Welcome To Charlianz world
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


Welcome to Charlian Thai fans
 
บ้านLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 The Swordsman of Devil

Go down 
+5
O-yohyo
tomtam
lingu
tabtim
ทะเล
9 posters
ไปที่หน้า : Previous  1, 2, 3 ... , 9, 10, 11  Next
ผู้ตั้งข้อความ
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 4:43 pm

ตอนใหม่โหดหน่อยนะค่ะ ความใจร้ายของขุนพลเจิ้นยังไม่เท่าความแค้นที่เก็บซ่อนไว้ ความแค้นเพราะถูกหลอกลวงความรัก ชะตากรรมที่ไม่ต่างจากลู่ฟง ขุนพลเจิ้นคือต้นแบบที่ลู่ฟงกำลังเดินรอยตาม เพียงแต่ทางเลือกของสองคนจะต่างกันหรือไม่ ลู่ฟงเลือกที่จะล้างแค้นหรือเลือกที่จะปล่อยวาง คำตอบรออยู่ในตอนถัดไปค่ะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 4:51 pm

ไม่เกี่ยวกับฟิค แค่อยากโฆษณาเฉยๆ พรุ่งนี้ Beyond จะออนแอร์แล้วจ้า

The Swordsman of Devil - Page 10 Beyond01

คงต้องกล่าวถึงแม่นางสามในวัยเด้กก่อน ส่วนจอมยุทธ์หมากรุกจะมีบทในตอนที่ 4 ค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย tabtim เมื่อ Sun Oct 18, 2009 9:23 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน Go down
midori
ศิษย์ใหม่ชาเรี่ยน..เอ๊าะๆเฟรชๆ
ศิษย์ใหม่ชาเรี่ยน..เอ๊าะๆเฟรชๆ
midori


จำนวนข้อความ : 51
: 46
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 7:33 pm

ทับทิมจ๊า บีบอารมณ์อย่างแรงค่ะ อะไรจะใจร้ายขนาดนี้

ความแค้นมันบังตาจริงๆ นะ เด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ทำได้

555 ลู่ฟ่งคงไม่เดินตามรอยขุนพลเจิ้นหรอกนะ

ทางเลือกมีมากมายแม้จะเจ็บปวดแต่ก็ต้องก้าวผ่านไปให้ได้

เคยดูเรื่องเกี่ยวกับมือสังหาร มือสังหารก็คือมือสังหาร

หากมีหัวใจก็คือพบจุดจบ แต่พระเอกของเรื่องเลือกจะไม่เป็นมือสังหารอีกต่อไป

หนทางแม้ไม่ง่ายแต่ก็ต้องยอมรับและก้าวผ่านมันไปให้ได้

รออ่านตอนน่านะคะทับทิม ว่าแต่นึกหน้าตาลู่ฟ่งตอนเฉยเมยเย็นชา อำมหิตเล็กๆ

ออกเลยค่ะ นึกแล้วก้ให้คิดว่าเมื่อไหร่ฟงจะกลับมาเล่นร้ายแบบสุดขั้วให้คนเกลียด

กันอีกทีนะ อยากดูจัง เล่นเป็นคนดีมาเยอะแล้ว
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 8:02 pm

มามิ..บีบอารมณ์อย่างแรงเลยใช่ม๊า พี่ลู่ฟงกำลังเดินรอยตามขุนพลเจิ้น

ความรักที่ผิดหวังทำให้ลู่ฟงมีแต่ความแค้น แต่ว่าทางเลือกสุดท้ายที่พี่ลู่ฟงจะทำ

จะเหมือนกับขุนพลเจิ้นรึเปล่า อันนี้ขอบอกว่าบีบคั้นอารมณ์แม่ยกอย่างแรงค่ะ

คู่ที่เหมือนจะสบายที่สุดคือคู่ตายาย แต่แค่เหมือนจะสบายนะค่ะ อย่านิ่งนอนใจไป

พี่ลี่หูเค้าต้องทุกข์ใจเพราะชะตาของเขาถูกกำหนดด้วยมือของขุนพลเจิ้น

และต้องรับผลของการกระทำที่ผ่านมา แต่คู่ตายายที่ต้องทุกข์ใจเพราะมือ ผกก.

ที่ต้องการให้สองคนพิสูจน์รักแท้ครั้งสุดท้าย (ว่าไปนั่น) ฮ่าๆ มันใกล้จะจบแล้วค่ะ บีบคั้นกันหน่อย

ป.ล. แต่แม่ยกโหดนะเนี่ย อยากเห็นฟงเล่นบทร้ายจนคนเกลียด
ขึ้นไปข้างบน Go down
lingu
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
lingu


จำนวนข้อความ : 6491
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 9:14 pm

เริ่มต้นมาหวีดมากค่ะ ระหว่างพี่ลี่หูกับน้องเซียง ถ้าไม่มีบุคคลที่สามมา สองคนพ่อแม่ลูกก็คงอยู่อย่างมีความสุขที่สุดแล้ว Embarassed

ฉากต่อสู้ของพี่ลี่หู พี่ลู่ฟง น้องเซียงกับหม่าถง ตื่นเต้นมากค่ะ ผกก.เขียนออกมาได้ดี มองเห็นภาพเลย สงสารทั้งน้องเซียงกับพี่ลี่หู พี่ลู่ฟงกับหม่าถงโหดมั่กๆ สมกับเป็นนักฆ่าเลยง่ะ ลุ้นให้พี่หลงมาช่วยแทบแย่แต่ก็ช้ากว่าขุนพลเจิ้น ตะแรกคิดว่าน้องเซียงจะแท้งลูกตั้งแต่ตอนต่อสู้กับหม่าถง แต่ก็รอดมาได้ เด็กอึดจริงๆ แต่ต้องมาเจอความโหดร้ายของขุนพลเจิ้น ตาแก่นี่โหดสุดๆแล้ว ยังไงตอนจบขอให้ทรมานเยอะซู๊ดดเลยะนะคะ ผกก. แค้นมั่กๆ
ตอนนี้สงสารพี่ลี่หูที่สุดเลยค่ะ ต้องมาเสียลูกไปต่อหน้าต่อตา ไม่รู้ว่าต่อไปกว่าจะทำใจได้จะนานมั้ย ตอนนี้เครียด บีบอารมณ์สุดๆเลยค่ะ ดูจิ คิ้วคนอ่านขมวดปมเลยง่ะ กระซิกๆๆ Sad

ยินดีรอลุ้นติดตามมรสุมลูกสุดท้ายเพื่อพิสูจน์รักแท้ของตากับยายค่ะ ผกก. จะหนักจะหน่วงแค่ไหนก็ไม่เกี่ยงค่ะ จะได้พิสูจน์รัก และรักกันมากๆค่ะ I love you
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=linguniang&group=3]Chil
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 9:32 pm

พี่หลิน..เห็นคิ้วที่ขมวดติดกันแน่นแล้วค่ะ พี่หลงตามมาช่วยไม่ทันเพราะอยู่ในระหว่างเดินทาง

ในขณะที่ขุนพลเจิ้นเดินทางมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ก็เลยเจอพี่ลี่หูก่อน พี่ลี่หูโชคร้ายที่หนีไม่ทัน

เพราะถ้าหนีไปไกลกว่านี้ บางทีขุนพลเจิ้นอาจจะตามไม่เจอก็ได้ เขาถึงได้พบกับการสูญเสีย

มันคือชะตาที่ถูกกำหนดให้ต้องชดใช้ น่าสงสารเนอะ


พี่หลงน่าสงสารน้อยกว่าถ้าเทียบกับพี่ลี่หู พี่หลงไม่ได้ร้ายตั้งแต่แรก แต่เพราะสถานการณ์พาไป

หน้าที่ที่ต้องแบกรับ บุญคุณที่ต้องทดแทน เพราะอดีตขุนพลเจิ้นเคยช่วยชีวิตพี่หลงเอาไว้ค่ะ

คงจำได้นะค่ะที่ลูกเมียถูกฆ่า แต่สุดท้ายพี่หลงก็หันหลังให้ผู้มีพระคุณเพราะความรู้ผิดชอบชั่วดี

และที่มากกว่านั้นก็คือความรักที่บริสุทธิ์ของอี้หลาน ทำให้พี่หลงเลือกทางเดินที่ถูกต้องให้ตัวเอง

ผิดกับพี่ลี่หูที่ร้ายมาตั้งแต่ต้น เขาเกือบจะกลับตัวไม่ได้ ถ้าเขาไม่ทุ่มเททั้งชีวิตให้อี้เซียง

ไม่ได้รับรู้ถึงรสชาติของการที่จะสูญเสียคนที่รักไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
O-yohyo
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
O-yohyo


จำนวนข้อความ : 6683
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 10:00 pm

ตาหลง ยายหลาน พี่ลี่หู อี้เซียง และทุกคนคะ

วันนี้อี้โหยวสติแตกไม่สามารถอ่านฟิคได้ค่ะ

ขอมาอ่านวันศุกร์นะคะ ตอนนี้ท่านองครักษ์และแม่นางสาม

ทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว แวะมาด้วยอาการมึน
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 11:44 pm

ขอบคุณสำหรับฟิคตอนนี้ค่ะ ผู้กำกับ (จุ๊บๆๆ)


ความสุขนั้นอยู่กับเราไม่นาน Sad Sad Sad


The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_020

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_064


The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_068

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_023
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Oct 18, 2009 11:51 pm

ภาพประกอบตอนที่พี่ลู่ฟงมาแอบดูอี้เซียง Cool

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_005

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_007-1




The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_174

"ลู่ฟง" ข้าแค้นพวกเจ้าทั้งสองคน ข้าไม่มีวันปล่อยให้พวกเจ้ามีความสุข
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 12:05 am

ภาพประกอบตอนพี่ลี่หูพาอี้เซียงกลับบ้านไปหาพ่อแม่ของนางได้เจอคนของใต้เท้าเจิ้น จึงทำให้เกิดการต่อสู้กัน (ดูเฉพาะสีหน้าของพี่ลี่หูและอี้เซียงนะค่ะ Razz )

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_065

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_069


The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_047

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_163

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_053


The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_003-1


แก้ไขล่าสุดโดย ทะเล เมื่อ Mon Oct 19, 2009 12:28 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 12:07 am

ภาพประกอบตอนพี่ลี่หูอยู่บ้านไม้กลางป่าใกล้ ๆ หมู่บ้านอิงเฉิง ยืนลุ้นกับอาการบาดเจ็บของภรรยา

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_113

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_116


แก้ไขล่าสุดโดย ทะเล เมื่อ Mon Oct 19, 2009 10:52 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 12:09 am

ภาพประกอบตอนเจ๊หยูเยี่ยนอาสาไปต้มยาให้ ภรรยาของคุณชายลี่หู

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_797

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_798
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 12:18 am

ภาพประกอบตอนอี้เซียงดื่มยา ทำให้นางต้องเสียลูกในท้องไปทันที เมื่อดื่มยาไปแค่ครึ่งถ้วย

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_013

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_014-1
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 12:24 am

ภาพประกอบตอนเจ๊หยูเยี่ยนเข้ามาห้ามไม่ให้อี้เซียงดื่มยาที่นางเป็นคนต้ม

พี่ลี่หู Sad Sad Sad


The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_802

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_795


The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_088

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_141
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 12:26 am

ช่วงเก็บตก ภาพตอนพี่ลี่หูกำลังเติมความหวานให้ภรรยา Razz

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_116-1

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_132

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_135

The Swordsman of Devil - Page 10 PDVD_139
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 8:08 pm

ทะเล..ขอบคุณสำหรับภาพประกอบค่ะ ภาพเซ็ตสุดท้าย พี่ลี่หูยังแอบหวานได้อีกเน้อ อิอิ

ขอแก้ข่าวก่อน พี่ลี่หูยังไม่ได้กลับไปบ้านเจิ้นนะค่ะ แต่เป็นบ้านไม้กลางป่าใกล้ๆหมู่บ้านอิงเฉิง

บ้านหลังที่พี่ลู่ฟงมาพักรักษาตัวนั่นล่ะคะ พี่ลู่ฟงถึงได้ตามพี่ลี่หูมาทัน แล้วอีกอย่างหมู่บ้านอิงเฉิง

อยู่ห่างจากเมืองหลวงมากพอสมควร พี่หูไม่พาน้องเซียงเดินทางไกลขนาดนั้นแน่ๆ เดี๋ยวแท้งลูก

แต่ว่า..ก็แท้งลูกจนได้ เพราะความไม่ตั้งใจของพี่ลี่หูค่ะ น่าสงสารเนอะ ทำให้ลูกตาย คงเสียใจน่าดู

"ความสุขไม่เคยอยู่กับพี่ลี่หูได้นาน แค่กัพริบตา มันก็ผ่านไป"
ขึ้นไปข้างบน Go down
ทะเล
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ทะเล


จำนวนข้อความ : 1285
: 39
Registration date : 13/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptyMon Oct 19, 2009 11:01 pm

The Swordsman of Devil - Page 10 Img_9889

"หัวหน้าแก๊งขนมหวาน" ขอให้ผู้กำกับทับทิม รักษาสุขภาพ ด้วยนะครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
O-yohyo
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
O-yohyo


จำนวนข้อความ : 6683
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySat Oct 24, 2009 11:07 am

แง . . ผกก ทับทิมใจร้าย มาแยกตาหลงไปจากยายหลานได้ไง กว่าจะได้สวีทกันสองต่อสองก็ยากแสนยาก สวีทแค่ไม่ถึงครึ่งตอนก็โดนแยกจากกันแล้ว กระซิก กระซิก


พี่ลี่หูช๊อคไปเลยนะนั่น ขุนพลเจิ้นนี่ใจดำเกินความเป็นคนจริงๆ ค่ะ ขนาดสัตว์ร้ายได้เลี้ยงลูกที่ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกตัวเอง มันก็ยังมีความผูกพัน แต่นี่ขุนพลเจิ้นเลี้ยงลี่หูมา 20 กว่าปี ยังทำได้ลงคอ อยากให้พี่ลี่หูรู้ความจริงซะทีว่าขุนพลเจิ้นไม่ใช่พ่อ แม้จะเจ็บปวดแต่ก็จะได้หลุดจากบ่วงกรรมได้เดินทางที่ใสสะอาดและบริสุทธิ์สักที


