Special Interview with Ah Sheh

จากนั้นก็เปลี่ยนมาที่ช่วงเกมตอบคำถาม*






พิธีกรชาย: สำหรับเกมนี้เราจะให้ผู้กำกับที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นผู้ตัดสิน และกติกาก็คือ
ผมจะถามคำถามและถ้าคุณตอบผิดผมจะเอาแท่นที่คุณยืนเหยียบอยู่
(กล่องเล็กๆ) ออก 1 แท่น ในตอนจบคุณก็จะเหลือแค่เพียง
แท่นที่เล็กที่สุดให้พวกคุณยืนอยู่บนนั้น ผมจะให้เวลา 5 วินาที
ในการคิดคำตอบ ถ้าทีมไหนที่ตอบไม่เหมือนกัน
ผมก็จะเอาแท่นออก 1 แท่น เช่นกัน

เอาล่ะครับ...คำถามที่ 1...ใครในพวกคุณทั้ง 4 ที่มีวิธีการพิเศษในการแสดง


*ทีมหลีจือและหลินเป่าอี้เลือกป้ายหลินเป่าอี้
ทีมอาเส่และเฉินเหาเลือกป้ายอาเส่*


พิธีกรชาย: คุณไม่ต้องทำท่าทางประกอบก็ได้นะครับ 'คนสวย'!




*อาเส่หัวเราะ*

พิธีกรชาย: ทำไมคุณเลือกตัวเองครับเป่าอี้

หลินเป่าอี้: ผมบันทึกเสียงของผมไว้ แล้วก็เอาไว้ฟังตอนช่วงว่าง

พิธีกรชาย: เขาบอกว่าวิธีการของเขาพิเศษที่สุด...เอาล่ะ...เสอซือม่าน
คุณบอกพวกเราหน่อยซิว่าวิธีการของคุณพิเศษยังไง

อาเส่: ฉันใช้... *ถูกขัดจังหวะโดยเฉินเหา*

เฉินเหา: ผมช่วยเธอตอบได้ไหมครับ?

พิธีกรชาย: ได้ครับ

เฉินเหา: เธอสวยครับ


*อาเส่หัวเราะเสียงแหลมสุดๆ ในขณะที่พิธีกรทำสีหน้าแบบนี้ * >>> -_-"

เฉินเหา: ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้วครับ

พิธีกรชาย: นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชมคุณใช่ไหมครับ? คุณถึงมีความสุขขนาดนี้

*อาเส่หัวเราะหนักยิ่งขึ้นไปอีก *

O-yohyo: ได้ฟังเสียงหัวเราะแบบนี้ของอาเส่แล้ว อยากเห็นอาเส่ในบทแม่มดจริงๆค่ะ

พิธีกรชาย: อืม...คุณคิดว่าวิธีการของเธอพิเศษที่สุดก็เพราะว่า
เธอ 'สวย' เป็นพิเศษ ใช่ไหมครับ?

เฉินเหา: ใช่ครับ

พิธีกรชาย: คุณเห็นด้วยรึเปล่าครับ?

อาเส่: แน่นอน *หัวเราะ*

พิธีกรชาย: ต้องมีทีมใดทีมหนึ่งถูกดึงแท่นที่ยืนออกใช่ไหมครับ?

ผู้ชม: "ใช่"

พิธีกรชาย: ให้ผู้กำกับบอกเราดีกว่า ดูซิว่าผู้กำกับเขียนอะไรในแผ่นคำตอบ
เสอซือม่าน 'hou huan' ฮ่า ฮ่า ฮ่า.....ผมไม่เข้าใจเลยทำไมคุณถึงมีความสุขนักนะ

*อาเส่เตะแท่นสำหรับยืนออก*

พิธีกรชาย: นั่นแหละครับ ดีมาก เตะออกเองเลย *ช่วยเตะให้แท่นพ้นทางออกไป*

พิธีกรชาย: คำถามที่ 2 ระหว่างถ่ายทำละคร ใครที่ใช้เสื้อผ้าเปลืองที่สุด

*ทีมอาเส่-เฉินเหา เลือกป้ายเฉินเหา
ทีมหลีจือ-หลินเป่าอี้ เลือกป้ายหลีจือ*

พิธีกรชาย: เฉินเหาจะกระซิบบอกผมว่าเค้านุ่งเสื้อผ้ากี่ชิ้น
และหลีจือก็ต้องกระซิบเช่นกัน
เอาล่ะผมจะถามเฉินเหาก่อน...ไม่! ไม่!...อย่าพูดใส่ไมโครโฟน
หลีจือได้ยินอาจเพิ่มจำนวนได้นะ

*อาเส่ช่วยเอาแผ่นป้ายบังให้ เฉินเหากระซิบบอกพิธีกร*





พิธีกรชาย: รวมถึงชุดชั้นในรึยังครับ

*เฉินเหากระซิบอีกครั้ง และพิธีกรก็เดินไปที่ทีมหลีจือ-หลินเป่าอี้*

หลีจือ: นับรวมแผ่นให้ความอุ่นด้วยได้รึเปล่าคะ

พิธีกรชาย: ไม่ได้ครับ

หลีจือ: แต่ว่าฉันใช้แผ่นพวกนั้นเป็นเหมือนเสื้อผ้าของฉันด้วยนะ

พิธีกรชาย: ใช่ครับ แต่ว่าไม่สามารถนับรวมได้
เพราะว่าคุณติดแผ่นให้ความอุ่นในตอนเช้า แต่ไม่ใช่ระหว่างการถ่ายทำ

*หลีจือกระซิบคำตอบ*

หลินเป่าอี้: ขอผมบอกอะไรคุณอย่างนึงนะ ถ้าคุณเอาแผ่นให้ความอุ่น
ที่เธอติดมารวมกัน มันจะหนาเท่านี้แน่ะ *ทำท่าทางประกอบ*

พิธีกรชาย: หนาจังเลยครับ 12 แผ่นรวมกันหนามากๆ
เอาล่ะ...หลีจือบอกว่าชุดที่เธอใส่มากที่สุดระหว่างถ่ายทำคือ 8 ชิ้น
ส่วนเฉินเหานับรวมชุดชั้นในของเขาด้วย มากที่สุดคือ 12 ชิ้น

*อาเส่ชูป้าย ดีใจกับชัยชนะ*

ผู้กำกับ: คำตอบคือ "เฉินเหา"

พิธีกรชาย: ยังไงก็ตาม ผมว่าเสื้อผ้าที่คุณ (หลีจือ)ใส่ ก็ไม่น้อยเลยนะ

*เตะแท่นที่ยืนออก*


คำถามที่ 3...ระหว่างการถ่ายทำ ใครที่มีอารมณ์อ่อนไหวที่สุด

*ทีมอาเส่-เฉินเหา เลือกป้ายอาเส่
หลีจือ เลือกป้ายหลีจือ-หลินเป่าอี้ เลือกป้ายเฉินเหา*


พิธีกรชาย: คุณคิดว่าเฉินเหาอ่อนไหวที่สุด ยังไงครับ

หลินเป่าอี้: เวลาที่อยู่กับผู้หญิงครับ เค้าจะคุยโทรศัพท์ตลอดเวลาเลย

พิธีกรชาย: กับใครครับ

หลินเป่าอี้: กับ.................

อาเส่: กับฉันน่ะซิ!!!

*เฉินเหาเอาแผ่นป้ายบังหน้าตัวเอง*

O-yohyo: ขอยอกันเองหน่อยเถอะค่ะ...
อาเส่เก่งจัง ช่วยแก้สถานการณ์ให้เฉินเหาได้ทัน

พิธีกรชาย: คุณจะออกตัวให้ทำไมเนี่ย...
เค้าชมว่าคุณสวยยังไม่พออีกเหรอ
เอาล่ะ...หลีจือทำไมคุณถึงคิดว่าคุณอ่อนไหวที่สุดครับ

หลีจือ: ไม่รู้ซิคะ อ่อนไหวก็คืออ่อนไหว?

พิธีกรชาย: คุณคิดว่าคุณอ่อนไหวที่สุดเพราะอะไรครับ

อาเส่: เพราะว่าทุกฉากที่ต้องร้องไห้ ฉันร้องไห้ออกมาได้จริงๆ

พิธีกรชาย: หลีจือ, เธอบอกว่าเธอร้องไห้ได้ทุกฉาก
ก็หมายความว่าคุณไม่สามารถร้องไห้ได้ใช่ไหมครับ

หลินเป่าอี้: ข่าวลือเริ่มอีกแล้ว...

อาเส่: คุณน่ะ (พิธีกร)...แย่ที่สุดเลย!

ผู้กำกับ: เสอซือม่านอารมณ์อ่อนไหวที่สุด

พิธีกรชาย: ถ้าอย่างนั้น เราให้ทั้งสองคนมาแข่งกันว่าใครจะร้องไห้ได้ดีไหมครับ

อาเส่: หา...

พิธีกรชาย: พวกคุณไม่จำเป็นต้องร้องไห้ออกมาก็ได้
เพียงแค่รู้สึกตื้นตันภายในเวลา 30 วินาที
และจะมีเพลงประกอบระหว่างที่ผมเล่าเรื่องที่น่าซาบซึ้งให้พวกคุณฟัง
ไม่จำเป็นต้องมีน้ำตา แต่แน่นอนถ้ามีน้ำตาก็ย่อมดีกว่า
พวกคุณเพียงแค่แสดงความรู้สึกซาบซึ้งกินใจออกมาก็พอ

(พิธีกรพูดเกี่ยวกับบรรดาแฟนๆ ทั้งหมด ที่มาเป็นกำลังใจให้กับอาเส่และหลีจือ)

*อาเส่ร้องไห้และผู้ชมก็ส่งเสียงเชียร์กันใหญ่*

พิธีกรชาย: เสอซือม่านมีน้ำตาไหลออกมาและหลีจือดูจะซาบซึ้งมาก
เสอซือม่านแกล้งหรือว่าข่มขู่คุณรึเปล่าครับ?
ฮ่า ฮ่า ฮ่า...ไม่ ไม่ ไม่...นั่นมันในละคร
แต่ว่าตอนนี้ศึกรักจอมราชันย์ได้รับการต้อบรับจากแฟนๆ มากจริงๆครับ

อาเส่: ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ!





*หลินเป่าอี้ยื่นทิชชูให้อาเส่เพราะเธอยังร้องไห้ไม่หยุด*

พิธีกรชาย: เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?...อย่าร้องไห้เลย

อาเส่: ขอบคุณทุกคนค่ะที่ให้การสนับสนุน

หลีจือ: ขอบคุณค่ะ

*เฉินเหาตบหลังปลอบอาเส่*

พิธีกรชาย: ทุกคนคงเห็นแล้วว่าสมาธิและการรวบรวมอารมณ์
ในการแสดงของเสอซือม่านนั้นเร็วมาก
และคงเป็นที่ประทับใจของทุกคนมากแน่ๆ

*อาเส่ใช้ทิชชูซับน้ำตา*

พิธีกรชาย: สำหรับคำถามที่ 4 ในระหว่างพวกคุณทั้ง 4 คน
ผู้กำกับ Chik Kei Yi ไม่ชอบใครมากที่สุดครับ

*ทีมอาเส่-เฉินเหา เลือกป้ายหลินเป่าอี้
หลีจือ เลือกป้ายเฉินเหา หลินเป่าอี้ เลือกป้ายหลีจือ*

อาเส่: คุณแหล่ะ คุณ คุณ คุณ คุณ! *อาเส่ชี้ไปที่หลินเป่าอี้*

พิธีกรชาย: ทำไมคุณทั้งคู่ถึงคิดว่า Chik Kei Yi ไม่ชอบหลินเป่าอี้ที่สุดล่ะครับ

เฉินเหา: ก็เพราะว่าผู้กำกับชอบให้บทที่ต้องพูดยาวๆเป็นพิเศษกับหลินเป่าอี้ครับ

พิธีกรชาย: ทำไมคุณ (หลินเป่าอี้) เลือกหลีจือครับ

หลินเป่าอี้: เขาอิจฉาที่ผมรักเธอครับ

พิธีกรชาย: แล้วคุณล่ะครับหลีจือ

หลีจือ: ฉันไม่รู้ ก็ฉันไม่รู้จะเลือกใครดี

ผู้กำกับ: หลีจือ เธอโดนเทคบ่อยที่สุด เธอมีบทที่ต้องพูดยาวๆ
แต่เธอก็พูดไม่ได้เพราะว่ามันเร็วมากๆ

หลินเป่าอี้: ผมก็โดนเทคบ่อยเหมือนกัน

ผู้กำกับ: และตัวละครของเธอช่างโง่เขลาซะจริงๆ

O-yohyo: ทุกคนไม่ต้องตกใจค่ะ จริงๆแล้วผู้กำกับเค้าแกล้งอำหลีจือน่ะ

พิธีกรชาย: คราวนี้ผมจะให้พวกคุณพูดคำว่า
"ฉันเกลียดคุณที่สุด" ในขณะที่ยิ้มอยู่นะครับ




*หลังจากแต่ละคนพูดจบแล้ว หลีจือกับหลินเป่าอี้ก็ต้องยืนบนแผ่นกระดานที่เล็กที่สุด
และคั่นรายการด้วยเพลงศึกรักจอมราชันย์ร้องโดยหลินเป่าอี้*

พิธีกรชาย: สำหรับช่วงต่อไปนี้ผมต้องการที่จะให้คุณ (อาเส่)
โชว์การแสดงจริงๆ ผมจะเลือกฉากที่จะให้แสดงจากละครศึกรักจอมราชันย์
และพิธีกรหญิงจะแสดงเป็นยี่หยิง

*ฉากที่คัดมาคือฉากที่ยี่หยิงเข้ามาหาเอ่อฉุนเพื่อต่อว่า
ที่เอ่อฉุนล่อหลอกให้ยี่หยิงไปติดกับดัก (ฉากตัดสัมพันธ์พี่น้อง)*

พิธีกรหญิง: ฉันไม่กลัวหรอก

O-yohyo: เธอทำใจดีสู้เสือค่ะ





Range: โชว์ช่วงนี้ ชาร์เมนทำให้ฉันประหลาดใจมาก ตอนแรกเธอหยอกมุกใส่พิธีกร
ที่พูดว่าเอ่อฉุนกำลังยืนอยู่ ชาร์เมนก็เลยแกล้งดุใส่แล้วบอกเธอนั่งอยู่ต่างหาก
หลังจากนั้นก็แกล้งทำเป็นว่าตัวเองเป็นชายจีบพิธีกร...เธอยืนขึ้นและใช้เสียงที่นุ่ม
ปนอิจฉาพูดว่า "ฉันแสดง? ใครบอกว่าฉันแสดง?"


