| The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน | |
|
|
|
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sun Jan 04, 2009 2:15 pm | |
| ไปชมบล็อกมาแล้วค่ะ มีรหัสลับเปิดประตูด้วย เริ่ดค่ะ แบบนี้ดีเลย เดี๋ยวเรื่องใหม่ ทับทิมบ้ายไปมั่งดีกว่า | |
|
| |
Cipher ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1273 Registration date : 11/09/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sun Jan 04, 2009 4:43 pm | |
| ไปเยี่ยมชมมาแล้วเหมือนกันค่ะ มีเสียงเพลงพี่ชายขับกล่อมระหว่างอ่านด้วย เจ๋งมากค่ะ
เดี๋ยวตามมาอ่านนะค่ะ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sun Jan 04, 2009 5:07 pm | |
| ใช่ๆ ทับทิมมันใส่รหัสได้ ก็ไม่ต้องกลัวใครเข้ามากวนแล้วค่ะ ทีนี้ถ้าจะค้นหาตอนเก่าๆ ก็ทำได้ง่าย แปะเพลง แปะภาพได้เต็มที่เลย ไม่ต้องตัดหลายท่อนด้วย เอรู้สึกทับทิมก็มีบล๊อกอยู่แล้วนิ ช่ายเปล่าคะ เปิดแล้วจะตามไปเจิมนะ ต่อไปคงต้องทนฟังเสียงจางจื้อหลินหน่อยนะคะน้องมล เพราะพี่ดันรู้จักนักร้องคนนี้คนเดียวซะด้วย ว่าแต่ สงสัยรหัสรักรหัสลับมันง่ายไป ทำไมมีแต่คนเข้าได้เนี่ย สงสัยต้องเปลี่ยนซะแล้ว | |
|
| |
O-yohyo ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6683 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sun Jan 04, 2009 5:22 pm | |
| ฟิ้ว . . มาแล้วค่ะ ได้กลิ่นฟิคตั้งแต่กลางวันที่แต๋มเริ่มแปะ วันนี้นั่งเขียนประเมิน จริงๆ ต้องตัดใจจากเนตทั้งปวง (จะไปหาอาเส่ยังต้องกลั้นใจไม่ไป) แต่คงเพราะได้กลิ่นฟิคโชย ช่วงพักยกครึ่งทางก็แวะเวียนมา ตอนแรกกำลังจะเริ่มเกเร ติดอยู่ในเนตยาว แต่พอเห็นแต๋มลงฟิคเท่านั้นแหล่ะ กำลังฮึดมาทันที . . ต้องรีบทำให้เสร็จ ไม่งั้นเผลออ่านล่ะก็ยาวแน่ๆ แล้วก็ปิดคอม วิ่งไปเขียนแบบมีสมาธิดีสุดๆ เพราะว่ามีฟิคล่อ 55 โม้ซะยาว ขอไปเริ่มอ่านก่อน เดี๋ยวไปเม้นท์ประเดิมที่บล็อกแต๋มเลยนะคะ | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sun Jan 04, 2009 11:54 pm | |
| โธ่ มาทีหลังอีกแระ มัวแต่วิ่งรอกทั้งบล็อคมามิ จางงี้ ทับทิม แล้วไม่คิดมาก่อนว่าแต๋มจะลงวันนี้ด้วย เพราะแต๋มจะเขียนแต่ละตอนต้องใช้เวลานานและก็ ทิ้งระยะห่างนานมาก เพิ่งลงไปเมื่อ 2-3 วันมานี้ หลินกุก็คิดว่ากว่จะได้อ่านอีกตอนใหม่ก็คงอีกเป็นเดือน 555 นี่ถ้า o-yo ไม่เอาลิงค์ไปแปะที่บ้านบอร์ด3 ก็ไม่รู้เลยนะเนี่ย สำหรับระหัสลับ ง่ายจริงด้วยค่ะ สำหรับคนแวดวงเราๆนะ แต่ถ้าเป็นวงนอกก็คงไม่รู้อ่ะ ถ้าแต๋มว่าง่ายไป ก็เพิ่มชื่อแรกของพี่ชายนำหน้าดิแล้วก็ชื่อนี้ติดต่อกันไปเลยอ่ะค่ะ เมื่อกี้เข้าไปดูแระ ใส่เพลงแล้วทำให้ได้บรรยากาศเยอะเลยค่ะ และก็ยินดีฟังทุกเพลงที่มีนักร้องคนนี้ร้องคลอยามอ่านฟิคค่ะ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Thu Jan 15, 2009 10:28 pm | |
| ตอนที่ 19 ไต้ซือและหยกครึ่งชิ้น
รุ่งเช้า ตำหนักหลวง ณ ห้องบรรทมฮ่องเต้
วันนี้คังซื่อรู้สึกตัวแต่เช้ามืด เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเลย มัวแต่คิดถึงเรื่องการอภิเษก มันช่างตลกดีแท้ ที่ผู้ชายอกสามศอกอย่างเขา ไม่สามารถจะเลือกคู่ครองเองได้ และที่น่าขันไปกว่านั้นก็คือ เขาเป็นถึงฮ่องเต้ต้าซ่ง แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารหรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัว เขาไม่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจเองเลย
ชายหนุ่มเดินไปหยิบช่อดอกรักที่ปักอยู่ในแจกันด้วยแววตาอาวรณ์ เขาคิดทบทวนถึงเรื่องราวระหว่างเขากับเส่เยี่ย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มันใช่ความบังเอิญหรือเปล่า ทำไมเขาต้องมารู้จักนางด้วย หรือว่าสวรรค์ได้ลิขิตเอาไว้หมดแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย คังซื่อตกหลุมรักหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะเหตุใดนางถึงเข้าครอบครองหัวใจเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ จริงอยู่นางอาจจะมีหน้าตาที่คล้ายกับปิงเยี่ย แต่ความจริงแล้วหญิงสาวทั้งสองคนช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนหนึ่งแก่นแก้วเหมือนม้าดีดกระโหลก อีกคนก็เรียบร้อยสมกับเป็นกุลสตรี คนหนึ่งโผงผางเอาแต่ใจตัวเอง อีกคนก็เงียบขรึมเดาใจยาก ดูเหมือนจะมีเพียงแค่สิ่งเดียวที่เหมือนกันก็คือ "ความดื้อ" โดยเฉพาะเส่เยี่ย แม้ภายนอกจะดูนิ่งเฉย แต่นางเป็นคนที่ดื้อเงียบเอามากๆ ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขาไม่มีวันเข้าถึงนางได้เลย เหมือนกับว่าหญิงสาวเก็บอะไรไว้ในใจตลอด และสิ่งนี้เองที่กลายเป็นเสน่ห์ท้าทาย ทำให้ชายหนุ่มต้องการเอาชนะ เขาอยากค้นหาคำตอบจากดวงตาที่ว่างเปล่าคู่นั้นให้ได้
แต่การจะเอาชนะหญิงสาวอย่างเส่เยี่ยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย...
ชายหนุ่มถอนหายใจยาวแล้วใส่ดอกไม้กลับคืนไปในแจกัน นอกจากด่านของเส่เยี่ยแล้ว วันนี้เขายังต้องผ่านอีกด่านหนึ่งไปให้ได้เสียก่อน ถูกต้องแล้ว เขาจะต้องไปคุยเรื่องนี้กับไทเฮา "เฮ้ออออ" ทำไมอะไรๆ ในชีวิตของเขา มันถึงได้ยากกว่าคนอื่นนะ ใครไม่รู้คงคิดว่าเป็นฮ่องเต้นั้นสุขสบาย แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องราวของเขาเลย
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ณ จวนอ๋องถูจิ้น
เส่เยี่ยอยู่เฉยๆ ทุกวันก็รู้สึกเบื่อ นางไม่อยากกลายเป็นคนตาบอดไร้ค่า จึงขอเจ้าหยาจือทำงานเล็กๆ น้อยๆ ภายในจวน เจ้าหยาจือไม่อยากขัดใจหญิงสาว จึงให้นางช่วยออกมาให้อาหารนกและปลาที่สวนหลังจวนทุกเช้า ระหว่างที่กำลังให้อาหารปลาอยู่นั้น ก็มีผู้มาเยี่ยมเยือน "อรุณสวัสดิ์แม่นางเส่เยี่ย" เสียงหวานสดใสของหลินกุเหนียงกล่าวทักทายมาแต่ไกล เส่เยี่ยได้ยินเสียงจึงหยุดให้อาหารปลาแล้วหันไปทักทายเจ้าของเสียงนั้น "วันนี้ไม่ต้องซ้อมวรยุทธงั้นหรือ มาหาข้าแต่เช้าเชียว" เส่เยี่ยพูดแล้วก็ยิ้มหวาน "ข้าไม่ได้มาคนเดียวนะ พาใครมาด้วย" หลินกุเหนียงอมยิ้มแบบมีเลศนัย "ฝ่าบาทก็มาด้วยงั้นเหรอ ตอนนี้ทรงอยู่ที่ไหนหล่ะ" เส่เยี่ยได้ยินเช่นนั้นก็เผลอถามหาฮ่องเต้ด้วยอาการดีใจ "เอ แม่นางเส่เยี่ย ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าพาใครมาด้วย ทำไมถึงได้รู้หล่ะว่าเป็นฮ่องเต้ รึว่า..." หลินกุเหนียงแกล้งแซวจนนางอาย เส่เยี่ยเผลอเทอาหารปลาลงน้ำจนเกือบหมดถ้วย หลินกุเหนียงเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะชอบใจ ก็ฮ่องเต้ทั้งน่ารักและเอาใจเส่เยี่ยขนาดนี้ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว นี่หากนางไม่ได้แอบปิ๊งพี่จั๋วไปแล้วหล่ะก็ คงเสียดายโอกาสดีๆ ที่จะได้เป็นฮองเฮาเช่นกัน "เอาหล่ะๆ ไม่แกล้งเจ้าแล้ว เดี๋ยวปลาอิ่มตายกันพอดี ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงรออยู่ด้านในหน่ะ วันนี้ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่" หลินกุเหนียงเข้าไปประคองเส่เยี่ยแล้วก็เดินออกมาจากสวนด้วยกัน "คงเป็นเพราะเรื่องอภิเษกสินะ" เส่เยี่ยเองก็พอจะเดาออก เมื่อวานตอนที่เขาเดินมาส่งนาง ก็ดูเงียบเชียว จะว่าไปแล้ว เขาก็น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย "เฮ้อ ฮ่องเต้นี่ก็แปลกเนอะ มีสาวสวยพร้อมทั้งรูปสมบัติคุณสมบัติมาให้เลือก ยังจะต้องกลุ้มใจทำไม" หลินกุเหนียงส่ายหัวด้วยความไม่เข้าใจ "ท่านไม่เข้าใจหรอก บางครั้งต่อให้มีเป็นร้อยเป็นพันตรงหน้า แต่ก็ต้องการเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น" คนพูดพูดแล้วก็มองเหม่อ "โอ้โหพูดแบบนี้ แสดงว่ามั่นใจมากสินะว่าฮ่องเต้ทรงรักเจ้าคนเดียว" หลินกุเหนียงแกล้งแซว "บ้าสิ ใครบอกว่าข้าหมายถึงตัวเองเล่า" "อ๊ะๆ ไม่ใช่แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย" หลินกุเหนียงหัวเราะ เส่เยี่ยก็หันมาตีแขนนางเบาๆ ทำไมถึงได้ชอบแซวนางนักนะ เป็นเพราะแบบนี้ถึงทำให้คังซื่อเข้าใจผิดไปกันใหญ่
สองสาวเดินไปคุยไปจนเข้ามาถึงด้านในของจวน เพียงแค่ก้าวเข้ารัศมีห้อง เส่เยี่ยก็รู้ว่าฮ่องเต้อยู่ในห้องนั้นแล้ว หญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที ฝ่ายคังซื่อพอเห็นเส่เยี่ยเดินเข้ามา ก็เข้าไปประคองนางให้มารู้จักกับแขกที่มาเยือน "เส่เยี่ย ท่านนี้คืออิเต็งไต้ซือนะ ท่านเป็นหมอเทวดา เคยรักษาเราตอนเด็กๆ" คังซื่อแนะนำให้เส่เยี่ยรู้จักกับไต้ซือที่ดูเลยวัยกลางคนไปแล้ว ท่าทางของเขาสุขุมและใจดี คังซื่อกับไต้ซือดูจะสนิทกันมาก เพราะไต้ซือเคยรักษาคังซื่อให้หายจากโรคร้ายตอนที่ยังทรงเยาว์อยู่ ความจริงไต้ซือได้ตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว ท่านไม่ยอมรักษาให้ใครง่ายๆ หากไม่ใช่เพราะเป็นฮ่องเต้คนนี้ขอร้อง ท่านไม่มีทางขึ้นมาที่เมืองหลวงเป็นอันขาด
ฮ่องเต้บอกกับเส่เยี่ยว่า อยากให้ไต้ซือลองรักษาดวงตาให้กับนาง หญิงสาวเห็นว่าเขากำลังไม่สบายใจ จึงไม่อยากขัดใจเขา นางตกลงรับปากให้ไต้ซือลองตรวจอาการดู คังซื่อขอร้องให้เส่เยี่ยเล่าเรื่องที่ตาบอดให้ฟัง หญิงสาวทำท่าอึกอัก นางไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นเลย มันคือฝันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของนาง มันทำให้นางต้องสูญเสียทั้งดวงตาและบิดาผู้เป็นที่รักไป แค่คิดก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ทำไมนางต้องมาเล่าเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นฟังด้วยนะ ที่สำคัญหญิงสาวไม่อยากให้ใครรู้ว่า นางคือบุตรสาวของซุนซิ่ง อดีตมือกระบี่อันดับหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เส่เยี่ยเล่าเรื่องของตนเองแบบถามคำตอบคำ พอโดนซักเข้ามากๆ หญิงสาวก็หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ไต้ซือเห็นว่านางไม่ค่อยให้ความร่วมมือ จึงเปลี่ยนมาขอตรวจดวงตาและชีพจรของนางแทน | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Thu Jan 15, 2009 10:32 pm | |