คุณหลานสาวจากไปซะแล้ว ไม่อยากเรียกเป็นหมายเลขเลยค่ะ รู้สึกว่าเค้าเป็นสิ่งของยังไงไม่รู้ ยังไงเค้าก็เป็นชีวิตที่ปฏิสนธิมาแล้ว แม้จะยังไม่ได้ออกจากท้อง เค้าก็มีชีวิต คิดว่าทับทิมใจร้ายมากๆ เลยที่แต่งให้คุณหลานต้องจากไปแบบนี้ แม้จะรู้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอดสะเทือนใจไม่ได้


แม่นางหยูเยี่ยนก็น่าสงสาร คงอึดอัดใจอยากบอกจะแย่แต่ก็กลัวขุนพลเจิ้น จะเข้ามาช่วยก็ไม่ทันซะแล้ว


ลู่ฟงกับหม่าถงโหดมากๆ ค่ะ แต่คิดว่าหม่าถงโหดกว่าอย่างลู่ฟงก็เข้าใจว่าเพราะความแค้น แต่หม่าถงเนี่ยโหดอย่างเดียวไม่พอ เข้าขั้นอำมหิตไปซะแล้วทำได้แม้กระทั่งคนท้อง เรียกว่าเป็นมือสังหารจากจิตใต้สำนึกจริงๆ


ต่อไปอี้เซียงคงต้องรักษาและบำรุงตัวเองให้มาก จะได้กลับมาแข็งแรงไวไวนะคะ



The Swordsman of Devil - Page 10 Sod3201
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Nov 15, 2009 8:42 am

ตอนที่ 33

“น้องสาม..ข้าขอโทษ ถ้าข้ามาเร็วกว่านี้ ลูกของเจ้าก็คงมิต้อง...” หยูเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า มือเรียวบางของนางค่อยๆสัมผัสลงบนไหล่ของลี่หูด้วยความรู้สึกผิดต่อชายหนุ่ม ถ้านางกล้าที่จะขัดคำสั่ง ชีวิตน้อยๆที่ยังบริสุทธิ์คงได้มีโอกาสลืมตาขึ้นมามองดูโลกที่สวยงามใบนี้ แต่ความกล้าของนางมีน้อยเกินไป ทำให้นางตัดสินใจไม่เร็วพอที่จะหันหลังกลับมาห้ามอี้เซียงไม่ให้ดื่มยาเข้าไป ลี่หูหันมามองหยูเยี่ยนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ มือของเขายังคงกุมมือภรรยาที่ยังคงไม่ได้สติไว้แน่น
“อีกนานไหมกว่าอี้เซียงจะฟื้น” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง เขาเสียลูกไปแล้ว ถ้าหากต้องเสียอี้เซียงไปอีกคน เขาคงทนไม่ได้ หยูเยี่ยนเห็นแล้วก็น้ำตาไหลรู้สึกสงสารลี่หูจับหัวใจ ถึงนางจะเป็นมือสังหารก็ใช่ว่าหัวใจจะเย็นชาไร้ความรู้สึก
“ข้าถามว่าเมื่อไหร่อี้เซียงถึงจะฟื้น” ลี่หูถามซ้ำอีกครั้งเมื่อไม่ได้รับคำตอบ “พี่รองตอบข้ามาสิ ข้าเสียลูกไปแล้ว ข้าจะเสียอี้เซียงไปอีกไม่ได้” ลี่หูจับต้นแขนของหยูเยี่ยนไว้แน่นเพื่อจะเอาคำตอบ หยูเยี่ยนช่วยรักษาอี้เซียงให้แล้วก็จริง แต่นางก็หลับจนนานเกินไป นานเสียจนลี่หูกลัวว่าอี้เซียงจะไม่ยอมตื่นขึ้นมา
“น้องสามใจเย็นๆ อี้เซียงปลอดภัยแล้ว เพียงแต่ที่นางยังไม่ฟื้นเป็นเพราะร่างกายของนางยังอ่อนเพลียอยู่ เจ้าไม่ต้องห่วงนะ นางจะต้องตื่นขึ้นมาแน่ๆ ข้ารับรอง”
“พี่รองพูดจริงๆนะ” หยูเยี่ยนพยักหน้า ลี่หูจึงได้คลายมือที่บีบต้นแขนของหยูเยี่ยนออกแล้วจึงโน้มตัวลงมามองใบหน้าที่ซีดเซียวของคนรักที่ยังหลับใหล
“เจ้าต้องตื่นขึ้นมา ข้ารอเจ้าอยู่ได้ยินรึเปล่า” ลี่หูค่อยๆใช้มือสัมผัสแก้มของอี้เซียงอย่างแผ่วเบา น้ำตาของเขาหยดลงบนใบหน้าของหญิงสาว ลี่หูเห็นเช่นนั้นจึงรีบใช้นิ้วมือเกลี่ยน้ำตาของตนเองที่อยู่บนใบหน้าของอี้เซียง แต่ยิ่งใช้นิ้วมือเกลี่ยไล้ คราบน้ำตานั้นก็มิอาจจางหายไปจากใบหน้าขาวซีดของหญิงสาวที่นอนอยู่ ลี่หูกำลังร้องไห้ จากที่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้สุดท้ายก็ห้ามมันไว้ไม่อยู่ คำขอโทษคำแล้วคำเล่าหลุดออกมาจากปากของชายหนุ่มปนเสียงสะอื้น เขาเป็นคนทำร้ายอี้เซียง เขาทำให้ลูกต้องจากไป นั่นคือความจริงที่แสนเจ็บปวด ลี่หูซ่อนใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาบนไหล่ของอี้เซียง สองแขนของเขาโอบกอดร่างกายของภรรยาที่ยังไร้ความรู้สึกด้วยหัวใจที่บอบช้ำ ร่างกายของเขาสะท้านไหวด้วยแรงสะอื้นดั่งคนที่แทบจะขาดใจเสียให้ได้ และในที่สุดเสียงร่ำไห้ของลี่หูก็ช่วยปลุกอี้เซียงให้ลืมตาขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงเรียกของนางที่แผ่วเบา ลี่หูก็รีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วจึงจับมือของอี้เซียงมาแนบไว้ข้างแก้ม เพียงอี้เซียงถามถึงลูกพร้อมทั้งใช้มืออีกข้างค่อยๆสัมผัสหน้าท้องของตนเอง หัวใจของคนที่เป็นแม่ก็รับรู้ได้ถึงชีวิตน้อยๆที่ไม่ได้อยู่ในกายของนางอีกต่อไป น้ำตาของอี้เซียงก็เริ่มไหลตามด้วยเสียงร่ำไห้ที่ร้องหาลูก ลี่หูได้ยินน้ำเสียงที่คร่ำครวญของนางก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า
“อี้เซียง ข้าขอโทษ” ลี่หูยิ่งพูดก็ยิ่งร้องไห้ อี้เซียงรู้ว่าชายหนุ่มมิได้ตั้งใจจะให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น จึงยื่นมือที่แทบจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเช็ดน้ำตาให้สามี
“อย่าโทษตัวเอง พี่ลี่หู..มันไม่ใช่ความผิดของพี่แม้แต่น้อย” สองมือของอี้เซียงที่ประคองใบหน้าของลี่หูค่อยๆเลื่อนไปโอบคอของเขาไว้ ลี่หูจึงได้โน้มหน้าเข้ามาหาเพื่อจะโอบกอดอี้เซียงไว้เช่นเดียวกัน หยูเยี่ยนเฝ้ามองชายหนุ่มหญิงสาวที่กอดกันร้องไห้ด้วยความรู้สึกที่สะเทือนใจจนต้องหลั่งน้ำตา โดยที่ไม่รู้เลยว่าที่หน้าห้องเวลานี้จะมีสายตาของชายหนุ่มอีกคนที่แอบมองผ่านช่องประตูที่เปิดแง้มไว้ ลู่ฟงกำลังมองลี่หูด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ไม่มีแม้รอยยิ้มที่ได้เห็นคนที่โกรธแค้นแทบจะตายทั้งเป็นอยู่ตรงหน้า นั่นมันยังน้อยเกินไปสำหรับการชดใช้หรือนี่มันมากจนเกินไป ถึงทำให้ลู่ฟงไม่ได้รู้สึกยินดี

ณ บ้านพักกลางป่าเขตเมืองไคฟง เช้าวันนี้จิตใจของอำมาตย์ไป๋ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนมือเผลอไปปัดถ้วยน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะหล่นลงพื้นเสียงดัง เรียกให้คนที่อยู่ด้านนอกรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง ท่านไป๋เห็นฟู่เจี้ยน จอมยุทธ์เซี่ยง รองแม่ทัพกุ้ยและอี้หลานต่างเข้ามาในห้องกันพร้อมหน้า จึงต้องรีบบอกว่าท่านไม่ได้เป็นอะไรเพียงแต่ทำถ้วยน้ำชาหล่นพื้นเท่านั้น ทุกคนถึงได้วางใจและเดินออกไปจากห้อง ยกเว้นก็แต่ลูกสาวคนโตที่เดินมานั่งข้างบิดาพร้อมทั้งแตะแขนของท่านเบาๆ
“ท่านพ่อเป็นห่วงน้องเซียงหรอค่ะ” ลูกสาวถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เป็นกังวลเช่นกัน เมื่อคืนนี้นางฝันมิสู้ดีนัก แม้จะตื่นขึ้นมา นางก็ยังจำความฝันได้ไม่ลืมเลือน ภาพของน้องสาวที่มีเลือดไหลท่วมกาย
“ใช่..วันนี้พ่อรู้สึกใจคอไม่ค่อยดียังไงชอบกล ก็เลยคิดถึงอี้เซียงขึ้นมา ไม่รู้ว่าป่านนี้นางจะเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้จื่อหลงจะตามไปเจออี้เซียงรึยัง” ท่านไป๋บอกลูกสาวพลางถอนหายใจ
“ระยะทางจากเมืองหลวงไปหมู่บ้านอิงเฉิงไม่นับว่าใกล้ แต่ด้วยความสามารถของพี่หลงคงไปถึงโดยใช้เวลาไม่เกินสองวันหรอกค่ะ ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วงน้องเซียงนะคะ พี่หลงจะต้องพาน้องเซียงกลับมาหาข้ากับท่านพ่อได้แน่ๆ” ลูกสาวพยายามพูดปลอบใจบิดามิให้กังวลใจมากจนเกินไปนัก ทั้งที่ภายในใจของนางก็กังวลอยู่มิใช่น้อย กลัวว่าขุนพลเจิ้นจะตามไปเจอลี่หูกับอี้เซียงก่อนจื่อหลง ถ้าถึงตอนนั้นนางก็ไม่อยากจะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“พ่อเชื่อในความสามารถของจื่อหลงนะ แต่พ่อกลัวว่าเขาจะไปไม่ทัน” อี้หลานได้ฟังคำของบิดาก็ยิ้มไม่ออก ที่บิดาก็มีความคิดเหมือนกับนางไม่มีผิดเพี้ยน
“แต่พี่ลี่หูยังอยู่ เขาต้องคุ้มครองน้องเซียงได้อยู่แล้วค่ะ” อี้หลานหยุดคำแล้วค่อยๆกอดแขนของบิดาไว้ “ขุนพลเจิ้นกับพี่ลี่หู ยังไงก็เป็นพ่อลูกกัน ต่อให้เสือร้ายแค่ไหนก็คงไม่กินลูกของตัวเองหรอกค่ะ”
“แต่เสือร้ายอย่างขุนพลเจิ้นทำให้พ่อรู้สึกกลัวมาก เจ้าคิดดูเพียงเพื่อที่จะให้ตนเองได้บรรลุจุดมุ่งหมาย เขาถึงขนาดฝึกมือสังหารขึ้นมาโดยมีลูกชายของตนเองเป็นหนึ่งในนั้น เพื่อเอาไว้ใช้กำจัดคนที่คอยขัดขวาง มีพ่อคนไหนที่ให้ลูกทำงานแบบนี้ ฝึกให้ลูกเป็นคนที่มีจิตใจเหี้ยมโหด คงจะมีแต่ขุนพลเจิ้นคนเดียวกระมังที่ทำได้”
“ถึงขุนพลเจิ้นจะร้ายแต่ข้าก็เชื่อว่าขุนพลเจิ้นคงไม่คิดที่จะฆ่าลูกในไส้ได้ลงคอหรอกค่ะ”
“มันก็อาจจะใช่อย่างที่เจ้าว่ามา แต่พ่อก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี ถ้าในเมื่ออี้เซียงยังอยู่กับลี่หู พ่อก็คงคลายความกังวลลงไปไม่ได้ อี้หลาน..พ่อกลัวจริงๆ กลัวจื่อหลงจะตามไปช่วยพวกเขาสองคนไม่ทัน” อี้หลานยิ้มน้อยๆกุมมือของบิดาไว้แน่น
“พี่หลงต้องไปทันค่ะ ท่านพ่ออย่าห่วงเลยนะคะ” อี้หลานปลอบใจบิดาเพื่อให้ท่านสบายใจขึ้น ทั้งที่ภายในใจของนางนั้นก็นึกกลัวจนต้องแอบภาวนาขอให้จื่อหลงไปทัน “แล้วถ้าน้องเซียงกลับมาพร้อมพี่ลี่หู ท่านพ่อจะให้อภัยพวกเขาสองคนรึเปล่าคะ”
“เจ้าจะให้พ่อให้อภัยเรื่องอะไรล่ะ” ท่านไป๋เลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัย จึงทำให้อี้หลานชอบใจจนอมยิ้ม
“ก็ที่พวกเขาสองคนหนีตามกันไปไงคะ” นางแกล้งพูด
“หนีตามกันไปที่ไหน ลู่ฟงลักพาตัวอี้เซียงไป แล้วลี่หูตามไปช่วยต่างหาก พ่อไม่โกรธเรื่องนี้หรอกน่า” คำพูดของบิดายิ่งทำให้อี้หลานยิ้มกว้างรู้สึกชอบใจที่บิดายังตามมุขของนางไม่ทัน
“รวมทั้งที่ชิงสุกก่อนหาม แล้วป่านนี้ก็คงแต่งงานกันไปแล้วโดยที่ไม่บอกท่านพ่อด้วยใช่ไหมคะ”
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นถึงพ่อจะนึกตำหนิอยู่บ้าง แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วพ่อก็เห็นว่าให้รีบแต่งงานกันจะดีที่สุด หรือว่าเจ้าจะให้อี้เซียงคลอดลูกก่อนแล้วถึงค่อยแต่งอย่างงั้นหรอ พ่อว่าไม่ดีมั้ง เดี๋ยวคนอื่นจะเอาไปนินทากันได้ ถ้าจะแต่งก็แต่งกันตอนนี้นั่นล่ะดีแล้ว ส่วนเรื่องยกน้ำชาให้พ่อ เอาไว้ให้กลับมากันก่อนก็ได้” ท่านไป๋ลูบหนวดช้าๆใบหน้ามีรอยยิ้มเมื่อนึกถึงหลานและลูกสาว
“ท่านพ่อพูดแบบนี้ งั้นก็แสดงว่ายอมรับพี่ลี่หูเป็นลูกเขยแล้วสิคะ” อี้หลานก้มหน้าลงเล็กหน้าชายตามองบิดาเพื่อรอคอยคำตอบ ในใจของนางหวังว่าจะได้รับคำตอบว่า ‘ใช่’
“พ่อเคยบอกเจ้าตอนไหนว่ายอมรับลี่หูเป็นลูกเขย” ท่านไป๋พูดเสียงแข็ง ทำให้อี้หลานตาโต
“ก็เมื่อกี้ท่านพ่อยังพูดว่า..”
“ลืมไปซะ คิดเสียว่าพ่อไม่ได้พูด” ท่านไป๋พูดแทรกขึ้นมาทำหน้าตาขึงขัง ยิ่งทำให้อี้หลานแปลกใจ ทั้งที่เมื่อกี้บิดาก็เหมือนว่าจะให้อภัยลี่หูในทุกๆเรื่องไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้..
“พ่อยังไม่ได้รับน้ำชาจากเขยใหญ่แล้วจะให้พ่อรับเขยเล็กตอนนี้ได้ยังไง แค่น้องแต่งก่อนพี่มันก็ผิดธรรมเนียมอยู่แล้วนะ” ท่านไป๋เห็นอี้หลานมีสีหน้าเป็นกังวลจึงไม่คิดจะแกล้งนางต่อไปจึงได้รีบพูดประโยคถัดมาพร้อมรอยยิ้ม พอนางได้ยินเท่านั้นก็เขินจนหน้าแดงระเรื่อ
“ทำไมท่านพ่อมาพูดถึงเรื่องนี้ล่ะคะ”
“จะไม่ให้พูดได้ยังไง พ่อแก่แล้วก็อยากจะมีหลานไว้อุ้มหลานๆคน เพราะฉะนั้นเจ้าจะมัวแต่นึกถึงความสุขของน้องสาวโดยไม่นึกถึงความสุขของตัวเองไม่ได้นะ เอาไว้เสร็จเรื่องยุ่งวุ่นวายพวกนี้เมื่อไหร่ พ่อจะจัดงานให้พวกเจ้าสองคนอย่างสมเกียรติไม่ให้น้อยหน้าใครแน่ๆ”
“แล้วท่านพ่อไม่ถือที่พี่หลงเคยเป็นมือสังหารมาก่อนหรอคะ” ท่านไป๋ยิ้มอย่างมีเมตตา แตะหลังมือลูกสาวเบาๆ
“ทั้งจื่อหลงและลี่หูต่างก็เคยเป็นมือสังหารและเคยทำเรื่องผิดพลาด แต่ถ้าในเมื่อพวกเขาสำนึกกลับตัวเป็นคนใหม่ ไม่คิดร้ายต่อใครอีก พ่อก็พร้อมที่จะให้โอกาสพวกเขาสองคนเหมือนกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้พ่อจะโกรธลี่หูที่เขาเป็นคนฆ่าเทียนเซิ่น จนยอมให้อภัยเขาไม่ได้ แต่ถ้าพ่อยังทิฐิต่อไปคนที่ลำบากใจและจะเสียใจที่สุดก็คือคนกลางอย่างอี้เซียง พ่อไม่อยากทำเช่นนั้น พ่อรักพวกเจ้าสองคนจึงอยากเห็นพวกเจ้ามีความสุข ถ้าหากคนที่พวกเจ้าเลือกเป็นคนดีและรักพวกเจ้า พร้อมที่จะดูแลพวกเจ้าสองคนไปตลอดชีวิต พ่อก็จะไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว” ท่านไป๋ยิ้มแล้วถอนหายใจเบาๆอย่างหมดห่วง “ขนาดลี่หูพ่อยังให้อภัยเรื่องที่เขาทำเอาไว้ได้ แล้วนับประสาอะไรกับจื่อหลงที่พ่อยังต้องเก็บมาใส่ใจอีก เขาเป็นคนดี พ่อจะไม่ยอมปล่อยให้คนดีๆแบบนี้ให้หลุดมือไปง่ายๆหรอกน่า ยังไงก็จะให้เขามาเป็นเขยใหญ่ของบ้านเราให้ได้” ท่านไป๋กล่าวจบก็หัวเราะชอบใจใหญ่
“ท่านพ่อก็..” อี้หลานหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก “ขอบคุณค่ะ” นางโผเข้ากอดบิดา ท่านไป๋ยิ้มรับแล้วกอดร่างของลูกสาวไว้แนบอก ในชีวิตของท่านไป๋ทุ่มเทให้กับงานมาค่อนชีวิต หากผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้ ท่านจะทุ่มเทเวลาที่เหลือให้กับครอบครัว ทำหน้าที่พ่อให้กับลูกสาวทั้งสองคนเพื่อชดเชยในอดีตที่ท่านไม่เคยได้ทำหน้าที่ของพ่อโดยสมบูรณ์

