภัยทันที
- ทำงานมา 5 ปีแล้ว มีความรู้สึกว่ากำลัง “ทนอยู่” หรือเปล่า?
“ทนอยู่” แน่นอน แต่ว่าในขณะที่เราทนอยู่ต้องอยู่อย่างสบายใจ ไม่ใช่อยู่อย่างทรมาน ต้องรู้จักหาความสุขจากการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น แปรเรื่องไม่สบายใจให้เป็นเรื่องสบายใจ ไม่มีใครในโลกที่จะมีความสุขราบรื่นตลอดชีวิตหรอก ผมเป็นคนที่เผชิญความลำบากด้วยการมองให้เป็นแง่ดีเสมอ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Oct 06, 2008 2:07 pm | |
| - คุณรู้สึกบ้างไหมว่าการปั้นดาราในสมัยนี้มันเป็นธุรกิจเบื้องหลัง มีกลุ่มคนกำลังทำงาน พูดแบบหยาบหน่อยก็คือหากินกับคุณ คุณรู้สึกกดดันกับสิ่งเหล่านี้บ้างไหม?
ไม่รู้สึกกดดันเลย เราไม่ควรมองว่าคนอื่นำลังหากินกับเรา ทุกๆคนเป็นเพียงว่าร่วมงานตามลักษณะหน้าที่ของมัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายควบคุมการผลิต หรือแม้แต่การโปรโมทเทป รวมถึงผู้ช่วยของคุณทุกคน ร่วมมือกันตามหน้าที่ ไม่มีสูงต่ำ ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยความเสมอภาค วงการนี้เป็นทั้งศิลปะและเป็นทั้งธุรกิจ ต้องมีผู้จัดการคอยดูแลธุรกิจ คุณมีหน้าที่อย่างเดียวคือเป็นศิลปิน
- แล้วคุณคิดว่าธุกริจของคุณเป็นไงบ้าน?
เปรียบเทียบเหมือนกระถางต้นไม้ ถ้าไม่มีน้ำมันก็ตาย... ผมรู้ว่ากระถางต้นไม้ของผมต้องการปุ๋ย ต้องการน้ำ มันจึงจะงอกงาม ผมขยันมากนะ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าผมขยันขนาดไหน ผมเล่นละครในทีวี เพราะผมต้องการมีชื่อเสียงในต่างประเทศ ผมเสียเวลาครึ่งปีเพื่อเล่นละครชุด 40 ตอน เพราะต้องการให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านของผู้ชม ต้องการให้คนดูไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ยอมรับในตัวผม ที่ผมลำบากขนาดนี้ก็เพียงเพื่อให้มันมีผลต่อเทป ที่ผมทำละครชุด 60 ตอนก็คือเรื่อง “เทียนตี้หนันเอ๋อ” (ลูกผู้ชายต้องสู้) พอเล่นเรื่องนี้จบ ผมมีความรู้สึกว่าเป็นอิสระซักที ไม่ได้หมายความว่าผมไม่สบายใจขณะถ่ายทำละครเรื่องนี้นะ แต่เป็นเพราะผมต้องทุ่มเทจิตใจทั้งหมดให้กับมัน เพราะฉะนั้นช่วงนี้อะไรที่เกี่ยวกับเพลงไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเสียง การโปรโมทต้องหยุดไว้ชั่วคราวก่อน
- ลำบากขนาดนี้ เคยคิดไหมว่าแท้ที่จริงแล้วเพื่ออะไร?
ความจริงมันค่อนข้างจะชั่งตวงได้ลำบากกับการที่ว่าอะไรคือความสำเร็จ อะไรคือความล้มเหลว เช่นปีนี้แย่มาก แต่ปีหน้าอาจจะรุ่ง อย่างนี้เรียกว่าสำเร็จหรือ? เกมนี้มันยาวไกล เล่นจนจบถึงจะรู้ว่าใครเป็นผู้ชนะ
- เกี่ยวกับอนาคตในวงการเพลง คุณจะตัดสินใจยังไง?
ผมกำลังจะออกอัลบั้มเพลงชุดใหม่และสัญญาของผมกับทาง SONY จะสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน เพราะงั้นมันอาจเป็นชุดสุดท้ายที่ผมร่วมมือกับ SONY แต่พวกเขาก็ยังจริงจังกับอัลบั้มชุดนี้ของผม เลยไม่แน่ว่าผมอาจจะเซ็นสัญญาอยู่ต่อก็ได้ เรื่องนี้ เฉินสูเฟิน จะรู้ดีที่สุด เพราะเธอเป็นผู้จัดการของผม เธอมีประสบการณ์ที่จะเลือกบริษัทที่ดีที่สุดและเหมาะสมให้ผมเชื่อว่าเธอคงมีเป้าหมายในใจแล้วล่ะ ผมมีอาจารย์ที่ดีคอยเป็นธุระให้เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องอนาคตเท่าไหร่
อีกอย่างตอนนี้ทาง SONY มีผมเป็นศิลปินจีนในสังกัดเพียงคนเดียว เพราะ อู๋เชี่ยนเหลียน ก็ย้ายไปอยู่กับ EMI แล้วและสองปีที่ผ่านมาผมกับ SONY ก็ร่วมมือกันได้ด้วยดี เขาน่าจะเอ็นดูผมน่ะ (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
- คุณมีความรู้สึกหรือเปล่าว่าภาพพจน์ของตัวเองมันค่อนข้างคลุมเครอืไม่มีเอกลักษณ์?
แท้ที่จริงแล้วสิ่งต่างๆ มากมายคุณไม่อาจกำหนดกะเกณฑ์มันได้หรอก มันมาจากว่าผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับอารมณ์หรือนิสัยของคนๆนั้น จงเรียกเป็นเอกลักษณ์ขึ้น
ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ผมเดินตามความรู้สึกของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าการโอนอ่อนผ่อมตามเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งหรือเปล่าในโลกนี้ ไม่อาจมีแค่สีขาวสีเดียว ต้องมีสีดำด้วย มันจึงจะสมบูรณ์ ทุกคนมีโอกาสที่จะขึ้นถึงจุดสุดยอดแล้วก็ตกลงมา
- แล้วมันมาหรือยัง?