O-yohyo: พิธีกรหญิงดูจะกลัวนิดๆ แล้วก็พูดเป็นเพลง ตอนแรกที่ฟัง
ก็ว่าตลกดี พอได้อ่านคำแปลยิ่งตลกค่ะ อาเส่ถึงกับทำหน้างงๆ

พิธีกรหญิง:

ให้ฉันบอกคุณนะว่าคุณอิจฉาฉันเพราะอะไร
คุณอิจฉาฉันเพราะ ตาของฉันเล็กกว่าของคุณ
คุณอิจฉาฉันเพราะ อกของฉันใหญ่กว่าของคุณ
คุณอิจฉาฉันเพราะ ฉันไม่ได้จบการศึกษาชั้นมัธยม!




*หลังจากนั้นพิกรชายก็ถามผู้ชมว่าใครแสดงดีกว่ากัน
และแน่นอนผู้ชมส่งเสียงเชียร์อาเส่ พิธีกรหญิงก็เลยงอน
อาเส่ก็เลยปลอบใจเธอซะหน่อย*

อาเส่: ขอบคุณค่ะ!!! ไม่ ไม่ ไม่...เธอ (พิธีกร ญ)
แสดงดีเหมือนกันนะ ดีมากเลย ดีมาก

O-yohyo: หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงของหลีจือ เฉินเหา หลินเป่าอี้
และจบช่วงด้วยเฉินเหาออกมาร้องเพลง
ก่อนจบรายการก็มีการแข่งเกมโดยให้เฉินเหากับหลินเป่าอี้
ลากรถของเล่นที่มีผู้ชายตัวโตมากๆ นั่งอยู่
แล้วก็มีการแจกหนังสือให้ผู้ชมค่ะ

จบแล้วค่ะ!! ทุกคนสนุกกับการอ่านรึเปล่าคะ

หวังว่าเราคงได้มาพูดคุยแบ่งปันความสุขกันต่อไปเรื่อยๆ นะคะ
และขอให้ทุกคนมีความสุขกับก้าวต่อไปของบ้านอาเส่







จิ๊กซอว์ที่ระลึกสำหรับผู้มาร่วมงานฉลองบ้านอาเส่ 100 หน้าค่ะ



คลิก ---> <--- คลิก

ชาเรี่ยนคือใคร? คำถามในใจใครต่อใคร




กระทู้นี้ ตั้งไว้ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับชาเรี่ยนค่ะ



นี่คือชาเรี่ยน (Charlian)

ชา (Char) = ชาร์เมน (Charmaine)

เรี่ยน (Lian) = จูเรี่ยน (Julian)

และนี่คือรูปภาพของทั้งสองคนค่ะ




Credit: BABYFACE


การนำชื่อของดาราคู่ขวัญมารวมกันนี้ เกิดจากการที่แฟนคลับ
ประทับใจในการแสดงของดารา และอยากให้แสดงร่วมกันอีก
ซึ่งคำเรียกนี้ มาจากพวกแฟนคลับในต่างประเทศก่อน
ส่วนในไทย ตอนแรกยังไม่มีใครรู้จักชาเรี่ยน
แต่ว่ามีเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้ชาเรี่ยนได้เข้ามาอยู่ในใจพวกเรา

นั่นก็คือการที่ทั้งสองคนได้ไปโชว์ตัวที่มาเลเซีย
ในงาน Astro Awards และได้ไปให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ
จากการที่สมาชิกบ้านอาเส่ และ บ้านชิแลม
ได้แลกเปลี่ยนรูปภาพ พูดคุยกัน พวกเราก็ได้รู้จักชาเรี่ยนมากขึ้น
เริ่มให้ความสนใจ และเมื่อได้อ่านบทสัมภาษณ์ที่ทั้งสอง
ไปให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ พวกเราก็รู้สึกประทับใจ
ในความน่ารัก เป็นกันเอง และสนิทสนมกันฉันท์พี่น้องของคนทั้งคู่
ก็เลยตั้งคลับพิเศษชาเรี่ยนขึ้น จากวันนั้น ก็บรรจบมาครบปี

ในโอกาสที่พวกเราได้มาตั้งบ้านใหม่ร่วมกัน
O-yohyo ก็เลยอยากนำบทความมาให้ทุกคน
ได้อ่านและทำความรู้จักกับชาเรี่ยนอีกครั้งค่ะ

แต่ก่อนที่จะไปอ่านบทความ ขอแนะนำผลงานของชาเรี่ยน
ที่ได้แสดงร่วมกันมา ก็มี ละคร 2 เรื่อง ภาพยนตร์ 2 เรื่อง


ละคร

1. หัวใจปรารถนา (Return of the Cuckoo)
2. ลูกผู้ชายหัวใจทรนง (Point of No Return)


ภาพยนตร์

1. The Match Point
2. Full Moon

นอกจากนี้ทั้งสองยังเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ชุดบ่าวสาว
ให้กับ Monaliza Studio (น่ารักดีล่ะ)




Credit: Youhegiya



ส่วนประวัติและผลงานของแต่ละคน ใครสนใจก็ตามลิงค์ไปอ่านได้ค่ะ


Julian Cheung Chi Lam : จางจื้อหลิน : 張智霖

http://charianclub.myfastforum.org/forum2.php


Charmaine Sheh Sze Man : เสอซือมั่น - อาเส่ : 佘詩曼

http://charianclub.myfastforum.org/forum3.php


เอาล่ะ เรามาทำความรู้จักชาเรี่ยน จากบทสัมภาษณ์นี้กันดีกว่า









MyFM Interview with Charmaine-Chilam


Interviewed on 10th Dec 05





Credit and Download Section


Download เพื่อฟังบทสัมภาษณ์ได้ที่

http://www.sharebig.com/share.php?id=s12ceirhodlRrTHBs

(Update Link 22 Dec 07)



Credit to: sehseh
Translated into English by Range



http://www.livejournal.com/users/ramsheadrange/5603.html

http://www.livejournal.com/users/ramsheadrange/6064.html

or

http://creativewish.blogspot.com/2006/02/charlian-interview-part-1.html

http://creativewish.blogspot.com/2006_02_01_creativewish_archive.html


Picture credit to:

yanyan, BeckHam, Spy008,
BABYFACE, MAGGIE, TL
爱佘爱民, 佘影迷踪, and Charmaine's fans

http://www.shehsheh.com


แปลไทยโดย: O-yohyo



คำแนะนำในการอ่านให้ได้อรรถรส

1. โหลดคลิปสัมภาษณ์ที่ให้ไว้ ระหว่างรอโหลด
   อ่านบทสัมภาษณ์ให้จบ 1 รอบ
   
   
2. เมื่อโหลดเสร็จ เปิดฟังแล้วลองเดารูปประโยคดู
   
   
3. ฟังพร้อมอ่านบทสัมภาษณ์ประกอบไปด้วย
   วัดความเก๋า เมื่อฟังและอ่านได้ตรงกัน
   สังเกตคำที่จะเป็นไกด์ได้ ก็พวกศัพท์ภาษาอังกฤษ
   หรือเสียง Wah... หรือ Yeh!! ถ้าตรงกับที่อ่าน
   นั่นแหล่ะค่ะ มาถูกทางแล้ว
   
   
   ข้อควรระวัง
   
   บทสัมภาษณ์นี้ บางส่วนเสียงไม่ชัด บางส่วนคุณพี่คุณน้องชาเรี่ยน
   ก็พูดเร็วมาก คนที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ ก็ได้ออกตัวว่า
   เค้าก็ไม่ถนัดฟังภาษาจีนกวางตุ้ง บางส่วนก็แปลไม่ออกจริงๆ
   จึงขอแปลเท่าที่แปลได้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ
   หากฟังคลิปแล้ว รู้สึกว่าบางส่วนถูกข้ามไป หรือรวบรัดจัง
   ส่วนตัว O-yohyo เองก็ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ
   มีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยนะคะ
   หากใครเห็นว่าตรงไหนผิด จะให้แก้ก็บอกกันได้ค่ะ

MyFM Interview







อาเส่: ในความคิดของฉัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศแย่ที่สุดในมาเลเซีย

MyFM: ใช่ค่ะ ช่วงนี้ผนตกตลอดเลย จางจื่อหลิน คุณชอบแสงแดดมากเลยใช่ไหมคะ

Chilam: ใช่ครับ ผมเพิ่งกลับมาจากปักกิ่ง ที่นั่นอากาศหนาวมาก จนว่ายน้ำไม่ได้เลย
คงจะดีไม่น้อยถ้าพรุ่งนี้ผมได้ว่ายน้ำก่อนทำงาน

อาเส่: จะว่ายน้ำตอนนี้เหรอ

Chilam: แน่นอน ในเมื่อผมเป็นหุ่นยนต์ ผมก็ควรจะทำได้ซิ...

อาเส่:


MyFM: อาเส่และ Chilam มา มาเลเซียครั้งนี้เพื่อโปรโมทงานประกาศรางวัล
Astro Wah Lai Toi 2005 และเพื่อเรียกคะแนนโหวต สำหรับ Chilam
ได้รับเสนอชื่อในสาขา นักแสดงนำฝ่ายชาย, เพลงยอดนิยม, ตัวละครยอดนิยม
จากเรื่อง เลือดนักสู้จอมทรนง และ แน่นอนในสาขาคู่ขวัญยอมนิยม
ทั้ง Chilam และ ‘Tou Si Mui’ (น้องอึ)

อาเส่: เส่ซี้หม่าน ต่างหากค่ะ

MyFM: Chilam, ในสาขาไหนที่คุณมีความมั่นใจมากที่สุดคะ

Chilam: ไม่เลยครับ ไม่มีความมั่นใจเท่าไหร่...

MyFM: แต่ว่าคะแนนโหวตสูงมากเลยนะคะ

Chilam: ผมรู้สึกว่าการมาครั้งนี้ ก็เพื่อพบเพื่อนๆ (แฟนคลับ) ที่มาเลย์ มากกว่า
เพราะผมไม่ได้มาที่นี่หลายปีแล้วเหมือนกันครับ
การเรียกคะแนนโหวตไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่
แต่การทักทายพบปะ แฟนๆ สำคัญกว่าครับ

MyFM: คุณอยากรู้ลำดับที่คุณได้จากคะแนนโหวต ณ ตอนนี้มั๊ยคะ

Chilam: เอาแค่นิดหน่อยก็พอครับ


MyFM: สาขานักแสดงนำชายตอนนี้คุณได้ที่สอง จากบทโจวเทียนซื่อค่ะ

Chilam: ที่ 2 ?!

MyFM: ใช่แล้วค่ะ และที่ 1 ก็คือ...

อาเส่: การโหวตต่างกันยังไงเหรอคะ?

MyFM: ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ แต่ที่ 1 ได้แก่ Mok Chok Tung, Wong Chi Wah.

Chilam: อ๋อ Chi Wah นี่เอง

MyFM: ใช่ค่ะ และสำหรับ คู่ขวัญยอมนิยม ตำแหน่งที่ 1 ตอนนี้ได้แก่...
คุณและอาเส่ค่ะ


Chilam: Wah..

อาเส่: Yay! มีโอกาส ได้รางวัลด้วย

Chilam: งั้นก็หมายความว่าพรุ่งนี้ เราก็ไม่ต้องเรียกคะแนนโหวต
ให้กับสาขานี้ซินะ


MyFM: พรุ่งนี้จะต้องสนุกแน่ๆค่ะ พวกคุณแต่ละคนจะมีรถตู้คนละ 1 คัน
และแฟนๆ ของแต่ละฝ่ายจะต้องเข้าไปอยู่ในรถตู้
แล้วพวกคุณก็จะได้คะแนนโหวต 1 คะแนน ต่อแฟน 1 คน
หมายถึงใน 4 สาขาเลยนะ

Chilam: ดีจัง Wah!

MyFM: แน่นอนให้ประโยชน์กับคุณไปเลย

MyFM: พรุ่งนี้พวกคุณต้องไปโปรโมท 4 ที่ใช่ไหมนะ
Chilam บอกว่าคะแนนโหวตไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
การพบปะแฟนๆ แล้วคุณล่ะคะ อาเส่ คุณได้รับการเสนอชื่อในสาขา
นักแสดงนำหญิง, สวยอันตราย (Lethal Beauty)
จากตัวละครเอ่อฉุน ตัวละครที่อันตราย...สวย แต่ อันตราย

อาเส่: OK

MyFM: ตัวละครยอดนิยม และคู่ขวัญยอดนิยม สำหรับตัวละครยอดนิยม
ตัวละครของคุณที่ถูกเสนอชื่อคือ เอ่อฉุน

อาเส่: Oh..okay.

