Charmaine Sheh dominates Singapore with her Dragon Robeshttp://idlemindsehseh.blogspot.com/2012/11/charmaine-sheh-dominates-singapore-with.html[Zaobao.com 28/11/2012]เสอซือม่าน วัย 37 ปี เดินแบบใน “ชุดคลุมมังกร” ที่สิงคโปร์
ชี้แจงว่าเธอไม่ได้รีบร้อนที่จะแต่งงาน ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา
ถ้าเธอมีโอกาสที่จะจะแต่งงาน ก็อาจจะไม่จัดพิธีฉลองแต่งงาน”
อาเส่ไปร่วมงาน Asian Couture Fashion Week ที่ Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์
เธอสวมใส่ชุดคอลเลคชั่นมังกรที่ออกแบบโดย Guo Pei เดินวางท่าอย่างสง่างามบนแคทวอล์ค
ภายใต้การจัดการพิเศษของ Guo Pei อาเส่สวมใส่ชุดคลุมมังกรและรองเท้าสูง 6 นิ้ว
อาเส่สร้างบรรยากาศที่สง่างามและดูมีพลัง อย่างไรก็ดีเธอดูโล่งใจเมื่อได้ลงจากแคทวอล์ค
มารู้ที่หลังว่าอาเส่เดินบนปลายเท้าระหว่างที่เดินอยู่บนแคทวอล์ค เธอกล่าวว่า
อาเส่ : “ฉันแสดงท่าโล่งใจก็เพราะว่าระหว่างที่กำลังเดินแบบอยู่ ฉันเหยียบชายกระโปรงตัวเองน่ะค่ะ”
เธอรู้สึกตกใจเล้กน้อย แต่เมื่อพยายามยกเท้าขึ้นเธอก็สามารถที่จะเดินต่อไปได้
เพื่อที่จะให้รูปร่างดีเมื่ออยู่บนเวที อาเส่จำต้องงดอาหารเย็นดังนั้นเธอจึงรู้สึกปวดท้อง
อาเส่ : “ฉันกลัวว่าถ้ากินมากไป จะมีหน้าท้อง ก็เลยงดอาหารเย็นในวันนั้น
ตอนนี้รู้สึกปวดท้องหน่อยๆ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฉันค่ะ”
อาเส่รู้สึกอิจฉาความสูงของเหล่านางแบบอาชีพ เธอบอกเพื่อนของเธอว่า
อาเส่ : “คงจะดีมากเลย ถ้าฉันสูงเท่ากับพวกนางแบบอาชีพ”
เพื่อน : ถ้าเธอสูงขนาดนั้นแล้วจะถ่ายละครได้เหรอ จะหานักแสดงชายสูงกว่าได้เหรอ?”
ระหว่างการสัมภาษณ์ มีช่างภาพที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทำแฟลตของกล้องหล่นจนเกือบจะตกใส่อาเส่
ทำให้เธอตกใจและร้องขึ้นว่า “อ้ายหยา” โชคดีที่อาเส่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
When shall get married? Charmaine Sheh: Leave it to Fate ในช่วงนี้อาเส่ได้รับเชิญไปงานแต่งงานของเพื่อนหลายงานด้วยกัน
อาเส่จัดเวลาให้กับเพื่อนเป็นพิเศษเพื่อที่จะได้ร่วมงานแต่งของเพื่อนในฐานะเพื่อนเจ้าสาว
เมื่อถามว่าเมื่อไหร่ที่จะถึงคราวที่อาเส่จะแต่งงานบ้าง เธอหัวเราะและกล่าวว่า
อาเส่ : “ฉันอยากจะพักก่อนค่ะ ฮี่ฮี่ ฉันรู้สึกเหนื่อยจากการมีส่วนร่วมในการเตรียมงานแต่งงาน
ถ้าฉันต้องวางแผนงานแต่งของตัวเอง สงสัยคงเหนื่อยยิ่งกว่านี้อีก”
จากนั้นอาเส่ก็พูดประโยคประจำคือ ‘ให้โชคชะตาพาไป’ เมื่อถูกถามเรื่องความรักของเธอ
เมื่อนักข่าวถามถึงงานแต่งในฝัน อาเส่ตอบมาว่า . . . . .