ตอนนี้ผมรู้แต่ว่าอะไรคือความพ่ายแพ้แต่ยังไม่รู้ว่าความสำเร็จเป็นอย่างไร เมื่อก่อนผมรู้เพียงอย่างเดียวว่าต้องหาเงินให้ได้มากๆ แล้วคิดว่าจะเอาเงินนั้นไปทำเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จได้ยังไง อาจเป็นเพราะผมเล่นละครมาเยอะ ถึงตอนนี้จึงค่อยค้นพบว่าแท้ที่จริงแล้ว เป้าหมายคือภาพลวงตาเพราะคนๆ หนึ่งไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะแยะ มีแค่ที่ซุกหัวนอน มีรถขับเพื่อความสะดวก ต่อให้คุณมอบรถเฟอร์รารี่ให้ผม ผมก็มองเป็นเพียงแค่รถยนต์ธรรมดาๆคันหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมตอนนี้ก็คือชื่อเสียง ไม่ใช่เงิน
- คุณเคยเกลียดคนอื่นบ้างหรือเปล่า?
ตั้งแต่เล็กจนโต คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยเข้มงวดกับผม และไม่ค่อยให้การอบรมผมมากนัก ผมคิดว่าคนเราเกิดมาอย่างนี้ก็ต้องเป็นอย่างนี้ ผมไม่เคยเกลียดคนอื่นและไม่เคยทำผิดต่อคนอื่น คนอื่นก็ไม่เคยทำผิดต่อผม ถึงจะมี ผมก็จะหาเหตุผลในการให้อภัยเขาและไม่เคยโกรธคนอื่น มีบ้างแต่แว๊บเดียวก็หายไป
- ความหวังของคุณคืออะไร?
ไม่มีความหวังอะไร รายได้ที่มีอยู่ตอนนี้ก็มอบให้คุณแม่หมด หวังแค่มีบ้านที่ดีขึ้น ผมเป็นห่วงคนทางบ้าน คุณแม่ลำบากมานานแล้ว ส่วนคุณพ่อเขาอยู่ทีออสเตรเลีย ดูแลตัวเองได้ ผมไม่ต้องการมีเงินมาก เพราะมีเงินมากความกดดันยิ่งมาก
จบ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Oct 06, 2008 2:07 pm | |
| จางจื้อหลินชอบงานที่มีไม่ใครบงการ
ที่มา นิตยสาร บันเทิงทีวี ปี 1995
- ตั้งแต่ปิดกล้องเรื่อง “มังกรหยก” นานนับปีแล้ว จางจื้อหลินมีงานทำไม่หยุดหย่อน เขาไม่เพียงแต่จะแสดงหนังใหญ่เท่านั้น หากแต่ยังร้องเพลงอัดแผ่นเสียงอีกด้วย แล้วไหนยังจะต้องทำงานเกี่ยวกับการโปรโมทผลงานเพลง อีกทั้งยังคิดจะทดลองแต่งเพลงเองทั้งเนื้อร้องและทำนอง หรือว่า จางจื้อหลิน เกิดชื่นชอบต่องานแบบผู้อยู่เบื้องหลังอย่างนั้นหรือ
ตอนนี้นับว่าผมประสบความสำเร็จกับการแต่งเพลงแล้วครับ ทั้งเนื้อร้องและทำนอง
- จางจื้อหลิน พึงพอใจกับผลงานชิ้นนี้มาก ประกอบกับในช่วงนี้เขามีคิวแสดงหนังใหญ่แล้วยังร่วมงานเกี่ยวกับการแต่งเพลงอีก ซึ่งเขาต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำทีเดียว แต่เขากลับบอกว่า
งานยิ่งมาก ผมยิ่งสบายใจ นอกจากผมจะต้องโปรโมทผลงานเพลงชุดแรกนี้แล้ว ทุกวันนี้ผมยังจะต้องซ้อมการเต้นอีกด้วย การหัดเต้นใหม่ๆก็ลำบากเหมือนกัน ประกอบกับครั้งก่อนที่หัดเต้น พื้นลื่นไปหน่อยผมหกล้มเป็นเหตุให้ขายอก โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
- ทุกวันนี้จางจื้อหลินจะได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงหนังและนักร้องแล้ว แต่ในส่วนตัวของเขาแล้วดูเหมือนเขาจะชื่นชอบการร้องเพลงมากกว่า
ครับ อาจจะเป็ฯเพราะที่ผมเข้ามาในวงการนี้ในฐานะนักร้อง อีกอย่างการร้องเพลงนี่เราสามารถตัดสินใจเองได้ ไม่เหมือนอย่างการแสดงหนัง ต้องอาศัยคนอื่นมาเป็นตัวประกอบ อย่างเช่นแผ่นเสียงชุดนี้ตัวเองคิดอะไรก็นำออกมาได้เลย
- แบบนี้แสดงว่าคุณเป็นเผด็จการ
ไม่ใช่แบบนั้นครับ เพียงแต่คิดว่าทำอะไรที่เหมาะสมกับงานที่ตัวเองทำ และทำแล้วเกิดความสบายใจเท่านั้นเองครับ
- ความรู้สึกที่เข้าอัดเสียงเป็นอย่างไรบ้าง
ครั้งแรกที่เข้าไปก็รู้สึกไม่คุ้นเคยเหมือนกัน เพราะว่าห่างหายไปนาน แต่ค่อยๆ ปรับตัวและปรับอารมณ์จนเข้าที่เข้าทาง ครั้งก่อนตอนที่ผมมีปัญหากับบริษัทแผ่นเสียงนั้น ก็รู้สึกอ้างว้างเหมือนกัน เพราะตอนนั้นยังจับจุดไม่อยู่ แต่เดี๋ยวนี้ยึดคติที่ว่ามีงานเราก็ทำ มีหนังก็ถ่าย ไม่กังวลกับเรื่องอื่นแล้ว
- รู้สึกกังวลบ้างมั้ย