| หลังจากไต้ซือตรวจดูตาของเส่เยี่ยทั้งสองข้าง ก็ขมวดคิ้วแน่น ทำเอาคนในห้องต่างพากันลุ้นตามไปด้วย จากนั้นท่านจับชีพจรของเส่เยี่ยแล้วก็ขมวดคิ้วอีก เหมือนกับว่ามีอะไรผิดปกติ ท่านจึงขอตรวจดูตาของเส่เยี่ยอีกครั้งหนึ่งจนแน่ใจ ก่อนจะพูดให้ทุกคนในห้องฟังถึงอาการของนาง "อมิตาพุธ ความจริงตาของแม่นางผู้นี้ไม่ได้บอด" ไต้ซือกล่าว "หา!!!!!!!!!!!!" ทุกคนในห้องร้องขึ้นพร้อมๆ กัน "หากปฏิบัติตามวิธีที่ข้าแนะนำ นางจะต้องหายเป็นปกติอย่างแน่นอน" ไต้ซือพยักหน้าด้วยความมั่นอกมั่นใจ "จริงเหรอไต้ซือ!!!" ฮ่องเต้ดีใจเสียยิ่งกว่าเส่เยี่ยเสียอีก แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะยังไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไหร่ "ถ้าตาข้าไม่ได้บอด แล้วทำไมข้าถึงมองไม่เห็นหล่ะ" เส่เยี่ยย้อนถามด้วยความสงสัย นางพูดแล้วก็เอามือแตะไปที่ตาทั้งสองข้าง "จะเห็นหรือไม่ อยู่ที่จิตใจของเจ้า" ไต้ซือตอบ "จิตใจของข้างั้นเหรอ ท่านพูดอะไร ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย" เส่เยี่ยขมวดคิ้ว คนอื่นๆ ในห้องก็พากันสงสัยไปด้วย "แม่นางอายุยังน้อย อาจไม่รู้ว่าในโลกนี้มีโรคที่แปลกประหลาดพิสดารอยู่มากมาย หลายสิบปีมานี้ ข้าเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ รักษาทั้งคนใบ้ หูหนวก ตาบอด บางรายก็เป็นอัมพาต หรือไม่ก็สูญเสียความทรงจำ แท้จริงแล้วคนเหล่านี้ไม่ได้ป่วยทางร่างกายแต่อย่างใด เพียงแต่พวกเขาได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติไปเท่านั้นเอง" "มีโรคแบบนี้ด้วยหรือ" องครักษ์เหอขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อ "มีสิ หากสามารถแก้ปมในใจของผู้ป่วยได้ ร่างกายก็จะกลับมาหายเป็นปกติ" ไต้ซือตอบ "ปมในใจงั้นหรือ" คราวนี้องครักษ์จั๋วขมวดคิ้วบ้าง "นี่แม่นางเส่เยี่ย เจ้ามีปมอะไรในใจก็รีบบอกไต้ซือไปสิ จะได้มองเห็นสักที" หลินกุเหนียงที่ยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ รบเร้าหญิงสาว "เส่เยี่ยจ๊ะ ไม่ต้องกลัวนะ ค่อยๆ เล่าให้ไต้ซือฟังก็ได้..." เจ้าหยาจือพยักหน้าเห็นด้วยกับหลินกุเหนียงแล้วก็พยายมพูดกล่อมให้เส่เยี่ยคล้อยตาม หารู้ไม่มันกลับทำให้เส่เยี่ยยิ่งหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิม พอนางนึกถึงภาพที่บิดากำลังนอนจมกองเพลิง ความแค้นที่เก็บซ่อนไว้ ก็พุ่งพล่านขึ้นมาในใจอีก ก็เพราะราชสำนักไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ครอบครัวของนางต้องมาพบจุดจบเช่นนี้ "เหลวไหล!!! ข้าเองก็เป็นหมอ เรื่องปมในใจบ้าบออะไรนี่ ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย ข้าว่าไต้ซือคนนี้จะหลอกเอาเงินค่ารักษามากกว่า" เส่เยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง "เส่เยี่ยอย่าเสียมารยาทกับไต้ซือสิจ๊ะ" เจ้าหยาจือตำหนิ "ไม่เป็นไรๆ ข้าเข้าใจความรู้สึกนางดี เรื่องการรักษานี้ มันต้องค่อยเป็นค่อยไป" ไต้ซือตอบอย่างใจเย็น "ก็ข้าบอก ไม่รักษา ไม่รักษาไง!!! อย่ามาบังคับข้าได้ไหม!!!" เส่เยี่ยพูดจบก็เอามือปิดหน้าปิดตา เหมือนไม่อยากรับฟังอะไรอีกแล้ว "เอาหล่ะๆ ทุกคนออกไปก่อนดีกว่า ให้เส่เยี่ยได้พักผ่อนสักครู่ ข้าจะพูดกับนางเอง" ฮ่องเต้เห็นว่าเส่เยี่ยกำลังอารมณ์ไม่ดี ถึงพูดอะไรไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ จึงสั่งให้ทุกคนออกไปก่อน
เมื่ออยู่ในห้องเพียงลำพังสองคนแล้ว ฮ่องเต้ก็นั่งลงข้างๆ เส่เยี่ย ตอนนี้หญิงสาวหลับตาและเอามือปิดหูไว้แน่น "ไม่เป็นไรแล้วนะ" ชายหนุ่มค่อยๆ คลายมือของหญิงสาวออก "หม่อมฉันไม่อยากรักษา" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เรารู้ๆ" คังซื่อค่อยๆ โน้มศีรษะของหญิงสาวลงมาหนุนกับไหล่กว้างของตน "เจ้าไม่ต้องคิดมากนะ อะไรที่เจ้าไม่สบายใจ ไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำ" ชายหนุ่มพูดปลอบ พร้อมกับลูบผมของหญิงสาวเบาๆ "แต่พวกเขาชอบบังคับจิตใจข้า" หญิงสาวพูดไปน้ำตาซึม นางเอียงหนุนไหล่อันอบอุ่นนั้น "ก็เพราะทุกคนเป็นห่วงเจ้าไง" "แต่ว่า..." "เอาหล่ะๆ ไม่ต้องคิดมากแล้ว เดี๋ยวเราจะออกไปอธิบายกับทุกคนเอง ในเมื่อเจ้าไม่อยากรักษา ก็ไม่ต้องรักษา ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร เราจะตามใจเจ้าทุกอย่าง" คังซื่อให้สัญญากับหญิงสาว "จริงนะเพคะ" หญิงสาวถามเขาด้วยหัวใจที่สั่นไหว เส่เยี่ยเริ่มรู้สึกไว้ใจคนๆ นี้แล้ว ทั้งๆ ที่ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้เลย
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
คังซื่อปล่อยให้เส่เยี่ยพักผ่อนอยู่ในห้อง ส่วนเขาก็ออกมาพบกับคนอื่นที่รออยู่ด้านนอก
"เป็นอย่างไรบ้างเพคะฝ่าบาท" เจ้าหยาจือเห็นฮ่องเต้เดินออกมาก็รีบวิ่งเข้าไปถาม คังซื่อได้แต่ส่ายหัว "ต้องขอโทษไต้ซือด้วยที่เสียมารยาท" คังซื่อรีบกล่าวขอโทษที่เขาไล่ไต้ซือออกมา แถมเส่เยี่ยยังพูดจาดูถูกท่านอีก "อมิตาพุทธ คนไข้ที่ข้ารักษาตอนแรกก็เป็นแบบนี้ทุกคน" ไต้ซือยิ้มอย่างเป็นกันเอง "ว่าแต่ไต้ซือ ท่านแน่ใจหรือว่าเส่เยี่ยป่วยเป็นโรคที่ท่านว่าจริงๆ" คังซื่อถามอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจ "อืม" ไต้ซือพยักหน้า "แล้วจะรักษายังไง ในเมื่อนางไม่ยอมให้ความร่วมมือแบบนี้" หลินกุเหนียงถามขึ้น "ในเมื่อนางไม่อยากรักษา เราก็ไม่อยากขัดใจนาง" คังซื่อตอบ คนอื่นก็หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย "แต่ตามใจกันแบบนี้ ไม่เป็นผลดีกับเส่เยี่ยเลยนะเพคะ" เจ้าหยาจือท้วงเขา "ตอนนี้น้ำกำลังเชี่ยว เราไม่อยากเอาเรือเข้าไปขวาง หากเส่เยี่ยรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกบังคับ จะยิ่งเตลิดไปกันใหญ่" ฮ่องเต้อธิบาย "อืม ฝ่าบาทตรัสเช่นนี้ก็มีเหตุผล เรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ จะให้คนไข้พูดถึงความเจ็บปวดในใจ ก็ต้องรอให้เขาพร้อมและรู้สึกไว้ใจคนรอบข้างจริงๆ" ไต้ซือเองก็เห็นด้วยกับความคิดของฮ่องเต้ "งั้นเราก็พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งไปพูดอะไรให้เส่เยี่ยไม่สบายใจ ท่านอาหญิง ช่วงนี้เราอาจจะไม่ค่อยว่าง ยังไงฝากเส่เยี่ยด้วยก็แล้วกันนะ" คังซื่อพูดฝากเส่เยี่ยไว้กับเจ้าหยาจือ เหมือนจะรู้ว่าต่อไปคงจะมีโอกาสมาหานางน้อยลง
วันนี้เขายังเหลืออีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากพยายามดูก่อน ดีกว่าปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านไปเฉยๆ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Thu Jan 15, 2009 10:35 pm | |
| บ่ายวันนั้น ณ ตำหนักไทเฮา
ไม่ต้องสงสัยเลย ทันทีที่ไทเฮาทรงทราบเรื่องของเส่เยี่ย ก็โวยวายจนวังเกือบแตก
"ฮ่องเต้เสียสติไปแล้ว!!! คนพิการจะเอามาเป็นฮองเฮาได้อย่างไร!!!" ไทเฮาดุคังซื่อแล้วก็นั่งลงกุมขมับ ทำไมลูกชายคนนี้ถึงได้ชอบทำอะไรขัดใจนางอยู่เรื่อยนะ อุตส่าห์กำจัดปิงเยี่ยไปได้คนแล้ว นี่ดันมีเส่เยี่ยโผล่ขึ้นมาอีก อยากจะเป็นลมจริงๆ "เสด็จแม่ ความจริงตาของเส่เยี่ยอาจพอมีทางรักษาได้ หม่อมฉันได้เชิญ..." ฮ่องเต้พยายามจะอธิบาย แต่พูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ถูกไทเฮาแทรกขึ้นก่อน "แม่ไม่สนว่านางจะตาบอดหรือตาดี!!! ต่อให้นางไม่ได้พิการ ก็เป็นเพียงหญิงคณิกา แล้วฮ่องเต้จะไปอภิเษกกับหญิงคณิกาต่ำๆ พรรณนั้นได้อย่างไร" ไทเฮาพูดจบแล้วก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา นางยกพิมเสนขึ้นดมให้หายใจสะดวกขึ้น พวกนางกำนัลก็รีบวิ่งเข้ามาปรนนิบัติพัดวีกันใหญ่ ฝ่ายคังซื่อพอได้ยินเช่นนั้น ก็พยายามจะอธิบายว่าเส่เยี่ยไม่ใช่นางโลมอย่างที่ไทเฮาคิด "เส่เยี่ยไม่ใช่นางคณิกานะพะย่ะค่ะ!!! นางแค่บังเอิญ..." "บังเอิญอะไร!!! ถึงจะไม่ใช่นางโลม แต่ก็ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ฮ่องเต้จะอภิเษกกับสามัญชนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่ได้ กฏมณเทียรบารแค่นี้เจ้าไม่รู้งั้นหรือ" ไทเฮาทุบโต๊ะดังปัง!!! นางขึ้นเสียงสูงด้วยความไม่พอใจ "แต่หม่อมฉันรักเส่เยี่ยเขาจริงๆ ในเมื่อหม่อมฉันเป็นฮ่องเต้ ทำไมจะเปลี่ยนกฏไม่ได้หล่ะพะย่ะค่ะ" ชายหนุ่มเถียงเสียงแข็ง แม้จะรู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด แต่เขาจะไม่ยอมสูญเสียความรักครั้งนี้ไปแน่ ส่วนไทเฮาพอได้ยินฮ่องเต้พูดเช่นนี้ก็กริ้วมาก ไม่คิดว่าคำพูดไร้เดียงสาเช่นนี้ จะหลุดออกมาจากปากฮ่องเต้ได้ "คังซื่อ!!!นี่เจ้า!!!" ผู้เป็นมารดาโกรธจนสั่นไปหมดทั้งตัว นางตะคอกเสียงดัง พวกนางกำนัลตกใจถอยไปรวมกันอยู่ด้านหลัง "ถึงฝ่าบาททรงเปลี่ยนกฏได้ แต่ทรงเปลี่ยนสายเลือดในตัวไม่ได้!!! หากยังนับถือว่าข้าเป็นแม่ของเจ้า ก็อย่านำเรื่องผู้หญิงคนนี้มาพูดกับแม่อีก จำไว้ แม่จะไม่มีวันยอมให้ฮ่องเต้ไปแต่งกับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้านั่น!!!" คราวนี้ไทเฮาตัดสินใจยื่นคำขาด ขืนยอมอ่อนให้ มีหวังต้องได้ลูกสะใภ้เป็นหญิงคณิกาแถมยังตาบอดแน่ แค่คิดนางก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว "แต่ว่าเสด็จแม่..." "พอแล้ว!!!!!!!!!" ไทเฮาตวาดลั่นแล้วก็เซล้มลงบนเก้าอี้ "องครักษ์จั๋วพาฮ่องเต้ออกไปเดี๋ยวนี้!!!" ไทเฮาเอามือกำที่หัวใจเหมือนจะหายใจไม่ทัน คังซื่อเห็นไทเฮาอาการไม่ดี ก็พยายามจะเข้าไปดูผู้เป็นมารดา แต่องครักษ์จั๋วก็เข้ามาห้ามไว้ก่อน "ฝ่าบาททรงออกไปก่อนเถอะ!!! ตอนนี้ไทเฮากำลังกริ้ว ฝ่าบาทยิ่งอยู่ นางจะยิ่งแย่ลงนะพะย่ะค่ะ!!!" องครักษ์จั๋ว องครักษ์เหอ และหลินกุเหนียงก็พากันฉุดลากฮ่องเต้ออกมาจากห้องไทเฮาจนสำเร็จ แต่ละคนพากันหอบแฮก เห็นตัวบางๆ แบบนี้ แต่ก็แรงเยอะเหมือนกัน