อาเส่ : “บางทีฉันอาจจะไม่จัดงานฉลองสมรสค่ะ เห็นจากเพื่อนๆ แล้ว
การเตรียมงานดูยิบย่อยมาก ทั้งการจัดที่นั่ง เตรียมพื้นที่และดอกไม้ตกแต่ง ฯลฯ
ต้องตัดสินใจเยอะแยะไปหมด ฉันอยากให้เป็นแบบเรียบง่ายมากกว่า”
Two superstars to return to ‘maternal home’,
dreams of working with Andy Lau and Chow Yun Fattปีหน้าทีวีบีวางแผนที่จะเชิญหลิวเต๋อหัวและโจเหวินฟะกลับมาร่วมงานด้วย
อาเส่หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับพวกเขาเช่นกัน
อาเส่ : “เป็นความฝันของฉันเลยค่ะที่จะได้ร่วมงานกับพวกเขา
ฉันก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมั้ย เพราะความเป็นไปได้นั้นน้อยมาก”
เกี่ยวกับข่าวลือที่ว่าทีวีบีวางแผนที่จะถ่ายละคร ‘You’re Hired 2’
โดยคัดอาเส่และ Dayo Wong ให้กลับมาเป็นนักแสดงนำอีกครั้ง
อาเส่บอกว่าคงจะดีมากเลย ถ้ามีการยืนยันว่าจะสร้างจริงๆ
อาเส่ : “ถ่ายละครกับ Dayo เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ทุกวัน
เขาจะคิดมุกขำๆ ให้กับบทละครที่แสดงอยู่ตลอดเลยค่ะ”
ทีวีบีจะจัดงาน Anniversary Awards ceremony ในเดือนหน้า
และอาเส่ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล TV Queen จากบท Hazel
ในละคร ‘When Heaven Burns’ อาเส่บอกว่าแค่ได้รับการเสนอชื่อก็มีความสุขแล้ว
อาเส่ : “จะชนะรางวัลหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะรางวัลมีเพียงหนึ่ง
แต่ผู้เข้าชิงมีมากมายเหลือเกิน ถ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่มีความสุข
ฉันขอเพียงแค่ตั้งใจทำงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นเพื่อผู้ชมค่ะ”
เรื่องของการร่วมงานฉลองนั้น อาเส่ชี้แจงว่าตอนนั้นเธอต้องถ่ายละครที่เมืองจีน
เธอบอกว่าถ้าตารางงานพอจะมีเวลาเหลือ ก็จะกลับมาร่วมงานฉลอง
Rumors that filming fee in Mainland China is SGD400,000 per episode
(RMB200,000 per episode) – “I don’t film for money alone.” มีข่าวลือว่าในการถ่ายละครที่เมืองจีน อาเส่ได้รับค่าตัวอยู่ที่ 150,000-200,000 RMB ต่อตอน
อย่างไรก็ดี หลักในการเลือกบทที่จะแสดงของอาเส่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน
ในช่วงปีที่ผ่านมา อาเส่มุ่งการทำงานอยู่ที่เมืองจีนและสนุกกับการแสดงบทนำ
มีข่าวลือว่าเธอได้กำไรมากมายจากการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เธอคงรวยมากทีเดียว
ไม่รู้ว่าเธอมีเคล็ดลับอะไรจะบอกหรือเธอจะให้รางวัลกับตัวเองบ้างไหม?
อาเส่ : “ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะทำอะไรกับเงินของฉันดี”
นักข่าว : คุณมีเงินมากมายเลยเหรอ?
อาเส่ : “ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ อันที่จริงการเลือกรับงานของฉันตอนนี้
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าจ้างที่จะได้ อย่างเช่นการร่วมงานเดินแบบในวันนี้
ก็เพื่อที่จะเติมเต็มความปรารถนาที่อยากมีประสบการณ์เดินแบบสักครั้งในชีวิต
บางครั้งฉันก็ถ่ายละครเพราะผู้กำกับ เพื่อนร่วมงาน บทแปลกใหม่ ไม่ใช่เพราะเงินที่ได้
สำหรับเงินที่ฉันได้รับ อย่างน้อยก็หวังว่าจะพอที่จะคอยช่วยเหลือคนในครอบครัวได้”