ตอนนั้นก็มีบ้าง แต่บังเอิญผมเป็นคนดที่ไม่เกียจคร้าน จึงไม่กังวล แต่พอมาเข้าสังกัดบริษัทใหม่ก็รู้สึกว่าทุกอย่างปลอดโปร่ง บวกกับผมเป็นคนที่รู้จักปลอบใจตัวเอง ไม่ดึ้งดึง จึงไม่ทุกข์ใจเท่าใดนัก
- คุณมีอารมณ์ร่าเริงแบบนี้ตลอดหรือ
ทุกครั้งที่ผมเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ผมจะบอกให้ตัวเองยิ้มเข้าไว้ อย่าเศร้า จะมองว่าอุปสรรคคือสิ่งท้าทายที่เราจะต้องรับศึก
- ความหวังของจางจื้อหลินในวันนี้คือการทำงานและเข้าใจหลักการที่ว่าเมื่อตั้งความหวังไว้สูงเพียงใด ความผิดหวังย่อมจะต้องมีมากเท่านั้น ฉะนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เขาจะยึดหลักทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
จางจื้อหลิน มีความภาคภูมิใจต่อแผ่นเสียงชุดนี้มาก
- ตอนที่ทำแผ่นเสียงชุดนี้ ผมไม่ต้องถ่ายหนัง คือมีเวลาทุ่มให้กับแผ่นเสียงชุดนี้อย่างเต็มที่ ตอนที่อัดเสียงนั้น แทบจะไม่ต้องเทคกันเลย สุขภาพจิตตอนนั้นดีมาก ฉะนั้นเวลาร้องจึงใส่ฟิลลิ่งได้ดีมาก
- แผ่นเสียงชุดแรกนั้น จางจื้อหลิน ไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากผู้ฟัง แต่ครั้งนี้เขาพยายามทำอย่างเต็มที่ ไม่ทราบเหมือนกันว่าผลสะท้อนกลับมาจะเป็นอย่างไร
ที่จริงผลงานทุกชิ้นที่ออกมานั้น ก็มีทั้งคำติและคำชม ในความรู้สึกของผมแล้วคือ ขอทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อย่าไปซีเรียสนัก
หน้าปกแผ่นเสียงชุดนี้นั้น จางจื้อหลิน เป็นคนออกแบบเองเป็นส่วนใหญ่ และก็ได้รับคำชม ทั้งนี้และทั้งนั้นเขาให้เหตุผลว่าเพราะอยากทำอะไรที่ตัวเองชอบ ไม่อยากให้ใครมาบงการ
จบ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Oct 06, 2008 2:08 pm | |
| กิมย้งและก๊วยเจ๋งในมุมมองของ จางจื้อหลิน
คมลัมภ์ “มังกรสี่ตา” ปี 1994
มังกรหยก บทประพันธ์ของกิมย้ง นั้นถูกนำมาสร้างซ้ำถึงสามครั้งในรูปของละครทีวี และชุดสุดท้ายดาราที่รับบทก๊วยเจ๋งนั้นได้แก่ จางจื้อหลิน หรือ Chilam ซึ่งภาพลักษณ์ภายนอกนั้นดูจะเวิร์กกว่า หวงเย่อหัว และ ไป่เปียว เคยแสดงมาแล้ว แต่ก็มีบางคนที่พูดว่าหน้าตาที่ดูจะอ่อยเยาว์เกินไปของเขาจะสามารถแสดงความเป็นจอมยุทธของก๊วยเจ๋งได้หรือ?
Chilam กล่าวอย่างมั่นใจว่า
“คนเราทุกคนต่างก็มีรูปแบบการแสดงที่เป็นของตัวเอง รุ่นพี่ทั้งสองที่เคยแสดงบทนี้มาแล้วนั้นต่างก็ทำได้อย่างสมจริงสมจัง แสดงว่าตัวละครนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถเข้าถึงและทำให้สมจริงได้จากอารมณ์ ผมรู้สึกว่ายิ่งถ่ายไปก็ยิ่งคล่อง ผมต้องการที่จะเข้าถึงโลกส่วนตัวของตัวละครตัวนี้จริงๆ ให้ได้ ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ล่ะครับ”
- คุณเป็นคนที่คลั่งไคล้นิยายของกิมย้งหรือเปล่า?
ใช่ครับ เพราะธรรมดาแล้วผมเป็นคนที่เลือกหนังสือสำหรับอ่านเป็นที่สุด ตั้งแต่อายุสิบสามมั้งที่เริ่มอ่านผลงานของกิมย้ง
- ผลงานที่คุณประทับใจมากที่สุดมีเรื่องไหนบ้าง?
ก็คงจะได้แก่ อุ้ยเสี่ยวป้อ , มังกรหยก ภาค 2 , มังกรหยก และ ดาบมังกรหยก
- คุณเคยติดนิยายเหล่านี้ขนาดลืมกินลืมนอนหรือเปล่า?
ทำไมคุณรู้ล่ะ ช่วงนั้นผมเรียนชั้นมัธยมอยู่ เวลาเลิกเรียนกลับมาก็รีบหลบเข้าห้องนอนเลย เพื่อที่จะขนนิยายเหล่านั้นออกมาอ่านๆๆจนเกือบเป็นปกติเลยที่จะมาหลับนอนตอนตีหนึ่งตีสองแทบทุกวัน พอเช้าไปโรงเรียนก็จะถูกล้อว่า หมีแพนด้า บ่อยๆ เพราะขอบตางี้เขียวคล้ำเชียว
- คุณคิดว่า การที่กิมย้งนำเอาความรักความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้มาใส่ไว้ในนิยายของเขาแล้ว ทำให้ผู้อ่านต่างก็เกิดความรู้สึกที่ติดตาฝังใจโลกแห่งความเป็นอนิจจังนั้นเหมาะสมหรือไม่?