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
อีกด้านหนึ่ง ณ ดินแดนทางตอนเหนือ
กงซุนเช่อวางแผนให้ทุกคนออกตามหาเส่เยี่ยโดยใช้ภาพวาดที่เขาวาดขึ้น ชีเส้าเฟยรับผิดชอบไปค้นหาทางใต้ อ้อมหมิงเจิ้งไปทางตะวันออก ลู่เสี่ยวฟงไปทางตะวันตก และจิวแปะทงไปทางเหนือ ส่วนตัวกงซุนเช่อเองซึ่งไม่มีวรยุทธรอประจำการอยู่ที่ร้านเหล้าฉีถิง คอยฟังข่าวจากทิศต่างๆ และเผื่อเส่เยี่ยจะวกกลับมาที่ร้านด้วย
เวลาผ่านไปสองวัน ดูเหมือนว่าแผนการณ์ของกงซุนเช่อจะใช้ไม่ได้ผลเลย ทุกวันแต่ละคนจะพากันเดินคอตกกลับมา ไม่มีใครได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับเส่เยี่ยเลย เพราะตอนที่หญิงสาวหายตัวไปนั้น เป็นช่วงเวลาเช้ามืด จึงไม่มีใครพบเห็นนาง
ณ ร้านเหล้าฉีถิง ตอนนี้ตะวันตกดินแล้ว
ขณะที่กงซุนเช่อนั่งรอทุกคนด้วยใจกระสับกระส่าย เขาก็หยิบภาพเส่เยี่ยขึ้นมาดู เขารู้สึกเหมือนกับว่าเคยเจอนางที่ไหนมาก่อน แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ จิวแปะทงกับชีเส้าเฟยก็กลับมาที่ร้านเป็นกลุ่มแรก ไม่ต้องสงสัยเลย เห็นหน้าพวกเขาก็รู้แล้วว่าไม่พบเส่เยี่ย กงซุนเช่อไม่ซักไซร้อะไรมากมาย เขาตบบ่าชีเส้าเฟยเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ
ฝ่ายลู่เสี่ยวฟงซึ่งเดินมาจากทางทิศตะวันตก พบกับอ้อมหมิงเจิ้งที่หน้าร้านก็ยิ้มหวานให้ แต่หญิงสาวกลับทำหน้าบูดบึ้งใส่เขา พอทั้งสองคนกำลังจะเข้าก้าวประตูพร้อมกัน ลู่เสี่ยวฟงก็แกล้งเดินเข้าไปใกล้ๆ อ้อมหมิงเจิ้ง ทำให้นางต้องเบี่ยงตัวหลบจนไปสะดุดเข้ากับมุมประตู หญิงสาวเสียหลักกำลังจะถลาลงสู่พื้น ลู่เสี่ยวฟงเห็นจังหวะเหมาะจึงใช้วิชาตัวเบาโฉบขึ้นไปรับอ้อมหมิงเจิ้งไว้ได้ทัน ชายหนุ่มหมุนตัวสองรอบก่อนลงสู่พื้น (ท่าประจำตัว เอาไว้ใช้ตอนจีบสาว) ฝ่ายอ้อมหมิงเจิ้งพอรู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ก็รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก นางรีบผละตัวออกจากลู่เสี่ยวฟงอย่างรวดเร็ว ลู่เสี่ยวฟงเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งได้ใจ เขาแกล้งยักคิ้วยั่วให้อ้อมหมิงเจิ้งโกรธ ยังไม่ทันที่อ้อมหมิงจะได้โวยวาย กงซุนเช่อก็วิ่งเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก "นึกออกแล้ว!!! ข้านึกออกแล้ว!!!" กงซุนเช่อจับไหล่ลู่เสี่ยวฟงเขย่าด้วยความดีใจ "อะไร อะไร พี่รอง ท่านนึกอะไรออกงั้นเหรือ" ลู่เสี่ยวฟงขมวดคิ้ว สงสัยว่าหัวหน้ารองเป็นอะไรไป อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาดีใจเช่นนี้ "ก็แม่นางเส่เยี่ยไง ข้านึกออกแล้วว่าเคยพบนางที่ไหน!!!" กงซุนเช่อตอบเสียงดังด้วยความมั่นใจ ทำเอาชีเส้าเฟยซึ่งนั่งซึมอยู่ลุกขึ้นมาซักถามไม่หยุด | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Thu Jan 15, 2009 10:36 pm | |
| "พี่รองท่านเคยเห็นเส่เยี่ยงั้นเหรอ ที่ไหนกัน!!!" "ที่เมืองหลวง" "เมืองหลวงงั้นเหรอ" ชีเส้าเฟยขมวดคิ้ว "อืม" กงซุนเช่อพยักหน้า "พี่รอง ท่านเห็นนางเมื่อไหร่" ชีเส้าเฟยคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเส่เยี่ยไม่เคยไปเมืองหลวง ตลอดชีวิตของนางอาศัยอยู่กับพ่อที่หมู่บ้านหลิวเท่านั้น "ก็ตอนที่ข้าไปสอบจอหงวนไง ตอนนั้นพวกท่านไปตามหาข้าที่เมืองหลวง จากนั้นหัวหน้าใหญ่ ท่านก็แยกไปก่อน เหลือเพียงข้าและน้องสี่ วันนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาเหมือนกับแม่นางเส่เยี่ยเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม ที่ข้าจำนางได้ก็เพราะว่านางสะดุดคานประตูล้มลง แต่น้องสี่ใช้วิชาตัวเบาโฉบเข้าไปรับนางไว้ได้ทัน แบบที่รับหงเผาเมื่อครู่นี้นี่แหละ ข้าถึงได้นึกออกยังไง" กงซุนเช่ออธิบายเสียยาว คนอื่นๆ ฟังแล้วก็พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ "อ๋ออออออ!!! ใช่ๆๆ ใช่แล้วแม่สาวน้อยคนนั้นนั่นเอง จริงด้วยพี่รอง นางเหมือนแม่นางเส่เยี่ยมากๆ ข้าจำได้แล้ว ท่านนี่ความจำดีจริงๆ นับถือ นับถือ" ลู่เสี่ยวฟงนึกออกแล้วก็ลากเสียงอ๋อซะยาว จากนั้นเขาก็หยิบภาพวาดของเส่เยี่ยขึ้นมาดูอีกครั้ง แล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยกับกงซุนเช่อ ส่วนชีเส้าเฟยก็ยืนเงียบสนิท "พอเป็นเรื่องผู้หญิง ก็นึกออกทันทีเลยนะ สมแล้วที่เป็นเจ้าจริงๆ" อ้อมหมิงเจิ้งมองลู่เสี่ยวฟงด้วยหางตาแล้วก็ค้อนให้เขา "ทำไม หึงข้าเหรอ" ลู่เสี่ยวฟงกระแซะเข้ามาใกล้ๆ อ้อมหมิงเจิ้งแล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยให้นาง "หึงบ้านเจ้าหน่ะสิ!!! เจ้าจะไปหว่านเสน่ห์ที่ไหน เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย!!!" "กลัวแต่บางคน ปากไม่ตรงกับใจมากกว่า" ลู่เสี่ยวฟงพูดแล้วก็ยักคิ้วให้นางอย่างเป็นต่อ "ปากข้าจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของข้า แต่ขืนพูดมาก ปากเจ้าจะมีสีแน่!!!" อ้อมหมิงเจิ้งทำท่ากำมัดใส่ลู่เสี่ยวฟง "เออ เจ้าสองคนนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ คนหนึ่งก็ปากจัด คนหนึ่งก็ปากเสีย ราวกับว่าสวรรค์ส่งเจ้าสองคนมาคู่กันยังไงไม่รู้ ข้ารู้สึก" จิวแปะทงเห็นสองคนเถียงกันก็อดแซวไม่ได้ "ปากท่านสิจัด!!!" "ปากท่านสิเสีย!!!" ทั้งลู่เสี่ยวฟงและอ้อมหมิงเจิ้ง หันไปดุใส่จิวแปะทงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย "อ๊ะๆๆ ดูสิ ขนาดจะด่าข้า ยังใจตรงกันเลย เจ้าสองคนต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ" จิวแปะทงเห็นเช่นนั้นก็ตบมือหัวเราะชอบใจเหมือนเด็กๆ ส่วนอ้อมหมิงเจิ้งยืนหน้าเขียวด้วยความโกรธ "เอาหล่ะๆ ทุกคน อย่าเพิ่งเล่นเลย หัวหน้าใหญ่ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้" กงซุนเช่อดุคนอื่นๆ แล้วก็หันไปถามชีเส้าเฟยที่ยืนนิ่งอยู่ "ปั๊ดโธ่ ยังจะต้องคิดอะไรมาก ก็จับพวกเขาสองคนเข้าหอไปเลย อยู่ๆ กันไป เดี๋ยวก็รักกันไปเองหล่ะน่า" จิวแปะทงทำท่าขึงขังเอาจริงเอาจัง "เฮ๊ยยย นักพรตจิว พี่รองไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น!!! พี่รองกำลังพูดถึงแม่นางเส่เยี่ยต่างหาก" ลู่เสี่ยวฟงตกใจจนแทบจะกระโดด ขืนให้เขาแต่งงานกับอ้อมหมิงเจิ้งจริงๆ มีหวังน่วมทั้งวันแน่ "อ้าวเหรอ เออๆ งั้นตกลงเจ้าจะว่ายังไง... หล่ะคะ... ลุงชี..." จิวแปะทงหันไปถามชีเส้าเฟย แล้วก็แกล้งลากเสียงยาวๆ ให้เหมือนกับเส่เยี่ย เลยโดนอ้อมหมิงเจิ้งกระทุ้งหลังไปทีหนึ่ง จิวแปะทงนี่ช่างเหมือนกับเด็กๆ เสียจริง เล่นอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ชีเส้าเฟยกำลังเครียดอยู่แท้ๆ "พี่รอง ข้าว่าท่านคงจำผิดคนแล้วหล่ะ ตอนที่ท่านพบกับเส่เยี่ย ก็เป็นเวลาไล่ๆ กับที่ข้าพบนางที่หมู่บ้านหลิวเช่นกัน ข้อแรก นางไม่มีทางปรากฏตัวพร้อมกันสองแห่งในเวลาเดียวกัน ข้อสอง ข้ามั่นใจว่าเส่เยี่ยไม่เคยไปเมืองหลวง ตลอดชีวิตของนางอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหลิวแห่งเดียวเท่านั้น" ชีเส้าเฟยตอบด้วยสีหน้านิ่ง ทำเอาคนอื่นพลอยเครียดตามไปด้วย กงซุนเช่อรู้สึกผิดหวังมากที่สุด อุตส่าห์คิดว่ามีเบาะแสแล้วเชียว แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดไปได้ แล้วทีนี้จะไปตามหาแม่นางเส่เยี่ยได้ที่ไหน ค้นหาจนรอบทิศแล้วก็ยังไม่พบร่องรอยอะไรเลย ความหวังที่ชีเส้าเฟยกับเส่เยี่ยจะได้พบกัน มันช่างดูริบหรี่ลงไปทุกทีๆ
ขณะที่ทั้งหมดกำลังยืนหน้าดำคร่ำเครียดอยู่นั้น ก็มีชายชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามายังโรงเตี๊ยม ร่างกายของเขามอมแมม เต็มไปด้วยคราบเลือด หน้าตาดูตื่นตระหนกราวกับเจอผีมา พอชายหนุ่มมองเห็นชีเส้าเฟย ก็รีบคลานเข้าไปหา "ท่านคือจอมยุทธชีใช่หรือไม่ ช่วยพวกเราด้วย... ช่วยพวกเราด้วย..." ชายหนุ่มคนนั้นโขกศีรษะกับพื้นแล้วก็ขอร้องชีเส้าเฟยอย่างน่าสงสาร ชีเส้าเฟยไม่มีท่าทีว่าจะรังเกียจชายผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขาประคองร่างของชายผู้นั้น แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Thu Jan 15, 2009 10:38 pm | |
| ณ จวนอ๋องถูจิ้น
วันนี้โต๊ะอาหารซึ่งมีเพียงเจ้าหยาจือและเส่เยี่ยเงียบผิดปกติ เส่เยี่ยกินข้าวไปได้คำสองคำก็วางตะเกียบลงแล้วขอตัวไปพักผ่อน เจ้าหยาจือเห็นว่านางไม่ค่อยสบายใจจึงไม่ซักไซร้อะไรมาก
ฝ่ายเส่เยี่ย หลังจากเข้ามาในห้องนอนแล้วก็กระสับกระส่ายนอนไม่หลับ จังหวะที่นางกำลังจะก้าวลงจากเตียง ก็มีเสียงของหล่นกระทบกับพื้น เส่เยี่ยก้มลงเอามือควานหาของที่หล่น จนพบกับถุงผ้าอันหนึ่ง เส่เยี่ยหยิบมันขึ้นมา นางพิจารณาด้วยความสงสัย ของชิ้นนี้หาได้เป็นของนางไม่ ถ้าเช่นนั้นแล้วมันเป็นของใคร หญิงสาวจับถุงผ้านั้นพลิกไปพลิกมา ก็พบว่าภายในถุงมีใส่วัตถุคล้ายหยกอยู่ข้างใน นางค่อยๆ เทหยกชิ้นนั้นออกจากถุงผ้า แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าหยกข้างในถุงนี้เป็นหยกที่มีเพียงครึ่งเดียว
นึกว่าในโลกนี้ มีเพียงแต่นางเท่านั้น ที่พกหยกหักๆ ไว้กับตัว...