MyFM: สาขาไหนคะ ที่คุณอยากชนะมากที่สุด

อาเส่: อยากชนะทุกสาขาเลยค่ะ

MyFM: จริงๆ ทุกคนก็หวังอย่างนี้แหล่ะค่ะ

อาเส่: ฉันจะทำให้ดีที่สุด...หวังว่าแฟนๆจะโหวตให้ฉันนะคะ

Chilam: ผมรู้สึกว่าคุณมีโอกาสจากสาขา สวยอันตราย สูงมากเลยนะ

MyFM: เป็นตัวละครที่โหดร้ายไงคะ เพราะผู้ชมดูศึกรักจอมราชันย์
พวกเขาก็จะคิดว่า โอ้โห ผู้หญิงพวกนี้ สามารถทำสิ่งที่โหดร้ายได้ด้วยแฮะ

อาเส่: ใช่ค่ะ ตัวละครพวกนี้ทำให้คนเกลียดได้เลย

MyFM: Chilam และอาเส่ ร่วมงานกันมาหลายครั้งแล้ว
ละครเรื่องแรกที่พวกเขาเจอกันคือ Return of the Cuckoo
และตอนนี้ เลือดนักสู้จอมทรนง ก็ถูกเสนอชื่อในสาขา
ละครยอดนิยมด้วย

Chilam: ตอนนี้อยู่ในตำแหน่งไหนเหรอครับ

MyFM: ขอค้นดูก่อนนะคะ ระหว่างรอ ทำไมคุณไม่เล่าประสบการณ์
การทำงานร่วมกันของพวกคุณบ้างล่ะ พวกคุณดูเป็นกันเองมาก
เพราะตอนที่ฉันเข้ามาห้องอัดเสียง ฉันเห็นพวกคุณ
ต่อล้อต่อเถียงกันใหญ่ ดูเหมือนว่าพวกคุณรู้จักกันดีทีเดียวนะ

Chilam: ช่าย...

*ทั้ง อาเส่ กับChilam *

MyFM: งั้น ฉันก็ไม่ควรทิ้งพวกคุณสองคนไว้ที่นี่แล้วล่ะ
ไม่อย่างนั้นพวกคุณต้องทำให้ที่นี่โกลาหลวุ่นวายแน่ๆ ...*เสียงสูง*

Chilam: อันที่จริงแล้ว นอกจากละครสองเรื่อง
พวกเราก็ยังได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์อีกสองเรื่อง
และก็เจอกันในงานโฆษณา รวมทั้งงานโปรโมทต่างๆ
ดังนั้นพวกเราก็เลยสนิทกันครับ แต่พวกเราจะเจอกันเรื่องงานซะส่วนใหญ่
ไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวด้วยกันเลย พวกเราไม่มีโอกาสเท่าไหร่
เพราะว่าพวกเรายุ่งอยู่กับงานทั้งคู่ แต่ว่าพอพวกเรามาเจอกันในงานต่างๆ
พวกเราก็มีความสุขมากครับ

MyFM: อื้อ-ฮึ งั้นระหว่างทำงาน คุณมีความทรงจำ
หรือ ประสบการณ์อะไรบ้างคะที่น่าประทับใจ

อาเส่: ฉันจำเรื่องตอนที่กำลังถ่ายทำละครเรื่องเลือดนักสู้จอมทรนง ได้ดีทีเดียว
มีบางสิ่งเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ฉันจะไม่ลืมเด็ดขาด
ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ความผิดของเขาหรอกที่โรยแป้งใส่บนหัวฉัน




Chilam: เธอมองไม่เห็นผมหรอกครับ!

อาเส่: อืม...ที่จริงตอนแรกเขาก็ไม่ได้มีส่วนร่วมนะ และ ฉันก็มองไม่เห็นเขา
แต่เขาก็เป็นคนโรยแป้งใส่บนหัวฉันแน่ๆ!

O-yohyo: ก็ขนาดแมลงสาปยังโยนใส่มาแล้ว มีรึแค่แป้ง Chilam จะพลาด

Chilam: เพื่อนร่วมงานของผมเป็นคนเริ่มก่อน แต่ว่าเขาไม่โหดร้ายพอ
ดังนั้น ผมก็เลยบอกว่า “มาผมจัดการเอง!”

อาเส่: หลังจากนั้นฉันก็เลอะแป้งตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยล่ะค่ะ!

MyFM: คุณได้แก้แค้นหรือเปล่าคะ

อาเส่: ตอนนั้นฉันต้องรีบไปงานโปรโมท ก็เลยได้แต่ขู่ว่าห้ามแกล้งกันอีกนะ

Chilam: ผมจำตอนที่พวกเรากำลังถ่ายทำละครเรื่อง Return of the Cuckoo ได้
ฉากที่อาเส่ต้องจับแมลงสาป

อาเส่: เขาน่ารำคาญมากกกกก เขา...เอ่อ รู้ว่าฉันกลัวแมลงสาปมากที่สุด
เขาก็เลยโยนแมลงสาปใส่หลังฉัน

MyFM: ยี้.....!

อาเส่: ในห้องแต่งตัวของฉันน่ะค่ะ!

Chilam: ก็สถานการณ์ตอนนั้นมันน่ากลัวมากนี่หน่า.... เธอดูเหนื่อยๆ...

อาเส่: เขาน่าโมโหมากเลยตอนนั้น!

MyFM: ปลุกให้เธอตื่นใช่ไหมคะ?

Chilam: ช่าย!






MyFM: เขาชอบแกล้งคุณตลอดเลยรึเปล่าคะ...

Chilam: ไม่.

อาเส่: ใช่...แน่นอน!

MyFM: น่า! ฮ่าฮ่า! รู้คำตอบแล้วค่ะ...

Chilam: ไม่.

อาเส่: พูดง่ายๆนะ ก็ตัวอย่างที่เล่ามานี่ไงล่ะ!

MyFM: Yalor!

Chilam: โธ่...ก็เพื่อการแสดงที่ดีไง...น่า...

อาเส่: Ya meh?

MyFM: คุณคิดว่าอาเส่เป็นยังไงคะ เธอเคยแกล้งหลอกคุณหรือเปล่า
เห็นคุณชอบแกล้งเธอตลอดเลย เธออันตรายมากหรือเปล่าคะ

Chilam: แกล้งหลอกเหรอ....ไม่มากเท่าไหร่...อันที่จริงเธอดีมากทีเดียวล่ะ

MyFM: ทำซุปให้คุณเหรอคะ?

อาเส่: ไม่เคยค่ะ

Chilam: เธอเป็นคนเข้มแข็ง สำหรับผู้หญิงแล้ว เธอแกร่งมากเลยล่ะ
เธอสามารถทำงานหนักได้โดยไม่บ่น ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า

อาเส่: แน่นอนซี้...

Chilam: ตอนนี้ก็ยังแกร่งอยู่ครับ.

MyFM: แบบนี้เรียกว่าประสบการณ์สร้างให้คนเข้มแข็ง
พวกคุณจะมีงานแสดงร่วมกันอีกไหมคะ

อาเส่: ยังไม่มีค่ะ...ทุกครั้งที่เราร่วมงานกัน กว่าจะได้รู้ ก็นาทีสุดท้ายจริงๆค่ะ
ไม่เคยได้รู้ล่วงหน้ามาก่อน

Chilam: โอกาสน้อยมากครับ ที่เราจะได้กลับมาแสดงร่วมกันอีก

MyFM: พวกคุณเคยชินกับการถูกลือหรือยังคะ ทุกครั้งที่มีละครออกมา

Chilam: ก็ไม่มีอะไรมาก

MyFM: มันดีสำหรับการโปรโมท....

Chilam: ฮ่องกงเป็นแบบนี้แหละครับ

อาเส่: ศึกรักจอมราชันย์มีข่าวลือเยอะแยะเลยล่ะค่ะ..

Chilam: แต่ผมรู้สึกเหมือนจริงมากเลยน้า.....



*เพลง Point of No Return*




To be continue......

ขอต้อนรับเข้าสู่ "MyFM Interview" ตอนจบ




*เพลง Point of No Return*


MyFM: ตอนนี้เสียงของคุณไม่ค่อยมีพลังเลยนะคะ

Chilam: น่ากลัวใช่มั๊ยครับ.

MyFM: ดังนั้นพรุ่งนี้พวก คุณต้องตื่นแต่เช้า?

Chilam: ช่าย...ตื่นแล้วก็ไปว่ายน้ำ.

MyFM: หลังจากว่ายน้ำค่อยแต่งตัว คุณชอบว่ายน้ำมากเลยเหรอคะ

Chilam: ผมไม่ได้ว่ายน้ำนานมากแล้วครับ เพราะผมไปปักกิ่งได้ 1 เดือนแล้ว
ยุ่งมากเลย จนไม่มีเวลา

MyFM: อาเส่ กิจกรรมสุดโปรดของคุณคืออะไรคะ

Chilam: เล่น mahjong

O-yohyo: คิดว่าเป็นไพ่นกกระจอก แบบที่อาฮัวเล่นในหน่วยพิฆาตนางฟ้า

อาเส่: ไม่ใช่ซะหน่อย คุณต่างหากที่ชอบเล่น

อาเส่: ฉันไม่มีกิจกรรมที่ชอบเป็นพิเศษ บางทีฉันก็ไปนวดเพื่อผ่อนคลายค่ะ


Chilam: คุณไม่ออกกำลังกายเหรอ

อาเส่: ก็นิดหน่อยน่ะ ถ้าช่วงหน้าร้อน ฉันก็อาจจะไปว่ายน้ำ

MyFM: ตอนนี้ที่ฮ่องกงหนาวมากเลยใช่มั๊ยคะ

* อาเส่ กับ Chilam ล้อเลียนการออกเสียงของ MyFM*

MyFM: ตอนนี้คุณอยู่ในตำแหน่งที่สอง ของสาขานักแสดงนำชาย

Chilam: ผมมีความสุขมากครับ

MyFM: ตอนนี้ Wong Chi Wah และ หลินฟง มีคะแนนนำอยู่
เส่ซี้หม่าน เห็นแล้วใช่ไหม นอกจาก Chilam แล้วคุณอยากให้ใครชนะคะ

Chilam: (พูดเป็นภาษาอังกฤษ) She is my die-hard fan (แฟนพันธุ์แท้)

อาเส่: ฉันจะเลือก Chilam ค่ะ แบบไม่มีข้อยกเว้น

MyFM: แต่ว่าเขาแกล้งคุณตลอดเลยนะ!




อาเส่: เขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ แต่ฉันรู้สึกว่าเขาแสดงดีมาก

Chilam: ไม่จำเป็นต้องถามผม เรื่องนักแสดงนำหญิงนะ

อาเส่: ไม่มีใครแสดงเป็นโจวเทียนซื่อได้ดีเท่าเขาอีกแล้วค่ะ

Chilam: ในละครพวกเราเด็กมากเลยครับ พวกเราต้องไปโรงเรียนด้วย

MyFM: ตอนนี้พวกเรายังไม่รู้อันดับของสาขาละครยอดนิยมเลยค่ะ
อาเส่มีละครสองเรื่องที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง

Chilam: WAH!





อาเส่: เรื่องไหนชนะ ฉันก็ดีใจทั้งนั้นค่ะ

MyFM: คุณไม่แคร์ Chilam เลยเหรอคะ คู่หูที่ดีของคุณนะ

อาเส่: เอ่อ...ก็หวังให้คุณได้รางวัลนักแสดงนำชายไง.

Chilam: OK OK.

*ทั้งสามคุยเกี่ยวกับการโหวต*

อาเส่: พวกคุณ (แฟนๆ) ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เห็นรถของพวกเรานะคะ

Chilam: เพราะว่ารถของพวกเราแต่ละคน จะมีรูปหน้าใหญ่มาก แปะอยู่ข้างรถ

MyFM: ในเลือดนักสู้จอมทรนง พวกคุณได้แสดงร่วมกับ Damien Lau
พวกคุณคิดว่าเขาเป็นยังไงคะ

อาเส่: พอมาร่วมงานความประทับใจของฉันก็เปลี่ยนไปค่ะ
ฉันเคยคิดว่าเขาเป็นคนที่เข้มงวดและดุมาก แต่ว่าที่จริงแล้ว
เขาดีมากเลย ค่อนข้างขี้เล่นด้วย

MyFM: เหมือนกับ Chilam?

อาเส่: ไม่เหมือนซักนิดค่ะ Damien จะเล่าเรื่องตลกทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย
แต่พอถึงตอนจริงจัง เขาก็จะซีเรียสมากเลย

O-yohyo: ไม่เหมือนตรงที่ อาเส่ไม่โดน Damien แกล้งไงคะ

MyFM: หมายถึงจริงจังกับการแสดงเหรอคะ

อาเส่: ใช่ ค่ะ

Chilam: ผมได้ร่วมงานกับ Damien มา 3 ครั้งแล้วครับ
ผมได้เรียนรู้จากเขาเยอะแยะเลย เขาเป็นนักแสดงที่เยี่ยมมาก

MyFM: คู่แข่งของ Damien ในสาขาพ่อดีเด่นเป็นนักแสดงรุ่นพี่
ที่มีประสบการณ์มากทั้งนั้นเลย แล้วแม่สองของคุณล่ะคะ เป็นยังไง

อาเส่: จี้เจ๊ (เจ้าหย่าจือ) เหรอคะ.

MyFM: คุณรู้สึกยังไง หลังจากได้ร่วมแสดงกับเธอ

Chilam: สวยครับ

อาเส่: สง่างาม.....สุภาพนุ่มนวล....เธอดูแลรูปร่างได้ดีมากค่ะ
เรียบร้อย...สุภาพ....ภูมิฐาน

Chilam: ยอดเยี่ยม

MyFM: คุณคิดรึเปล่าว่าเวลาเธอยิ้ม ตาของเธอสามารถแสดงถึงความรัก
Chilam: ผมไม่เคยเห็นเธอโกรธมาก่อนเลย

MyFM: จริงเหรอคะ

Chilam: ผมไม่เคยโดนโกรธมาก่อน หายากมากที่จะเห็นเธอเศร้าหรือโกรธ

MyFM: แล้วอาเส่ล่ะคะ?

Chilam: อาเส่? ก็ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ไง!

MyFM: WAAAHHHH!

อาเส่: หยุดพูดไร้สาระซะที!