คุณพูดถูก อารมณ์ที่กิมย้งเขียนนั้นมักจะอ่านแล้วทำให้คนอ่านรู้สึกสะเทือนในจิตใจ แต่จริงๆ ไม่ใช่แค่การบรรยายอารมณ์เท่านั้น แม้แต่ท่วงท่าและบรรยากาศของวิทยายุทธ์ เขาก็บรรยายได้อย่างประทับใจผู้อ่านและอารมณ์ความรู้สึกก็ห้าวหาญสง่างาม
- มีคนพูดว่า มังกรหยก เป็นนิยายรักที่บรรยายถึงความบริสุทธิ์ในความรักของคนหนุ่มสาว ไม่ทราบว่าคุณมีความเห็นเช่นไรบ้าง?
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเขาได้บรรยายถึงความสัมพันธ์อันบริสุทธิ์และจริงใจที่มีต่อกันระหว่างก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้งได้อย่างละเอียดและเข้าถึงแก่นแท้ทีเดียว
- คุณคิดว่าความสำเร็จในนิยายของกิมย้งนั้น เป็นเพราะเขาได้บรรยายความขัดแย้งต่างๆ ออกมาได้อย่างถ่องแท้และสมจริงหรือเปล่า?
ผมคิดว่าความสำเร็จของนิยายของกิมย้งนั้นมาจากสาเหตุหลายๆ ด้านด้วยกันคือ หนึ่งการเขียนของเขานั้นวิจิตรงดงาม สอง เนื้อเรื่องเข้มข้น เลือกสรรมาแล้ว คุณสังเกตเห็นมั้ยว่าเบื้องหลังประวัติศาสตร์ที่เขาเขียนนั้นบรายายได้อย่างสมจริงสมจัง ตอนต้นที่เปิดเรื่องยังสอดแทรกภาพประกอบต่างๆ ทำให้เป็นยาชูรสที่กระตุ้นให้ผู้อ่านมีความรู้สึกอยากที่จะอ่านนิยายเรื่องนั้น สามคือ จุดสำคัญที่สุดของความสำเร็จในผลงานของเขาคือ เขาตั้งใจและมุมานะในการทำงานเขียน ผู้อ่านก็รู้จักสรรหามาอ่าน ฉะนั้นจึงเกิดความสนใจและใคร่ที่จะอยากรู้อยากเห็นในผลงานของเขา
- มังกรหยก นั้น ความรักที่เกิดขึ้นในเรื่องเกิดขึ้นทั้งสองแบบ ซึ่งได้แก่ความรักที่บริสุทธิ์ของก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง กับความรักความแค้นของเอี้ยคังและเนี่ยมฉื้อนั้น คุณมีทัศนะเกี่ยวกับความรักทั้งสองแบบนี้เช่นไร?
ความรักสองแบบนี้ทำให้ผู้อ่านและผู้ชมบังเกิดความมันในอารมณ์ รักแรกนั้นเป็นรักที่บริสุทธิ์มีการให้ซึ่งกันและกันโดยไม่หวังผลตอบแทน ถือว่าหายากและล้ำค่ามาก สุดท้ายก็จะกลายเป็นคู่ขวัญกัน แล้วจะไม่ให้ผู้อ่านไม่อิจฉาได้ไง ส่วนคู่หลังน้นเริ่มตั้งแต่ประลองยุทธ์หาคู่จนถึงการกระทบกระทั่งและผ่นอุปสรรคต่างๆนาๆ จนในที่สุดก็จบด้วยความเศร้า ซึ่งความรักตอนนี้ให้ความรู้สึกหดหู่และเตือนสติแก่ผู้อ่านได้มากทีเดียว
- ความรักอันขัดแย้งกันในด้านพื้นฐานของอึ้งย้งกับก๊วยเจ๋งนั้น ทำไมถึงพูดว่าไม่เกิดอุปสรรคในความรักของทั้งคู่ล่ะ?
คุณเคยได้ยินคำว่า รักแท้ย่อมมีอุปสรรค หากว่ามันไม่มีอุปสรรคปัญหาอะไรเลยนั้น ก็จะทำให้คนทั้งคู่ไม่อาจรับรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆ การที่ก๊วยเจ๋งรักอึ้งย้งเป็นเพราะว่าตามความจริงแล้วอึ้งย้งนั้นเป็นคนที่ดูแลชีวิตประจำวันของก๊วยเจ๋ง แถมเธอยังคล้อยตามเขาตลอดเวลา ระหว่างคนทั้งสองจะเป็นความรักครึ่งหนึ่งและการพึ่งพาอีกครึ่งหนึ่ง พูดกันตามตรงเลยนะ ในใจผมเองก็ยังรู้สึกว่ารักอึ้งย้งมากเลย เพราะเธอเองทำให้ผู้คนรอบข้างต่างหลงรักบุคลิคของเธอทั้งสิ้น
- เวลาเราอ่านนวนิยายของกิมย้ง บ่อยครั้งที่จะถูกภาพเหตุการณ์ที่เขาเขียนและตัวละครในนิยายดึงดูดเอาไว้ทำให้พลาดในการรับรู้ถึงปรัชญาชีวิตของเขา ที่ต้องการให้ผู้ชมและผู้อ่านรับรู้ คุณอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วได้อะไรจากจุดนี้บ้าง?
ก็คงจะเป็นคติที่สอนให้รู้ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า พื้นแผ่นดินนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก คนเก่งนั้นยากที่จะมีได้เพียงหนึ่ง เพราะต้องมีคนที่เก่งกว่าเสมอ
- ในแง่ของความรัก คุณได้ประสบการณ์จากจุดนี้หรือเปล่า?