หยกครึ่งชิ้นที่ผูกอยู่กับเอวของเส่เยี่ยนั้น เป็นหยกซึ่งผู้เป็นบิดาให้นางไว้ตั้งแต่สี่ขวบ ท่านพ่อเคยบอกกับนางว่าเจ้าของหยกชิ้นนี้คือผู้มีบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตพวกเขาไว้ ไม่นึกเลยว่าหลายสิบปีต่อมา นางจะได้พบชายคนนั้นอีกครั้ง ถูกต้องแล้วเจ้าของหยกชิ้นนั้นก็คือชีเส้าเฟยนั่นเอง เส่เยี่ยปลดหยกที่ผูกไว้กับเอวของตนขึ้นมาแนบไว้กับอก ป่านนี้เจ้าของหยกจะเป็นอย่างไรบ้างนะ นางคิด...
แล้วอยู่ๆ หญิงสาวก็สังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง นางเอาหยกชิ้นที่เป็นของชีเส้าเฟยและหยกที่นางเพิ่งเก็บได้จากที่พื้น ขึ้นมาทาบกันช้าๆ และหญิงสาวก็ตกใจจนหน้าซีดเมื่อพบว่าหยกทั้งสองชิ้นต่อกันจนสนิท ราวกับว่าเคยเป็นหยกชิ้นเดียวกันมาก่อน เพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง เส่เยี่ยจับหยกทั้งสองชิ้นพลิกไปพลิกมา ซ้ายขวาหน้าหลัง แต่สุดท้ายแล้วมันก็สามารถต่อกันได้สนิทจริงๆ อีกทั้งพอสัมผัสดูแล้ว จะรู้ว่าเนื้อวัสดุของหยกทั้งสองชิ้นนี้ก็เหมือนกันมากๆ เส่เยี่ยได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย นางมั่นใจว่าไม่ได้คิดไปเอง
หยกชิ้นที่อยู่ในถุงผ้านี้เป็นของใครกันแน่ แล้วทำไมมันถึงได้ต่อเข้ากับหยกของลุงชีได้สนิทเช่นนี้ ...
เส่เยี่ยพยายามเรียบเรียงความคิด นางค่อยๆ คิดหาคำตอบว่าหยกชิ้นนี้เป็นของใคร นางนึกถึงคนที่เข้ามาในห้องนี้ ก็มีเพียงแค่เจ้าหยาจือ ไต้ซือ และองครักษ์ทั้งสาม แต่คนที่เข้ามานั่งบนเตียงของนาง มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือฮ่องเต้นั่นเอง เขาเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากห้องไป เจ้าหยกครึ่งชิ้นนี้จะใช่ของเขาหรือไม่ หากใช่แล้วเขาไปได้หยกชิ้นนี้มาจากไหน ทำไมมันถึงได้เหมือนกับของชีเส้าเฟย หรือว่าพวกเขาเกี่ยวข้องอะไรกัน คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของหญิงสาว
หากมันมีอะไรอยู่เบื้องหลังหยกสองชิ้นนี้หล่ะก็ นางจะต้องรู้ความจริงให้ได้... | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri Jan 23, 2009 6:49 pm | |
| ตอนที่ 20 ประชวร
เช้าวันต่อมา ณ จวนอ๋องถูจิ้น
"แย่แล้ว แย่แล้ว!!!" หลินกุเหนียงวิ่งพรวดเข้ามาในห้องครัวขณะที่เจ้าหยาจือและเส่เยี่ยกำลังเตรียมอาหารกันอยู่ "องครักษ์หลิน หน้าตาตื่นมาเชียว มีอะไรงั้นหรือ" เจ้าหยาจือวางมือจากหม้อแกงแล้วก็หันมาถามผู้มาเยือนด้วยสีหน้าประหลาดใจ "ก็.. ฮ่องเต้.. หน่ะสิ.. อยู่ๆ... ก็... ทรง... ประชวร... หนัก... หมอ... หลวง... วิ่ง...กัน.. ให้...วุ่น... เลย.. ป่าน.. นี้... แล้ว.. ยัง... ไม่... ฟื้น... เลย!!!" หลินกุเหนียงพูดไปหอบไป ทำให้เล่าเรื่องราวไม่ค่อยปะติดปะต่อ เส่เยี่ยพอจับใจความได้ว่าฮ่องเต้ล้มป่วยก็ตกใจจนผักหล่นจากมือ "ฮ่องเต้เป็นอะไร เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย ไหนท่านว่ามาใหม่สิ!!!" หญิงสาวค่อยๆ คลำทางเดินเข้าไปหาหลินกุเหนียง "ก็... เมื่อวานนี้ฮ่องเต้ทรงทะเลาะกับไทเฮาแรงมาก... เรื่องท่านนะแม่นางเส่เยี่ย... ฮ่องเต้จะแต่งตั้ง... ให้ท่านเป็นฮองเฮา... แต่ไทเฮาไม่ยอม... สองคนทะเลาะกัน... ดังลั่นเลย..." คนเล่ายังหอบไม่หยุด "เป็นความจริงหรือนี่" เจ้าหยาจือตกใจเอามือแนบอก ไม่คิดว่าฮ่องเต้จะจริงจังกับเส่เยี่ยถึงขนาดนี้ ฝ่ายเส่เยี่ยพอรู้ว่าตนเองเป็นต้นเหตุก็ก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด "องครักษ์หลิน แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ฮ่องเต้ทะเลาะกับไทเฮา แล้วทำไมถึงล้มป่วยได้หล่ะ" หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเศร้า "ก็หลังจากที่ฝ่าบาททรงรู้เรื่องการอภิเษก ก็ไม่ยอมเสวยอะไรมาสองวันแล้ว เอาแต่ขังตัวอยู่ในห้องหนังสือ แม้แต่น้ำก็ไม่ยอมเสวย ดึกดื่นแล้วก็ไม่ยอมบรรทม เมื่อเช้านี้ก่อนฟ้าสาง องครักษ์เหอเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าฮ่องเต้ทรงนอนหมดสติอยู่บนพื้นแล้ว ตอนนี้อิเต็งไต้ซือกำลังดูอาการท่านอยู่" องครักษ์หลินเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ฝ่ายเส่เยี่ยเองก็ตกใจไม่แพ้กัน นางค่อยๆ ทรุดตัวลงบนเก้าอี้ เพราะอะไร ทำไมเขาต้องมาล้มป่วยเพราะนางด้วย จะทำให้นางรู้สึกผิดไปถึงไหนกัน "เส่เยี่ย ข้าว่าเจ้าควรไปเยี่ยมฝ่าบาทหน่อยนะ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เจ้าก็เป็นต้นเหตุให้ฝ่าบาทประชวร" เจ้าหยาจือกล่าว "แต่ข้าเกรงว่า..." หญิงสาวอึกอัก "แม่นางเส่เยี่ย ตอนนี้ฮ่องเต้ต้องการกำลังใจนะ ถ้าท่านไปเยี่ยม ฝ่าบาทจะต้องฟื้นแน่ๆ" องครักษ์หลินช่วยพูดอีกแรง "ข้าเกรงว่า ยิ่งไปจะยิ่งทำให้อาการฝ่าบาทแย่ลง ในเมื่อทรงประชวรเพราะข้า อยู่ห่างๆ ข้าไว้เป็นดีที่สุด" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า แม้นางจะเป็นห่วงเขาอยู่มาก แต่ก็อยากตัดไฟแต่ต้นลม ไม่อยากให้ทั้งเขาและนางถลำลึกลงไปมากกว่านี้ "แม่นางเส่เยี่ย ทำไมท่านใจดำเช่นนี้ ตอนนี้ฝ่าบาททรงประชวร ไปเยี่ยมนิดหน่อยคงไม่เสียหายหรอกมั๊ง" หลินกุเหนียงตำหนิหญิงสาวด้วยความไม่พอใจ "จริงด้วย เส่เยี่ย เจ้าไปเยี่ยมพระองค์หน่อยเถอะนะ" เจ้าหยาจือก็เข้ามารบเร้านางอีกคน "ก็ข้าบอกว่าข้าไม่อยากไป พวกท่านเลิกบังคับข้าเสียทีได้ไหม!!!" หญิงสาวพูดจบก็เดินออกจากห้องครัวไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหยาจือกับองครักษ์หลินหันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจ ไม่นึกว่าหญิงสาวจะไม่อยากพบฮ่องเต้ถึงขนาดนี้
เส่เยี่ยมาหยุดนั่งอยู่ที่ศาลาริมบึง นางกอดเสาสีแดงไว้แน่น "ทำไมพวกท่านต้องบังคับข้าด้วย ก็ข้าไม่อยากพบเขา เขาจะป่วยหรือเป็นอะไรมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย พรุ่งเขาก็จะแต่งงานแล้ว ทุกอย่างก็จะได้จบๆ ไปเสียที ข้า... ข้าอยากไปจากที่นี่... ลุงชีท่านอยู่ที่ไหน ทำไมท่านไม่รักษาสัญญา ทำไมท่านไม่มาช่วยข้า ทำไมท่านไม่มาปกป้องข้า..." หญิงสาวพูดจบก็ร้องไห้ไม่หยุด ลึกๆ ในใจแล้วนางอยากไปเยี่ยมฮ่องเต้ เขาดีต่อนางเพียงไหน มีหรือที่นางจะไม่รู้ แต่นางรักเขาไม่ได้ นางรักเขาไม่ได้ หัวใจเจ้าได้ยินที่ข้าพูดไหม...