Chilam: ล้อเล่นน่า

MyFM: ฉันกลัวจังเลย ต้องระวังซะแล้วเวลาอยู่ใกล้เธอ

Chilam: ผมรู้สึกสบายใจมากครับเวลาเข้าฉากกับจี้เจ๊
เพราะว่าเธอสุภาพแล้วก็ยิ้มตลอดเวลา

MyFM: คุณคิดว่าคุณควรจะเรียนรู้จากเธอไหมคะ

Chilam: แน่นอนครับ

MyFM: แล้วอาเส่ล่ะคะ คิดว่าจี้เจ๊เป็นยังไง

อาเส่: สุภาพมากค่ะ เธอทำให้บรรยากาศรอบข้างดูสบายๆ
เป็นแม่ที่ดี ไม่ว่าใครจะมาวุ่นวายอยู่ข้างๆ เธอก็จะยิ้มตลอด
ตอนที่พวกเราสองคนเล่นกัน เธอก็จะยิ้มแล้วก็ไม่เคยตะคอกใส่พวกเราเลย

MyFM: เหมือนดูการแสดงไงคะ ดูคุณสองคนแหย่กัน

อาเส่: ใช่ แต่เธอก็มีการตอบสนองเหมือนกันนะ เธอจะยิ้มให้เรา

*เพลง Return of the Cuckoo*

*เพลงในอัลบั้มของ Chilam *

MyFM: Chilam คุณช่วยแนะนำเกี่ยวกับเพลงนี้หน่อยได้ไหมคะ?

Chilam: *แนะนำเพลง*

MyFM: อาเส่ ได้ยินเพลงนี้ตอนที่เธอยังเล็กๆอยู่แน่ๆ

อาเส่: ใช่! ใช่! ใช่! ตอนนั้นฉันยังไม่เข้าวงการเลย !

Chilam: แน่นอนตอนนั้นคุณยังไม่ได้เข้าวงการ!

*อาเส่ กับ Chilam*

MyFM: เพลงนี้ดีมากๆเลย คุณซื้ออัลบัมนี้หรือยังคะ

อาเส่: ซื้อแล้วค่ะ

MyFM: ตัวละคร Hung Mo Yat Si, ทำให้ประทับใจ Chilam มั๊ยคะ

อาเส่: ที่จริงฉันไม่เคยดูละครเรื่องนี้ค่ะ

MyFM: ห๊า? คุณไม่เคยดู แต่คุณซื้ออัลบั้มเพลงมาฟังแล้ว?

อาเส่: ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงไม่ได้ดูค่ะ

MyFM: ตอนนั้นคุณคงเรียนหนักอยู่ล่ะมั้งคะ

Chilam: งั้นคุณก็พลาดละครยอมเยี่ยมไปแล้วล่ะ

อาเส่: แต่ว่าฉันซื้อ CD มาฟังจริงๆ นะ

MyFM: บางทีตอนนั้นเพลงนี้อาจจะดังมากก็ได้มั้งคะ

อาเส่: ก็คงอย่างนั้นล่ะค่ะ..

MyFM: บางทีคุณอาจจะลืม!

อาเส่: ก็มันนานมาแล้วนี่คะ!

MyFM: พวกเราพูดว่า นานมากกกก เยอะมากเลยนะ!'

Chilam: ใช่ นานมากกกก!

MyFM: Chilam อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี ตัวละครลักษณะไหนคะ
ที่คุณอยากจะลองแสดงมากที่สุด ตลอดช่วงอายุที่ผ่านมา

อาเส่: ผ่านมา 30 ปีนิดๆ !

Chilam: ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ตอนนี้ผมอยากแสดง เอ่อ ที่ยากที่สุด...
ก็น่าจะเป็นแสดงเป็นนักแสดงมั้งครับ

MyFM: นักแสดง?

Chilam: ใช่ครับในโชว์ โชว์แบบตลกๆ
บางทีมันอาจจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่

MyFM: แปลกใหม่?

Chilam: ใช่ครับ ผมเคยคิดว่าแสดงเป็นคนธรรมดาเนี่ยยากที่สุด
แต่ว่าหลังจากแสดงมาหลายบทบาท ทำไมผมเลือกที่จะแสดงเป็นนักแสดงดูบ้างล่ะ
เพราะว่ามันไม่มีความเชื่อมโยงกับคนดู การที่ต้องเชื่อมโยงกับคนดูที่ยากมาก

MyFM: เป็นความท้าทายใช่มั๊ยคะ

Chilam: ใช่ครับ

MyFM: อาเส่เข้าวงการบันเทิงมาไม่กี่ปี

*Chilam ล้อเลียน อาเส่, คนแปลเค้าได้ยินไม่ถนัด*




MyFM: ในช่วงที่อยู่วงการมานี้ ตัวละครไหนที่คุณต้องการจะเล่น
แล้วยังไม่เคยได้ลองมาก่อนบ้างคะ

Chilam: Ah Ma...

อาเส่: เป็น Ah Ma?

MyFM: เป็นแม่ของ Chilam เหรอ?

อาเส่: ไม่ค่ะ ฉันต้องการแสดงในละครตลก

Chilam: ที่จริงเลือดนักสู้จอมทรนงก็ตลกนะ ตลกแล้วก็บ้ามากๆ

MyFM: Chilam น่าตลก ตลกกว่าอาเส่รึเปล่า

อาเส่: คุณเป็นคนชอบแกล้ง

Chilam: Ya ya.

อาเส่: ยอมรับแล้วนะ

*Chilam หัวเราะเบาๆ*

อาเส่: ฉันไม่เคยแสดงละครตลกมาก่อนเลย แสดงในละครตลกเนี่ยไม่ง่ายเลย
มันมียุทธศาสตร์ที่........

MyFM: ต้องสะท้อนกลับอย่างรวดเร็ว?

อาเส่: นักแสดงทุกคนต้องร่วมมือกัน และก็ต้องมี Chemistry ที่ดีมากๆ

MyFM: คุณไม่เคยได้แสดงละครตลก เพราะอะไรเหรอคะ?
เป็นเพราะลักษณะของคุณดูเป็นคนจริงจังรึเปล่า

อาเส่: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ สงสัยต้องลองพิจารณาดู

Chilam: Ya lor. ตื่นได้แล้ว.

MyFM: คุณพูดตรงเหลือเกิน กลับมาที่อาเส่
ครั้งนี้ตัวละคร เอ่อฉุน ถูกเสนอชื่อเข้าชิงใน 3 สาขาด้วยกัน

Chilam: WOW

MyFM: Wow

Chilam: WOW


MyFM: นักแสดงนำหญิง...

Chilam: WOW!

MyFM: สวยอันตราย...

Chilam: Eeehhhh...

MyFM: และตัวละครยอดนิยม ....ก่อนที่คุณจะตัดสินใจรับเล่นบทนี้
คุณรู้สึกสับสนรึเปล่าคะ แบบตอนที่คุณได้รับเลือกให้เล่นบทนี้ คุณรู้สึกยังไง

อาเส่: ฉันรู้สึกกังวลค่ะ เพราะตอนที่ฉันอ่านบท ฉันก็รู้สึกว่า
ตัวละครนี้มีความเกลียดชังอยู่

Chilam: คุณทำได้ คุณทำได้

อาเส่: แน่นอนซี่!



MyFM: แสดงดีมากเลยค่ะ

อาเส่: ค่ะ!

อาเส่: ฉันก็กลัวว่าคนดูจะไม่ชอบ

MyFM: กลัวว่าคนดูจะคิดว่าคุณเป็นเหมือนเอ่อฉุน

*Chilam พูดขัดจังหวะ*

อาเส่: คุณไม่ได้ถูกสัมภาษณ์อยู่นะ!

O-yohyo: น่าน ...โดนดุจนได้
ป่วนจนได้เรื่องมั๊ยล่ะพี่ชาย

Chilam: Ya! วางใจได้น่า ขนาด Ah Pak ยังชอบเลย

อาเส่: จ้า...จ้า....คือฉันกลัวว่าคนดูจะไม่ชอบฉัน
แล้วก็มองว่าฉันร้ายกาจ แต่ฉันก็รู้สึกว่าการเป็นนักแสดงเนี่ย
ต้องลองบทบาทที่แตกต่างดูบ้าง และฉันก็ยังไม่เคยลองเล่นบทแบบนี้
ก็สนุกดีค่ะ แต่ว่ามันก็มีผลกระทบกับฉันเหมือนกันนะ
คือหลังจากที่ถ่ายทำเสร็จและเกือบจะได้ฉายทางโทรทัศน์
ฉันกำลังจะเซ็นสัญญาโฆษณากับสินค้าตัวหนึ่ง
แต่พวกเค้าไม่ต้องการฉันทันทีเลยล่ะ

MyFM: HAR?!?!

Chilam: ได้รับผลกระทบไม่ดีเลย!

อาเส่: ใช่ ค่ะ เพราะพวกเขาเห็นคลิปโปรโมท และในคลิปก็ดูร้ายกาจมาก

Chilam: ต้องกลายเป็นผู้หญิงไม่ดีไปซะแล้ว

O-yohyo: เอ๊า...ป่วนอีก จนได้นะพี่ชาย

อาเส่: พวกเค้าต้องการให้ฉันแสดงเป็นเหมือนพวกนางฟ้าหรือเทพธิดาน่ะค่ะ
ดังนั้นพวกเขาก็เลยบอกว่า ไอ้หยา! ไม่ได้ ไม่ได้ เราจะไม่เลือกเธอแล้ว
ส่งผลกระทบมากๆเลย

MyFM: คุณก็เลยขาดรายได้ไปเลยซิคะ?

อาเส่: ไม่หรอกค่ะ เพราะหลังจากที่ศึกรักจอมราชันย์ออกอากาศ
ก็มีคนที่ชอบเยอะเหมือนกัน

MyFM: อ้า งั้นคุณก็มีโอกาสทำเงินแล้วซิ...

MyFM: ครั้งนี้ ตัวละครโจวเทียนซื่อ ที่ Chilam แสดงถูกเสนอชื่อ
ในสาขานักแสดงชายยอดนิยม...ตัวละครยอดนิยม...แล้วก็เพลงของคุณ
ก็ถูกเสนอชื่อในสาขาเพลงละครยอดนิยม

Chilam: Yea.

MyFM: การกลับมาแสดงละครทีวีบีครั้งนี้ เพราะคุณได้เจอร่วมงานกับ Damien ใช่ไหมคะ

Chilam: ใช่ครับ, มีเส่ซี้หม่านด้วย สำคัญที่สุดเลย

MyFM: ใช่ มีเส่ซี้หม่าน ....ดังนั้นตอนที่คุณได้รับบทบาทนี้
คุณรู้สึกยังไงคะ

Chilam: มีความสุขครับ น่าพอใจมาก มีความสุขมากๆครับ

MyFM: เพราะว่ามีเส่ซี้หม่านใช่ไหมคะ.



Chilam: แต่ว่าปัญหาสำคัญก็คือ ตัวละครเด็กมากครับ
แล้วก็ซนเกินไป ถ้าตัวละครไม่ซนมากอาจจะดูดีกว่านี้ก็ได้ครับ

MyFM: คุณกังวลเหรอคะ?

Chilam: ใช่ครับ เพราะหากคุณต้องการแสดงลักษณะซุกซน
มันมีหลายวิธีมากครับ.

MyFM: คุณเป็นกังวลกับอายุของตัวละครที่เด็กมาก ๆ หรือเปล่าคะ

Chilam: ผมไม่ได้กลัวเรื่องนี้...

อาเส่: แน่ใจนะ?

O-yohyo: ยกนี้พี่ชายโดนแซวกลับบ้างแล้ว

Chilam: ไม่ได้กลัวซะหน่อย สิ่งแรกที่ผมรู้เกี่ยวกับตัวละครนื้คือ
เขาถูกตามใจและชอบใช้เงินฟุ่มเฟือย พวกเขาลดอายุลงมาเยอะเลยล่ะ

อาเส่: ช่วยฉันได้เยอะเลย คุณเข้าใจปะ

Chilam: ช่วยได้จริงเร้อ...

Chilam: ดังนั้น...เอ่อ...ตอนแรกที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้
ผมก็มีความรู้สึกที่ดีกับบทครับ

MyFM: นี่เป็นครั้งแรกที่คุณรับเล่นบทที่เด็กมากๆ เลยหรือเปล่าคะ

Chilam: ใช่ครับ ครั้งแรกเลย ตลกมากๆ

*อาเส่ ขำแบบสุดๆ*

MyFM: OK...เอ่อ...ทำไมอาเส่หัวเราะขนาดนั้นล่ะคะ
แล้วตอนที่คุณแสดงเป็น เหอเทียนซื่อ ...

Chilam: โจวเทียนซื่อ ครับ เหอซวงสี่ น่ะอาเส่ต่างหาก

อาเส่: ฉันเหอซวงสี่ค่ะ...




MyFM: ฉันเผลอรวมชื่อไปน่ะค่ะ
เหอ...โจวเทียนซื่อ อ้า...เอ่อ...โจว....โจว

Chilam: ผมเข้าใจครับ ฮ่า ฮ่า!

MyFM: วันนี้ Chilam และ อาเส่ อยู่กับเราที่ MyFM
พบกันหลังจบเพลงค่ะ


O-yohyo: DJ หน้าแตกแล้วคิดชิ่งค่ะผู้อ่าน

*เพลงของ Chilam*

MyFM: อา Chilam คนส่วนมากดูละครของคุณตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กจนกระทั่งปัจจุบัน

Chilam: อย่าพูดแบบนี้ซิครับ...คุณทำให้ผมตัวลอยแล้ว.

MyFM: ทุกครั้งที่มีตัวละครที่ทำให้ผู้ชมสนใจ
แล้วคุณก็จะหายไปช่วงหนึ่ง

Chilam: Ya.

MyFM: หลายปีที่ผ่านมา คุณแสดงบทบาทที่ทำให้ผู้ชมประทับใจ
ทำไมคุณถึงได้หายไปล่ะคะ

Chilam: ผมถูกลักพาตัวครับ!

MyFM: ทำไมคุณไม่ใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงที่ได้รับล่ะคะ?

Chilam: เพราะว่าผมมีบางสิ่งที่ต้องทำ
ไม่ใช่แค่หนึ่งอย่าง ผมต้อง....