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Nov 15, 2009 8:42 am

พระอาทิตย์สีแดงอมส้มที่ใกล้จะลับขอบฟ้าสะท้อนกับป้ายขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บริเวณประตูทางเข้าหมู่บ้าน ตัวอักษรที่เขียนไว้อย่างชัดเจน ที่นี่คือหมู่บ้านอิงเฉิง จอมยุทธ์หนุ่มที่อยู่บนหลังม้าใบหน้าเคร่งขรึมลอบยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะกระโดดลงมาจากหลังม้าแล้วจึงค่อยๆจูงม้าเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ชายหนุ่มกำลังคิดในใจว่าจะเริ่มต้นตามหาคนที่ต้องการพบได้จากที่ใด ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่ก็ใช่จะหาคนสองคนเจอได้ง่ายๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเริ่มต้นถามกับชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาแล้วก็หวังว่าจะได้พบกับคนที่ต้องการจะเจอตัว

กลางป่าที่ไกลจากหมู่บ้านอิงเฉิงพอสมควร ลู่ฟงนั่งอยู่เพียงลำพังที่บริเวณลานหน้าบ้าน ภายในมือของชายหนุ่มมีแหวนหยกสีเขียวสดอยู่ในมือ เขาก้มมองดูมันครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างมากเพื่อที่จะนึกทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาว่าสิ่งที่เขาได้ทำลงไปทั้งหมดมันถูกต้องแล้วหรือไม่ และสิ่งที่ได้ทำลงไปเมื่อได้เห็นผลของมันในตอนนี้มันทำให้ใจของเขาเป็นสุขหรือเป็นทุกข์มากขึ้น ในขณะที่กำลังนั่งใช้ความคิดอยู่เพียงลำพัง เจ้าของเสียงฝีเท้าที่เบาประดุจขนนกก็เดินมาใกล้ๆ ด้วยประสาทสัมผัสที่ว่องไวทำให้ลู่ฟงรับรู้ได้ว่ามีคนเดินเข้ามา
“อี้เซียงเป็นอย่างไรบ้าง” ชายหนุ่มถามทั้งที่ไม่ได้หันหน้าไปมองผู้ที่เพิ่งเดินมาถึงและกำลังย่อตัวลงนั่งข้างๆ
“นี่เจ้ายังรู้จักเป็นห่วงนางด้วยเหรอ ข้ายังนึกว่าเจ้าจะถูกความโกรธแค้นบดบังเสียจนหมดสิ้นเยื่อใยต่อนางไปแล้วเสียอีก”
“พี่รองอย่ามาประชดประชันข้าไปหน่อยเลย ข้าถามจริงๆ ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง” ลู่ฟงหันหน้าไปมองหยูเยี่ยนที่ไม่มีแม้รอยยิ้มปรากฏให้เห็น
“สภาพร่างกายของนางคงไม่เท่าไหร่ แต่สภาพจิตใจของนางแย่มาก เพราะคนที่เป็นแม่แล้วต้องมาเสียลูกไปแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้านัก”
“แต่นางก็มีพี่สามคอยปลอบใจอยู่แล้ว”
“น้องสามหลีกหนีความรู้สึกผิดที่เขาเป็นคนทำให้ลูกต้องตายไปไม่ได้หรอก ข้าว่า..ความจริงเจ้าก็น่าจะดีใจนะที่ตอนนี้น้องสามก็มีสภาพไม่ต่างไปจากคนที่ตายทั้งเป็น นั่นก็เท่ากับว่าเขาได้ชดใช้ให้กับเจ้าอย่างสาสมแล้ว” หยูเยี่ยนกล่าวประชดลู่ฟงด้วยใบหน้าที่เย็นชา แววตาของนางทำให้ลู่ฟงไม่กล้าที่จะมอง จึงได้แสร้างหัวเราะกลบเกลื่อน
“เขาทำตัวเอง ได้รับผลแบบนี้มันก็สมควรแล้ว”
“เขาทำตัวเองส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งกลับเป็นเพราะคนอื่น หรือเจ้ากล้าที่จะปฏิเสธที่น้องสามต้องมีสภาพดั่งเช่นทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นเพราะเจ้า” หยูเยี่ยนหันหน้ามาต่อว่าลู่ฟงด้วยเสียงแข็ง
“แต่ทั้งพี่สามและอี้เซียงต่างทำร้ายข้าก่อน พวกเขาทำร้ายข้า มันก็สมควรแล้วที่จะให้ข้าได้เอาคืนบ้าง” ลู่ฟงเถียงหน้าตาเคร่งขรึม อย่างไม่ยอมให้หยูเยี่ยน หญิงสาวหัวเราะเบาๆและยิ้มอย่างเย็นชาตอบ
“งั้นตอนนี้เจ้าก็คงจะรู้สึกพอใจมากสินะ แต่ทำไมสีหน้าของเจ้ากลับดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย หรือว่าเจ้ายังไม่พอใจ อยากเห็นพวกเขาตายไปต่อหน้า งั้นก็ไปสิ ในเมื่อนายท่านก็ไม่คิดที่ละเว้นชีวิตของน้องสามอีกต่อไปแล้ว เจ้าก็ไปฆ่าเขาให้ตายเสียแต่ตอนนี้ไปเลย เขาจะได้ไม่ต้องถูกนายท่านทรมานจนเหมือนตายทั้งเป็น ส่วนอี้เซียง..ถ้าจะปราณีก็ช่วยฆ่านางซะ นางจะได้พ้นทุกข์ ใจของเจ้าก็จะได้รู้สึกสบายขึ้นที่คนที่คิดแค้นไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว”
“ทำไมท่านถึงคิดว่าข้าโกรธแค้นอี้เซียงขนาดนั้น” ลู่ฟงฟังคำประชดของหยูเยี่ยนก็ลุกยืนขึ้นโต้เถียงด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ หยูเยี่ยนลุกขึ้นยืนตอบโต้ด้วยสายตาที่นิ่งเสียจนจะเดาใจได้
“งั้นคนที่เจ้าแค้นก็คงเป็นลี่หูสินะ เจ้าถึงอยากเห็นเขาย่อยยับไปต่อหน้า”
“ใช่..ข้าแค้นลี่หู เขาเป็นคนแย่งอี้เซียงไปจากข้า แย่งความรักของนางไปจากข้า”
“ผิดแล้ว..ลี่หูไม่ได้แย่งความรักของอี้เซียงไปจากเจ้า หากแต่เป็นเพราะว่านางไม่มีเคยรักเจ้าตั้งแต่แรก ลู่ฟง..ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ เหมือนที่ข้าต้องยอมรับที่พี่ใหญ่ไม่เคยมีหัวใจให้ข้า” ชายหนุ่มส่ายหน้า ยังไงเขาก็ไม่ยอมรับ เพราะถ้าไม่มีลี่หูสักคน อี้เซียงจะต้องรักเขาจนหมดหัวใจ
“พี่รองไม่เคยคิดโกรธแค้นพี่ใหญ่กับอี้หลานอย่างงั้นรึ แล้วที่พี่รองไปทำร้ายอี้หลาน ยังเรียกว่ายอมรับความจริงได้ยังไง”
“เจ้าพูดถูก ข้าเคยทำร้ายอี้หลานเพราะไม่อาจยอมรับความรู้สึกของพี่ใหญ่ที่มีต่อนางได้ แต่สุดท้ายข้าก็ต้องยอมแพ้และเป็นฝ่ายที่จะถอยออกมา เจ้ารู้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร” หยูเยี่ยนเว้นจังหวะเพื่อจะปรับโทนเสียงให้นุ่มลง “เพราะข้ารู้ดีว่า..ถึงข้าจะฝืนดึงดันต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ความรักของพี่ใหญ่ไม่ได้มีไว้เพื่อข้า หากแต่มีไว้เพื่ออี้หลานคนเดียว พี่ใหญ่ยอมเสียสละได้แม้แต่กระทั่งชีวิต กล้าที่จะทรยศต่อนายท่านโดยที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดทั้งหมด นั่นก็เพื่ออี้หลาน ซึ่งแม้ว่าข้าจะยอมตายไปต่อหน้าเพื่อให้เขาหันกลับมาสนใจข้าสักครั้ง มันก็แค่ความสงสารและเสียใจ หาใช่ความรักความผูกพันเหมือนกับที่พี่ใหญ่มีให้นาง ความรักของพวกเขาทำให้ข้าต้องยอมแพ้ ข้าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะดึงดันคิดแย่งชิง เพราะข้ายิ่งคิด ข้าก็ยิ่งแพ้ และยิ่งแพ้ ข้าก็ยิ่งเจ็บ ลู่ฟง..ความรักเป็นสิ่งที่งดงามจึงไม่ควรเป็นสาเหตุให้คนต้องมาทำร้ายกัน เราควรจะมีความสุข เมื่อเห็นคนที่เรารักมีความสุข ไม่ใช่เพราะเห็นคนที่เรารักต้องเจ็บปวดถึงขนาดนี้”
“พี่รองก็พูดได้สิ เพราะพี่รองไม่เคยถูกทำร้ายเหมือนข้า” ลู่ฟงยังคงโต้เถียง อี้เซียงทำให้เขารู้จักความรัก แต่นางก็ทำให้เขารู้จักความเจ็บปวด อี้เซียงใช้ให้เขาเป็นเงาของลี่หู มันไม่ยุติธรรม หยูเยี่ยนเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มจึงค่อยๆแตะต้นแขนของเขาเบาๆอย่างเห็นใจ
“ข้ารู้ว่าเจ้าเคยถูกทำร้าย จนทำให้ความรักเปลี่ยนเป็นความแค้น แต่เจ้าก็ได้รับการชดใช้แล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่ามันยังไม่เพียงพอ ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าก็ลองถามใจของตัวเองดูว่าตอนนี้ใจของเจ้าเป็นสุขหรือไม่ที่เห็นคนที่เจ้ารักกำลังเจ็บปวด ถามใจของเจ้าว่ายังโกรธแค้นนางอยู่หรือไม่ เจ้าไม่ต้องรีบตอบข้าตอนนี้ หากแต่ลองนึกทบทวนดูให้ดี เรื่องของความรักไม่มีใครผิดหรือว่าถูก ข้าอยากให้เจ้าลองหาคำตอบให้ตัวเอง” หยูเยี่ยนแตะต้นแขนของลู่ฟงอีกครั้งเมื่อเห็นชายหนุ่มนิ่งเงียบไป รอยยิ้มอย่างอ่อนโยนระบายอยู่บนใบหน้าของหญิงสาวให้กำลังใจชายหนุ่ม นางเชื่อว่าลู่ฟงจะหาคำตอบให้กับตัวเองได้ เหมือนกับที่นางได้พบแล้ว ไม่ดึงดัน ไม่ต่อสู้ หากแต่ปล่อยวาง แล้วจะไม่มีใครที่ต้องเจ็บปวดเพราะความรักอีกต่อไป