ระหว่างที่เส่เยี่ยกำลังสับสนกับหัวใจของตนเองก็มีเสียงขันทีตะโกนดังมาแต่ไกล "ไทเฮาเสด็จแล้ววววววววววววว!!!" หญิงสาวรีบเช็ดน้ำตาแล้วนั่งเป็นปรกติ ในใจก็ได้แต่คิดสงสัย ไทเฮาเสด็จมาที่นี่ทำไม จะเกี่ยวกับฮ่องเต้หรือเปล่า จะเกี่ยวกับนางหรือเปล่า
ครู่เดียวไทเฮาก็เดินผ่านมาที่ศาลาซึ่งเส่เยี่ยกำลังนั่งอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลย นางมองแค่แว๊บเดียวก็รู้ทันทีว่า หญิงสาวคือเส่เยี่ย หน้าตาของนางช่างเหมือนกับองค์หญิงปิงเยี่ยเสียจริงๆ ไทเฮาหยุดเดิน แล้วเข้าไปดูหญิงสาวใกล้ๆ "เจ้าสินะคือเส่เยี่ย" น้ำเสียงของไทเฮาก้องกังวาล ทำเอาเส่เยี่ยรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว "เพคะ..." หญิงสาวตอบน้ำเสียงสั่น มือเกาะเสาสีแดงเอาไว้แน่น "ตามข้ามา ข้ามีเรื่องจะพูดด้วย" ไทเฮาสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบ ทันใดนั้นเจ้าหยาจือกับหลินกุเหนียงก็วิ่งมาถึงพอดี พวกนางรีบเข้ามาคาราวะไทเฮา "ไม่ทราบว่าไทเฮาเสด็จมาถึงที่นี่ มีเรื่องอะไรให้หม่อมฉันรับใช้เพคะ" "ข้าอยากคุยกับแม่นางเส่เยี่ยเขาหน่อย เจ้าคงไม่ว่าอะไรนะ" ไทเฮาตรัสด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ทำเอาหัวใจของเจ้าหยาจือตกไปอยู่ที่พื้น นางควรปล่อยให้เส่เยี่ยตามไทเฮาไปหรือไม่ เส่เยี่ยจะมีอันตรายหรือเปล่า แต่จะขัดคำสั่งก็คงไม่ได้ "ทูลไทเฮา เส่เยี่ยเพิ่งจะเข้าวังมาได้ไม่นาน ไม่รู้ขนบประเพณีในวังหลวง ซ้ำยังตาบอดมองไม่เห็นอีก เกรงว่าจะทำอะไรไม่เหมาะสมได้ ยังไงหม่อมฉันจะเป็นคนพานางไปเองนะเพคะ" ว่าแล้วเจ้าหยาจือก็เข้าไปประคองหญิงสาว "ไม่ต้อง!" ไทเฮายกมือขึ้นห้าม "ซือมาลากู!" แล้วนางก็สั่งให้คนสนิทเป็นคนเข้าไปประคองเส่เยี่ยแทน เจ้าหยาจือไร้ทางเลือกจึงจำต้องปล่อยให้เส่เยี่ยเดินตามซือมาลากูไป หลินกุเหนียงกับเจ้าหยาจือมองหน้ากันแบบไม่ค่อยสบายใจ เป็นห่วงว่าเส่เยี่ยจะเป็นอะไรหรือเปล่า
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri Jan 23, 2009 6:51 pm | |
| ณ พระตำหนักไทเฮา
"อืม เจ้าเหมือนปิงเยี่ยมาก มิน่าฮ่องเต้ถึงได้หลงเจ้าเสียขนาดนี้" ไทเฮาเอามือเชยคางของหญิงสาวขึ้น ฝ่ายเส่เยี่ยก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร "ฮึๆ แต่ก็ไม่เหมือนกันสักทีเดียว ดูท่าเจ้าจะฉลาดกว่านาง" ไทเฮาเห็นเส่เยี่ยนั่งสำรวมเก็บอาการ ก็พอจะมองออกว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ธรรมดาเลย "ไหนว่ามาสิ เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร" ไทเฮาถามแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ "หม่อมฉันแซ่หลิว กำพร้าตั้งแต่เด็กเพคะ" เส่เยี่ยจงใจตอบสั้นๆ ความจริงไทเฮาเองก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่านางจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร "แม่นางหลิว งั้นข้าจะไม่อ้อมค้อมหล่ะนะ เราต่างก็รู้ว่าเจ้าเป็นแค่สาวชาวบ้านธรรมดา ไม่คู่ควรกับฮ่องเต้อย่างยิ่ง" คนพูดเน้นเสียงไปที่คำสุดท้าย "ข้าแค่อยากจะรู้ว่า เจ้าต้องการเท่าไหร่ เพื่อจะแลกกับการไปจากลูกชายของข้า" ไทเฮาพูดออกมาตรงๆ จนคนฟังยังตกใจ "ไทเฮาทรงเข้าพระทัยผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่ต้องการอะไร หม่อมฉันไม่เคยคิดอยากเป็นฮองเฮาเลย แม้แต่เป็นนางสนมนางกำนัลก็ไม่เคยคิด" คนตอบพูดแล้วก็ก้มหน้าอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว "งั้นรึ ในโลกนี้ มีใครบ้างไม่อยากเป็นฮองเฮา" ไทเฮาย้อน "ที่หม่อมฉันพูดเป็นความจริงนะเพคะ หากไทเฮาไม่เชื่อ ก็ปล่อยหม่อมฉันไป ให้ใครไปส่งที่หมู่บ้านหลิวก็ได้ หม่อมฉันอยากกลับไปที่นั่น และสัญญาว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก" เส่เยี่ยรีบอธิบายหน้าตาตื่น "ปัง!!!" ไทเฮาทุบโต๊ะดังลั่นจนหญิงสาวสะดุ้ง "บังอาจ!!! ที่นี้เป็นวังหลวงนะ เจ้านึกจะเข้าก็เข้า จะออกก็ออกได้ตามอำเภอใจหรือไง" ไทเฮาตวาดลั่น "พระอาญาไม่พ้นเกล้า หม่อมฉันความรู้น้อย หากทำอะไรให้ไทเฮาไม่พอพระทัย ขอทรงประทานอภัยด้วย แต่หม่อมฉันพูดความจริงนะเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ต้องการอยู่ที่นี่ หม่อมฉันแค่อยากกลับบ้าน" ฝ่ายเส่เยี่ยก็รีบอธิบายเป็นชุด "ฮึ ลูกข้าล้มป่วยก็เพราะเจ้า ขืนข้าปล่อยเจ้าไป อาการเขาไม่ยิ่งทรุดหนักงั้นรึ ดีไม่ดี พอเขาฟื้นขึ้นมา จะพาลมาโกรธข้าอีก" "ถ้างั้น ไทเฮาทรงเรียกหม่อมฉันมาทำไมเพคะ" หญิงสาวสงสัย ในเมื่อไทเฮาไม่ได้มีเจตนาจะไล่นางไป แล้วเรียกนางมาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่ "ในเมื่อเจ้าไม่คิดอยากเป็นฮองเฮาก็ดีแล้ว ข้าจะมอบงานชิ้นหนึ่งให้เจ้าทำ" คนพูดเว้นช่วงนิดนึงก่อนจะกล่าวต่อไปว่า "พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญของฮ่องเต้ ข้าได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว ข้าไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดขึ้น เจ้า... มีหน้าที่ทำอย่างไรก็ได้ ให้ฮ่องเต้ยอมเข้าพิธีแต่งตั้งฮองเฮาแต่โดยดี!!!" เส่เยี่ยได้ยินคำสั่งไทเฮาก็ใจหาย นางตั้งใจจะหลบหน้าเขาอยู่ แต่ไทเฮากลับมาขอร้องให้ไปช่วยเกลี่ยกล่อมเขา หญิงสาวพยายามอธิบายว่านางคงทำงานนี้ไม่ได้ "บังอาจ!!! เจ้านึกว่าข้ากำลังขอร้องเจ้าอยู่รึไง นี่คือคำสั่ง ไม่ว่าเจ้าจะอยากทำหรือไม่ เจ้าก็ต้องทำ" "หม่อมฉันเพียงแค่ไม่มั่นใจ ว่าจะทำได้หรือเปล่า" "ต้องได้สิ เพราะเจ้าจะมีอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับฮ่องเต้ยังไง" ไทเฮาตรัสแบบมีความนัยน์ "ข้อแลกเปลี่ยนอะไรงั้นหรือเพคะ" หญิงสาวขมวดคิ้ว "ก็ข้อแลกเปลี่ยนที่เจ้าจะยอมเป็นพระสนมของฮ่องเต้ยังไงหล่ะ" คนพูดยิ้ม "ว่าไงนะเพคะ!!!" เส่เยี่ยตกใจจนร้องออกมาสุดเสียง "ทำไม หรือเจ้าเกิดเปลี่ยนใจ อยากเป็นฮองเฮาขึ้นมา" ไทเฮาทำเสียงดุๆ ใส่หญิงสาว "เปล่านะเพคะ หม่อมฉันไม่อยากเป็นอะไรทั้งนั้น ไทเฮาโปรดทรงเมตตาด้วย ให้หม่อมฉันทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้หม่อมฉันเป็นพระสนมเลยนะเพคะ..." ฝ่ายเส่เยี่ยก็พยายามจะอธิบาย นางไม่ต้องการใกล้ชิดฮ่องเต้ นางไม่อยากเป็นอะไรกับเขาทั้งนั้น "ไม่ต้องพูดแล้ว นึกว่าข้าพิสมัยอยากได้เจ้าเป็นพระสนมรึไง เพียงแต่ข้ามองออกเท่านั้นเองว่าฮ่องเต้ต้องการอะไร หากไม่ทำเช่นนี้ เขาไม่มีวันยอมแน่" ไทเฮาอ่านเกมออก นางรู้ว่าจะให้คังซื่อยอมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จริงอยู่นางยอมให้เส่เยี่ยเป็นฮองเฮาไม่ได้ แต่หากยอมลดทิฐิลงสักนิดนึง ให้เส่เยี่ยเป็นพระสนมแทน เชื่อว่าครั้งนี้คงซื้อใจฮ่องเต้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว "แต่ว่า..." หญิงสาวยังพยายามคัดค้าน "หยุดนะ!!! ก็ข้าบอกแล้วไงว่าเจ้าต้องทำ และหากเจ้าทำงานชิ้นนี้ไม่สำเร็จหล่ะก็ เตรียมตัวไปพบกับพ่อแม่ของเจ้าที่ยมโลกได้เลย ซือมาลากู รีบพานางออกไป!!!" ไทเฮารู้สึกขัดใจมากที่เส่เยี่ยไม่ยอมเชื่อฟังนาง นางตะคอกใส่หญิงสาวแล้วก็ไล่ให้ซือมาลากูพาเส่เยี่ยออกไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri Jan 23, 2009 6:54 pm | |
| ณ ห้องบรรทมฮ่องเต้
ชายหนุ่มสะลึมสะลือ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขารู้สึกปวดหัวมาก จนต้องเอามือขึ้นมากุมขมับ "ฝ่าบาททรงเป็นอย่างไรบ้าง" อิเต็งไต้ซือเห็นฮ่องเต้รู้สึกตัวก็เอ่ยถามขึ้น "นี่เราเป็นอะไรไปงั้นหรือ" "ฝ่าบาททรงหมดสติไปตั้งแต่เมื่อเช้า" "จริงเหรอ แย่แล้ว งั้นเราก็ไม่ได้เข้าประชุมราชกิจหล่ะสิ" คนพูดบีบขมับตัวเอง "ยังจะทรงห่วงเรื่องบ้านเมืองอีก ตอนนี้ที่สำคัญต้องรักษาพระวรกายก่อนนะพะยะค่ะ" ไต้ซือเตือนฮ่องเต้ด้วยความหวังดี "เอ่อจริงสิ หม่อมฉันนำยามาถวายฝ่าบาทด้วยนะพะยะค่ะ" ไต้ซือทำท่านึกขึ้นได้แล้วก็บอกกับฮ่องเต้ว่าตนเองมียามาถวาย "ยาอะไร เราไม่กินหรอก" คังซื่อรีบปฏิเสธ "ดูก่อนสิพะยะค่ะว่ายาอะไร" ไต้ซือยิ้มแล้วก็ผายมือไปที่เส่เยี่ยซึ่งยืนถือถ้วยยาอยู่ "เส่เยี่ย นี่เจ้า..." คังซื่อเห็นเส่เยี่ยแล้วก็ดีใจทำท่าจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องทรุดตัวลงนอนเพราะลุกไม่ไหว ฝ่ายไต้ซือเห็นว่าหมดหน้าที่แล้วจึงทำท่าจะเดินออกไป "ป่วยเพราะอะไร ก็ต้องรักษาด้วยยานั้น" ไต้ซือกล่าวแบบยิ้มๆ ก่อนจะปิดประตูห้องบรรรทม