MyFM: หาเงิน?

Chilam: Yalor. แล้วก็ดูแลครอบครัว คนเรามีหลายสิ่งที่ต้องทำ ใช่มั๊ยครับ
และแน่นอน ต้องหาเงินด้วย

MyFM: แต่ว่าหลังจากนั้น คุณก็กลับมาทำงานอีกครั้ง
คุณไม่กลัวชื่อเสียงลดลงเหรอคะ

Chilam: ก็ไม่มีอะไรมาก ผมก็ทำสิ่งที่ผมต้องการจะทำ

MyFM: ก็หมายความว่าทุกอย่างลงตัวดีแล้ว

Chilam: ใช่ครับ

MyFM: ดังนั้นตอนที่ละครดัง คุณก็ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจ?

Chilam: ใช่ครับ ตารางเวลาของผมแน่นมาก

MyFM: Wah. คนมีชื่อเสียงก็แบบนี้แหละค่ะ

Chilam: ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ขนาดนั้นตลอดเวลาหรอกครับ

MyFM: ดังนั้น ตอนที่ละครดัง คุณก็จะเป็นแบบว่า
ไม่เป็นไร ฉันไม่มีเวลามาสนใจ ครั้งต่อไปที่ฉันร่วมงานกับทีวีบี
ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีอีกแน่ๆ

Chilam: ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นครับ

MyFM: เป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ

Chilam: ผมก็ทำดีที่สุดล่ะครับ

MyFM: อะไรเป็นแรงผลักดันให้กับคุณคะ

Chilam: ก็ไม่มีอะไร ผมก็แค่ทำให้ดีที่สุด ไม่สามารถบอกได้ว่า
ใครดีกว่า และ ใครไม่ดี ทุกๆคน ก็ทำดีทั้งนั้น

MyFM: คุณไม่ได้หวังกับชื่อเสียงอะไรมากมาย

Chilam: จะดีหรือไม่ มันก็แค่ช่วงเวลาเดี๋ยวเดียว ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้อง...

MyFM: ดื้อจัง

Chilam: Ya ler.



MyFM: แล้วอาเส่ล่ะคะ

อาเส่: หือ?


MyFM: คุณรู้สึกยังไงกับชื่อเสียง?.....
อาเส่คุณหลับฝันกลางวันไปเรียบร้อยแล้ว?

Chilam: น่าเบื่อมากใช่ไหม? คุณตอบคำถามก่อนเลย

MyFM: บทบาทอะไรที่หากคุณได้รับ แล้วคุณจะรู้สึกว่าคุณ
บรรลุจุดมุ่งหมายในวงการบันเทิง...เหมือนกับนักร้องที่ต้องมีเพลงเด่น...
ดังนั้นคุณต้องการรับบทไหน...ที่คุณจะได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิง
จากทีวีบีที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว

อาเส่: ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติค่ะ

Chilam: ทำไมเคร่งขรึมจัง?

อาเส่: ไม่นะ...เอ่อ...ก็ไมใช่ว่าคุณต้องการสิ่งไหนแล้วคุณจะได้เสมอไปนี่หน่า

MyFM: คุณไม่มีแรงผลักดันเหรอคะ?

อาเส่: ทุกครั้งที่ฉันแสดง ฉันก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ

MyFM: ตอนนี้คุณกำลังยุ่งอยู่กับอะไรคะ?

อาเส่: ตอนนี้...อืม...พักผ่อนค่ะ
แล้วหลังจากนี้ฉันก็จะถ่ายทำละครเรื่องใหม่ ชื่อว่า
Phoenix Quartet.

Chilam: ดีมากๆเลย ดีมากๆ

อาเส่: เป็นช่วงเวลาจากยุคโบราณถึงยุคปัจจุบัน
มี 4 ยุคด้วยกัน....มีเรื่องราว 4 เรื่องอยู่ในนั้น
ก็เหมือนกับว่าคุณต้องแสดงถึง 4 บุคลิกด้วยกัน

MyFM: ก็หมายความว่าใน 1 เรื่อง จะมีเรื่องราวถึง 4 รูปแบบ?

อาเส่: ใช่ค่ะ

Chilam: แสดงร่วมกับใครเหรอ?

อาเส่: กับหม่าเต๋อจง

Chilam: อ้า...ดีมากๆเลย...

อาเส่: งั้นเชียว

Chilam: Ya

MyFM: ทำไมคะ Chilam...?

อาเส่: เขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ เป็นแบบนี้แหละ

MyFM: ไม่แตกต่าง

Chilam: ก็มันจริงใจกว่า



MyFM: Chilam ตอนนี้คุณยุ่งอยู่กับอะไรคะ

Chilam: ไปถ่ายละครที่ปักกิ่งครับ

MyFM: ถ่ายทำเสร็จรึยังคะ

Chilam: ยังเลย เอ่อ หลังจาก 1 เดือนกว่า ผมถึงจะกลับไปที่ฮ่องกงได้

MyFM: ตอนนี้การไปถ่ายละครที่ปักกิ่งเป็นเรื่องที่ปกติมาก
ดังนั้นตารางของคุณจะเป็นแบบนี้ตลอดรึเปล่าคะ

Chilam: ใช่ครับ ส่วนมากเลย

MyFM: อาเส่ เห็น Chilam ไปหาเงินที่เมืองจีน คุณอยากที่จะไปบ้างไหมคะ

Chilam: Chheh! จะไปได้ยังไง เธอเป็นหนึ่งใน best fa dans ของทีวีบีนะ

**ไม่รู้ว่าจะแปล fa dans ว่าอะไรดี ขอทับศัพท์นะคะ**

MyFM: งั้นก็ต้องได้เงินเยอะซิคะ?

Chilam: Top fa dan...แน่นอน ต้องอยู่กับทีวีบีครับ

MyFM: ถ้าไม่มีเธอก็แย่ซิคะ?

Chilam: Ya lor!

อาเส่: คุณก็พูดเกินไป

Chilam: ตำแหน่งเธอมั่นคงดีครับ

อาเส่: บางครั้งฉันก็รับงานข้างนอกได้เหมือนกันล่ะ

MyFM: ได้เหรอคะ?

อาเส่: ได้ค่ะ

MyFM: เพราะตารางเวลาในฮ่องกงแน่นมากหรือเปล่าคะ

อาเส่: เอ่อ...ก็ใช่ค่ะ ...แต่ถ้ามีเวลาฉันก็จะรับงานข้างนอกบ้าง
....หาเงินเล็กน้อย

MyFM: ดีค่ะดี หาเงินบ้าง

MyFM: คุณต้องดูแลครอบครัวของคุณใช่ไหมคะ

Chilam: แน่นอนครับ!

MyFM: Chilam มีภาระต้องรับผิดชอบหนักมากเลยนะคะ
ทุกครั้งที่พูดถึงครอบครัว คุณก็จะตอบว่า 'OF COURSE LAR!'

Chilam: OF COURSE LAR! สิ่งสำคัญอันดับแรกของผมคือดูแลครอบครัว

MyFM: อันดับที่สอง?

Chilam: อันดับที่สอง คือ...

MyFM: เส่ซี้หม่าน?

O-yohyo: เอ่อ...คุณดีเจคะ
หาเรื่องให้อาเส่โดนซ้อเรนเรนตีหัวซะแล้ว

Chilam: เพื่อนต่างหากล่ะ.

O-yohyo: ตอบดีมากค่ะพี่ชาย ไปรับจุ๊บจาก...
ซ้อจางงี้ จางกุ จางอ้อม จางแต๋ม จางมูน จางโตนดได้เลยค่ะ




MyFM: คุณจะดูแลเพื่อนคุณด้วยเหรอ?

Chilam: ใช่ครับ...ผมต้องเลี้ยงข้าวพวกเขา

MyFM: Wah ดีจังเลย

Chilam: Ya lar...aiya จบการสัมภาษณ์ผมจะเลี้ยงข้าวคุณ 1 มื้อ!

MyFM: Ah... ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ ขอบคุณ. OK. ทุกคนใครอยากไปบ้าง?

Chilam: ทุกคนมาได้เลย ฮ่า ฮ่า ผมพูดจริงนะ



*MyFM พูดเกี่ยวกับสถานที่ที่จะไปโปรโมทอีกครั้ง
อาเส่ กับ Chilam หัวเราะกับสำเนียงของดีเจ *



อาเส่: คุณจะว่ายน้ำหรือเปล่า? คุณจะว่ายน้ำก่อนมั๊ย?

MyFM: เขาว่ายได้นะคะ แต่ว่าจะไม่มีเวลาทานอาหาร

อาเส่: เราทานในรถตู้ได้ค่ะ

MyFM: เคยชินแล้วหรือยังคะ

Chilam: 7 seat...

*MyFM พูดเกี่ยวกับประโยชน์ของการร่วมโหวต
Chilam ร้อง WOAH!*

MyFM: OK ตอนนี้เราจะมารายงานสภาพอากาศ

Chilam: รายงานสภาพอากาศ..........จะมีฝน...73

(คนแปลเค้าแปลไม่ถูกว่า 73 อะไร)

อาเส่: แน่ใจนะ? 73?! ไม่ได้มีเขียนไว้ซะหน่อย!

Chilam: ผมจัดการเองน่า!.....

อาเส่: OK, ฉันจะไม่สนใจคุณแล้ว เอ่อ....พรุ่งนี้....อากาศใน Cheong Kong...

Chilam: ทำไมคุณแน่ใจว่า....CHEONG KONG! CHEONG KONG!

อาเส่: เงียบก่อนซี่! ต่ำสุด17, สูงสุด21 จะมีฝนและเมฆ

(There will be rain clouds / *Kan Cheng*)

Chilam: อะไรนะ? ความสัมพันธ์?

(สำเนียงภาษาจีนที่อาเส่พูด *Kan Cheng*
มีความหมายว่า ความสัมพันธ์ก็ได้ Chilam ก็เลยล้อเลียนอาเส่)

MyFM: Aiks..ขอโทษค่ะ ความผิดฉันเอง

อาเส่: จะมีฝนและเมฆมาก (There will be lots of rain clouds)

Chilam & อาเส่: ขอบคุณครับ/ค่ะ

Chilam: เจอกันพรุ่งนี้ครับ! (11 ธ.ค. 48 )

*MyFM ประกาศเกี่ยวกับสถานที่อีกครั้ง
Chilam ล้อเลียนสำเนียงของเธอ ส่วนอาเส่ก็หัวเราะไม่หยุด*

Tina ผู้จัดการสุดจ้ำม่ำ ขวัญใจอาเส่



http://idlemindsehseh.blogspot.com/2007/05/chubbier-her-manager-happier-charmaine.html



[April 20, 2007 Oriental Daily Taiwan]

Translated into English by sehseh

Translated into Thai by O-yohyo

Picture…credit: shehsheh.com







ใครที่เคยเจอตัวจริงของอาเส่ ก็คงจะได้เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาบ้าง
เธอมีชื่อว่า Tina ค่ะ วันนี้อาเส่จะมาแนะนำผู้จัดการของเธอให้พวกเราได้รู้จัก



รูปร่างเป็นเสมือนสิ่งนำโชคถึงรายได้ที่จะได้รับ



ความสัมพันธ์ของนักแสดงกับผู้จัดการก็เหมือนกับคนในครอบครัว
ฉันและ Tina ผู้จัดการของฉัน เรารู้จักกันมา 7 ปี จากคนแปลกหน้า กลายมาเป็นคนรู้ใจ
รูปร่างของ Tina เป็นเหมือนสิ่งบ่งบอกรายรับของฉันด้วย เพิ่มขึ้นทุกๆ ปีเลย
และสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดก็คือ ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ถูกกระทบด้วย อาถรรพ์ 7 ปี
(คนเป็นแฟนกัน หากยังไม่แต่งงานมักเลิกกันเมื่อคบกันมา 7 ปี)
แต่พวกเราผูกพันกันมากขึ้นทุกวัน

อันที่จริงแล้ว Tina ไม่ใช่คนที่ดูแลฉันมาแต่แรก
หลังจากการประกวดมิสฮ่องกง ฉันก็เซ็นสัญญากับทีวีบี
มีคนที่ดูแลฉันก่อนหน้านี้ และ Tina ก็มารับช่วงต่อ
ตอนแรกพวกเรายังไม่คุ้นเคยกันนักและก็ขาดการสื่อสาร
จนกระทั่งครั้งหนึ่ง พวกเราไปมาเลเซียแล้วเราก็ได้พูดคุยกันอย่างลึกซึ้ง
ตั้งแต่นั้นพวกเราก็เข้าใจกันมากขึ้น นั่นคือจุดเริ่มต้นของพวกเรา



ความประทับใจที่ไม่อาจลืมลืมเมื่อ Tina เสียสละเพื่อปกป้องฉัน



ครั้งหนึ่งพวกเราไปที่จีนแผ่นดินใหญ่ เพราะงานโปรโมท
มีขบวนพาเหรดและผู้คนจำนวนมากมาดูกัน สถานการณ์ในตอนนั้น
วุ่นวายจนไม่สามารถควบคุมได้ ทีมงานต้องติดป้ายเพื่อที่จะได้ไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชม
แต่ว่าป้ายของ Tina หลุด ระหว่างที่มีการดันกัน หน่วยรักษาความปลอดภัย
คิดว่า Tina เป็นคนที่มาดูงาน และก็เกือบจะตีเธอ
ตอนนั้นฉันรีบจับมือทั้งสองข้างของผู้รักษาความปลอดภัย
แล้วก็ตะโกนใส่เธอด้วยความโกรธ แต่ว่า Tina บอกฉันว่าให้หยุด
เธอไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกลัวเธอโดนตี
เพราะว่ามีนักข่าวอยู่เยอะแยะ และเธอก็กลัวว่าฉันจะถูกเขียนข่าวในแง่ไม่ดี
เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันซาบซึ้งมากที่เธอยอมเสียสละเพื่อฉัน
และความสัมพันธ์ของพวกเราก็พัฒนาขึ้น

นักข่าว: ทำไมถึงวาดรูปหมูเป็นตัวแทน Tina ล่ะ?

อาเส่: Hehe! เพราะว่าเธอจ้ำม่ำไงคะ
มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอเคยลดรูปร่างได้สำเร็จ แต่ว่าน่าประหลาดก็คือ
เมื่อไหร่ที่เธอลดน้ำหนัก งานของฉันก็จะลดลงเหมือนกับน้ำหนักของเธอ
แต่พอเธออ้วนขึ้น จ้ำม่ำกำลังน่ารัก เธอจะนำโชคมาให้ฉัน
ดังนั้น ฉันก็เลยบอกว่า “อย่าลดน้ำหนักอีกนะ” และอีกอย่าง
คนที่รักอาหารอย่าง Tina ก็ไม่สามารถควบคุมความหิวได้
ท้ายที่สุดเธอก็เลยเลิกคิดที่จะควบคุมน้ำหนัก

บทสัมภาษณ์ Chan Bo Wah คนเขียนบทเรื่อง หัวใจปรารถนา




Chan Bo Wah คือคนขวามือค่ะ



http://idlemindsehseh.blogspot.com/2007/05/return-on-cuckoo-feel-100.html



เมื่อสัปดาห์ทีผ่านมา เวปเสอเสอ เค้าเอาบทสัมภาษณ์คนเขียนบทฮ่องกง

มาให้อ่าน และคนเขียนบทคนนี้ ก็เขียนเรื่องหัวใจปรารถนา

sehseh เค้าก็เลยแปลเป็นภาษาอังกฤษตัดตอนมาเฉพาะที่มีอาเส่

และที่พูดเกี่ยวกับเรื่อง หัวใจปรารถนา ค่ะ น่าสนใจดีเลยเอามาให้อ่านกันบ้าง

Charmaine Sheh: My EQ have improved significantly


http://idlemindsehseh.blogspot.com/2007/08/charmaine-sheh-my-eq-have-improved.html





(แหล่งข่าว: Sina) บทสัมภาษณ์โดย Cha Siu Yan (ดีเจชื่อดังของฮ่องกง)

Translated into English by sehseh

Translated into Thai by O-yohyo




ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับ Dodo Cheng,
เสอซือมั่นเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้ชื่อว่ามีจรรยาบรรณในการโทรศัพท์ดีที่สุด
ทุกครั้งที่พวกเราส่งข้อความถึงเธอ ถึงแม้ว่าจะยุ่งแค่ไหน
แต่เธอก็ไม่เคยลืมที่จะตอบข้อความกลับมา
หรือไม่ก็ต้องแน่ใจว่า ผู้จัดการได้โทรศัพท์กลับมาถึงพวกเราแล้ว
บางครั้งหลังจากที่เธอเพิ่งตื่นจากการพักผ่อนหลังจากทำงานหนักมา
เธอก็จะโทรกลับมาทันที ทัศนคติแบบนี้หาได้ยากในวงการบันเทิง
สิ่งนี้แสดงว่าเธอตั้งใจที่จะแสดงความนับถือและทำสิ่งที่ดีที่สุดตอบกลับมา
ตั้งแต่โดนวิจารณ์ในเรื่องการแสดงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
จนถึงการพัฒนาฝีมือการแสดง และได้รับการโปรโมทให้เป็น “fadan”
นี่คือผลตอบแทนจาการขยันทำงานที่ไม่ใช่จะได้มาโดยง่าย


นักแสดงหญิงแนวหน้าของทีวีบี “เสอซือมั่น”
มีน้ำเสียงที่เหมือนคนขี้อายแต่ว่าที่จริงแล้ว
เธอมีทัศนคติที่ตรงไปตรงมาเหมือนผู้ชาย
เธอจะตรงไปตรงมากับคำตอบของเธอเสมอ
และไม่แสดงความไม่ชัดเจนเวลาที่ตอบคำถาม
การที่ต้องเจอกับการโจมตีจากข่าวในด้านลบ
ข่าวลือและคำสบประมาท ในหลายๆ รูปแบบ
แต่เธอก็ยังคงมีความสง่างามและก้าวข้ามอุปสรรคไปได้
เธอมีบุคลิกลักษณะที่จะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง

เพื่อที่จะแสดงใน Drive of Life ละครร่วมทุนระห่วาง
ทีวีบีและซีซีทีวี ในโอกาสฉลอง 10 ปีที่เกาะฮ่องกงคืนสู่จีน
อาเส่ต้องปฏิเสธละครถึง 3 เรื่อง ซึ่งนับเป็นเงินมูลค่า 6 หลัก
อย่างไรก็ดีเธอก็ไม่บ่นและบอกว่า “นี่คือการตอบแทนของฉัน”

ถ่ายทำละครเรื่องชนเรื่อง อาเส่มีเล่นละครให้กับทีวีบีมาแล้ว 30 เรื่อง
ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้วคือ 3 เรื่องต่อปี (ราว 100 ตอน)
และเธอยังต้องแบ่งเวลาสำหรับละครของแผ่นดินใหญ่ ภาพยนตร์
โฆษณาและตัวแทนผลิตภัณฑ์ การโชว์ตัวในต่างประเทศ
และการโปรโมทละคร ถึงแม้จะมี 48 ชั่วโมงต่อ 1 วัน
นั่นก็คงไม่เพียงพอ ผลตอบแทนก็คือ เธอกลายเป็นหญิงสาวที่ร่ำรวยในวงการบันเทิง

หลังจากการสัมภาษณ์ มีข่าวลือไม่ดีที่เกี่ยวข้องกับอาเส่
ปรากฏในหน้าแรกของนิตยสารซุบซิบ
พวกปาปารัชชี่ถ่ายรูปหม่าเต๋อจง เข้าไปในตึกที่อาเส่อาศัยอยู่
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ออกมาพร้อมกับเฉินเฮ่าหมิน
และนั่งรถไปรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน อย่างไรก็ดี ในนิตยสารกลับลงว่า
หม่าเต๋อจงรู้ว่าเฉินเฮ่าหมินไปบ้านของอาเส่
ดังนั้นเค้าจึงรีบไปเพื่อที่จะไล่เฉินเฮ่าหมิน คู่แข่งทางความรักไปให้พ้น
พวกเขาต่อสู้กันที่ในอพาร์ทเมนท์ของอาเส่ และเมื่อพวกเขารู้ว่า
มีนักข่าวอยู่ที่ชั้นล่าง พวกเขาก็ทำเป็นว่าเป็นเพื่อนกันและออกไปข้างนอกด้วยกัน


ความจริงก็คือ เฉินเฮ่าหมินและหม่าเต๋อจงเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว
หลังจากถ่ายละครเรื่อง ไซอิ๋ว ภาค 2 และมักจะไปเยี่ยมบ้านเพื่อพบปะกันบ่อยๆ
เฉินเฮ่าหมินอาศัยที่อพาร์ทเมนท์เดียวกับอาเส่ โดยเข้าอาศัยอยู่ชั้นล่าง
และในวันนั้น หม่าเต๋อจง ตั้งใจจะไปเยี่ยมเฉินเฮ่าหมินที่บ้าน
และออกไปทานอาหารค่ำด้วยกัน ซึ่งในวันนั้นอาเส่ไปไต้หวัน
แล้วเธอจะทำให้คนสองคนมาต่อสู้เพื่อแย่งเธอได้อย่างไร

ถูกลงข่าวว่าต่อสู้กับหม่าเต๋อจง เฉินเฮ่าหมิ่นรู้สึกว่า
สิ่งนี้ทำให้เค้าเสียภาพพจน์ ดันนั้นเค้าจีงฟ้องร้องนิตยสาร
ฉบับด้งกล่าวในชั้นศาล

สำหรับอาเส่ เธอได้โทรศัพท์กลับมาเมื่อตอนที่เธอมีเวลาว่าง
จากการถ่ายละครนอกสถานที่ เธอตอบว่า
“สำหรับเรื่องของนิตยสารฉบับนั้น ฉันขอไม่ออกความเห็น”
พวกเราถามว่า “นักข่าวพวกนั้นต้องการต่อต้านคุณรึเปล่า
พวกเขามันจะเขียนข่าวถึงคุณในแง่ไม่ดีเสมอ”
เธอตอบกลับมาว่า “บางทีนี่คงเป็นการต่อต้านล่ะมั้ง”
ฉันสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกอับจนหนทางที่จะโต้ตอบ

S: Cha Siu Yan

: Charmaine Sheh


: Charmaine Sheh



Picture Credit : shehsheh.org



หลังจากได้รับรางวัลจากทีวีบี ค่าตัวของเธอเพิ่มขึ้นและงานก็หลั่งไหลเข้ามา




S: ในปี 2005 ถึง 2006 คุณต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่คะ?


: น่าเจ็บปวดมากเลยค่ะ เพราะฉันต้องจ่ายภาษีมากกว่า 1 ล้าน
(การที่ต้องจ่ายภาษีมากกว่า 1 ล้านเหรียญ นั่นแสดงว่าเธอต้องมีรายรับ
ประมาณ 10 ล้านเหรียญ นักแสดงหลายคนหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้
แต่ว่าอาเส่ก็ยินดีที่จะตอบ ความตรงไปตรงมาของเธอชัดเจนมาก)


S: หลังจากได้รับฉายาว่า “TV Queen” (ผู้ที่ได้รับรางวัล
Best Actress and Favorite Leading Actress จากทีวีบี)
คุณจะซื้ออพาร์ทเมนท์หลังใหม่เป็นรางวัลให้กับตัวเองไหมคะ?


: ฉันเพิ่งทำการตกแต่งภายในไปใหม่เมื่อเร็วๆ นี้
ดังนั้น จึงยังไม่มีแผนที่จะย้ายไปไหนในตอนนี้ค่ะ


S: ลองบรรยายลักษณะบ้านของคุณหน่อยซี่คะ


: อพาร์ทเมนท์ทั้งหลังมีสีขาวเป็นสีพื้น
ที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดก็คือ ชั้นลับขนาดใหญ่สำหรับเก็บรองเท้า
ซึ่งจะดูเหมือนส่วนหนึ่งของกำแพง แต่เมื่อคุณผลักเข้าไป
ก็จะเจอกับรองเท้าวางเรียงรายตั้งแต่เพดานจนถึงพื้น
ฉันชอบรองเท้ามาก และมีความสุขที่ได้ซื้อรองเท้า
เวลาไปชอบปิ้ง ฉันจะไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าบ่อยนัก แต่จะซื้อรองเท้าทุกครั้ง
ดังนั้น ฉันเลยต้องสร้างชั้นเก็บรองเท้า


S: ทุกครั้งที่คุณถ่ายละคร มักจะมีข่าวลือกับดาราชายที่ร่วมเล่นด้วย
เช่น จางจื้อหลิน กัวจิ้นอัน หลินฟง อู๋จั๋วะซี หม่าเต๋อจง
เป็นเพราะคุณต้องเจอพวกเขาบ่อยๆ ระหว่างถ่ายทำ จึงทำให้เกิดความชอบพอ
หรือเป็นแค่การสร้างข่าวเพื่อโปรโมทคะ


: การที่ต้องถ่ายละครมากกว่า 100 ตอนต่อปี
ต้องเจอเพื่อนร่วมแสดงมากมาย จะเกิดความรู้สึกชอบพออย่างลึกซึ้ง ได้ยังไง?


S: ในมุมมองของคุณ คิดว่าตัวคุณเองพัฒนาในไหนบ้าง?


: ฉันเชื่อว่า E.Q. (บุคลิกภาพด้านอารมณ์) ของฉัน
การที่ต้องเจอกับข่าวลือแย่ๆ ทุกวัน
คุณคงต้องอารมณ์เสียน่าดู ถ้าคุณไม่มี E.Q. ที่สูงพอ


S: มีวิธีพิเศษ ที่จะพัฒนา E.Q. ไหมคะ?


: ฉันไม่ใช่คนที่จุกจิกเรื่องมาก แต่เป็นพวกมองโลกในแง่ดี
เมื่อต้องเจอกับปัญหาน่ารำคาญใจ พวกนักข่าวมักทำให้เป็นเรื่องยุ่งยาก
และเมื่อกล้องมาจับที่ฉันซึ่งรู้สึกหงุดหงิดในขณะนั้น
ฉันจะต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ และตอบด้วยรอยยิ้ม


S: มักจะมีข่าวว่าคุณไม่ถูกกับนักแสดงหญิง
เมื่อปีที่แล้วก็ Myolie Wu และก่อนหน้านั้นก็หลีจือ
สิ่งนี้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนในวงการไหมคะ?