ภายในห้องนอนที่บัดนี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นห้องคุมขัง ประตูและหน้าต่างถูกใส่กุญแจไว้อย่างแน่นหนา เพียงเพื่อรอเวลาที่จะสำเร็จโทษคนที่อยู่ภายในเท่านั้น ชีวิตของชายหนุ่มที่ยังเหลือลมหายใจหากแต่เหมือนตายทั้งเป็น ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวต่อความตายที่รออยู่เบื้องหน้า คงมีเพียงแต่รอยน้ำตาที่มิอาจลบล้างความผิดที่กัดกินหัวใจจนบอบช้ำ ยิ่งได้เห็นหญิงสาวที่นอนอยู่ ใจของเขาก็ยิ่งเจ็บปวดไม่รู้กี่เท่า เจ็บเสียจนเขาต้องรีบเบือนหน้าหนีเพื่อหลบซ่อนน้ำตาที่มันกำลังไหลอาบแก้ม หญิงสาวที่เพิ่งจะลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นสามีนั่งหันหลังให้ จึงค่อยๆยันกายลุกขึ้นมาเพื่อจะโอบกอดเขาไว้
“พี่ลี่หู อย่าโทษตัวเองอีกเลย ข้ารู้ว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น” อี้เซียงซบใบหน้าไปบนแผ่นหลังของลี่หูพร้อมน้ำตา ลี่หูเริ่มรู้สึกได้ว่าอี้เซียงกำลังร้องไห้ จึงรีบเช็ดน้ำตาของตนเองให้แห้งแล้วรีบหันหน้ากลับไปโอบกอดนางไว้
“แต่ข้าก็อดที่จะคิดไม่ได้ ทำไมท่านพ่อต้องทำแบบนี้ ถ้าท่านต้องการจะลงโทษข้า ก็ไม่ควรทำกับเจ้าและลูก ไม่ว่ายังไงลูกของเราก็เป็นหลานของท่าน ท่านใจร้ายเกินไป ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร” ลี่หูก้มหน้าลงมามองอี้เซียงแล้วจึงใช้นิ้วมือเกลี่ยไล้คราบน้ำตาที่ข้างแก้ม “อี้เซียง..ท่านพ่อจะลงโทษข้ายังไงก็ได้ แต่ทำไมต้องให้ข้าทำร้ายลูก ข้าทำใจไม่ได้ ให้อภัยตัวเองไม่ได้จริงๆ” ลี่หูพูดถึงตรงนี้ก็น้ำตาคลอ ความรู้สึกของการสูญเสีย เขาได้เข้าใจแล้วว่ามันเจ็บปวดเพียงใด
“พี่ลี่หู..ข้ารู้ว่าพี่เสียใจ พี่อย่าได้กล่าวโทษตัวเองอีกเลย เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพี่ หากแต่เป็นคนใจร้ายคนนั้น” อี้เซียงหยุดคำพูดเพื่อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ข้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี แต่เรื่องที่ข้าจะบอกพี่ต่อจากนี้ ข้าอยากให้พี่รับปากข้าก่อนว่าพี่จะไม่ทำอะไรวู่วาม พี่ลี่หู..พี่จะรับปากข้าได้ไหม”
“ได้ ข้ารับปาก” ลี่หูเห็นสีหน้าจริงจังของอี้เซียง จึงได้รับปากเพราะรู้ว่านางคงไม่ได้แกล้งพูด หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าอีกครั้งและจึงผละออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มเพื่อที่จะกุมมือของเขาไว้
“พี่ลี่หู..ข้าขอโทษที่ข้าไม่ได้บอกความจริงที่พี่ควรจะรู้ตั้งแต่แรก ความจริงแล้วขุนพลเจิ้นไม่ใช่บิดาบังเกิดเกล้าของพี่ แต่เขาเป็น..เขาเป็น..” อี้เซียงอ้ำอึ้งและบีบมือของลี่หูไว้แน่นเมื่อเห็นแววตาที่มีความสงสัยปนอยู่
“เขาไม่ใช่พ่อของข้าแล้วเขาเป็นอะไร” อี้เซียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วกลั้นใจพูดในสิ่งที่นางควรจะพูด
“ขุนพลเจิ้นเป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่บังเกิดเกล้าของพี่” ความจริงที่เพิ่งหลุดออกมาจากปากของอี้เซียง ทำให้ลี่หูรู้สึกมึนงงไปชั่วครู่ พอตั้งสติได้เขาก็เริ่มถามอี้เซียงด้วยน้ำเสียงสั่น อี้เซียงจึงได้เล่าความจริงที่นางรู้มาจากปากของท่านน้าเถาให้ลี่หูฟัง ทุกถ้อยคำ ทุกลำดับเหตุการณ์ทำให้ลี่หูเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด เหตุใดขุนพลเจิ้นถึงได้เกลียดชังจนทำร้ายเขาถึงขนาดนี้ ลี่หูได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทั้งหมดก็เพื่อระบายความโกรธแค้นที่ขุนพลเจิ้นมีต่อบิดามารดาบังเกิดเกล้าของชายหนุ่ม มันช่างเป็นความอยุติธรรมและโหดร้าย จนลี่หูมิอาจจะยอมรับความจริงนี้ได้ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดจนเส้นเลือดบวมบูดที่ขมับทั้งสองข้าง เสียงขบกรามเพื่อระงับความโกรธที่กำลังปะทุขึ้น มือทั้งสองกำจนแน่น อี้เซียงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของลี่หูที่ทั้งผิดหวัง เสียใจและโกรธแค้นคนที่เขาเคารพรักมาโดยตลอด ซึ่งแท้จริงก็คือฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ นางจึงรีบกอดลี่หูเอาไว้แน่นเพื่อที่รั้งสติของเขากลับคืนมาให้ได้
“พี่สัญญากับข้าแล้วนะว่าพี่จะไม่ทำอะไรวู่วาม” นางพูดพลางกอดลี่หูแน่นขึ้น แต่ลี่หูยังคงนิ่งเงียบ ดวงตาของเขาแดงก่ำเพราะเต็มไปด้วยเพลิงแค้น
“อี้เซียง..ข้าขอโทษ ข้าต้องผิดสัญญากับเจ้าแล้ว” ลี่หูเน้นเสียงแล้วผละร่างของอี้เซียงออกแล้วลุกขึ้นจะเดินออกไป แต่อี้เซียงก็รีบลุกตามมากอดเข้าไว้ด้านหลัง
“พี่ลี่หูอย่าไปนะคะ ที่ข้าไม่บอกพี่ตั้งแต่แรกก็เพราะข้าไม่ต้องการให้พี่อยู่กับความแค้น ไม่ต้องการให้พี่ต้องไปจับกระบี่ฆ่าใครอีก ข้าแค่ต้องการให้พี่อยู่กับข้า ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบสุข ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครอีก พี่จำไม่ได้แล้วเหรอว่าเราสัญญากันไว้ว่ายังไง”
“ข้าจำได้ แต่กับคนที่ฆ่าพ่อแม่ เจ้าจะให้ข้ายอมปล่อยไว้อย่างงี้ไม่ได้ ข้าจะต้องให้เขาชดใช้” ลี่หูพยายามแกะมือของอี้เซียงออก แต่นางก็ไม่ยอมแพ้กลับยิ่งกอดเขาไว้แน่นกว่าเดิม
“ข้ารู้ว่าพี่อยากล้างแค้นให้พ่อแม่ แต่ถ้าพี่ลงมือตอนนี้แล้วเกิดพี่เป็นอะไรขึ้นมา ข้าจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร”
“ข้าจะต้องไม่แพ้ ข้าจะต้องชนะ” ลี่หูบอกอี้เซียงด้วยเสียงที่หนักแน่น อี้เซียงส่ายหน้าไปมาแล้วซบหน้าลงที่กลางหลังของลี่หู
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Nov 15, 2009 8:43 am

“แต่ข้ากลัว..พี่ลี่หูเชื่อข้าสักครั้งได้ไหม อย่าเพิ่งทำอะไรตอนนี้ ล้างแค้นอีกสิบปีก็ยังไม่สายนะคะ” นางพยายามพูดเพื่อที่จะเปลี่ยนใจของลี่หูให้ได้ แต่ทว่าใจที่เต็มไปด้วยไฟแค้นของลี่หูก็ไม่มีที่ท่าว่าจะสงบลงเลย “ถ้าพี่จะล้างแค้นให้พ่อแม่จริงๆ งั้นก็ได้ แต่พี่ต้องพาข้ากลับไปหาท่านพ่อก่อน” ข้อแลกเปลี่ยนของอี้เซียงทำให้ลี่หูขมวดคิ้วแน่นและหยุดนิ่งลงเพื่อจะฟังคำพูดถัดมาของนาง “ขุนพลเจิ้นไม่เพียงฆ่าพ่อแม่ของพี่ หากแต่ยังใส่ร้ายคนดี เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ตั้งมากมาย มิหนำซ้ำยังคิดคดทรยศต่อชาติบ้านเมือง คนๆนี้ต่อให้ตายสักหมื่นครั้งก็ลบล้างความผิดไม่ได้ ถ้าพี่ต้องการจะคิดบัญชีกับขุนพลเจิ้นจริงๆก็สมควรที่ให้คุ้มค่า พี่ลี่หู..พาข้าไปหาท่านพ่อแล้วพี่ก็ร่วมมือกับท่าน ช่วยท่านเปิดโปงความผิดของขุนพลเจิ้น ถึงตอนนั้นไม่เพียงพี่จะได้ล้างแค้นให้พ่อแม่ แต่ยังช่วยแผ่นดินต้าซ้องกำจัดคนชั่วด้วยนะคะ” อี้เซียงหาเหตุผลที่ดีที่สุดที่จะเปลี่ยนใจของลี่หู ชายหนุ่มนิ่งไปเหมือนกำลังใช้ความคิดทบทวน อี้เซียงจึงได้เดินไปยืนอยู่ข้างหน้าแล้วโอบกอดเขาเอาไว้อีกครั้ง
“พี่ลี่หูเชื่อข้านะ วันที่ขุนพลเจิ้นจะได้ชดใช้ให้กับทุกคน มันอีกไม่นานหรอกค่ะ ข้าอยากให้พี่ใจเย็นลงก่อน วางความแค้นไว้ชั่วคราว แล้วพี่จะได้พบทางที่ถูกต้องและควรต้องทำนะคะ” คำพูดของอี้เซียงทำให้ลี่หูเริ่มคล้อยตามทีละน้อย ใบหน้าที่บึ้งตึงเมื่อครู่เริ่มผ่อนคลายลง อ้อมแขนของเขาค่อยๆกอดกระชับร่างบอบบางของอี้เซียง
“ได้..ข้าเชื่อเจ้า” อี้เซียงได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วจึงบอกลี่หูให้หาทางพานางหนีไปจากที่นี่ เพื่อที่จะได้กลับไปหาพ่อและพี่สาว แต่ลี่หูก็ยังคิดไม่ออกว่าจะพาอี้เซียงหนีไปได้อย่างไร ในเมื่อประตูและหน้าต่างถูกใส่กุญแจอย่างแน่นหนา แม้ว่าเขาจะออกไปได้แต่ด้วยสภาพร่างกายของอี้เซียงตอนนี้ที่ยังมิสู้จะแข็งแรงนัก ก็ทำให้ลี่หูเป็นห่วง เพราะถ้าหากขุนพลเจิ้นขัดขวางและเกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้น เขาก็จะเป็นห่วงอี้เซียงจนไม่สามารถรับมือได้ ในระหว่างที่ลี่หูกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก เสียงตรงประตูก็ดังขึ้นคล้ายมีคนพยายามที่จะไขกุญแจออก ลี่หูให้อี้เซียงไปยืนหลบอยู่หลังตนเอง ส่วนตัวเขาก็เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ หากคนที่กำลังจะเข้ามาจะทำร้ายเขาและอี้เซียง และทันใดนั้นคนที่อยู่ด้านนอกก็ผลักประตูเข้ามา
“กำลังทำอะไรกันอยู่ หรือว่ากำลังคิดจะหนี” ขุนพลเจิ้นยืนเผชิญหน้ากับลี่หู โดยมีหม่าถงยืนอยู่ด้านหลังผู้เป็นนายใหญ่ ลี่หูพอเห็นหน้าของขุนพลเจิ้นเท่านั้น ไฟแค้นที่เพิ่งจะดับมอดไปก็ถูกจุดขึ้นมาใหม่ในทันที แววตาของเขาลุกโชน มือทั้งสองกำไว้จนแน่น
“ทำไมท่านต้องหลอกข้า ทำให้ข้าต้องเคารพรักท่านดุจบิดาบังเกิดเกล้า ทั้งที่ความจริงท่าน..ท่านก็คือฆาตกร” ลี่หูขึ้นเสียงถามขุนพลเจิ้นด้วยความโกรธและเสียใจ อี้เซียงได้ยินเช่นนั้นก็รีบจับต้นแขนเขาไว้แน่นและบอกกับลี่หูว่าอย่าได้ลืมเลือนสัญญาที่ให้กับนางไว้เมื่อครู่ แต่ลี่หูที่กำลังควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองไม่ได้กลับถามขุนพลเจิ้นต่อไปให้ขุนพลเจิ้นยอมรับต่อหน้าเขาว่าเป็นคนฆ่าพ่อแม่บังเกิดเกล้า ขุนพลเจิ้นได้ยินลี่หูถามเช่นนี้จึงได้แสยะยิ้มที่มุมปาก
“ในที่สุดเจ้าก็รู้ความจริงจนได้..ถูกต้อง ข้าเป็นคนลงมือฆ่าพ่อแม่ของเจ้า แล้วข้าก็เคยคิดที่จะฆ่าเจ้าให้ตายตามพ่อแม่ของเจ้าไปด้วย แต่เจ้ามันดวงแข็ง อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ทำให้ข้าได้มีโอกาสใช้เจ้าเป็นเครื่องมือระบายความแค้น มันช่างสะใจเสียจริง ข้าว่าป่านนี้พ่อแม่ของเจ้าคงกำลังกอดคอกันร้องไห้อยู่แน่ ที่เห็นลูกชายสุดที่รักถูกข้าเสี้ยมสอนให้ฆ่าคน สองมือเปื้อนเลือดผู้บริสุทธิ์ แล้วตอนนี้ก็ลงมือฆ่าได้แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง มันช่างน่าสมเพชเสียจริง” ขุนพลเจิ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย เพียงเอ่ยจบประโยคเท่านั้น ลี่หูก็มิอาจระงับความโกรธแค้นที่อยู่ในใจไปได้ แม้ว่าอี้เซียงจะร้องห้าม เขาก็ไม่ใส่ใจหากแต่ตรงเข้าต่อสู้กับขุนพลเจิ้น ปากก็ตะโกนร้องว่าจะล้างแค้นให้พ่อแม่ ขุนพลเจิ้นเห็นลี่หูจู่โจมเข้ามาก็ตั้งรับแล้วยังพูดท้าทายว่า ถ้าลี่หูมีความสามารถพอก็มาเอาชีวิตของขุนพลเจิ้นไปได้เลย ลี่หูแม้จะมีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งและแทบจะไม่เป็นรองผู้ใดอยู่แล้ว หากแต่เมื่อได้มาปะมือกับขุนพลเจิ้น ฝีมือของเขากลับเป็นรองอยู่เกือบครึ่ง เพียงขุนพลเจิ้นเป็นฝ่ายตั้งรับและพยายามพูดจายั่วโทสะของลี่หูก็ทำให้เขาที่จู่โจมเข้าใส่ขุนพลเจิ้นอย่างหนักหน่วงเริ่มเหนื่อยหอบ แต่นั่นก็มิได้ทำให้เขายอมแพ้กลับรีบบุกมากขึ้น จากการต่อสู้ที่ถูกจำกัดพื้นที่ภายในบ้าน กลายมาเป็นบริเวณนอกบ้าน เสียงการต่อสู้ทำให้หยูเยี่ยนกับลู่ฟงรีบตามออกมาดู ลู่ฟงชำเลืองสายตามองอี้เซียงที่ยืนหลบอยู่ไม่ไกล ท่าทางของนางที่กำลังเป็นห่วงลี่หูทำให้ลู่ฟงต้องรีบเบือนหน้าหนี