จากนิยายเรื่องนี้ ทำให้ผมเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่า ความรักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ผมยังอยากจะมีความรักอันลึกซึ้งตรึงใจเช่นเดียวกับก๊วยเจ๋งมีเลย ซึ่งมันเป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่มีอะไรลับลมคมในมาแอบแฝง หากจะมีความรักแล้วก็อยากจะมีแบบที่สองคนมีให้แก่กัน ต่างก็เข้าใจซึ่งกันและกัน มีการอภัยซึ่งกันและกัน และเชื่อถือกันและกัน
- เราเห็นว่า Chilam นั้นเหมาะสมกับบทก๊วยเจ๋ง เพราะในช่วงที่พูดคุยกันนั้น รับรู้ได้เลยว่าเขานั้นมีจิตวิญญาณที่มีต่อนิยายและบุคคลในเรื่องอย่างถ่องแท้เหมือนกับเขาเป็นส่วนหนึ่งของมันด้วย และความหวังที่เขามีต่อละครชุดนี้คือ
ผมหวังว่าผู้ชมคงรุ้สึกดีๆต่อมัน ผมคงไม่ทำให้แฟนๆนวนิยายของกิมย้งผิดหวังและที่สำคัญคือ อยากให้ทุกคนได้รับรู้และยอมรับในบทบาทที่ผมทุ่มเทลงไปอย่างเต็มที่นี้
จบ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Oct 06, 2008 2:10 pm | |
| พิธีกร : คุณเคยเป็นนักร้อง แล้วมาเป็นนักแสดง แบบนี้ก็ต้องทิ้งอาชีพนักร้องไป จางจื้อหลิน : ผมไม่ได้ยืนกรานว่าจะต้องร้องเพลง หรือว่าเป็นนักร้องตลอดไป ตอนนั้นมันมีสัญญาที่ต่อเนื่อง ผมก็ต้องร้องเพลงต่อไปจนกว่าจะหมดสัญญา แล้วหลังจากนั้นมีโอกาสเข้ามา มีโอกาสให้ผมกลับไปร้องเพลงอีกครั้ง หรือบางครั้งอาจจะมีคนมาหาเพื่อขอให้คุณไปช่วยร้องเพลงประกอบหนังหรือว่าละคร แล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ใจดำ มีคนมาขอให้ผมร้องเพลง ผมก็ต้องร้อง ผมก็ต้องทำมันต่อไป
พิธีกร : คุณเกิดในครอบครัวใหญ่ อยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้าง ตอนคุณอายุ 16 ปี คุณได้ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัวใช่ไม๊ แล้วตามปกติคนที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศได้ ครอบครัวต้องมีฐานะ จางจื้อหลิน : ไม่แน่เสมอไปครับ ตอนนั้นผมต้องอพยพตามพ่อ ต้องหาวิธีการมากมายเพื่อให้สามารถย้ายไปต่างประเทศได้ ต้องพยายามดิ้นรนกระเสือกกระสนเพื่อจะไปให้ได้ จริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็กๆ คือ การมีครอบครัวที่อบอุ่น
พิธีกร : มีการแยกทางระหว่างพ่อ แม่ แล้วคุณก็ตามพ่อไป? จางจื้อหลิน : ตอนพ่อแม่แยกทางกัน ผมก็อยู่กับแม่ หลังจากนั้นก็ไปอยู่กับพ่อ
พิธีกร : แล้วทำไมต้องไปอยู่กับพ่อด้วยล่ะ? จางจื้อหลิน : เป็นเพราะว่าช่วงเวลานั้น คนนิยมอพยพไปอยู่ต่างประเทศครับ ผมก็เลยไปกับพ่อ มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดมากครับ
พิธีกร : แล้วตอนนี้คุณยังคิดถึงสมัยที่อยู่ต่างประเทศไม๊คะ? จางจื้อหลิน : ก็มีบ้างครับ บางครั้งก็คิดถึงเหมือนกัน แต่ละสถานที่ก็มีความพิเศษไม่เหมือนกัน
พิธีกร : แล้วคุณไปอยู่ต่างประเทศกี่ปีคะ? จางจื้อหลิน : ผมไปอยู่ 4 ปี
พิธีกร: การไปอยู่ที่นั่น ทำให้คุณกลายเป็นคนทำอะไรมีแบบแผนรึเปล่าคะ? จางจื้อหลิน : ผมไม่ได้เป็นคนทำอะไรว่องไวนัก
พิธีกร : ฉันมีเพื่อนอยู่หนึ่งคน เมื่อเขากลับมาที่ปักกิ่ง จะข้ามถนน เขายังไม่กล้าข้าม จางจื้อหลิน : แต่ตอนนี้ผมข้ามถนนได้แล้วนะ จริงๆผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง แต่เขาเป็นคนที่ค่อนข้างฉลาด
- - - พิธีกรกล่าวถึงหยวนหย่งอี้ - - -
พิธีกร : จากที่ฉันตามอ่านข่าว ดูเเหมือนว่าเธอเป็นคนที่เข้ามาคุยกับคุณก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มนัดกันทานข้าว แล้วจึงจะเป็นแฟน จางจื้อหลิน : หลังจากถ่ายละครจบแล้ว ก็มีพูดคุยกันระยะหนึ่ง ถึงจะตกลงคบกันเป็นแฟน มีคนชอบพูดบ่อยๆว่า เธอมาจีบผม แต่จริงๆแล้วไม่มีอะไรครับ มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่ชอบพอกัน เป็นเพียงเรื่องล้อเล่นสนุกๆว่าเขามาจีบผมก่อน
พิธีกร: คบกันมานานไม๊คะ กว่าจะเริ่มสร้างครอบครัว จางจื้อหลิน : จริงๆแล้วผมคิดว่าเราต้องเริ่มสร้างฐานะก่อน ผมต้องมั่นใจว่าจะสามารถเลี้ยงดูเธอได้ ผมต้องดูจุดนี้ด้วยครับ ไม่ใช่ว่า นึกอยากแต่ง ก็แต่ง
พิธีกร : ฉันว่าเธอคงไม่ต้องรอให้คุณมาเลี้ยงเธอหรอก เธอสามารถดูแลตัวเองได้ จางจื้อหลิน : ไม่ได้หรอกครับ ผมเป็นผู้ชาย ผมก็ต้องมีความรับผิดชอบใช่ไม๊
พิธีกร : แต่ฉันว่า ในสมัยนี้ผู้หญิงคงไม่ต้องมานั่งรอให้ผู้ชายเลี้ยงดูแล้ว ต่างคนก็ต่างทำงาน ฉันว่ามันก็โอเคนะคะ จางจื้อหลิน : ไม่ได้หรอกครับแบบนั้น ฟังแล้วมันไม่ดี
พิธีกร : งั้นก็แสดงว่าเธอคงเรียกร้องเอาจากคุณซิคะ จางจื้อหลิน : เขาก็ไม่ได้มาเรียกร้องอะไรผมหรอกครับ แต่ว่าผมเป็นผู้ชาย ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ จริงๆแล้วในชีวิตมนุษย์ ช่วงเวลาที่มีความสุข ใช่ว่าจะยืนยาวนัก เพราะฉะนั้นผมจึงคิดว่าถ้าเราสามารถนำเงินไปแลกกับความสุขได้บ้าง เราก็สมควรทำ
พิธีกร : ตอนนี้คุณเป็นคุณพ่อแล้วใช่ไม๊คะ? จางจื้อหลิน : ใช่ครับ
พิธีกร : ตอนนี้คงอายุขวบกว่าแล้ว คิดว่าคงจะพูดได้บ้าง จางจื้อหลิน : ครับ
พิธีกร : แล้วเขาเรียกพ่อ หรือว่าเรียกแม่ก่อนคะ? จางจื้อหลิน : เรียกพ่อก่อนครับ
พิธีกร : ตอนนี้คงมีการเปลี่ยนแปลงมากมายซิคะ จางจื้อหลิน : เรื่องของความรักเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากครับ
พิธีกร : คนเราเมื่อแต่งงานแล้ว ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ขออวยพรให้คุณมีความสุขนะคะ จางจื้อหลิน : ขอบคุณครับ
พิธีกร : แต่ตอนนี้ฉันมีข้อเรียกร้องบางอย่างจากคุณนะคะ ฉันมีไพ่มาสำรับหนึ่ง เรามาเล่นเกมส์กันไม๊คะ จางจื้อหลิน : โอเคครับ
- - - จางจื้อหลินเริ่มเล่นเกมส์ไพ่ แล้วให้พิธีกรเลือกไพ่มา 1 ใบ แล้วเขาก็สามารถทายถูก - - -
พิธีกร : ทำไมมันขลังขนาดนี้ แปลกใจจริงๆ คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันเลือกแปดดอกจิก
## จบการสัมภาษณ์ ## | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Oct 06, 2008 2:10 pm | |
| "เทียนตี้หนันเอ๋อ" ลูกผู้ชายต้องสู้ ภาพยนตร์ที่คุณถามหา
ละครชุด 60 ตอนเรื่อง “เทียนตี้หนังเอ๋อ” ของ TVB โดยมีเวยฉีอี้เป็นผู้ควบคุมการผลิต ตอนนี้กำลังแพร่ภาพอยู่ในฮ่องกงแล้วมีเรทติ้งเป็นที่น่าพอใจซะด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะว่าเรื่องนี้มีความพิถีพิถันในด้านเนื้อหาการถ่ายทำและการแสดงของนักแสดงทุกๆคน เนื้อหาจะเน้นหนักไปที่ปัญหาของครอบครัว ความรักความแค้นระหว่างพี่น้อง นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากสลับซับซ้อนจะว่าไปแล้วคาแร็คเตอร์ของตัวละครวางได้เหมาะสมกับนักแสดงตรงกับคนเขียนบทมาก ผู้กำกับและนักแสดงทำให้ทุกอย่างลงตัวอย่างราบรื่น
“ผมเชื่อว่าเนื้อหาอย่างนี้คงเป็นที่ถูกใจของผู้ชม” เวยฉีอี้เคยกล่าวเอาไว้และวันนี้ มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
จากการเปิดเผยของผู้ควบคุมการผลิตบอกว่าเรื่องนี้เป็นสายสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนของเจิ้งเส้าชิว, อู่หยงเว่ย, หลินอีฉี, หลินฉีซิน, เจียงจื้อกวง แล้วยังมีเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวอย่าง กู่เทียนเล่อ, จางจื้อหลิน, เฉินสงหลิง อีกทั้ง หลอเจียเหลียง, จางเข่ออี๋, เฉินจื่อจิง และ ซวนซวน ก็มาช่วยเติมสีสัน จึงนับได้ว่าเป็นการรวบรวมนักแสดงชั้นแนวหน้าของ TVB ไว้ในเรื่องเดียวกันเลย เป็นละครฟอร์มใหญ่ที่สมกับการฉลองครบรอบ 28 ปี TVB ที่ผ่านมากับการไปเยี่ยมเยียนกองถ่าย การถ่ายทำในห้องบอลลูนของโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีนักแสดงเข้าร่วมฉากนี้มากหน้าหลายตา อาทิ กวนไห่ซัน, เจิ้งเส้าชิว, พานจื้อเหวิน, หลอเจียเหลียง, จางจื้อหลิน ฯลฯ
โดยในฉากนี้เป็นการเลี้ยงฉลองอายุของเยี่ยเซิ่ง (แสดงโดยกวนไห่ซัน) นักการธนาคาร โดยมีหลอจื่อเจี้ยน (จางจื้อหลิน) นำกำลังตำรวจจะเข้าไปจับ ฉีหย่งฟัง (เจิ้งเส้าชิว) ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็คุมเชิงกันอยู่พักหนึ่ง
การถ่ายทำเริ่มตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนล่วงเลยไปถึง 8 โมงเช้าของอีกวัน ตอนแรกนึกว่าจะได้เห็นการนอนหลับเอาแรงของนักแสดงแต่ละคน ที่ไหนได้กลับเห็นการรวมกลุ่มๆละ 3-5 คน นั่งเอกเขนกพูดคุยกัน บ้างก็นั่งดูนิตยสารบ้างอ่านนิยาย หรือศึกษาบทหนังกับผู้ควบคุมการผลิต นับว่าไม่ยอมปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์กัน