: ไม่หรอกค่ะ ฉันมีเพื่อนมากมายในวงการบันเทิง
กัวเชี่ยนหนี่ กัวจิ้นอัน หลอเจียเหลียง และ หม่าเต๋อจง
พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดี ที่ฉันสามารถพูดคุยด้วยได้


S: ทำไมคุณถึงได้มาเป็นเพื่อนกับกัวเชี่ยนหนี่คะ


: เพราว่าเราสองคนมีลักษณะนิสัยที่ตรงไปตรงมาเหมือนกัน
ครั้งหนึ่งนักข่าวเคยบอกว่า ฉันกับกัวเชี่ยนหนี่ไม่ถูกัน
ในตอนนั้น พวกเรายังไม่รู้จักกันเลย
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พวกเราได้รู้จักกันและกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
พวกเรามักจะคุยความลับให้กันฟัง
ถ้าเกิดความลับรั่วไหลออกไป พวกนิตยสารซุบซิบคงเอาไปเขียนได้กำไรแน่ๆ
แล้วฉันก็ยังมีเพื่อนอีกมากมาย ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนมากกว่า 10 ปี
พวกเราพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ตอนที่ฉันถ่ายละคร
DOP และ WAB ที่แผ่นดินใหญ่ ฉันได้ร่วมงานกับนักแสดงหญิงมากมาย
ทั้งหลีจือ ไช่เส้าเฟิน เติ้งชุ่ยเหวิน พวกเธอเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดี
และมีความเป็นกันเอง หลังจากเลิกงานพวกเราทั้งหมดก็จะทานอาหารร่วมกัน
สนุกมากเลยและฉันก็ไม่ต้องเสแสร้งเวลาอยู่ร่วมกับพวกเขา


S: มีสิ่งใดบ้างที่เปลี่ยนไป ในช่วง 10 ปี ทีคุณอยู่ในวงการบันเทิง


: ฉันเรียนรู้ที่จะทำงานให้สำเร็จ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่กดดัน
เช่น การอดนอน ภาวะตึงเครียดทางอารมณ์ ฯลฯ


S: หลังจากได้รับรางวัล "Favorite Leading Actress" ในปีที่แล้ว
มีผลทำให้รายได้ของคุณเปลี่ยนแปลงไปไหมคะ


: แน่นอนค่ะ อย่าง ค่าตัวในการโชว์ตัวต่างประเทศ
ค่าตัวสำหรับการเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ จะเพิ่มขึ้นถึง 40-50 %
โดยเฉพาะช่วงที่ได้รับรางวัล ค่าตัวของฉันเพิ่มขึ้นมาก
และงานต่างๆ ก็หลั่งไหลเข้ามา




“ฉันเป็นพวกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก”



S: สิ่งไหนคะที่คุณรู้สึกสูญเสียมากที่สุด ในการที่มาเป็นนักแสดง


: สูญเสียเวลาที่อยู่ร่วมกับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ
โชคดีที่แม่ของฉันไม่ได้อยู่ในฮ่องกง
ไม่อย่างนั้นท่านคงต้องรู้สึกเหงามากแน่ๆ
แม่วางใจและไว้เนื้อเชื่อใจฉันมาก
ตั้งแต่เรียนอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ตอนอายุ 18 ปี
ฉันก็ต้องอยู่เพียงลำพัง แก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
ทุกครั้งที่ฉันเจอกับเรื่องที่ทำให้ไม่มีความสุข
สิ่งแรกที่ฉันทำก็คือ มองหาแม่ของฉัน
เพราะว่าท่านมักจะมีวิธีแก้ไขปัญหาให้กับฉันเสมอ


S: คุณจ้างคนรับใช้บ้างไหมคะ?


: ไม่ค่ะ ฉันจ้างแค่แม่บ้านทำความสะอาดรายสัปดาห์
ฉันต้องการความเป็นส่วนตัวและไม่ชอบสุงสิงกับผู้คนมากนัก
อีกอย่างงานบ้านไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉะน
ถ้าเหนื่อยมากนัก ฉันก็จะปล่อยให้แม่บ้านทำให้


S: คุณมีช่วงเวลาที่รู้สึกเศร้า หดหู่ บ้างไหมคะ?


: ครั้งนึง ฉันเลิกงานตอนตี 5 แต่ว่าต้องเริ่มงานอีกครั้งตอน 6 โมงเช้า
มีเวลาว่างแค่ 1 ชั่วโมง กลับบ้าน อาบน้ำ ล้างเครื่องสำอาง
มีเวลาเหลือแค่ 30 นาที ฉันกลัวว่าฉันจะตื่นไม่ทันหากฉันนอนหลับ
ดังนั้นฉันก็เลยโทรหาแม่ที่ฮาวาย คุยกับแม่ตลอดครึ่งชั่วโมง
ช่วงนาทีก่อนที่จะโทรศัพท์ ฉันรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน


S: ทักษะในด้านการทำอาหารของคุณเป็นอย่างไรบ้างคะ?


: ฉันเคยเข้าคอร์สเรียนทำอาหารตอนอยู่ชั่นมัธยมปลาย
และก็เรียนด้านการโรงแรมในมหาวิทยาลัย
ฉันเชื่อว่าฉันสามารถทำอาหารได้ หลักๆ ก็อาหารตะวันตก
แม่และยายของฉันทำอาหารเก่งมาก ทักษะของฉันยังไม่เท่าพวกท่าน

“ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเมา”




S: มีผู้ชายมาชอบพอคุณบ้างไหมคะ?


: มีแน่นอนค่ะ นักแสดงต้องมีลักษณะชวนมองและมีเสน่ห์
การเป็นนักแสดงนำ ต้องมีลักษณะเหล่านี้


O-yohyo: โอ้ ... ช่างถามมาได้คุณดีเจ อาเส่ก็ตอบซะตรงเชียว



S: ช่วงแรกที่คุณอยู่ในวงการบันเทิง
คุณเคยรู้สึกชอบเพื่อนร่วมแสดงจริงๆ จนถอนความรู้สึกไม่ได้ไหมคะ?


: ครั้งนึง ฉันเคยกลัวว่าจะตกหลุมรัก Sunny Chan จริงๆ
เพราะว่าเค้าแสดงเป็นคนรักของฉันในวันนึงร่วม 18 ชั่วโมง
เขาสอนฉันถึงวิธีที่จะแยกความรู้สึก
หลังจากถ่ายทำฉากโรแมนติก ให้นึกถึงข้อเสียของเขา
และคุณจะสามารถแยกความรู้สึกได้อย่างง่ายดาย


S: คุณต้องการแฟนแบบไหนคะ?


: มีเป้าหมายและความทะเยอทะยาน รักครอบครัว
ใจดีกับคนรอบข้าง มีฐานะมั่นคง สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้
เขาไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพการงาน


S: เขาต้องดูแลด้านการเงินของคุณได้ไหมคะ?


: ถ้าได้ก็ดีเลยค่ะ


S: เข้าต้องสูงกว่าคุณไหม?


: ค่ะ


S: ถ้าเกิดเขาอายุน้อยกว่าคุณล่ะ?


: ก็ได้ค่ะ แต่ว่าวัยต้องไม่ห่างกันมากนัก
เพราะว่าผู้หญิงมีความเจริญเติบโตด้านวุฒิภาวะด้านอารมณ์
เร็วกว่าพวกผู้ชาย


S: แล้วเขาคนนั้นปรากฏตัวหรือยังคะ?


: ยังเลยค่ะ ฉันอยากที่จะรักคนที่ฉันจะแต่งงานด้วย
และฉันก็ไม่ต้องการที่จะหย่าร้าง
ถ้าฉันพบผู้ชายที่ฉันรัก ฉันก็จะคิดให้รอบคอบ
ก่อนที่จะยอมรับเขา เพราะว่าฉันไม่ต้องการสร้างความยุ่งยากให้ตัวเองและคนอื่น


S: คุณเคยมีข่าวลือว่าออกเดทกับเฉินเฮ่าหมินเมื่อหลายปีที่แล้ว
จริงๆ แล้วความสัมพันธ์ของพวกคุณเป็นเช่นไรคะ?


: พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันค่ะ


S: แล้วมีโอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไหมคะ?


: เขามักจะทำงานนอกฮ่องกง ในเมื่อผู้ชายและผู้หญิง
ต้องแยกจากกันเป็นเวลานาน พวกเจ้าจะมีโอกาสที่จะสร้างความเข้าใจกันได้ยังไง
การที่ออกไปทานข้าวร่วมกันนานๆ ครั้ง
แน่นอนคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง


S: จากที่ฉันรู้มาคุณเป็นนักดื่มคนนึงเลยนะคะ


: ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเมา ฉันรู้ข้อจำกัดของตนเอง
เพราะว่าฉันอยากกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ถ้าฉันเมาก็คงจะดูแลตนเองให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัยไม่ได้






“คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง”



S: คุณเป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลมาก


: ฉันต้องรู้จักตนเองให้มาก เพราะว่าฉันอยู่เพียงลำพัง
ฉันจะมุ่งไปที่งาน และการแสดง แต่ฉันก็ต้องแยกแยะให้ชัดเจน
ว่าใครคือเพื่อนที่แท้จริงของฉัน


S: เมื่อพบเพื่อนใหม่ คุณจะระวังมั๊ยคะว่าพวกเขาต้องการอะไรจากคุณ?


: ไม่ค่ะ ความคิดเช่นนั้น จะทำให้ฉันไม่สามารถสร้างเพื่อนใหม่ได้


S: คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถและฉลาดคนหนึ่ง
การที่ต้องอาศัยเพียงลำพังในฮ่องกง ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยอ่อนบ้างไหมคะ?


: ฉันเป็นคนที่รักอิสระ และจะมองไปข้างหน้า
การที่ฉันมีทรัพย์สินส่วนตัว มีชีวิตที่มั่นคง
ชีวิตของฉันก็ไม่แย่นักหรอกค่ะ


S: คุณมีความปรารถนาที่จะเปิดโรงเรียนอนุบาลใช่ไหมคะ?


: ค่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันชักจะไม่แน่ใจแล้ว
เด็กๆ ทุกวันนี้ค่อนข้างน่าเกรงขาม
คุณต้องมีทักษะที่ดีในการที่จะสอนพวกเขา
เมื่อเร็วๆ นี้ฉันไปร่วมงานบาร์บีคิวกับเพื่อนเก่า
เพื่อนของฉันพาลุกๆ ไปด้วย ตอนที่เราเล่นเกมกัน
เด็กๆ เรียกฉันว่า “Dai Sam” (หมายถึง “ป้า” ในเชิงหยาบคาย)
พวกเขาอายุแค่ 4-5 ขวบเอง แต่ว่ามารยาทในการพูดจาไม่น่ารักเลย
ในอนาคต หากฉันมีลูกเอง ฉันจะลดงานลง 90%
เพื่อใช้เวลาในการอบรมสั่งสอนลูกๆ ของฉัน


O-yohyo: เห็นด้วยกับอาเส่ค่ะ เลี้ยงลูกเองดีที่สุด
เด็กจะเป็นอย่างคนที่เลี้ยงดูเขา ลูกอาเส่จะได้น่ารักเหมือนอาเส่
แต่อย่าเพิ่งมีลูกตอนนี้นะ อยู่เล่นละครให้พวกเราดูก่อน


S: คุณถือไหมคะ กับเรื่องการมีลูกก่อนแต่งงาน


: ไม่หรอกค่ะ ตราบเท่าที่ฉันมีฐานะทางการเงินมั่นคงพอที่จะเลี้ยงพวกเขาได้


S: คุณภูมิใจในความสำเร็จของคุณไหมคะ?


: ความสำเร็จของฉันในวันนี้มาจากการขยันทำงาน
ถึงแม้ว่า จะไม่นับว่าเป็นความสำเร็จที่สูงนัก
แต่ฉันก็มีความสุขกับชีวิตในปัจจุบ้น


S: อาเส่ ช่วยพูดถึงตัวคุณเองหน่อยซี่คะ


: พี่ Siu Yan พี่คิดว่าฉันเป็นคนยังไงคะ?


S: เป็นคนเข้มแข็ง จากคนที่ถูกเรียกว่า “มีเสียงง้องแง้ง” จนมาเป็น
”TV Queen” ไม่ถือสากับข่าวลือ มุ่งไปสู่จุดมุ่งหมาย
สร้างความฝันไปทีละก้าว


: ขอบคุณค่ะ





-จบแล้วจ้า-

Charmaine @ 巴巴閉　邊個夠我查篤撐



Recorded the interview by Bebe (โหลดคลิปรายการวิทยุได้ที่บล็อก ah-sheh.com ค่ะ)

http://www.ah-sheh.com/read-1969.html


Translated into English by sehseh

http://idlemindsehseh.blogspot.com/2008/10/charmaine.html



Translated into Thai by O-yohyo

http://charianclub.myfastforum.org/ftopic35-60.php









เสอซือมั่นไปให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ Cha Siu Yan และพูดถึงข่าวลือระหว่างเธอกับเควิน รวมถึงเรื่องราวส่วนตัว

น่าสนใจและสนุกทีเดียวค่ะ ลองอ่านกันดูนะ และถ้าฟังรายการไปด้วยจะยิ่งได้อารมณ์เหมือนร่วมนั่งฟังรายการเลยทีเดียว



1. อาเส่เพิ่งจะกลับมาจากการพักร้อนที่ยาวที่สุดตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมา (พักร้อน 3 เดือน)

อาเส่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยว่ามีข่าวลือระหว่างเธอกับเควิน อาเส่เลยรีบออนไลน์และตามอ่านข่าวก่อนที่จะตอบคำถามนักข่าว

ซึ่งตอนที่เควินไปที่อพาร์ทเมนต์ของเธอนั้น (ตามเวลาที่ข่าวลงค่ะ) อาเส่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้



2. เกี่ยวกับข่าวลือว่าอาเส่ซื้อผ้าพันคอขนส้ตว์ให้เฮียเค อาเสบอกว่าเธอแค่ไปหยุดยืนดูหน้าร้านเท่านั้น

เพราะเธอรู้สึกว่าการตกแต่งของร้านนั้นตลกดีจึงเข้าไปยืนดูหน้าร้าน (ร้านตกแต่งด้วยบิกินี่และขนสัตว์)



3. อาเส่ยอมรับว่าเธอได้เจอเควินบ่อยขึ้น เพราะว่าเธออยู่ในช่วงพักร้อน แต่ว่าส่วนมากก็อยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ

เช่น Raymond Cho และครอบครัว เมื่อถูกถามว่าจะมีโอกาสที่จะพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์ในอนาคตหรือไม่

อาเส่ตอบว่าไม่แน่ ใครจะรู้ . . เธออาจจะไปเป็นแม่ชีก็ได้นะ (อาเส่ไปเป็นแม่ชีที่ไหนบอกด้วยนะคะ จะตามไป)



4. อาเส่เป็นเพื่อนกับเควินเพราะว่าพวกเค้ารู้จักกันมา 7-8 ปีแล้ว

เควินเป็นคนที่เงียบ เคร่งขรึม สุขุม แต่ว่าไม่น่าเบื่อ อย่างไรก็ดีอย่าหวังว่าเค้าจะเป็นคนที่สนุกสนานหรือตลกนะ