การต่อสู้ที่ใกล้จะรู้ผล เมื่อขุนพลเจิ้นที่เป็นฝ่ายตั้งรับมาโดยตลอดเริ่มเป็นฝ่ายบุกบ้าง ขุนพลเจิ้นพุ่งทั้งหมัดและปลายเท้าเข้าใส่ลี่หูจู่โจมจนเขาต้องกลับมาเป็นฝ่ายตั้งรับ ในจังหวะที่ลี่หูยื่นหมัดออกเพื่อจะตอบโต้กลับ ขุนพลเจิ้นใช้มือข้างซ้ายจับข้อมือของลี่หูไว้ได้แล้วจึงซัดฝ่ามือใส่กลางอกของลี่หูจนเขาเซถอยไปด้านหลัง ขุนพลเจิ้นรีบใช้จังหวะตามติดตวัดปลายเท้าแตะลี่หูจนเขาล้มลงไปที่พื้น ไม่ทันที่ลี่หูจะได้ตั้งหลักลุกขึ้นมา ขุนพลเจิ้นก็ตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วใช้เท้าเหยียบแผ่นอกของลี่หูเอาไว้ อี้เซียงเห็นเช่นนั้นจึงรีบจะเข้ามาช่วย แต่หม่าถงที่ยืนรออยู่แล้วจึงรีบเข้าไปขัดขวาง แต่หม่าถงก็ยังช้าไปกว่าลู่ฟงที่เข้ามาถึงตัวของอี้เซียงก่อน ลู่ฟงจับแขนของอี้เซียงบิดไขว้ไปด้านหลัง ลี่หูเห็นลู่ฟงจะทำร้ายอี้เซียงจึงรีบร้องห้าม แต่ลู่ฟงไม่ยอมหากแต่ใช้มืออีกข้างบีบต้นคอของอี้เซียงไว้คล้ายต้องการจะข่มขู่ลี่หูให้ยอมจำนนท์ ลี่หูไม่มีทางเลือกจึงยอมแพ้อย่างหมดทางต่อสู้
“ข้าเป็นคนสร้างเจ้าขึ้นมา ข้าก็สามารถที่จะทำลายเจ้าได้” ขุนพลเจิ้นบีบปลายคางของลี่หูให้เงยหน้าขึ้นมาสบสายตาที่ดุร้ายของตนเอง แล้วจึงผลักชายหนุ่มให้นอนลงที่พื้น
“ถ้าอยากจะฆ่าข้าก็ลงมือได้เลย อย่าได้เสียเวลา” ลี่หูพูดท้าขุนพลเจิ้น ขุนพลเจิ้นจึงหันไปสั่งหม่าถงให้ไปเอากระบี่ลายพยัคฆ์ขาวของลี่หูมาให้ขุนพลเจิ้น
“เจ้าไม่ต้องร้องขอความตายจากข้า เพราะยังไงข้าก็จะให้เจ้าอยู่แล้ว” ขุนพลเจิ้นพูดพร้อมดึงกระบี่ออกจากฝักพาดลำคอของลี่หู “กระบี่ของเจ้าเคยแต่ดื่มเลือดคนอื่น แต่วันนี้ข้าจะให้มันได้ดื่มเลือดของเจ้าของมันเอง” ขุนพลเจิ้นพูดจบก็ปักปลายกระบี่ไปที่หัวไหล่ของลี่หูเพียงเล็กน้อย ด้วยจงใจที่จะทรมานเขาให้เจ็บปวดและตายอย่างช้าๆ อี้เซียงที่ถูกลู่ฟงจับตัวไว้ร้องขอให้ขุนพลเจิ้นปล่อยสามีของนางไป แต่ขุนพลเจิ้นเพียงหันมายิ้มเยาะแล้วจึงค่อยๆกดปลายกระบี่ลงไปที่ละนิด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ลี่หูร้องแสดงความเจ็บปวด ขุนพลเจิ้นเห็นเช่นนั้นจึงดึงปลายกระบี่ออกแล้วตวัดปลายกระบี่ลงไปที่แขนข้างขวาของลี่หู แต่ทว่า..
“ช้าก่อน..นายท่าน” เสียงลู่ฟงร้องห้ามก่อนที่คมกระบี่จะตัดแขนข้างขวาของลี่หูจนขาดสะบั้น
“ทำไม..หรือว่าเจ้าอยากจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง” ขุนพลเจิ้นหันมาถาม
“ไม่ใช่ขอรับ..ข้าเพียงอยากให้นายท่านใช้เขาให้เป็นประโยคมากกว่า” ลู่ฟงรีบพูดต่อไปในทันทีถึงสิ่งที่เขาได้คิดเอาไว้นั่นก็คือให้ขุนพลเจิ้นละเว้นชีวิตของลี่หูไว้ชั่วคราวเพื่อที่จะให้เขาไปเอาชีวิตของจื่อหลงมาให้ขุนพลเจิ้นเพื่อ แลกเปลี่ยนกับชีวิตของอี้เซียง พอขุนพลเจิ้นลองใช้ความคิดตรองดูอยู่เพียงชั่วครู่จึงได้โยนกระบี่ให้ลี่หู ลี่หูเมื่อได้อาวุธมาไว้ในมือก็เตรียมที่จะสู้อีกครั้ง แต่ลู่ฟงกลับใช้ชีวิตของอี้เซียงเป็นเครื่องข่มขู่ทำให้ลี่หูไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดทั้งสิ้น จึงได้แต่ยืนมองหน้าขุนพลเจิ้นแล้วชำเรืองหางตาไปมองอี้เซียงที่กำลังส่ายหน้าไปมา เพื่อที่จะห้ามลี่หูไม่ให้ทำตาม
“ข้าจะให้โอกาสกับเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย หากเจ้าสามารถเอาศีรษะของคนทรยศอย่างจางจื่อหลงมาให้ข้าได้ ข้าก็จะปล่อยเจ้ากับอี้เซียงไป จะไม่ตามไปราวีพวกเจ้าสองคนอีก แบบนี้พอใจไหม” ขุนพลเจิ้นยื่นข้อเสนอให้ลี่หู แต่อี้เซียงก็ยังร้องห้ามไม่ให้ลี่หูหลงเชื่อ ท่าทางที่ยังลังเลของลี่หู ทำให้ลู่ฟงบิดแขนของอี้เซียงจนนางร้องด้วยความเจ็บปวด
“ท่านไม่มีทางเลือกไปกว่านี้อีกแล้ว ถ้าท่านยังอยากเห็นหน้าอี้เซียง ก็จงทำตามคำสั่งของนายท่านไปซะ” ลู่ฟงตะโกนบอกลี่หู ในขณะที่หยูเยี่ยนก็แอบส่งสายตาให้ลี่หูพร้อมทั้งพยักหน้าลงเล็กน้อย
“ตกลง..ข้าจะทำตาม ขอเพียงท่านรักษาคำพูด ข้าจะนำศีรษะของจื่อหลงมาแลกกับอี้เซียงให้ได้” ลี่หูลั่นวาจาต่อหน้าขุนพลเจิ้น อีกฝ่ายก็รับปากและบอกกับลี่หูให้รีบไปได้แล้ว อย่าได้เสียเวลา ลี่หูหันไปมองอี้เซียงอีกครั้งแล้วจึงหันหลังเดินจากไป ขุนพลเจิ้นรอจนลี่หูไปได้สักพักก็หันหลังเดินไปหาอี้เซียง
“ฆ่านางซะ” ขุนพลเจิ้นออกคำสั่งกับลู่ฟง ชายหนุ่มลังเลอยู่เล็กน้อยแล้วจึงถามว่าเหตุใดไม่เก็บชีวิตของอี้เซียงไว้ หากลี่หูกลับมาเขาจะว่าอย่างไร ถ้าอี้เซียงตายไปแล้ว ขุนพลเจิ้นหัวเราะในลำคอแล้วจึงมองหน้าลู่ฟง
“เจ้ายังคิดว่าลี่หูจะมีชีวิตรอดกลับมาดูหน้าเมียรักของมันได้อีกรึไง ถึงมันกลับมาได้ ข้าก็จะไม่ไว้ชีวิตมันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าข้าจะส่งเมียรักของมันไปรอในนรกก่อน มันจะเป็นไรไป” ลู่ฟงพอได้ยินแบบนี้ก็เข้าใจในทันที ถึงเจตนาที่แท้จริงของขุนพลเจิ้นที่ยอมทำตามข้อเสนอของเขาก็เพื่อต้องการให้จื่อหลงและลี่หูฆ่ากันเอง ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้ ขุนพลเจิ้นย่อมได้ประโยชน์ทั้งคู่
“ถ้าเช่นนั้นก่อนที่ข้าจะฆ่านาง ข้าขออนุญาตจากนายท่านให้ข้าได้ครอบครองนางก่อนจะได้ไหมขอรับ ไหนๆข้าก็เคยรักนางมาก่อน แต่กลับไม่เคยได้ลิ้มลองความหอมหวานจากเรือนกายของนางสักครั้ง หากจะมาฆ่าทิ้งไปเสียตอนนี้ ข้าก็..อดที่จะเสียดายไม่ได้จริงๆขอรับ” ลู่ฟงพูดพลางกดปลายจมูกไปที่แก้มของอี้เซียง หญิงสาวสะบัดหน้าหนีแต่ยังพูดขอร้องให้เขาละเว้นนางสักครั้ง ขุนพลเจิ้นมองหน้าลู่ฟงแล้วจึงก้มไปมองหน้าอี้เซียงที่กำลังร้องไห้ สุดท้ายขุนพลเจิ้นก็รับปากแล้วบอกให้ลู่ฟงจัดการ เพราะพรุ่งนี้จะต้องรีบเดินทางกลับเข้าเมืองหลวงไปจัดการงานใหญ่ให้เรียบร้อยก่อนที่พวกของอำมาตย์ไป๋จะมาขัดขวาง ลู่ฟงพอได้รับอนุญาตจากนายใหญ่ เขาก็ดึงกึ่งลากอี้เซียงเข้าไปในห้องด้านใน แม้ว่านางจะทั้งร้องทั้งดิ้นและอ้อนวอนให้ลู่ฟงปล่อยนางไปก็ไม่เป็นผล หยูเยี่ยนเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งตามจะไปช่วยจนถึงหน้าห้อง เสียงกรีดร้องของอี้เซียงที่ดังอยู่ภายในทำให้ใจของหยูเยี่ยนรู้สึกทรมาน นางอยากจะเข้าไปช่วยเหลือหากแต่เมื่อหันกลับมาเห็นสายตาของผู้เป็นนายใหญ่จ้องเขม็งอย่างน่าหวาดหวั่น นางจึงไม่กล้าแม้แต่ที่จะพังประตูเข้าไป หยูเยี่ยนจึงได้แต่ทนรับฟังเสียงคร่ำครวญของอี้เซียงที่กำลังถูกลู่ฟงย่ำยี