จากนั้นเราก็ได้ไปเยี่ยมการถ่ายทำที่คังโชว่ นี่นับว่ากันดารมาก เต็มไปด้วยฝุ่น ผู้คนก็ไม่มี (นอกจากเจ้าหน้าที่) ในรัศมี 20 ลี้นี้ไม่มีแม้แต่เงาของต้นไม้ ยิ่งพูดถึงห้องน้ำแล้วยิ่งช้ำใจเข้าไปใหญ่
เจ้าเส้าชิว : ของเรายังต้องไปแอบ ปลดทุกข์ ตรงล้อรถเลยที่เก๋กว่าใครเห็นจะได้แก่ เฉินสงหลิง ที่มีวิธีอั้นทุกข์ได้เด็ดกว่าคนอื่น เธอบอกว่าได้เตรียมขนมปังแทงประเภทกูลิโกะแบบเดียวกับบ้านเรานั่นแหล่ะมาเป็นลัง ยามเกิดปวดทุกข์ขึ้นมาก็กินมันเข้าไป พอมันตกลงไปในกระเพาะก็จะช่วยดูดซับน้ำ ก็ไม่รู้ว่าเทคนิคนี้จะใช้ได้ผลจริงหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ วันนั้นทั้งวันเราไม่ได้เห็นเธอเข้าห้องน้ำเลย ก็เลยคาดว่าคงจะได้ผลแน่
กับการถ่ายทำเริ่มแต่ช่วง 7 โมงเช้า ซึ่งวันนี้มี กู่เทียนเล่อ กับ เฉินสงหลิง มาร่วมสมทบด้วย เรื่องราวมีอยู่ว่า ฟังเฉี่ยวหยง (เฉินสงหลิง) กับพนักงานธนาคารอีกคนหนึ่งถูกโจรปล้นและพอตำรวจทราบเรื่องก็นำกำลังมาปิดล้อม สกัดกั้นทางหนีของพวกโจร สุดท้าย เยี่ยหย่งคัง (กู่เทียนเล่อ) โชคร้ายโดน หลอจื่อเจี้ยน (จางจื้อหลิน) ยิงเข้าให้จนทำให้เยี่ยหย่งคังเป็นอัมพาตครึ่งท่อนล่าง
จะว่าไปแล้วการถ่ายทำที่ยากที่สุดในวันนั้นเห็นจะเป็นฉากรถเหาะ เพราะช่างเทคนิคต้องเตรียมงานเป็นเวลาหลายชั่วโมง และเพื่อความปลอดภัย ผู้กำกับหยังอู้ ก็ออกมาตะโกนโหวกเหวกว่า “อย่าเข้าใกล้ฉากนี้” พอถ่ายฉากนี้จบก็ถึงคิว เจิ้งเส้าชิว, จางจื้อหลิน และหลอเจียเหลียง ในคราบตำรวจ CID พร้อมตัวประกอบวิ่งเข้าไปหารถดังกล่าว ที่เหนื่อยหน่อยเห็นจะเป็นเจิ้งเส้าชิวกับจางจื้อหลิน เพราะผู้กำกับต้องการให้ได้หลายๆ มุมกล้องเลยต้องวิ่งในแบบซ้ำๆ แต่ดู จางจื้อหลินจะมีภาษีดีกว่า (เพราะหนุ่มกว่าไง แฮะ แฮะ)
ส่วน เฉินสงหลิง กับ กู่เทียนเล่อ กว่าจะถึงคิวเข้าฉากก็ต้องรอถึงเที่ยง เฉินสงหลิง ก็มีวิธีฆ่าเวลากันอีกแล้วโดยการถักเสื้อกันหนาว ไม่ก็ทานขนม ไม่ก็เดินไปดู เจิ้งเส้าชิวแสดง แต่ถูกผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะถักเสื้อตัวสวยตัวนี้ไปให้ใคร เพื่อนชายหรือเปล่า เฉินสงหลิงก็เอาแต่ยิ้มแล้วไม่ตอบ แหม..ใครอยากรู้ก็คงต้องใช้วิธี “คุณเดา” กันล่ะ
สรุปแล้วการถ่ายทำแม้จะมีฉากหวาดเสียว แต่ทุกอย่างก็ดูเรียบร้อยผ่านไปด้วยดีซึ่งของจริงจะออกมาสนุกตื่นเต้นเพียงไร ชาวฮ่องกงคงได้ชมกันไปแล้ว แต่สำหรับแฟนบ้านเราคงต้องรอกันหน่อยนะ ตอนนี้ใครก็ถามหากันเหลือเกิน ก็ต้องดูภาพเบื้องหลังไปพลางๆกันก่อน
หลังจากที่จางจื้อหลินรับบทเด่นจากหนังชุดเรื่องดัง ลูกผู้ชายต้องสู้แล้ว ชื่อเสียงของเขาหอมมากขึ้นกว่าเก่าตั้งเยอะ แถมยังเบนเข็มไปแสดงหนังจอเงินอีกต่างหาก แฟนๆหนังโรงก็รับเขาได้ระดับหนึ่ง แม้ว่าหนังเรื่องนั้นจะไม่ตูมตามเท่าไหร่นัก ส่วนวงการเพลงแล้ว โดยการทิ้งทวนกับอัลบัม “เทียนตี้หนานเอ๋อ” (ลูกผู้ชายต้องสู้) ที่เป็นอัลบั้มรวมผลงานเพลงชุดเก่าๆ ทั้ง 3 ชุดของเขา ซึ่งอัลบัมชุดนี้ออกมาทั้ง 2 เวอร์ชั่น คือ รวมฮิตจีนกลางและกวางตุ้ง จากนั้นจื้อหลินจึงเซ็นสัญญากับ EMI ถึง 3 ปี ด้วยความหวังที่สังกัดใหม่นี้จะสามารถส่งเสริมเขาได้มากกว่าเดิมในบ้านหลังใหม่หลังนี้ จื้อหลินได้เจอเพื่อนซี้อย่าง อู่หย่งเว่ย ที่เคยร่วมงานกันเมื่อครั้งแสดงเรื่อง ลูกผู้ชายต้องสู้ และ อูฉีเสียน นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง แถม อูฉีเสียน ยังแต่งเพลงให้เขาเป็นของขวัญอีกด้วย เพิ่งเซ็นสัญญากับ EMI ได้ไม่นานก็มีเพลงใหม่ให้ฟังกันแล้วด้วย คือ “อีเซิงเหาฉิงอีซี” ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา นอกจากนี้ยังลงมือถ่ายทำ MTV เพลงนี้แล้วด้วย เล่นเกมรุกกันขนาดนี้ คงต้องดูกันต่อไปล่ะว่าค่ายเพลงคุณภาพค่ายนี้จะสามารถทำให้จางจื้อหลินสมหวังได้หรือเปล่า | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Wed Oct 15, 2008 3:07 pm | |
|