คังซื่อค่อยๆ เอามือหนุนตัวเองให้มาอยู่ในท่านั่ง พอเส่เยี่ยเดินเข้ามาใกล้ๆ เขาก็รับถ้วยยามาจากมือนาง "ยาอะไรงั้นหรือ" ชายหนุ่มทำท่าไม่ค่อยอยากกินมันสักเท่าไหร่ "ไม่ใช่ยาหรอกเพคะ เป็นโสมที่หม่อมฉันเคี่ยวเอง" เส่เยี่ยตอบแล้วก็ยิ้มให้เขา ฝ่ายคังซื่อเห็นนางยิ้มเข้าก็ดีใจ รีบเปิดถ้วยโสมขึ้นดื่มหมดจนถ้วย เพราะรีบเกินไปจึงทำให้เขาสำลัก "ระวังนะเพคะ" หญิงสาวเห็นฮ่องเต้ไอก็ร้องขึ้นด้วยความเป็นห่วง "เราไม่เป็นไร..." คังซื่อตอบแล้วก็ยิ้มให้นาง เขาเอื้อมไปวางถ้วยโสมที่โต๊ะใกล้ๆ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นหญิงสาวมีสีหน้าเศร้าๆ เหมือนกำลังไม่สบายใจ "เส่เยี่ย เจ้าเป็นอะไรงั้นหรือ ทำไมดูหน้าไม่ดีเลย" "คือ... หม่อมฉัน..." เส่เยี่ยทำท่าอึกอัก "มีอะไรก็บอกเรามาเถอะ หรือว่าเราทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจหรือเปล่า" คังซื่อถามหญิงสาวหน้าตาตื่น กลัวว่าเขาจะเผลอทำอะไรให้นางไม่พอใจ "เปล่าๆ เพคะ ฝ่าบาททรงดีกับหม่อมฉันมากเลย เพียงแต่ว่า..." "เพียงแต่ว่าอะไร" ชายหนุ่มกระเถิบเข้าไปใกล้หญิงสาว "เพียงแต่ว่า ตอนนี้ทุกคนกำลังโทษที่หม่อมฉันทำให้ฝ่าบาทประชวร" หญิงสาวตอบน้ำเสียงเศร้า "อะไรนะ เราไม่สบายแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย ไหน ใครเป็นคนว่าเจ้า เราจะไปจัดการกับมันเดี๋ยวนี้" คังซื่อโวยวายทั้งที่ตัวเองก็ยังนอนป่วยอยู่ "คนที่ว่าหม่อมฉัน ก็มีทั้งถูฮูหยิน องครักษ์เหอ องครักษ์จั๋ว องครักษ์หลิน แล้วก็ไทเฮาด้วยเพคะ" ฮ่องเต้กำลังคิดจะเรียกพวกองครักษ์มาต่อว่า แต่พอได้ยินชื่อไทเฮาก็ตกใจจนหน้าซีด "ไทเฮางั้นหรือ นี่เจ้าพบเสด็จแม่งั้นหรือ" "เพคะ" เส่เยี่ยพยักหน้า "แล้วเสด็จแม่ทำอะไรเจ้ารึเปล่า" ชายหนุ่มรีบคว้าร่างของหญิงสาวเข้ามาใกล้ๆ เพื่อสำรวจว่านางเป็นอะไรหรือเปล่า เส่เยี่ยได้แต่ยิ้มเพราะขำเขา "เปล่าเพคะ ไม่มีใครทำอะไรหม่อมฉัน ทุกคนเพียงแค่เป็นห่วงฝ่าบาทเท่านั้น" "เป็นห่วงเราก็ไม่น่าต้องไปต่อว่าเจ้านิ" คังซื่อพูดน้ำเสียงขุ่นๆ "ก็ฝ่าบาทไม่ยอมเสวยอะไรมาสองวันแล้ว เรื่องที่ทรงทะเลาะกับไทเฮาก็ดังไปทั่ววังเลย" "นี่เจ้ารู้เรื่องหมดแล้ว..." คังซื่อตอบเสียงอ่อยๆ ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกาคอเป็นการแก้เขิน เขาไม่คิดว่าเส่เยี่ยจะรู้เรื่องที่เขาไปขอร้องไทเฮาให้นางมาเป็นฮองเฮา "ฝ่าบาท ทรงยังจำได้ไหมว่า เคยรับปากหม่อมฉันว่า หากหม่อมฉันไม่อยากทำอะไร ก็จะไม่ทรงบังคับ" หญิงสาวแกล้งถาม คังซื่อก็พยักหน้า "ไม่ว่าหม่อมฉันต้องการอะไร ก็จะหามาให้ทุกอย่าง" ชายหนุ่มได้ยินแล้วก็พยักหน้าอีก "แล้วถ้าหม่อมฉันขอร้องให้ฝ่าบาททรงเข้าพิธีอภิเษกหล่ะเพคะ" คังซื่อจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็หุบลงทันที "ไหนฝ่าบาททรงรับปากแล้วไง" เส่เยี่ยแกล้งทำเสียงงอนใส่เขา "ก็เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าสักหน่อย" คังซื่อตอบเสียงแผ่ว "เกี่ยวสิเพคะ ถ้าฝ่าบาทไม่ยอมอภิเษก ทุกคนก็จะโทษว่าเป็นเพราะหม่อมฉัน" "เจ้าก็เลยอยากให้เราแต่งงาน จะได้ไม่ต้องไปกวนใจเจ้าอีกใช่ไหม" ชายหนุ่มพูดแล้วก็หันหน้าหลบหญิงสาว ลึกๆ แล้ว เขาก็รู้สึกมาตลอดว่านางไม่เคยต้องการเขาเลย ทว่าเส่เยี่ยได้ยินประโยคนั้นของเขาแล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในหัวใจ หญิงสาวเงียบไปพักใหญ่ "เอาหล่ะนี่ก็มืดแล้ว เราจะให้คนไปส่งนะ" คังซื่อเห็นว่าหญิงสาวนิ่งไปก็คิดว่าคงพูดแทงใจนาง "ฝ่าบาททรงคิดเช่นนั้นจริงๆ หรือเพคะ" อยู่ๆ เส่เยี่ยก็ย้อนถามเขาขึ้นมา "ว่าจะให้เจ้ากลับหน่ะเหรอ" ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นเฉไฉไปเรื่องอื่น แต่พอเห็นว่าเส่เยี่ยสีหน้าเครียด ก็เปลี่ยนมาพูดจริงจังกับนาง "เอาหล่ะ เราขอโทษนะ ถ้าเราพูดอะไรให้เจ้าไม่สบายใจ" คนพูดทำหน้ารู้สึกผิด "แล้วฝ่าบาททรงคิดว่าหม่อมฉันรำคาญฝ่าบาทจริงหรือเพคะ" เส่เยี่ยยิงคำถาม คังซื่อก็นิ่งเงียบ "ทรงคิดว่าหม่อมฉันไม่เป็นห่วง... ไม่อยากเจอฝ่าบาท..." พอเห็นเขาไม่ตอบ หญิงสาวก็ยิ่งถามต่อ "เส่เยี่ยเจ้าจะพูดอะไรกันแน่..." หญิงสาวสูดหายใจลึกก่อนจะตัดสินใจบอกความในใจกับเขา | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri Jan 23, 2009 6:55 pm | |
| "ความจริงก็คือ หม่อมฉันเป็นห่วงผ่าบาท อยากเจอฝ่าบาท แต่หม่อมฉันรู้ว่าไม่เหมาะสม แค่หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาจะคู่ควรกับฮ่องเต้ได้อย่างไร" "เส่เยี่ย... นี่เจ้า..." คังซื่อถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เขาคิดมาตลอดว่าเส่เยี่ยไม่ชอบเขา แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ พยายามจะพิชิตใจนางมาให้ได้ นี่นางกำลังจะบอกกับเขาว่า นาง... "ที่หม่อมฉันจะพูดก็มีแค่นี้ ตอนนี้ก็มืดแล้ว หม่อมฉันขอตัว..." หญิงสาวพูดแล้วก็ทำท่าจะลุกไป แต่ว่าชายหนุ่มคว้าร่างของนางไว้ จนหญิงสาวล้มลงมาทับร่างของเขาบนเตียง "ฝ่าบาท..." ตอนนี้ใบหน้าของหญิงสาวห่างกับเขาไม่ถึงคืบ "เจ้าพูดแค่นี้ แล้วคิดจะหนีเราไปเลยงั้นเหรอ" ชายหนุ่มกระซิบข้างๆ หูของหญิงสาว (ผู้เขียน ซิกๆ <=== เริ่มเครียด) เส่เยี่ยรู้สึกผ่าวสะท้านไปทั้งร่าง นางรีบผละร่างของตนเองออกมา ก่อนที่เหตุการณ์จะดำเนินไปไกลกว่าที่คิด (<=== ดีมาก) หญิงสาวลุกไปนั่งจนชิดปลายเตียง หัวใจของนางยังคงสั่นระรัวไม่หาย "จะให้หม่อมฉันพูดอะไรอีกเพคะ" คนถามหน้าแดงเป็นลูกตำลึง "เราอยากรู้ว่าเจ้าพูดความจริงรึเปล่า" เส่เยี่ยไม่กล้าตอบ นางจึงพยักหน้าให้เขา แล้วหันหลบไปทางอื่น ฝ่ายคังซื่อเห็นเช่นนั้นก็หัวใจพองโต ราวกับพิชิตเมืองเหลียวและค่ายเหลียนอิ๋นได้พร้อมๆ กัน "ดี เช่นนั้น เราจะไปพบเสด็จแม่ ทูลขอให้แต่งตั้งเจ้าเป็นฮองเฮา" "ไม่ได้นะเพคะ" "ทำไมไม่ได้หล่ะ" "หม่อมฉันไม่ได้อยากเป็นฮองเฮา" "ก็ไหนเจ้าว่า เจ้าคิดถึงเรา อยากเจอเรา" "คิดถึงฝ่าบาทแต่ไม่ต้องเป็นฮองเฮาก็ได้นิเพคะ ฝ่าบาททรงเป็นฮ่องเต้ ทรงคู่ควรกับหญิงสูงศักดิ์ หม่อมฉันได้มีโอกาสใกล้ชิดฝ่าบาท แค่นี้ก็พอแล้ว" "แต่ในสายตาเราเจ้าคือหญิงที่คู่ควร คนอื่นหน้าไหนเราไม่สนใจทั้งนั้น" "แม้ฝ่าบาทไม่สน แต่หม่อมฉันสนเพคะ หากทรงฝ่าฝืนกฏมณเทียรบาร แต่งตั้งหม่อมฉันเป็นฮองเฮา เหล่าขุนนางเสนาบดีจะพากันติฉินนินทา บรรดาพระญาติก็จะพากันรังเกียจ ประชาชนทั่วหล้าก็จะพากันดูถูกดูแคลน แม้ตายไปเป็นผี เทวดาฟ้าดินก็ไม่ยอมรับ หม่อมฉันจะยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้" "เส่เยี่ย... แต่ใจของเรามีเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น เราไม่สามารถแต่งตั้งใครแทนเจ้าได้จริงๆ" ชายหนุ่มคว้ามือของหญิงสาวมากุมไว้กับหัวใจของตนเอง "แค่รู้ว่าฝ่าบาททรงมีหม่อมฉันในใจ หม่อมฉันก็ดีใจแล้วเพคะ" หญิงสาวยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน "พรุ่งนี้ก็จะวันแต่งตั้งฮองเฮาแล้ว เราไม่อยากให้เช้าเลย" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า "ฝ่าบาท หากทรงรับปากว่าพรุ่งนี้จะไม่บิดพริ้ว หม่อมฉันสัญญาว่าหากต้องการอะไร หม่อมฉันจะยอมตามใจทุกอย่าง" เส่เยี่ยเห็นว่าเขากำลังคล้อยตาม จึงรีบยื่นข้อเสนอ "จริงเหรอ" ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ แล้วถามข้างหูนางเบาๆ ทำเอาเส่เยี่ยวูบวาบไปทั่วร่าง ใจคอไม่ดีเลย นี่ฮ่องเต้คิดจะขออะไรเนี่ย '_" "ความจริง ทีแรกเราก็ว่าจะเบี้ยวอ่ะนะ แต่เห็นเจ้าให้ข้อเสนอน่าสนใจแบบนี้ มีหรือเราจะไม่รับไว้" คังซื่อแกล้งเอาคางมาหนุนที่ไหล่ของเส่เยี่ยแล้วก็ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ หญิงสาวรู้สึกว่าเขาเข้ามาใกล้มาก จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่สัมผัสกับต้นคอของนาง หญิงสาวพยายามหันหลบไปทางอื่น คังซื่อเห็นนางเขินอาย ก็ยิ้มชอบอกชอบใจ ก่อนจะจับไหล่ของหญิงสาวหันมาหาตน แล้วพูดกับนางด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เจ้าต้องสัญญาว่าจะยอมให้อิเต็งไต้ซือรักษาตาของเจ้า แล้วเราสัญญาว่าจะไม่บิดพริ้ว" คำพูดของฮ่องเต้ทำเอาหญิงสาวอึ้ง นางกลั้นน้ำตาไว้แทบไม่อยู่ นี่เขารู้บ้างไหมว่านางกำลังหลอกเขาอยู่ เลิกดีต่อนางเสียทีได้ไหม เส่เยี่ยบีบมือของตัวเองไว้แน่น สุดท้ายนางกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ จึงโผเข้าหาร่างใหญ่นั้น นี่ข้ากอดเขางั้นหรือ... หญิงสาวถามตัวเอง นี่นางกอดข้างั้นหรือ... ชายหนุ่มก็ถามตัวเองเช่นกัน เขาพยายามสลัดความดีใจออกไป แล้วบอกกับตัวเองว่า ไม่ได้ฝันไป... ชายหนุ่มค่อยๆ ผละจากร่างของหญิงสาว เขาเอามือทั้งสองข้างช้อนใบหน้าของนางขึ้น ชายหนุ่มก้มลงมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหญิงสาว "เจ้าคงไม่ผิดหวังที่เราไม่ได้แต่งตั้งเจ้าเป็นเจ้าจอมนะ" คังซื่อเห็นหญิงสาวร้องไห้ก็แกล้งพูดติดตลก จากที่เครียดๆ อยู่เส่เยี่ยก็หัวเราะกับมุขตลกของเขา "ว่าไง ตกลงเจ้าจะรับปากเราหรือเปล่า" คังซื่อทำท่าเหมือนคุณครูดุลูกศิษย์ เส่เยี่ยยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้เขา คังซื่อก็ยิ้มตอบด้วยความดีใจ "ความจริงเจ้ายิ้มแบบนี้น่ารักกว่าร้องไห้เสียอีก เราไม่ชอบเห็นคนที่เรารักร้องไห้ ต่อไปเจ้าห้ามร้องไห้ต่อหน้าเราอีกนะ ไม่งั้น..." "ไม่งั้นอะไรเพคะ" "ไม่งั้นเราจะทำโทษเจ้าไง" เส่เยี่ยหน้าแดงไม่กล้าถามต่อว่าฮ่องเต้จะทำโทษอะไรนาง ฮ่องเต้เห็นหญิงสาวเงียบก็ยิ่งชอบใจ ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาเชยแก้มชมพูของนางขึ้น (เฮ้ยยยยยยๆ ไม่นะ <=== คนเขียนเอามือปิดตา)
แล้วภาพก็ตัดไปที่อีกฉากหนึ่ง....
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri Jan 23, 2009 6:57 pm | |
| อีกด้านหนึ่ง ชีเส้าเฟย กงซุนเช่อ อ้อมหมิงเจิ้ง และลู่เสี่ยวฟงกำลังเดินทางไปที่ค่ายเหลียนอิ๋นด้วยความรีบเร่ง จิวแปะทงเป็นนักพรต ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของทางการ จึงไม่ได้ตามพวกชีเส้าเฟยไปด้วย เขาอยู่ค้นหาเส่เยี่ยต่อไป
"พวกมันจับคนในหมู่บ้านไปทีละคน ฆ่าไม่เว้นไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่" ชีเส้าเฟยนึกถึงคำพูดของชาวบ้านที่วิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือที่โรงเตี๊ยมเมื่อวานนี้ "พวกมันบอกว่า หากท่านไม่ยอมมอบตัว มันจะฆ่าให้หมดทั้งหมู่บ้าน" กงซุนเช่อเองก็ได้ยินคำพูดของชายคนนั้น เขานึกถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของชายคนนั้นด้วยความโศกสลดใจ "ท่านต้องช่วยพวกเรานะ หากพวกท่านไม่กลับไปหล่ะก็ พวกเราคงต้องโดนฆ่าล้างหมู่บ้านแน่ๆ ฮือ..." อ้อมหมิงเจิ้งกำมัดแน่น ภาพที่ชายผู้นั้นร้องไห้ยังติดตานางไม่รู้ลืม ไอ้พวกสุนัขตัวไหนที่มันกล้าฆ่าคนบริสุทธิ์ หากเจอตัวหล่ะก็ ข้าจะจับเจ้าถลกหนัง แล้วเชือดเป็นชิ้นๆ เลย
ระหว่างการเดินทาง ลู่เสี่ยวฟงเห็นทุกคนรีบเร่งไม่พูดไม่จา เขาพยายามทำลายความตึงเครียดอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ซ้ำยังโดนอ้อมหมิงเจิ้งตำหนิว่าเอาแต่เล่น ไม่เคยคิดถึงผู้อื่น พอทั้งสองคนทำท่าจะทะเลาะกันอีก กงซุนเช่อก็รีบวิ่งเข้าไปห้าม ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น ชีเส้าเฟยก็เซแล้วล้มลง "หัวหน้าใหญ่!!!" สามคนร้องขึ้นพร้อมกัน นอกจากเหล้าแล้ว ชีเส้าเฟยไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน แถมยังต้องมาเดินทางไกลอีก อย่างนี้ไม่ล้มป่วยก็แปลกแล้ว "ข้าไม่เป็นไร" ชายหนุ่มส่ายหน้า เขาปัดมือคนอื่นออกไปแล้วแข็งใจเอากระบี่ดันตัวเองให้ลุกขึ้นเดินต่อ "หัวหน้าใหญ่ ถ้าไม่ไหวก็พักก่อนเถอะ" อ้อมหมิงเจิ้งเข้ามาขวาง "ไม่ได้ ประชากำลังเดือดร้อน จะให้ข้านิ่งเฉยได้อย่างไร แค่นี้ข้าก็รู้สึกผิดมากแล้วที่ทิ้งพี่น้องที่ค่ายมา" "หัวหน้าใหญ่พวกเราไม่ดีเองที่ตัดสินใจตามท่านมา ไม่เช่นนั้นเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น" กงซุนเช่อรีบโทษว่าเป็นความผิดของตนเอง "ไม่เกี่ยวกับท่านหรอกพี่รอง เป็นข้าไม่ดีเอง ที่เห็นเรื่องส่วนตัวมาก่อน ทำให้พวกท่านต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย" "เอาหล่ะๆ พวกท่านอย่าเพิ่งมาโทษตัวเองกันตอนนี้เลย ข้าว่าพวกเรารีบเดินทางกันต่อดีกว่า หัวหน้าใหญ่ท่านเองก็อย่าหักโหมมากนัก ยังไงดื่มน้ำสักหน่อยนะ" ลู่เสี่ยวฟงพูดจบก็ส่งย่ามในมือให้กับชีเส้าเฟย ชีเส้าเฟยรับมันมาดื่มแล้วก็รีบออกเดินทางต่อ คนอื่นๆ รู้ว่ายังไงก็คงจะห้ามหัวหน้าใหญ่ไม่ได้ จึงเดินตามเขาไปติดๆ
ครู่หนึ่งทั้งหมดก็มาหยุดอยู่ที่ป้ายทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังค่ายเหลียนอิ๋น ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาทั้งสี่คนแทบจะหยุดหายใจ พวกทหารเอาคนขึ้นไปแขวนคอไว้บนป้ายหน้าหมู่บ้านร่วมสิบคน ในบรรดาศพของชาวบ้านเหล่านั้น บ้างก็เป็นเด็ก บ้างก็เป็นสตรี ชีเส้าเฟยกำกระบี่แน่นจนมันแทบลุกเป็นไฟ เขาทรุดตัวลงบนเข่าทั้งสองข้าง "นี่ข้ามาช้าไปงั้นหรือ!!!" ชายหนุ่มตะโกนก้องไปทั่วบริเวณ "ต่ำช้ามาก พวกมันฆ่าได้แม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์" อ้อมหมิงเจิ้งสะเทือนใจกับภาพที่เห็น จนหญิงสาวที่เข้มแข็งอย่างนางยังต้องมีน้ำตาคลอๆ "ดูนี่สิ" กงซุนเช่อและลู่เสี่ยวฟงเดินล่วงหน้าไปก่อน พวกเขาเห็นบ่อดินซึ่งถูกขุดไว้จนลึก พอชะโงกลงไปดู ก็พบกับสิ่งที่พวกเขาแทบไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ด้วยกัน ศพของผู้บริสุทธิ์ทับถมกันเต็มบ่อทรายแห่งนั้น มีทั้งหญิง ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ และคนชราปะปนกัน ชีเส้าเฟยวิ่งมาถึงขอบบ่อแล้วก็ทรุดตัวลงบนผืนทราย หัวใจของเขาแทบแตกสลาย ตอนนี้ในใจเต็มไปด้วยไฟแค้น ใครกันที่สามารถลงมือได้อำมหิตถึงเพียงนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร เขาขอสาบานว่าจะต้องแก้แค้นให้ได้ มันผู้นั้นต้องชดใช้ที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เช่นนี้ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri Jan 23, 2009 6:57 pm | |
| อีกด้านหนึ่ง ที่ท้ายหมู่บ้าน หันจุ้นกำลังยืนสั่งการให้ทหารทรมานหญิงชราคนหนึ่ง "บอกมา ชีเส้าเฟยอยู่ที่ไหน!!!" "ไต้เท้าข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ ปล่อยข้าไปเถอะ ฮือๆๆ" หญิงชราคนนั้นร้องไห้คร่ำครวญ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทรมาน หันจุ้นส่งสัญญาณให้ทหารลงแซ้ไปที่นางอีก "ท่านยาย.. ท่านยาย.. เจ้าคนชั่วปล่อยท่านยายข้าเดี๋ยวนี้นะ ฮือๆๆ" เด็กชายอายุราวสิบขวบซึ่งถูกทหารจับมัดไว้อีกด้านร้องดังลั่น เมื่อเห็นว่ายายของตนกำลังถูกเฆี่ยนตี หันจุ้นรู้สึกรำคาญเสียงเด็กคนนั้นมาก จึงกระชากเอาแซ้จากมือทหารมาแล้วง้างมันเพื่อจะหวดไปที่เด็กชายคนนั้น ทันใดนั้นก็มีก้อนหินบินเข้ามาชนมือของเขา จนแซ้หลุดกระเด็นออกไป "เฮ๊ยยย ใครวะ" หันจุ้นร้องด้วยความโกรธ พอเงยหน้าขึ้นมาจะหาตัวการ ก็เห็นเท้าใหญ่ลอยมาถีบเข้าที่กลางหน้าของตนเองพอดี โครมมม!!! หันจุ้นกระเด็นไปติดกำแพง พวกทหารเห็นว่ามีผู้บุกรุกก็ตั้งแนวรับเตรียมเข้าประจันเต็มที่ ฝ่ายหันจุ้นเช็ดเลือดที่ปากแล้วก็ลืมตาขึ้นมองคนตรงหน้า เจ้าของลูกถีบนั้นก็คือชีเส้าเฟยนั่นเอง!!! "ยอมโผล่ออกมาแล้วเหรอ" หันจุ้นเอ่ยถาม ชีเส้าเฟยไม่ตอบแต่เขาชักกระบี่ขึ้นแล้วกระชากคอเสื้อของหันจุ้นขึ้นมา ชายหนุ่มจ้องคนตรงหน้าด้วยความเคียดแค้น ฝ่ายทหารคนอื่น ทำท่าจะเข้ามาช่วยหันจุ้นแต่ก็ถูกอ้อมหมิงเจิ้งห้ามไว้ "ใครกล้าขยับ ข้าจะตัดขามันทันที!!!" หญิงสาวตวาดลั่น ทำเอาพวกทหารกลัวกันจนสั่นงันงก แล้วก็มีทหารคนหนึ่งกลัวจนคิดจะก้าวขาหนี อ้อมหมิงเจิ้งหันไปเห็นพอดี จึงใช้วิชาตัวเบาเหาะไปตัดขาทหารคนนั้นจนขาดกระเด็น มันลงไปดิ้นอยู่ที่พื้นแล้วก็ส่งเสียงร้องโอดครวญ "อ๊า... อ๊า... ขาข้า.. ขาข้า.." "นางพูดอะไร เจ้าก็น่าเชื่อ..." ลู่เสี่ยวฟงทำท่าเสียวแล้วเอามือปิดตา พวกทหารคนอื่นๆ พากันอกสั่นขวัญแขวน จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าขยับตัวอีกเลย "ชีเส้าเฟยหากเจ้าฆ่าข้า เจ้าก็จะไม่มีวันรู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้ข้าทำ" หันจุ้นเหมือนจะรู้ชะตาของตนเอง หากชีเส้าเฟยจะฆ่าเขาก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ แต่เขาจะตายง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ จึงคิดจะซื้อเวลาเพิ่ม "คนชั่วบอกมาเดี๋ยวนี้!!! ใครเป็นคนบงการเจ้า!!!" ชีเส้าเฟยกระชากคอเสื้อหันจุ้นแน่นขึ้น แล้วก็กดกระบี่ไปที่คอของมัน จนมีเลือดไหลซึมออกมา "หึๆ นึกว่าข้าโง่งั้นเหรอ หากข้าบอกเจ้าตอนนี้ เจ้าก็จะฆ่าข้า แล้วข้าจะพูดไปเพื่ออะไร" หันจุ้นหัวเราะในลำคอ "ไม่ว่าเจ้าจะพูดหรือไม่ ข้าก็ต้องฆ่าเจ้าอยู่ดี!!!" ชีเส้าเฟยตะคอกด้วยความเคียดแค้น "งั้นยังจะรออะไรอยู่หล่ะ" หันจุ้นท้า ฝ่ายชีเส้าเฟยก็ไม่กล้าลงมือ ใช่ว่าเขากลัวจะไม่รู้ความจริง เพียงแต่ว่าตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยลงมือฆ่าคนชาติเดียวกันมาก่อน หากเป็นพวกทหารต้าเหลียวหล่ะก็ เขาคงไม่ต้องคิดมากขนาดนี้ "ให้เจ้าตายง่ายๆ มันก็สบายเจ้าหน่ะสิ!!!" ลู่เสี่ยวฟงเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้หันจุ้น หันจุ้นแอบกลัวนิดๆ เพราะเจ้าหมอนี่ชอบมีแผนการณ์อะไรแปลกๆ คราวที่แล้วก็จับมันแก้ผ้าแล้วมัดไว้กับต้นไม้ แต่คราวนี้ลู่เสี่ยวฟงคงไม่ใจดีอย่างที่คิด เห็นเขาชอบเล่นแบบนี้ แต่ก็รักประชาชนไม่แพ้หัวหน้าคนอื่นๆ ชายหนุ่มเดินไปแก้มัดให้กับชาวบ้าน แล้วก็หันมาผูกหันจุ้นไว้แทน "เอาหล่ะๆ ทุกคน ข้ารู้ว่าเจ้าเคียดแค้นคนๆ นี้ ตอนนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้ระบายแค้น เอาหล่ะเริ่มจากเจ้าละกันนะ" ลู่เสี่ยวฟงเดินไปส่งแซ้ให้กับเด็กชายวัยสิบขวบ เด็กคนนั้นทำท่ากลัวๆ แต่ลู่เสี่ยวฟงบอกกับเขาว่าไม่เป็นไร "พี่ชายจะอยู่ใกล้ๆ เจ้าไม่ต้องกลัวนะ หากมันทำอะไรเจ้าหล่ะก็ ข้าจะสั่งสอนมันเอง" เด็กคนนั้นจึงฟาดแซ้ไปที่หน้าของหันจุ้น "เจ้าคนถ่อย!!! เจ้าตียายข้า!!! เจ้ามันใจร้ายมาก!!!"