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Nov 15, 2009 8:44 am

“ไม่..อย่าเข้ามานะ ข้ากลัวแล้ว อย่าเข้ามา” เสียงพร่ำเพ้อของหญิงสาวที่นั่งกอดเข่าร่ำไห้อยู่บนเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ ผมของนางยุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยจนเผยให้เห็นไหล่ขาวกลมมลที่มีรอยจ้ำสีแดง ชายหนุ่มที่นั่งจิบน้ำชาอย่างสบายใจเฝ้ามองหญิงสาวที่ไม่ต่างจากคนที่เสียสติ นางกำลังร้องไห้ แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นร้องอย่างคุ้มคลั่ง สุดท้ายก็นั่งเหม่อลอย หัวเราะอยู่คนเดียว เสียงของนางทำให้ขุนพลเจิ้นต้องเดินมาดูผลของการกระทำจากลู่ฟงเมื่อคืนนี้ พอเห็นหญิงสาวที่เสียสติ รอยยิ้มอย่างไร้ปราณีก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“นี่พี่สี่ถึงขนาดทำให้นางกลายเป็นบ้าไปเลยเหรอ หนักมือไปหน่อยรึเปล่า” หม่าถงเดินเข้ามาถามใกล้ๆ ลู่ฟงได้แต่ยิ้มตอบแล้วจึงเดินไปหาผู้เป็นนายใหญ่ที่ยืนมองอยู่ตรงประตูห้อง
“นางมีสภาพแบบนี้ไปแล้ว นายท่านจะให้ข้าทำอย่างไรต่อไปดีขอรับ”
“ถ้าเจ้าเบื่อก็ฆ่าทิ้งซะ” ขุนพลเจิ้นบอกสั้นๆ ลู่ฟงจึงยิ้มที่มุมปาก
“นางกลายเป็นบ้าไปแล้ว งั้นข้าจะเอานางไปทิ้งไว้กลางป่า ไว้ให้เป็นอาหารของพวกเสือ สิงโต หรือไม่ก็หมาป่าดีไหมขอรับ” ลู่ฟงเสนอ ขุนพลเจิ้นก็ส่งเสียง ‘อืม’ อย่างเห็นด้วย เพราะไม่ว่าลู่ฟงจะทำเช่นไรกับอี้เซียง ขุนพลเจิ้นก็ไม่คิดจะสนใจทั้งนั้น พอลู่ฟงได้รับอนุญาตให้พาอี้เซียงไปได้ เขาก็เตรียมที่จะเดินเข้าไปหาหญิงสาว แต่ทว่า..
“ช้าก่อน” ขุนพลเจิ้นยกมือห้าม “หยูเยี่ยนไปดูหน่อยสิ ว่านางแกล้งบ้าหรือบ้าจริงๆ” ขุนพลเจิ้นไม่ไว้ใจจึงสั่งให้หยูเยี่ยนไปตรวจอาการของอี้เซียง อี้เซียงพอเห็นมีคนเดินเข้ามาก็ร้องโวยวาย หยูเยี่ยนต้องใช้เวลาปลอบโยนนางอยู่พักนึงถึงได้ตรวจอาการของนางได้
“เรียนนายท่าน นางได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงทั้งเรื่องลูกแล้วก็เรื่องที่น้องสี่” นางหยุดคำหันไปมองลู่ฟงครู่นึง “ทำกับนางเมื่อคืนนี้ ก็เลยทำให้นางเสียสติไปแล้วค่ะ”
“เป็นบ้าอย่างงั้นรึ” ขุนพลเจิ้นถามย้ำ หยูเยี่ยนก็พยักหน้าตอบ แต่ขุนพลเจิ้นยังคงไม่เชื่อจึงได้เดินไปดูใกล้ๆอี้เซียงที่นั่งทำตาเหม่อลอย อี้เซียงเงยหน้าขึ้นมาเห็นคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆเป็นผู้ชายก็ร้องตกใจ
“ข้ากลัวแล้ว อย่าทำข้า” นางร้องไห้แล้วดิ้นรนไปซุกตัวที่มุมสุดของเตียง ขุนพลเจิ้นเห็นสภาพของนางแล้วก็ไม่ติดใจสงสัยอีก จึงได้โบกมือให้ลู่ฟงรีบพานางออกไป แล้วจึงบอกให้หยูเยี่ยนและหม่าถงเตรียมตัวกลับเข้าเมืองหลวง

แสงแดดยามสายที่ลอดผ่านร่มไม้มากระทบร่างของลี่หูที่ยืนสงบนิ่ง เขากำลังใช้ความคิดเพื่อที่จะหาทางกลับไปช่วยคนรักที่ยังอยู่ในกำมือของขุนพลเจิ้นให้จงได้ แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ยังหาหนทางไม่เจอ หรือว่าเขาจะต้องทำตามคำสั่งของขุนพลเจิ้น นำศีรษะของจื่อหลงมาแลกกับอี้เซียงอย่างนั้นหรือ เขาทำไม่ได้และไม่มีวันจะทำได้ จื่อหลงมีพระคุณช่วยเหลือเขามาจนนับไม่ถ้วน หากเขายังคิดที่จะทำร้ายจื่อหลงอีกมันก็จะเป็นการเนรคุณจนเกินไป แต่ถ้าไม่ทำแล้วอี้เซียงที่อยู่กับขุนพลเจิ้น นางจะเป็นอย่างไรบ้างเขาก็ยังมิอาจรู้ ลี่หูใช้ความคิดจนเริ่มปวดหัวไปหมดเมื่อยังหาทางออกไม่ได้ จนกระทั่งประสาทสัมผัสของเขารับรู้ได้ว่ากำลังมีเสียงฝีเท้าของคนอย่างเร่งรีบกำลังเดินทางมา ทำให้เขาต้องหยุดความคิดทุกอย่างไปชั่วครู่แล้วจับกระบี่ให้มั่นอย่างระวังตัว แต่เมื่อเขาได้เห็นเจ้าของเสียงฝีเท้าที่เข้ามาเท่านั้นรอยยิ้มของเขาก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่มันก็มีอยู่เพียงครู่เดียวเมื่อเห็นชายหนุ่มอีกคนที่เดินตามมาข้างหลัง ลี่หูเห็นเช่นนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว พอไปถึงเขาก็ชักกระบี่ออกเตรียมที่จะต่อสู้
“พี่ลี่หู อย่าลงมือนะคะ” อี้เซียงตกใจรีบไปยืนขวางกลางไว้ ระหว่างลี่หูกับชายหนุ่มอีกคน
“นี่เจ้าจะใช้นางมาบีบบังคับอะไรข้าอีก” ลี่หูชี้ปลายกระบี่ไปยังชายหนุ่มคนนั้น อี้เซียงรีบวิ่งเข้าไปจับมือของลี่หูเอาไว้ให้เขาลดกระบี่ลงก่อน
“พี่ลี่หูเข้าใจผิดแล้ว พี่ลู่ฟงเป็นคนช่วยข้า เขาพาข้าหนีออกมานะคะ” อี้เซียงรีบอธิบายให้ลี่หูเข้าใจเรื่องทั้งหมด เมื่อคืนนี้ลู่ฟงจงใจจับอี้เซียงไว้เพราะกลัวว่าหม่าถงจะเข้ามาทำร้ายนาง แล้วหลังจากนั้นเขาก็ใช้นางบังคับลี่หูให้ทำตามข้อเสนอของเขาที่ให้ลี่หูไปฆ่าจื่อหลง นั่นเป็นโอกาสให้ลี่หูได้มีชีวิตรอดและมีทางหนีไปได้ และหลังจากนั้นเขาจะหาทางพาอี้เซียงหนีตามออกไป แต่ทว่าขุนพลเจิ้นกลับบอกให้เขาลงมือฆ่านาง ลู่ฟงจึงได้แสดงละครตบตาทำทีเป็นว่าเมื่อคืนนี้เขาได้ขืนใจอี้เซียงจนทำให้นางเสียสติ เพื่อให้ขุนพลเจิ้นไม่สนใจความเป็นตายของอี้เซียงอีกแล้ว และหลังจากนั้นเขาถึงได้บอกว่าจะพานางมาทิ้งไว้กลางป่า ซึ่งแท้จริงนั่นคือเหตุผลที่จะพานางมาหาลี่หู ลู่ฟงรู้ดีว่าลี่หูยังอยู่แถวนี้เพื่อจะย้อนกลับมาช่วยอี้เซียงอยู่แล้ว และเขาก็เดาถูกจริงๆ การตัดสินใจของลู่ฟงล้วนมีหยูเยี่ยนร่วมรับรู้ นางถึงได้ช่วยโกหกขุนพลเจิ้นตอนที่ตรวจอาการของอี้เซียง ลู่ฟงยอมช่วยทั้งสองคนเพราะคำพูดของหยูเยี่ยน คำพูดของนางทำให้เขาหาคำตอบและเลือกทางเดินให้กับตนเองได้ ความแค้นในใจของลู่ฟงกำลังทำร้ายคนที่เขารัก มันกำลังทำให้เขาไม่มีความสุข เขาจึงเลือกที่จะปล่อยวาง เลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อคนที่เขารัก ลี่หูเมื่อเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างดีแล้ว รอยยิ้มของเขาก็ปรากฎบนใบหน้าแล้วสวมกอดอี้เซียงไว้อย่างทนุถนอมแล้วจึงหันหน้าไปหาลู่ฟงที่ยืนมองอยู่ด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะช่วยพวกเราได้ แต่ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้อง..ขอบคุณ” ลี่หูก้มหัวให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเล็กน้อย
“ท่านไม่ต้องขอบคุณข้า เพราะที่ข้าทำลงไปก็เพื่ออี้เซียง ข้าอยากเห็นนางมีความสุข ได้อยู่กับคนที่นางรัก” ชายหนุ่มถอนหายใจดั่งคนที่ปลงตกแล้ว จึงได้เดินเข้าไปตบไหล่ของลี่หูเบาๆแสดงความเป็นมิตร “ที่ผ่านมาข้าทำร้ายท่านและคิดที่จะแย่งนางไปจากท่าน ข้าขอโทษ” ชายหนุ่มพูดพลางจับมือของอี้เซียงวางบนมือของลี่หูด้วยรอยยิ้ม “พี่สาม..อี้เซียงรักท่านและท่านก็รักนาง ข้าจึงต้องยอมแพ้ด้วยความเต็มใจ และข้าก็หวังว่าหลังจากนี้ท่านจะดูแลนางให้ดี จะไม่ทำให้นางเสียใจอีกเป็นอันขาด มิฉะนั้นข้าจะกลับมาคิดบัญชีกับท่านแน่”
“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลนางด้วยชีวิต จะไม่ทำให้เจ้าต้องเสียความตั้งใจที่ช่วยส่งเสริม ลู่ฟง..ขอบคุณมาก” ลี่หูชูมือขึ้นให้ลู่ฟง เขาก็ยกมือขึ้นจับมือกับลี่หู
“พี่ลู่ฟง..ข้าขอบคุณท่านมาก ขอบคุณท่านจากใจจริงนะคะ” อี้เซียงยิ้มหวานให้ลู่ฟงที่ยิ้มตอบให้นางอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไร ข้าก็แค่อยากเป็นพี่ชายที่ดี ทำอะไรเพื่อน้องสาวบ้างก็เท่านั้น เจ้าเคยบอกข้าไม่ใช่หรอว่าอยากให้ข้าเป็นพี่ชาย หรือว่าจำไม่ได้แล้ว”
“ข้าจำได้ ท่านจะเป็นพี่ชายที่แสนดีของข้าตลอดไป” อี้เซียงยิ้มแล้วจับมือของลู่ฟงแสดงความขอบคุณอีกครั้ง แม้จะรู้สึกเจ็บอยู่บ้างสำหรับคำว่าพี่ชายแต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของอี้เซียงที่มีความสุข นั่นมันก็เพียงพอแล้ว ลู่ฟงบอกให้ลี่หูพาอี้เซียงไปพักผ่อนเสียก่อนแล้วค่อยออกเดินทางต่อ เขาจะทำหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ ลี่หูยิ้มรับแล้วจึงประคองอี้เซียงไปนั่งพัก หญิงสาวซบลงบนไหล่ของลี่หูค่อยๆหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า อ้อมแขนที่อบอุ่นและปลอดภัยของสามี ทำให้นางนอนหลับได้อย่างสบายใจ ลู่ฟงดูภาพนั้นได้เพียงครู่เดียวก็เดินไปอีกทางเปิดโอกาสให้พวกเขาได้อยู่ตามลำพัง