เควินจะมีบุคลิกที่ตรงกันข้ามกับเฉินเฮ่าหมินซึ่งมักจะพูดติดตลกเสมอ



5. แล้วอาเส่ชอบชายหนุ่มแบบไหน, อาเส่บอกว่าเธอชอบคนที่มีความทะเยอทะยาน ขยันทำงาน รักครอบครัว และซื่อสัตย์

(เพราะว่าตัวอาเส่เองก็เป็นคนที่ขยันทำงานเช่นกัน) Cha Siu Yan ถามว่าอาเส่ชอบคนหล่อมั๊ย

อาเส่ตอบว่า . . แน่นอนซี่!! ทุกคนก็ชอบคนหล่อทั้งนั้น (เสียงอาเส่ตอนนี้ตลกดีค่ะ) อย่างไรก็ดีรูปร่างหน้าตาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด

อาเส่บอกว่าไอดอลของเธอก็คือ “เหลียงเฉาเหว่ย” (แหม่ . . หน้าเหมือนเจ๊หลิว แล้วยังชอบเฮียเหลียงเหมือนกันอีกน้อ

o-yo เคยแอบคิดด้วยล่ะ ว่าอาเส่เป็นน้องสาวหรือญาติของเจ๊หลิวรึเปล่า คนเค้าถึงบอกว่าหน้าเหมือนกันจัง)



6. เพราะว่าอาเส่เป็นดารา ดังนั้นจึงเป็นการยากสำหรับเธอที่จะออกเดท เธอค่อนข้างที่จะกลัวคนที่ตามจีบเธอแบบคุกคาม

เคยมีคนที่คิดจะจีบเธอโดยผ่านคนกลาง ซึ่งคนกลางคนนั้นชักจูงอาเส่ให้ไปกินอาหารค่ำ ซึ่งเค้าค่อนข้างจะรวยและมีคุณสมบัติที่ดี

เค้าชวนอาเส่ไปกินข้าวที่เรือยอร์ชถ้าอาเส่ยอมที่จะไปคนเดียว แต่อาเส่ไม่ชอบความคิดนี้เธอก็เลยปฏิเสธเค้าไปโดยผ่านวอยซ์เมล

(ดีแล้วค่ะที่อาเส่ไม่ยอมไป ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นคงไม่มีใครช่วยอะไรได้นะ แค่ได้อ่านก็น่ากลัวแล้ว

และก็ดีที่อาเส่ปฏิเสธผ่านวอยซ์เมลนะ เพราะถ้าไปเจอตัวอาจเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้)



7. ถึงแม้ว่าอาเส่จะยอมรับว่าชอบเงิน (ใครล่ะไม่ชอบ :q5: ) แต่เธอจะไม่แต่งงานเพราะความร่ำรวยของอีกฝ่าย

เธอต้องการคู่หูที่สามารถสื่อการกันได้และมีความสุขร่วมกัน (คงหมายถึงความสนใจที่ไปในทางเดียวกัน)

อีกอย่างเธอคิดว่าครอบครัวคนร่ำรวยมักจะค่อนข้างเข้มงวด (อาเส่เป็นคนที่รักอิสระพอสมควรค่ะ)

8. อาเส่บอกว่าเธอค่อนข้างที่จะได้รับผลกระทบจากข่าวลือ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกที่จะไม่อ่านเพราะว่าคำพูดในข่าวเหล่านั้นไม่น่ารื่นรมย์สักนิด

อีกอย่างคนที่รู้จักเธอ จะรู้ว่าเธอไม่ใช่คนประเภทขี้อาย (coy) Virginia Lok แนะนำอาเส่ว่า

อาเส่ควรที่จะออกมาแก้ข่าวลือบ้างเพราะว่าข่าวนี้มีผลกระทบต่อทั้งเควิน รอน และตัวอาเส่เอง

พวกเค้า (ทั้งสามคน) ควรที่จะปกป้องภาพพจน์ของตัวเองบ้าง ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไป



9. อาเส่ได้พูดคุยกับเควินเกี่ยวกับข่าวลือ พวกเค้าก็รู้สึกขบขันต่อข่าวลือเหล่านั้น

และรู้สึกสงสารโมเสสที่ต้องถูกนักข่าวให้ออกไปทั้งๆ ที่โมเสสนั่งอยู่ระหว่างอาเส่กับเควินอยู่ก่อนแล้ว

(อันนี้เกี่ยวกับงาน TVB-CMB เมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ)



10. อาเส่คิดว่าข่าวลือระหว่างเธอกับเฉินเฮ่าหมินเป็นข่าวเก่าแล้ว เธอได้เจอกับเฉินเฮ่าหมินครั้งนึงที่ทางเข้าอพาร์ทเม้นท์ และพวกเค้าก็ทักทายกันด้วย

เกี่ยวกับข่าวลือกับรอน เริ่มขึ้นจากตอนที่เธอติดรถของรอนเพื่อไปที่ท่าเรือมาเก๊า ในตอนนั้นอาเส่ยุ่งอยู่กับการถ่ายภาพยนตร์ Lady Iron Chef

ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับตอนที่ถ่ายละคร Drive of Life อาเส่ไม่ต้องการที่จะเสียค่าจอดรถ ดังนั้นจึงอาศัยรถของเพื่อนร่วมงานเสมอ

(คิดว่าสถานที่ในการถ่ายทำคงอยู่คนละเกาะ ทำให้อาเส่ต้องข้ามฟากไปมามั้งคะ)

แต่ก็น่าแปลก เพราะว่านักข่าวไม่เคยถ่ายรูปเธอตอนที่อาศัยรถดาราคนอื่นเลย แต่ถ่ายรูปเธอกับรอน



11. อาเส่จะหยุดการแสดงถ้าหากเธอมีลูก เพราะว่าเธอคิดว่าการให้เวลาในการดูแลบุตรเป็นสิ่งสำคัญ

เธอบอกว่าเธอต้องการที่จะแต่งงานก็เพราะเธออยากจะมีลูกนั่นเอง

Cha Siu Yan : เควินก็เคยพูดถึงเรื่องอยากแต่งงานและอยากมีลูกเหมือนกัน

อาเส่ : แน่นอน!! เควินต้องอยากแต่งงานและอยากมีลูกแล้วซี่ ก็เค้าแก่กว่าชั้นนี่หน่า



12. อาเส่ไม่กลัวถ้าจะต้องเลี้ยงลูกคนเดียว (single mother) แต่ว่าเธออยากที่จะแต่งงานก่อนที่จะมีลูก

อาเส่ชอบเด็กผู้หญิงเพราะว่าจะได้แต่งตัวให้ลูกสาวได้ และเด็กผู้หญิงก็ติดแม่มากกว่า

เธอจะไม่ยุยงให้ลูกสาวเข้าวงการบันเทิง แต่ก็จะไม่ห้ามถ้าลูกสาวของเธออยากที่จะเข้าวงการบันเทิง



13. อาเส่ยังจำเรื่องราวเมื่อครั้งที่เธอถ่ายละครที่โรงภาพยนตร์ได้ว่า ตอนนั้นเธอต้องการที่จะไปห้องน้ำ

เพื่อความปลอดภัยผู้กำกับก็เลยไปห้องน้ำกับเธอด้วย โดยเค้าบอกว่าเค้าต้องการเข้าห้องน้ำเช่นกัน

ตอนที่อาเส่ออกมาจากห้องน้ำผู้กำกับก็ยืนรออยู่ข้างนอก อาเส่รู้สึกทั้งประหลาดใจและสบายใจ

ทำให้นึกถึงว่าเป็นเวลากว่าสิบพี่แล้วที่อาเส่ไปโรงหนังและคู่เดทของเธอรอเธออยู่ที่หน้าห้องน้ำ แล้วก็นึกได้ว่าอาเส่ไม่ได้ออกเดทมานานแล้วนะเนี่ย


(ผู้กำกับช่างใจดีจังเลย ที่ไปคุ้มกันอาเส่ด้วย แต่ก็เข้าใจนะ เวลาไปถ่ายทำนอกสถานที่ บางครั้งก็เป็นอันตรายสำหรับดาราสาวๆ

ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่อาเส่จ้างผู้ช่วย เพราะเวลาอาเส่ไปไหน จะได้มี Rainbow คอยคุ้มกัน รู้สึกอบอุ่นดีค่ะ)



14. อาเส่ยอมรับว่าเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ เธอเคยเดทกับคนที่อยู่นอกวงการบันเทิง แต่ว่าก็เลิกกันหลังจากเดทกันได้ 1 ปี

1 ปีที่ผ่านไปนั้นพวกเค้าไม่เคยไปดินเนอร์ตามลำพังเกิน 5 ครั้งเลย ตอนที่ทั้งสองเริ่มออกเดทกัน อาเส่เคยถามเค้าว่า . .

ถ้าเค้าต้องถูกนักข่าวตามถ่ายภาพไปลงตามนิตยสาร เค้าจะรู้สึกอะไรมั๊ย เค้าบอกว่าไม่เป็นไร

อย่างไรก็ดี อาเส่ก็พยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่ให้เค้าต้องโดนนักข่าวติดตาม แต่พวกเค้าก็เลิกกันเพราะว่าเค้าไม่สามารถทนได้

ที่จะมีแฟนแต่ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรับรู้ได้ ถ้าหากพวกเค้าเปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะชนความเป็นส่วนตัวของฝ่ายชายก็จะเสียไป

และครอบครัวก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้นอาเส่กับแฟนนอกวงการบันเทิงจึงต้องเลิกรากันไปในที่สุด

(เฮ้อ . . น่าเศร้า หวังว่าสักวัน อาเส่คงได้เจอคนที่ใช่ เข้ากันได้ทั้งนิสัยและครอบครัว ไร้อุปสรรคในการคบหากันนะคะ)




15. อาเส่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาเพื่อนแท้ในวงการบันเทิง โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง ที่อาเส่คิดเช่นนี้ก็เพราะ

ครั้งหนึ่งอาเส่เคยถูกหักหลังโดยใครบางคน อาเส่ไม่ต้องการที่จะพูดว่าเธอคนนั้นเป็นใคร เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐาน

เธอก็ต้องการที่จะลืมเรื่องเหล่านี้และก็เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีที่พวกเธอเคยมีต่อกัน อย่างน้อยครั้งหนึ่งพวกเธอก็เคยเป็นเพื่อนกัน

อาเส่คิดว่าเป็นการเปล่าประโยชน์ที่จะเปิดเผยเพราะคงไม่มีใครให้คำอธิบายอยู่ดี เธอยังคงได้เจอกับคนๆ นั้นในงานต่างๆ บ้าง

เพื่อนที่ดีที่สุดของอาเส่ในวงการบันเทิงก็คือ “โซเนีย” ช่วงนี้อาเส่ไม่ค่อยได้เจอกับเจ๊โซเนียเลย แต่พวกเธอก็เชื่อใจกันและกันเพราะว่ามีความลับด้วยกันด้วยนะ

(ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรค่ะ สมัยตามข่าวอาเส่ใหม่ๆ อาเส่ก็เคยพูดถึงเรื่องนี้ แต่ก็เนื้อหาแบบนี้แหล่ะ คือมันเป็นเรื่องราวที่เก่ามากแล้ว

สมัยที่อาเส่เข้าวงการใหม่ๆ นู่นแน่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าอาเส่โดนหักหลังเรื่องอะไร งงๆ แต่อาเส่ไม่อยากพูดถึงก็ช่างเถอะนะ)



16. ถ้าอาเส่เจอกับ Niki Chow อาเส่ก็จะทักทายเธอ อาเส่บอกว่าเธอได้พบนิกิที่ทีวีบีก่อนหน้านี้ พวกเธอก็ทักทายกัน

อาเส่ไม่ได้พบนิกิเลยตั้งแต่มีข่าวลือ เพราะว่าอาเส่อยู่ในช่วงพักผ่อน (ก็นิกิไปถ่ายละครที่เมืองจีนไงคะ ถึงได้ไม่เจอกันไงล่ะ)



17. ระหว่างรางวัลกับสามี อาเส่จะเลือกอะไร? อาเส่เลือกสามีค่ะ เพราะว่าอาเส่ยังไม่เคยมีสามีนี่หน่า

(ตอนฟังฮาก๊ากเลยค่ะ คือเสียงอาเส่ยืนยันหนักแน่นมากว่า หัวเด็ดตีนขาดก็เลือกสามีแน่ๆ)

อาเส่ถือเรื่องแต่งงานเป็ฯเรื่องที่สำคัญมากและรู้สึกว่าความอดทนและการโอนอ่อนผ่อนตามเป็นเรื่องสำคัญในการคบหากัน

เธอยอมรับว่าเท่าที่ผ่านมาเธอค่อนข้างเป็นคนที่โอนอ่อนผ่อนตามและเชื่อฟังแฟนของเธอ การทะเลาะกันแทบจะไม่มี

อาเส่เป็นคนที่มีมารยาท ช่างเอาอกเอาใจ แต่ไม่ใช่คนที่อ่อนโยนหรือว่าง่ายเท่าไหร่นักหรอก

เธอเข้ากับคนง่ายและมักให้แฟนของเธอเป็นคนตัดสินใจ แต่เธอก็ยังคงมีจุดยืนของตัวเธอเองเช่นกัน



18. ในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ Cha Siu Yan แนะนำให้อาเส่ 'Hit Little People'

(คงหมายถึงตีหรือจัดการคนที่เป็นตัวต้นเหตุที่ปล่อยข่าวลือหรือพวกที่ซุบซิบนินทา)

อาเส่ประหลาดใจว่าจะได้ผลเหรอ แต่อาเส่คิดว่าไม่ทำจะดีกว่า เพราะถ้ามีพวกนักข่าวถ่ายภาพเธอจะทำยังไงล่ะ ไม่ดีแน่ๆ

(ดีแล้วค่ะ การใช้อารมณ์ตอบสนอง มีผลเสียมากกว่าผลดีนะ ใช้เหตุผลเป็นที่ตั้งจะดีกว่า

“มีเหตุผลไปได้ทุกที่ ไร้เหตุผลอยู่กับที่” ซุ่นฟงสอนไว้)