จากนั้นพวกชาวบ้านคนอื่นๆ ก็รุมกันเข้ามาทำร้ายหันจุ้นไม่ยั้ง บ้างก็ปาก้อนหิน บ้างก็เขวี้ยงทรายใส่หน้ามัน แล้วเหตุการร์ก็เริ่มชุลมุนมากขึ้นเมื่อชาวบ้านเริ่มขว้างปาก้อนหินใส่กลุ่มทหารที่ยืนอยู่ จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น ทั้งทรายและฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ชีเส้าเฟย ลู่เสี่ยวฟง และอ้อมหมิงเจิ้งเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเข้าไปห้ามก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายใหญ่โต พวกทหารเห็นว่าถึงคนมากกว่า แต่ก็สู้วรยุทธของพวกชีเส้าเฟยไม่ได้ จึงถอยหนีไป
ฝ่ายชีเส้าเฟยหันกลับมาอีกทีก็พบว่าหันจุ้นแอบแกะมัดหนีไปกับทหารพวกนั้นแล้ว ขณะที่เขากำลังจะติดตามไป ก็มีเสียงของหันจุ้นตะโกนดังผ่านม่านทรายนั้นมา "ชีเส้าเฟย!!! เจ้าอยากรู้ไหมว่าใครบงการข้า!!! ตามข้ามาที่เมืองหลวงสิ!!! แล้วข้าจะบอกกับเจ้าเอง!!! ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะของหันจุ้นดังกังวาลไปทั่ว
ความจริงแล้ว นี่คือแผนการณ์ของหันจุ้นตั้งแต่ต้น เขารู้ตัวว่าไม่มีทางจับชีเส้าเฟยได้ หนทางเดียวที่จะจับชีเส้าเฟยได้ก็คือล่อลวงให้ชีเส้าเฟยตามเขาไปที่เมืองหลวง จากนั้นก็หลอกให้ชีเส้าเฟยปะทะกับฮ่องเต้และอ้าวป้าย ถึงเวลานั้น นอกจากเขาจะมีกองกำลังทหารหลวงนับแสนแล้ว ยังมีเหล่าองครักษ์ฝีมือดีอีกมากมาย คราวนี้ต่อให้เทพมังกรชีเส้าเฟยมีปีก ก็คงบินหนีไปไหนไม่ได้.... ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ.... | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri Jan 23, 2009 7:05 pm | |
| The Hero and The King กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน ชุดที่ 1 ก็ได้นำเสนอมาจนถึงตอนที่ 20 แล้ว หลังจากนี้ ท่านผู้อ่านสามารถติดตาม THATK ชุดที่เหลือ ได้จาก Blog ด้านล่างนี้ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=realtomtam&group=2รหัสเข้า เช่นเดิม ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ชื่อของเขาคนนั้น ขอได้รับความขอบคุณจาก TVB International | |
|
| |
Ah-Mare ผู้คุมกฏ (AdMiN)
จำนวนข้อความ : 42 Registration date : 11/09/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sat Jan 24, 2009 9:25 am | |
| - tomtam พิมพ์ว่า:
- The Hero and The King กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน ชุดที่ 1 ก็ได้นำเสนอมาจนถึงตอนที่ 20 แล้ว
หลังจากนี้ ท่านผู้อ่านสามารถติดตาม THATK ชุดที่เหลือ ได้จาก Blog ด้านล่างนี้ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=realtomtam&group=2
รหัสเข้า เช่นเดิม ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ชื่อของเขาคนนั้น
ขอได้รับความขอบคุณจาก TVB International ฮ่าฮ่า เข้ามาขำพี่แต๋ม.. ปล.ชอบชื่อตัวละครในฟิคนี้จัง..ใกล้ตัวม๊ากกก^^ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sun Jan 25, 2009 6:40 pm | |
| เรื่องที่แมร์ไฟล์หาย ยังไงอ่ะ พี่ไม่เข้าใจ คือว่าแมร์พิมพ์ต่อไปเลยเป็นไฟล์เดียวเหรอคะ สมมติว่าตอนเก่ามีสี่สิบหน้า ตอนใหม่พิมพ์เพิ่มเข้าไปอีกยี่สิบกว่า รวมแล้วร่วมเจ็ดสิบ ยังงี้ใช่ป่ะ แล้วตอนพิมพ์เพิ่ม แมร์ก็ไม่ได้เซฟ แล้วมันก็หายวับไปทั้งหมด แบบนี้หน่ะเหรอ แปลกๆ นะ ไม่น่าจะหายไปได้ โดยปกติ โปรแกรม Ms word จะมี recovery อัตโนมัติให้อยู่แล้ว ซึ่งถ้าโปรแกรมถูกปิดอย่างไม่ถูกต้อง เวลาเปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่ มันจะขึ้นถามเลยว่า ต้องการกู้ไฟล์ชื่อนี้ไหม... แต่หากมันไม่ถามจริงๆ ลองทำตามวิธีข้างล่างดูนะคะ พี่ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลกับแมร์ไหม แต่เวลาที่เพื่อนๆ ไฟล์หาย พี่จะลองทำขั้นตอนพื้นฐานเหล่านี้ดูก่อนค่ะ *** ที่สำคัญ แมร์ควรจะไปเปิด show hidden file ก่อนค่ะ เผื่อไฟล์ที่เรากำลังจะหา มันถูกโปรแกรมซ่อนไว้ จะได้มองเห็นค่ะ วิธีเปิด show hidden file 1. เปิด folder ใดขึ้นมาก็ได้ 2. เลือกเมนู tools 3. เลือกซับเมนู folder option จะได้หน้าต่างตามภาพด้านล่างขึ้นมา 4. เลือก tab ที่สองที่ชื่อ view 5. ติ๊กวงจุดในช่อง show hidden files and folders 6. กดโอเค ทีนี้เข้าวิธีกู้ไฟล์แบบที่หนึ่งค่ะ 1. ลองเปิดโปรแกรม ms word ขึ้นมาหน้าเปล่าๆ ดู 2. เลือกเมนู file แล้วเลือก recent opened file (โทษทีนะคะที่ capture screen มาให้ดูไม่ได้ เครื่องพี่ไม่มี ms office ค่ะ) 3. มันจะขึ้นชื่อไฟล์ที่เราเพิ่งเปิด หรือเพิ่งเซฟขึ้นมาให้เลือก ลองดูว่ามีไฟล์อันนั้นของแมร์หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ต้องวิธีนี้ 1. กดปุ่ม start ที่หน้าจอ window 2. เลือก My recent documents 3. ลองดูใน list นะคะ ว่ามีชื่อไฟล์นั้นอยู่หรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้อีก ต้องลองไปค้นในไฟล์ temp ของโปรแกรมค่ะ 1. เปิด ms word ขึ้นมา 2. พิมพ์อะไรลงไปก็ได้เหมือนจะทำไฟล์ใหม่ (อย่าเพิ่งกดเซฟเองนะ) 3. ทิ้งหน้าจอนั้นไว้สัก 5 นาที ปกติ เครื่องจะเซฟเองให้อัตโนมัติโดยที่เราไม่รู้ 4. พอเรา ctrl+s หรือเมนู file > save เครื่องจะขึ้นถามว่าจะให้เซฟไว้ที่ไหน 5. ลองดูใน directory แรก ที่เครื่องถาม ว่ามีไฟล์ที่ชื่อใกล้เคียงที่แมร์เคยเซฟไว้อยู่ในนั้นหรือเปล่า จริงๆ มันมีวิธีดูนะง่ายกว่านั้นนะว่า โปรแกรมได้เซฟไฟล์ temp ไว้ที่ไหน แต่ว่าพี่ไม่ได้ใช้ ms word ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน 1. แต่ของพี่อยู่ตรงนี้ค่ะ C:\Documents and Settings\tomtam\Local Settings\Temp 2. ถ้าแมร์รู้ว่าไฟล์ temp ของโปรแกรมอยู่ที่ไหน ลองเข้าไปคุยในนั้นดู 3. หากมันขึ้นไอคอนหน้าตาประหลาดๆ ให้คลิกขวา แล้วเรื่อง Open with ms word นะคะ 4. ลองดูไปทีละไฟล์ พี่ว่าต้องเจอหล่ะ | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sun Jan 25, 2009 7:25 pm | |
| แล้วอันนี้วิธีสุดท้ายแล้วจริงๆ ให้เครื่องมัน search ให้ทีละไฟล์ ตื้อๆ ไปเลย 1. กดปุ่ม start ที่หน้าจอ 2. เลือก search จะได้หน้าต่าง search ขึ้นมา 3. เครื่องถามว่า what do u want to search for? ให้เลือก Document (word, bla bla bla etc.) 4. เครื่องถามว่า search be any or all bla bla bla bla? ให้เลือก within last week 5. all or part of document name? ให้พิมพ์ชื่อสั้นๆ ของไฟล์ ไม่ต้องเติม เช่น ไฟล์ชื่อ theheroandtheking.doc ให้พิมพ์แค่ hero หรือ hero.doc พอ 6. ตรง you may also want to... ให้คลิก User advanced search option เครื่องจะเพิ่ม option ให้ใส่ 7. พิมพ์บางวลีที่อยู่ในไฟล์ เช่น ชื่อตัวละคร spencer 8. ใส่ Location ของไฟล์ (ถ้าทราบ) 9. หรือขนาดของไฟล์ (ถ้าทราบ) จะทำให้เครื่องหาได้เร็วมากขึ้น แต่ถ้าใส่ผิด ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ 10. คลิก search โลดดดดด รอไปนานสักหน่อย ไปกินข้าว อาบน้ำ หรือดูหนังจื้อหลินได้เลย มันค่อนข้างนานนนน โชคดีนะน้อง ***************************************** เอาหล่ะอีกเรื่องหนึ่งที่แมร์ไม่ควรลืมก็คือ 1. ควรจะทำไปเซฟไป ระหว่างพิมพ์ หากนึกได้ ให้กด ctrl+s เป็นระยะ เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ค่อยทำ ไฟล์หายก็ปล่อย แต่ว่าพอมาทำงานแล้วมันไม่ได้ หากเครื่อง crash หรือไฟดับ ถ้าเซฟไว้ก็ได้คืนมาบางส่วนค่ะ 2. ไม่ควรพิมพ์ฟิคต่อให้เป็นไฟล์เดียวกันยาวๆ ปัญหาตามมาเยอะมาก เครื่องช้า ไฟล์หาย หายาก bla bla bla รบกวนน้องซอยเป็นไฟล์ละสองตอนก็ดีนะคะ แบบพี่ข้างล่าง หาก็ง่าย โหลดก็เร็ว ไฟล์ไม่หายหมดด้วยค่ะ ****************************************** เพิ่งนึกได้ว่านี่มันบ้านนิยาย ขอ copy ข้อความไปแปะไว้ที่บ้านความรู้รอบตัวนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย http://charlian.forumv.biz/forum-f7/topic-t39-80.htm | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Thu May 14, 2009 10:34 pm | |
| | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Thu May 14, 2009 11:02 pm | |
| | |
|
| |
prince_nan ศิษย์ใหม่ชาเรี่ยน..เอ๊าะๆเฟรชๆ
จำนวนข้อความ : 8 : 43 Registration date : 22/05/2009
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri May 22, 2009 9:28 am | |
|
แก้ไขล่าสุดโดย prince_nan เมื่อ Sun May 24, 2009 9:43 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง (Reason for editing : [) | |
|
| |
prince_nan ศิษย์ใหม่ชาเรี่ยน..เอ๊าะๆเฟรชๆ
จำนวนข้อความ : 8 : 43 Registration date : 22/05/2009
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Fri May 22, 2009 10:06 am | |
| | |
|
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน Sat May 23, 2009 8:12 pm | |
| ยินดีต้อนรับน้องใหม่ คุณแนน ที่หลงเข้ามาอ่านและยังให้ความรู้ อธิบายเรื่องคำศัพท์จีนต่างๆ อีกด้วย อ่านแล้วขอคลานออกไปมึนสักพักนะคะ คำว่า ไทเฮา แปลว่า มเหสีองค์ปัจจุบัน หรือ ภริยาเอก อันนี้ถือว่าตอบถูกนะคะ เหอๆ ยังไงถ้าคุณแนนแวะมาอีกก็ตามไปอ่านฟิค กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน ได้ที่บล็อคนี้ค่ะ พวกเราย้ายไปเม้าส์กันที่นี่ เผื่อจะชี้แนะความรู้เกี่ยวกับหนังจีนเรื่องนี้อีกนะคะ (password : ชื่อเล่นของสุดที่รักอันดับหนึ่งของผู้เขียนค่ะ) http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=realtomtam&group=4 | |
|
| |
| The Hero and The King / กระบี่สะท้านฟ้า ราชาสะท้านแผ่นดิน | |
|