ความเงียบสงบกลางป่าผ่านไปได้เพียงครู่เดียว เสียงฝีเท้าที่ตามติดมาอย่างกระชั้นชิดก็ดังใกล้เข้ามา ลู่ฟงรีบเดินไปบอกลี่หูให้ปลุกอี้เซียงเพื่อที่จะเดินทางในตอนนี้ ด้วยที่เขาเริ่มไม่มั่นใจนักว่าเสียงฝีเท้าที่ไล่ตามหลังมานั้นอาจจะเป็นขุนพลเจิ้นก็ได้ และสิ่งที่คาดเดาไว้ก็เป็นจริง เมื่อได้ยินเสียงของขุนพลเจิ้นตะโกนไล่หลังคนทรยศ
“พวกเจ้ามันช่างเหมือนกันไม่มีผิด กล้าที่จะหักหลังข้า สมควรตายนัก” ขุนพลเจิ้นใช้วิชาตัวเบามาขวางหน้าไว้ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่ไม่เคยไว้ใจใครได้ง่ายๆคาดการณ์ไว้ได้อย่างแม่นยำถึงได้ตัดสินใจตามลู่ฟงมาเพื่อที่จะกำจัดคนทรยศพร้อมกัน
“ท่านพาอี้เซียงหนีไปก่อน ข้าจะช่วยถ่วงเวลาไว้ให้” ลู่ฟงบอกลี่หูเรียบร้อยก็ตรงเข้าต่อสู้กับขุนพลเจิ้น พอหันมาเห็นว่าลี่หูยังไม่พาอี้เซียงหนีไปก็ตะโกนบอกอีกครั้ง ลี่หูจึงได้จับมืออี้เซียงวิ่งหนี ลู่ฟงเห็นสองคนวิ่งไปแล้วก็ใช้ดาบในมือสู้กับขุนพลเจิ้นอย่างไม่คิดชีวิต เสียงดาบและกระบี่ที่ปะทะกันสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว ขุนพลเจิ้นลงมือจู่โจมใส่ลู่ฟงจนเขาเริ่มรับมือได้อย่างลำบาก ซึ่งเขาก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าสู้ไม่ได้ แต่ถ้ามันเป็นหนทางเดียวที่จะรั้งขุนพลเจิ้นไว้เพื่อให้ลี่หูพาอี้เซียงหนีไปได้อย่างปลอดภัย เขาก็พร้อมที่จะแลกด้วยชีวิต ลู่ฟงพยายามรุกไล่ขุนพลเจิ้น ในขณะที่ขุนพลเจิ้นก็ตอบโต้อย่างหนักหน่วงจนทั้งคู่รุกและต้านรับจนมาใกล้หน้าผา ขุนพลเจิ้นเห็นเช่นนั้นก็ฟันกระบี่ลง ลู่ฟงรีบใช้ดาบต้านรับ ในขณะที่ขุนพลเจิ้นตวัดกระบี่เป็นเกลียวเข้าใส่จนดาบของลู่ฟงหลุดจากมือ แต่ลู่ฟงยังไม่ยอมแพ้ใช้มือเปล่าเข้าต่อสู้ ขุนพลเจิ้นจึงใช้ด้ามจับกระบี่กระทุ้งไปที่หน้าท้องของลู่ฟงจนเขาเสียหลัก ขุนพลเจิ้นตามเข้าไปหมายเอาชีวิตของลู่ฟงให้จงได้ แต่ในขณะที่คมกระบี่จะถึงตัวของลู่ฟง ปลายกระบี่ของลี่หูก็ตรงเข้าต้านรับไว้พอดี ลี่หูกับอี้เซียงมิอาจหนีเอาตัวรอดโดยทิ้งลู่ฟงไว้ได้ จึงได้ตัดสินใจย้อนกลับมาช่วยเหลือ ทำให้เวลานี้จากการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกลับกลายเป็นสองรุมหนึ่ง แต่นั่นก็มิอาจจะทำให้ทั้งลู่ฟงและลี่หูมีฝีมือเหนือกว่าขุนพลเจิ้นไปได้ พลังที่สอดรับกันของจอมยุทธ์ทั้งสอง ขุนพลเจิ้นยังคงต้านไว้ได้อย่างสบาย และเมื่อได้หม่าถงที่ติดตามมาภายหลัง ขุนพลเจิ้นจึงยิ้มอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า
“ไปฆ่านางซะ” ขุนพลเจิ้นสั่งหม่าถง ทำให้มือสังหารอันดับที่ห้าถือลูกตุ้มเหล็กตรงเข้าไปหาอี้เซียง ลู่ฟงเห็นเช่นนั้นก็บอกให้ลี่หูรีบเข้าไปช่วยอี้เซียงก่อน ทำให้ลี่หูต้องละจากขุนพลเจิ้นไปรับมือกับหม่าถง พอลู่ฟงต้องกลับมาต่อสู้กับขุนพลเจิ้นโดยที่ไร้อาวุธจึงทำให้เขาเป็นรอง จนพลาดท่าถูกขุนพลเจิ้นฟันไปที่แขนหนึ่งแผล ขุนพลเจิ้นไม่ยอมยั้งมือตวัดปลายกระบี่จู่โจมอย่างหนักหน่วง ลู่ฟงทำได้เพียงปัดป้องด้วยมือเปล่าและมิอาจหลบเลี่ยงได้ทัน จึงถูกคมกระบี่ของขุนพลเจิ้นปักลงที่หัวไหล่ ลี่หูที่รับมือหม่าถงอยู่หันมาเห็นจะเข้าไปช่วยก็ทำไม่ได้ ลู่ฟงจึงต้องกัดฟันเตะขาออก ขุนพลเจิ้นจึงดึงกระบี่กลับ แต่ร่างของลู่ฟงก็ทรุดลงไปทันที ขุนพลเจิ้นหันไปมองลี่หูที่กำลังจะล้มหม่าถงได้ จึงก้าวเท้าออกไปหวังที่จะเล่นงานลี่หู แต่ทว่าลู่ฟงกลับรีบเข้ามาขัดขวางตรงเข้าต่อสู้กับขุนพลเจิ้นอีกครั้ง ทำให้อีกฝ่ายบันดาลโทสะแทงกระบี่ใส่ร่างลู่ฟง ลู่ฟงเอี่ยวตัวหลบไปได้แต่เขาก็ถูกขุนพลเจิ้นเตะจนล้มไปนอนที่พื้นอย่างสิ้นท่า ขุนพลเจิ้นเห็นเช่นนั้นก็ยกกระบี่ขึ้นเพื่อจะกำจัดลู่ฟงแต่เป็นลี่หูที่ผละจากหม่าถงเข้ามาช่วยเหลือรับมือกับขุนพลเจิ้นได้ทันเวลา ลู่ฟงเห็นลี่หูเข้ามาช่วยตนเองแต่กลับทิ้งอี้เซียงไว้ทำให้เวลานี้หม่าถงมีโอกาสที่จะทำร้ายอี้เซียงได้ ลู่ฟงจึงได้พาร่างที่ยังพอมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เข้าไปช่วยอี้เซียง ทำให้เขาถูกหม่าถงใช้ลูกตุ้มเหล็กกระแทกใส่จนร่างของเขาล้มลงไป หม่าถงไม่ได้รอจังหวะให้ลู่ฟงได้มีโอกาสลุกขึ้นมาได้ รีบตรงเข้าไปหาอี้เซียงเพื่อที่จะทำลายสมาธิของลี่หูที่กำลังต่อสู้กับขุนพลเจิ้น แต่ลู่ฟงไม่ยินยอมให้หม่าถงทำเช่นนั้น เขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดโถมเข้ากอดร่างของหม่าถงเอาไว้ แล้วพาหม่าถงไปที่บริเวณหน้าผา อี้เซียงเห็นแบบนั้นก็เข้าใจได้ในทันทีว่าลู่ฟงกำลังคิดที่จะตายพร้อมกับหม่าถงเพื่อจะช่วยนาง จึงได้ร้องห้ามไม่ให้ลู่ฟงทำเช่นนั้น หม่าถงก็รู้ได้เช่นเดียวกันจึงพยายามสลัดลู่ฟงออกให้ได้ จึงใช้ทั้งศอกและด้ามจับของลูกตุ้มเหล็กกระแทกใส่ร่างของลู่ฟง แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งหยูเยี่ยนที่ถูกขุนพลเจิ้นกักขังไว้หาทางหนีออกมาได้ จึงได้ตามมาช่วยเหลือ หยูเยี่ยนพยายามร้องห้ามมิให้หท่าถงทำร้ายพวกเดียวกัน แต่เมื่อไม่ได้ผลนางจึงตรงเข้าไปแยกหม่าถงกับลู่ฟงออกจากกัน ในจังหวะนั้นเป็นช่วงที่ลู่ฟงพาหม่าถงเข้าใกล้บริเวณหน้าผามากขึ้นแล้ว เมื่อหยูเยี่ยนตรงเข้ามาแยกทั้งสองคนออก หม่าถงจึงได้เอี่ยวตัวหลบฝ่ามือของหยูเยี่ยนที่พุ่งเข้ามาหา ในขณะที่ลู่ฟงบาดเจ็บสาหัสจนแทบจะสิ้นแรงจนไม่สามารถพยุงตัวไว้ได้ ทำให้เขาถูกแรงเหวี่ยงจากหม่าถงเซไปด้านหลัง พอตั้งหลักได้ก็รู้สึกได้ว่าขาข้างหนึ่งไม่ได้สัมผัสพื้นดิน ทำให้ขาอีกข้างมิอาจถ่วงดุลไว้ได้ ร่างของลู่ฟงร่วงลงจากหน้าผาต่อหน้าของอี้เซียง
“พี่ลู่ฟง..อย่าปล่อยมือนะ จับไว้” อี้เซียงที่รีบวิ่งเข้าไปเห็นมือข้างนึงของลู่ฟงจับโขดหินก้อนเล็กเพื่อพยุงตัวไว้ได้ นางจึงยิ้มทั้งน้ำตา หญิงสาวล้มตัวลงนอนราบกับพื้นเพื่อจะจับมือของลู่ฟงไว้ได้แน่น
“แข็งใจไว้นะคะ ข้าจะดึงท่านขึ้นมาให้ได้” อี้เซียงบอกลู่ฟงที่กำลังอ่อนแรง ชายหนุ่มเห็นความตั้งใจของอี้เซียงก็ยิ้มรับ แต่เขาก็รู้ดีว่าอี้เซียงคงไม่สามารถดึงเขาขึ้นไปได้ มันเปล่าประโยชน์ เพราะด้วยน้ำหนักตัวของลู่ฟงบวกกับแรงโน้มถ่วงที่มีมากขึ้น มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับหญิงสาวอ่อนแอเช่นอี้เซียง ยิ่งนางจับมือเขาไว้แน่นเท่าใด โอกาสที่นางจะตกจากหน้าผาไปพร้อมกับเขาก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น และตอนนี้ร่างบอบบางของอี้เซียงก็เริ่มที่จะไถลลงสู่เบื้องล่างทีละนิดแล้ว
“พี่ลู่ฟงอย่าปล่อยมือนะ จับมือข้าเอาไว้” นางบอกอีกครั้งและพยายามที่จะดึงลู่ฟงขึ้นมา แต่กลับกลายเป็นว่ามันเปล่าประโยชน์ อี้เซียงกำลังจะตกจากหน้าผาไปพร้อมกับลู่ฟงในอีกไม่ช้า
“อี้เซียง..ข้ามีเรื่องนึงอยากจะถามเจ้า และข้าก็อยากให้เจ้าตอบข้ามาตามจริงจะได้ไหม”
“ได้ ท่านอยากจะถามข้ากี่เรื่องก็ได้ แต่อย่าปล่อยมือเด็ดขาด” นางรีบตอบแล้วใช้ทั้งสองมือจับลู่ฟงไว้แน่น
“ข้ารักเจ้านะ ถึงตอนนี้ก็ยังรัก แล้วเจ้าเคยคิดรักข้าบ้างไหม” อี้เซียงได้ยินคำถามจากลู่ฟงก็ยิ้มทั้งน้ำตา ลู่ฟงรักนางมาโดยตลอดแม้ยามที่อยู่ใกล้ความตาย ความรู้สึกของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยน แต่เรื่องของความรักมันห้ามกันไม่ได้ หัวใจของนางอยู่ที่ใคร นางย่อมรู้ดีและไม่คิดที่จะโกหกหลอกลวงลู่ฟงอีกต่อไปแล้ว หญิงสาวกลั้นน้ำตาไว้แล้วยิ้มให้ลู่ฟงอย่างอ่อนโยน
“พี่ลู่ฟง..ข้าเคยรักท่าน ตอนนี้ก็ยังรัก แต่ความรักที่ข้ามีให้ท่านเป็นได้แค่น้องสาวที่มีต่อพี่ชาย ซึ่งมันไม่เหมือนกับที่ข้ามีให้พี่ลี่หู พี่ลู่ฟง..ข้าขอโทษที่ข้าไม่สามารถรักท่านเกินไปกว่านี้ได้” อี้เซียงตอบทั้งน้ำตา น้ำเสียงของนางแม้จะปนสะอื้นแต่ก็หนักแน่น
“ไม่เป็นไร แค่ได้ฟังคำตอบจากปากของเจ้า ข้าก็พอใจแล้ว” ลู่ฟงยิ้มให้อี้เซียงแล้วจึงพยายามยกแขนอีกข้างขึ้นมาเพื่อจะจับมือของอี้เซียงเอาไว้ “พี่ลี่หูรักเจ้ามาก เขายอมเสียสละได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของตัวเองเพื่อเจ้าได้ ก็สมควรแล้วที่เจ้าจะรักเขาตอบอย่างหมดหัวใจแบบนี้ ข้าไม่โทษเจ้า และจะไม่โกรธเจ้าอีกต่อไปแล้ว” ลู่ฟงหลับตาลง ใจของเขาเหมือนได้หลุดพ้นจากความทุกข์ เมื่อลู่ฟงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มือข้างนึงที่จับมือของอี้เซียงไว้ก็ค่อยๆจับมือของอี้เซียงออกทีละข้างอย่างช้าๆ
“พี่ลู่ฟง ท่านจะทำอะไร อย่าทำแบบนี้นะ” อี้เซียงร้องห้ามแล้วพยายามที่จะขัดขืน
“อี้เซียง..ไม่ได้มีแต่พี่ลี่หูที่เสียสละแม้แต่ชีวิตให้เจ้าได้ แต่ข้าก็ทำได้” ลู่ฟงพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาแกะมือของอี้เซียงที่จับมือของเขาออกและเป็นฝ่ายที่จับมือของอี้เซียงไว้ “ลาก่อน”
“ไม่..!!!” อี้เซียงร้องเสียงดังลั่น เมื่อลู่ฟงปล่อยมือทั้งสองข้างของตนเอง โดยที่นางไม่ทันได้คาดคิดว่าลู่ฟงจะทำแบบนี้ แม้ว่านางจะพยายามฉุดรั้งเขาไว้ให้ได้ แต่ก็สัมผัสได้เพียงปลายนิ้วของชายหนุ่มเท่านั้น ร่างของลู่ฟงร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่างพร้อมรอยยิ้ม เขาไม่ได้ขลาดเขลา ไม่ได้รักชีวิตของตัวเองมากกว่าคนรัก ในเมื่อลี่หูทำได้ ลู่ฟงก็ทำได้และได้พิสูจน์ให้อี้เซียงเห็นแล้วว่าเขารักนางและวันนี้เขาก็ยอมตายเพื่อนางด้วยความเต็มใจ แม้ความรักที่นางมีให้จะเป็นเพียงพี่ชาย
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Nov 15, 2009 8:44 am