แก้ไขล่าสุดโดย lingu เมื่อ Sun Oct 19, 2008 1:50 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Sun Oct 26, 2008 9:13 am | |
| | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Fri Nov 07, 2008 2:35 pm | |
|
แก้ไขล่าสุดโดย andaman เมื่อ Fri Nov 07, 2008 3:21 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง | |
|
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Fri Nov 07, 2008 2:37 pm | |
| | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| |
| |
andaman ศิษย์ชาเรี่ยน สายลมปราณ
จำนวนข้อความ : 552 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Wed Dec 10, 2008 12:15 pm | |
| 15/11/2008 : The musical for Chivas in Shanghai
source : http://www.dfdaily.com/node2/node31/node262/userobject1ai132668.shtml
แปลจีน - อังกฤษ โดย foody แปลอังกฤษ-ไทย โดย จางอ้อม
ละครเพลง "Shine of Knights"
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Chivas ได้จัดงานแสดงละครเพลงอีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่า "Shine of Knights" โดยมีดารานำแสดงดังต่อไปนี้ Choi Charlene, จางจื้อหลิน , Jimmy Lin และ Alice Lau กำกับการแสดงโดย Dick Lee สำหรับนักดนตรีรับผิดชอบโดย Jackie Cheung
เนื้อเรื่อง
ในค่ำคืนดังกล่าวเต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ผสมกับสไตล์ที่ทันสมัย โดยจางจื้อหลินผู้เป็นเจ้าของโรงละคร และนักดนตรีที่มีความสามารถพิเศษอย่าง หลินจื้ออิง (Jimmy Lin) ได้แสดงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ในวันหนึ่ง หลินจื้ออิงได้พบกับแฟนสาวของเขา "Rose" ซึ่งแสดงโดย Charlene (Ah Sa) จากการช่วยเหลือของจางจื้อหลิน ทำให้ Rose ได้กลายเป็นนักแสดงหญิงชั้นนำในโรงละครของเขา ซึ่งทำให้ Ruby เกิดความอิจฉา (นำแสดงโดย Alice ซึ่งเธอรับบทเป็นคู่หมั้นของจางจื้อหลินตามท้องเรื่อง) Ruby ได้พยายามยั่วยวนหลินจื้ออิง และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจางจื้อหลิน และ Rose ต้องมีปัญหา หลินจื้ออิงถูกเข้าใจผิด แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อโรงละครต้องพบกับปัญหา หลินจื้อหลินได้กลับมาช่วยกอบกู้สถานการณ์อีกครั้ง และทั้งหมดก็เข้าใจกัน
เมื่อเปรียบเทียบการแสดงของนักแสดงสองคนที่ยังใหม่สำหรับเวทีนี้ พบว่า Alice เธอแสดงได้ดีมาก และเธอไม่ได้รู้สึกหวั่นใจกับความสามารถของจางจื้อหลินเลย แต่สำหรับจางจื้อหลินแล้ว สิ่งที่ทำให้เขากังวลใจคือการเข้ามามีส่วนร่วมจากภรรยาของเขา "หยวนหย่งอี้" ก่อนเริ่มแสดง จางจื้อหลินบ่นว่า หยวนหย่งอี้จุกจิกกับการแสดงของเขา แต่ท้ายสุด จางจื้อหลินก็บอกภรรยาของเขาว่า เขาต้องการจะทำในสิ่งที่เขารัก คือการร้องเพลง และหยวนหย่งอี้ก็ได้ตอบกลับด้วยการปรบมือให้เขาเสียงดัง
จางจื้อหลิน
หลังจากผ่านประสบการณ์มาหลายปี นอกจากใบหน้าที่ดูหล่อเหลาแล้ว เรายังมองเห็นความฉลาดเฉียบแหลมในตัวของจางจื้อหลิน หลังจากได้แสดงละครเรื่องแรก "Bian Cheng Lang Zi" กับหยวนหย่งอี้ ดูเหมือนว่าจางจื้อหลินไม่เคยหยุดที่จะท้าทายความสามารถตัวเอง และทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จ
นอกเหนือจากนี้ เขายังมีพรสวรรค์ในการร้องเพลง เป็นนักร้องที่มีความสามารถ เพลงของเขาได้ถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 10 เพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และทำให้เขาได้รับรางวัลที่สำคัญ ในปี 1991 ที่ฮ่องกง
ณ เวลานี้ จางจื้อหลินดูเหมือนจะมีความภาคภูมิใจในตัวเองและเป็นสุภาพบุรุษที่แสนอ่อนไหว เราจะเห็นได้ว่า จางจื้อหลินได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆในฐานะอาชีพนักแสดง
| |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ Mon Dec 15, 2008 9:30 pm | |
|
แก้ไขล่าสุดโดย lingu เมื่อ Mon Jan 12, 2009 9:08 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง | |
|
| |
| [Profiles, News & Interviews] ประวัติ ข่าว และบทสัมภาษณ์ | |
|