ทางด้านลี่หูที่กำลังต่อสู้กับขุนพลเจิ้นก็เริ่มเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ชายหนุ่มถูกขุนพลเจิ้นทำร้ายจนล้มไปกองที่พื้น อี้เซียงที่กำลังร้องไห้หันมาเห็นก็รีบวิ่งเข้าไปหากอดร่างของลี่หูเอาไว้ หากจะต้องตาย นางก็ขอตายพร้อมกับคนที่นางรัก ขุนพลเจิ้นเห็นภาพนี้แล้วทำให้ภาพในอดีตหวนกลับคืนขึ้นมาในความทรงจำ ภาพที่ทำให้ขุนพลเจิ้นปวดใจจนไม่มีวันลืม พ่อแม่ของลี่หูที่พร้อมจะตายด้วยกัน ทำให้ขุนพลเจิ้นโกรธจนหน้าแดงเข้มตวัดปลายกระบี่ลงไปบนร่างของลี่หูและอี้เซียง แต่ทว่าหลังมือของขุนพลเจิ้นพลันรู้สึกเจ็บแปลบเพราะถูกของมีคมที่ซัดเข้ามาโดยไม่ทราบทิศทางทำร้าย จนทำให้คมกระบี่ของขุนพลเจิ้นมิทันได้ต้องตัวชายหนุ่มหญิงสาว พอหันหลังกลับไปมองก็เห็นเงาร่างสายหนึ่งกำลังพุ่งปลายกระบี่เข้ามาอย่างเร็ว ขุนพลเจิ้นจึงต้องรีบยกกระบี่เข้าต้านรับ หยูเยี่ยนที่กำลังต่อสู้กับหม่าถงหันมาเห็นผู้ที่เข้ามาช่วยลี่หูกับอี้เซียงเท่านั้นก็ยิ้มอย่างมีความหวังขึ้นมาในทันที ในขณะที่ลี่หูก็ลุกขึ้นจับกระบี่เข้าไปช่วย คนหนึ่งพลิ้วไหว รวดเร็วว่องไว อีกคนแข็งแกร่งทรงพลัง เพลงกระบี่ที่แทบจะเป็นหนึ่งเดียวต่างผลัดกันรุกและรับ จนขุนพลเจิ้นเริ่มจะต้านต่อไปไม่ไหว สุดท้ายจึงได้ร้องบอกให้หม่าถงเข้ามาช่วย แต่หม่าถงก็ถูกหยูเยี่ยนรั้งเอาไว้ จนไม่สามารถเข้าไปช่วยขุนพลเจิ้นได้ ขุนพลเจิ้นที่ถูกรุมด้วยเพลงกระบี่ที่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียวจู่โจมเข้าใส่อย่างหนักหน่วง จนกระบี่ที่ต้านรับถูกปัดจนพ้นห่างตัว จอมยุทธ์ทั้งสองจึงรุกไล่ คนหนึ่งลอยตัวเตะจู่โจมช่วงบน ในขณะที่อีกคนบุกจู่โจมกำลังขาช่วงขา จนทำให้ขุนพลเจิ้นต้านไม่อยู่ถูกจอมยุทธ์ทั้งสองเตะเข้าที่กลางลำตัวและตามด้วยหมัดจนกลิ้งไปไม่เป็นท่า พอลุกขึ้นมาได้ก็มองหาหนทางหนีรอด จึงได้พุ่งตัวไปหาอี้เซียงที่ยืนหลบอยู่ จอมยุทธ์ทั้งสองช้าไปเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น จึงทำให้อี้เซียงถูกจับเป็นตัวประกันอย่างไม่มีทางสู้
“ท่านไม่มีทางรอดแล้ว ทางที่ดีก็ปล่อยอี้เซียงซะ” จอมยุทธ์หนุ่มที่เข้ามาช่วยลี่หูพูดต่อรอง
“ใครกันแน่ที่ไม่มีทางรอด ข้าหรือว่านาง” ขุนพลเจิ้นพูดพลางบีบคอของอี้เซียง เพียงทั้งสองคนก้าวเข้ามา ขุนพลเจิ้นก็พร้อมที่จะให้อี้เซียงตายไป หม่าถงเห็นนายใหญ่กำลังต่อรองอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่าก็รีบผละจากหยูเยี่ยนมายืนข้างนายใหญ่
“ท่านจะเอายังไง ถึงจะยอมปล่อยอี้เซียง” ลี่หูถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน
“ฆ่าตัวตายต่อหน้าข้าสิ แล้วข้าถึงจะยอมปล่อย” ลี่หูได้ยินเช่นนั้นก็ตวัดปลายกระบี่เข้าหาตัวเอง แต่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างห้ามเขาไว้ก่อน
“ถึงเจ้าตาย เขาก็ไม่รักษาคำพูด”
“แต่ข้าจะให้นางตายไม่ได้”
“ข้ารู้ แต่มันต้องมีทางอื่นที่ดีกว่านี้” ชายหนุ่มสองคนโต้เถียงกัน คนหนึ่งยอมตาย อีกคนหนึ่งไม่ยอมให้ตาย หยูเยี่ยนที่เดินเข้ามาสมทบแอบสบตากับทั้งสองคน แล้วใช้จังหวะที่ขุนพลเจิ้นมองดูสองคนเถียงกันอยู่นั้น แอบซัดเข็มเงินออกไป ขุนพลเจิ้นเห็นแสงสีเงินที่สะท้อนกับดวงอาทิตย์กำลังพุ่งเข้ามาหา จึงผลักร่างของอี้เซียงออกให้มารับเข็มเงินของหยูเยี่ยน หยูเยี่ยนเห็นแบบนั้นก็ยิ้มที่มุมปากด้วยความที่นางคาดเดาความคิดของขุนพลเจิ้นได้ถูกต้องที่จะใช้ร่างของอี้เซียงให้รับเข็มเงินอาบยาพิษของนาง และเพราะนางรู้ทันนางจึงใช้วิชาตัวเบาเข้าไปรับร่างของอี้เซียงไว้ นางซัดเข็มเงินออกไปจริง แต่ไม่ใช่เข็มเงินที่นางเคลือบพิษร้ายไว้ฆ่าคน แม้อี้เซียงจะถูกเข็มเงินของหยูเยี่ยนปักที่ร่างแต่ก็ไม่ได้รับอันตราย พอหยูเยี่ยนช่วยอี้เซียงมาได้ ขุนพลเจิ้นถึงได้รู้ว่าตนเองถูกหลอก จอมยุทธ์ทั้งสองที่ทำทีเป็นโต้เถียงกันเมื่อครู่ก็ตรงเข้าเล่นงานขุนพลเจิ้นอีกครั้ง หม่าถงเห็นจวนตัวจึงได้ซัดระเบิดควันออกไป เพื่ออำพรางให้นายใหญ่และตนเองหลบหนีไปได้ แม้จอมยุทธ์ทั้งสองจะเสียดายอยู่บ้างที่มิอาจจับขุนพลเจิ้นกลับไปรับโทษ แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะติดตาม ลี่หูรีบวิ่งกลับไปหาอี้เซียงแล้วประคองนางไว้ด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่จอมยุทธ์อีกคนก็เดินตามหลังมา
“ข้าขอโทษด้วยนะที่มาช่วยพวกเจ้าเกือบช้าจนเกินไป”
“ไม่เกือบช้า แต่ว่าช้ามาก พี่ใหญ่..ทำไมท่านไม่มาให้เร็วกว่านี้” หยูเยี่ยนต่อว่าจอมยุทธ์หนุ่มที่ทำหน้าไม่รู้เรื่อง หยูเยี่ยนจึงเข้าไปกระซิบบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ทราบ
“ทางนี้มีพี่ใหญ่คอยช่วยอยู่แล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อน น้องสาม..อี้เซียงไม่ได้ถูกพิษของข้า แต่ร่างกายของนางก็อ่อนแอมาก เจ้าต้องดูแลนางให้ดีด้วยนะ” หยูเยี่ยนกำชับกับลี่หู ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับปากก่อนที่จะก้มหน้าลงไปมองอี้เซียงที่ซบหน้าลงในอ้อมกอดของเขาอย่างเหนื่อยล้า หยูเยี่ยนบอกลาทุกคนแล้วจึงมองไปทางหน้าผาที่ลู่ฟงตกลงไปก่อนที่จะออกเดินทาง หลังจากนางไปแล้ว จื่อหลงจึงได้หันไปถามลี่หูว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ซึ่งชายหนุ่มยังคงส่ายหน้า
“ถ้าเจ้าไม่เป็นไร งั้นข้าจะพาเจ้าไปหาท่านไป๋เดี๋ยวนี้ เจ้าคงไม่ขัดข้องสินะ”
“พี่ใหญ่..ท่านยังต้องการให้ข้าร่วมมือกับท่านกำจัดคนชั่วอย่างขุนพลเจิ้นอยู่หรือไม่” ลี่หูถามเมื่อเขาแบกร่างของอี้เซียงขึ้นหลัง จื่อหลงมองหน้าลี่หูอย่างแปลกใจ เพราะเขาจำได้ว่าลี่หูไม่เคยคิดที่จะช่วยจื่อหลงเล่นงานขุนพลเจิ้นเพราะความสัมพันธ์พ่อลูก แต่เหตุใดวันนี้ลี่หูถึงเปลี่ยนใจได้ แต่ความสงสัยก็หมดไปเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“ท่านไม่ต้องกลัวว่าข้าจะตัดความสัมพันธ์พ่อลูกไม่ขาด เพราะตอนนี้ขุนพลเจิ้นเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อแม่บังเกิดเกล้าของข้า เขาไม่ใช่พ่อของข้าอีกต่อไปแล้ว ระหว่างเราสองคนตอนนี้มีศัตรูเป็นคนเดียวกัน” คำพูดประโยคสุดท้ายของลี่หูทำให้จื่อหลงขมวดคิ้วแน่น
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนข้าคงไม่กล้าที่จะบอกท่าน แต่ถ้าเป็นตอนนี้ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะปิดบังท่านอีกต่อไปแล้ว” ลี่หูเว้นจังหวะการพูด ยิ่งสร้างความสนใจปนสงสัยให้กับจื่อหลงมากขึ้น
“น้องสาม..นี่เจ้ากำลังจะบอกอะไรกับข้าอยู่ใช่ไหม”
“ใช่..การตายของลูกเมียท่านเมื่อหลายปีก่อน ฆาตกรตัวจริงก็คือผู้มีพระคุณที่ท่านทำงานให้อย่างถวายชีวิต” สิ้นคำพูดของลี่หู ดวงตาของจื่อหลงก็เบิกกว้าง ผู้พระคุณคนนั้นมิใช่ใครอื่น แม้ว่าวันนี้จื่อหลงจะเดินหันหลังให้กับคนผู้นั้นไปแล้ว แต่ที่ผ่านมาเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาทำงานให้ด้วยความภักดีเพราะสำนึกในบุญคุณที่ช่วยชีวิต พอได้ยินความจริงจากปากของลี่หูที่ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกสร้างเรื่องอีกต่อไปแล้ว ทำให้เขาเอ่ยชื่อของคนผู้นั้นออกมาเพื่อให้แน่ใจ
“ฆาตกรที่เจ้าพูดถึงก็คือ...”
“ขุนพลเจิ้น” ชายหนุ่มทั้งสองคนเอ่ยชื่อนั้นออกมาแทบจะพร้อมๆกัน

++++++++++++++++++++++++++++

จบตอนที่ 33

โปรดติดตามตอนต่อไป
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Nov 15, 2009 8:48 am

ตอนใหม่มาแล้วนะค่ะ บีบหัวใจแม่ยกพี่ลู่ฟงอย่างรุนแรง พี่ลู่ฟงเลือกทางเดินให้กับตัวเองได้แล้ว

แม้ปลายสุดของทางเดินที่เลือกจะต้องลงเอยแบบนี้ ผกก. ใจร้ายมากๆตั้งแต่ตอนที่แล้ว

ตอนนี้ก็ยังใจร้ายอยู่ค่ะ ผู้อ่านอย่าเพิ่งโกรธกันนะค่ะ เดี๋ยวจะปลอบใจในตอนต่อๆไป

แล้วตอนใหม่ต้องขออภัยแม่ยกของคู่ตายายนิดนึง ที่ยังไม่ได้หวีตหวานกัน อดใจรอหน่อนนะคะ


ป.ล. รู้สึกว่าบอร์ดจะลงข้อความแบบทีละเยอะๆได้แล้ว แต่ละย่อหน้าทับทิมเลยลงยาวหน่อยคะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
O-yohyo
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
O-yohyo


จำนวนข้อความ : 6683
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 10 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 10 EmptySun Nov 15, 2009 1:32 pm

ขอมอบภาพนี้ให้ลู่ฟงค่ะ . .


The Swordsman of Devil - Page 10 Sh1504


แม่นางซามโหวบอกว่า “มีทุกข์ย่อมมีสุข ในความขมขื่นย่อมมีความหวานฉ่ำ”

ความดีที่ลู่ฟงทำ สวรรค์ย่อมเห็น เทวดาย่อมรับรู้ แฟนคลับย่อมเห็นใจค่ะ



สำหรับผ้าเช็ดหน้า มอบไว้ให้แม่ยกลู่ฟงซับน้ำตา

ส่วนขนมนั้นมอบให้แฟนคลับตากับยาย นั่งกินไปพลางๆ ค่ะ

จริงๆ กะหายาหม่องมาด้วย เพราะเรารอกันนาน น๊าน นาน จนยุงกัดนั่งตบยุงจนเมื่อยแล้วเนี่ย

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตากับยายจะได้ออกมาสวีทจี๋จ๋ากันสักที

ขอบอก ผกก ว่ามีบทน้อยไม่ว่ากัน แต่ถ้าถึงยามสวีทแล้ว ขอสวีทแบบสองต่อสองจริงๆ นะคะ

ไม่เอาแบบสวีทแล้วมีคนมาขัด หรือมัวแต่นั่งคิดถึงคนอื่นนะ

ให้คิดได้อย่างเดียวค่ะ จะมีลูกกี่คน หญิงหรือชายก่อนดี 55 geek


แม่นางหยูเยี่ยนก็พูดได้ประทับใจจริงเชียว ขอบคุณที่พูดให้ลู่ฟงได้คิดค่ะ

ฉากแกล้งบ้านี่ กะแล้วว่าพี่ลู่ฟงคงไม่ได้ทำอิ้เซียงจริงๆ

เพราะพี่ลู่ฟงเป็นประเภทใจอ่อนตั้งแต่แรกแล้วนี่หน่า

สะใจที่ขุนพลเจิ้นโดนหลอกเข้าบ้าง



พี่ลี่หูกับพี่หลงได้รู้ความจริงแล้ว ต่อไปขุนพลเจิ้นเสร็จแน่ Twisted Evil
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
The Swordsman of Devil
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 10 จาก 11ไปที่หน้า : Previous  1, 2, 3 ... , 9, 10, 11  Next
 Similar topics
-
» The Swordsman of Devil

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Welcome To Charlianz world :: Fiction & Recreation :: Fiction & Recreation-
ไปที่: