30 พ.ค. 52 - - > อาเส่ . . . จ๋าาาาาาาา ขอนอกใจสักวันนะ
ดูแม่นาคมาแล้ว ตาบวมไปเรียบร้อยค่ะ น้ำตาไหลเพราะ ฮา ซึ้ง ขำ เศร้า
เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ น้ำตายังไม่ทันแห้งก็หัวเราะจนเจ็บท้อง
สุดยอดมากๆ กับละคร “แม่นาคพระโขนง” ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
ตัวละครที่ชอบที่สุดแน่นอนค่ะ “แม่นาค” และอีกคนก็คือ “เจ้ายอด” เพื่อนของพ่อมาก
เสียงของนัท มีเรีย นั้นสุดยอดจริงๆ ทั้งฉากร้อง ฉากพูด ฉากหวาน ฉากซึ้ง ฉากโหด
ฉากคลอดลูกก็ยังเป็นทำนองเพลง เสียงของนัทไพเราะเหมาะกับละครเวทีจริงๆ
ตอนฟังเสียงนัท ก็นึกถึงอาเส่ เพราะอาเส่ก็เสียงหวาน เสียดายที่อาเส่ร้องเพลงไม่เก่งแบบนัท
(แอบคอมเมนต์ว่า อยากให้เซเนริโอทำละครเวทีแนวจีน แล้วเชิญอาเส่มาเล่นด้วยล่ะ 55 เพี้ยนไปแล้ว)
ส่วน “เจ้ายอด” บทนี้ยอดสมชื่อ เป็นบทที่มีอะไรให้เล่นหลากหลายมากๆ เลย มีมิติสุดๆ
ซึ้งกับบทเจ้ายอดด้วยค่ะ ตอนที่นึกถึงตอนนี้ก็น้ำตาซึมอีกแล้ว เจ้ายอดเค้าทำตามสัญญา
ที่ให้ไว้กับเพื่อนที่ว่าจะช่วยดูแลแม่นาค จนวินาทีสุดท้ายจริงๆ
เสียดายอย่างนึงคือเรื่องแม่นาคมีเพลงน้อยไปหน่อย บทพูดเยอะกว่าตอนดู “ฟ้าจรดทราย”
ตอนดูก็รู้สึกว่าเพลงน้อยนะ เพราะฟ้าจรดทรายแทบจะไม่พูดกันเลยร้องอย่างเดียวจริงๆ
พอไปซื้อซีดีเพลง จริงๆ ด้วยล่ะ มีเพลงแค่ 20 เพลง ในขณะที่ฟ้าจรดทรายมี 33 เพลง
คงเป็นเพราะเรื่องแม่นาคเน้นที่ฉากด้วยมั้ง ฉากสุดยอดจริงๆ ค่ะ ทั้งบ้านพ่อมาค-แม่นาค
แขนยาวของแม่นาค ก็คงจะหมดไปกับฉากเยอะล่ะมั้งนะ อีกอย่างที่ไม่ชอบก็คือ
เสียงที่ดังมากๆ ครั้งนี้จองตั๋วหลังมาหน่อยแล้วนะ ไม่อยู่หน้าเท่าตอนดูฟ้าจรดทราย
แต่ทำไมเสียงดังนักก็ไม่รู้ แถมเสียงปี่ก็แสบแก้วหู ปวดหูจนทนไม่ไหว
มาอ่านในหนังสือตอนหลัง จริงๆ ด้วย เค้าทุ่มเงินกว่าสิบล้าน ติดระบบเสียงใหม่
คนอื่นอาจรู้สึกว่ากระหึ่มดี แต่ส่วนตัวไม่ไหวค่ะ อาจเป็นเพราะไม่ชอบเสียงดังอยู่แล้วมั้ง
เทียบกันระหว่าง “แม่นาค” กับ “ฟ้าจรดทราย” นะคะ
แม่นาค . . จะเด่นในเรื่องของฉากที่สุดยอด มีเทคนิกหลากหลายมากๆ เนื้อเรื่องเด่น
สำหรับเพลง เน้นที่การส่งอารมณ์ของนักแสดงมากกว่า ทำนองเพลงไม่หลากหลาย
มีเพลงน้อย บทพูดจะมากกว่าเมื่อครั้งดูฟ้าจรดทรายเยอะเลย แต่ว่าเรื่องนี้
หลังจากดูแล้ว รู้สึกถึงอารมณ์ที่ครบรสมากกว่า ทั้งหวาน ซึ้ง ฮา เศร้า หวาดกลัว ตื่นเต้น
ฟ้าจรดทราย . . เพลงไพเราะ หวานซึ้ง มีทำนองที่หลากหลายมากกว่า ฉากค่อนข้างธรรมดา
มีที่น่าตื่นเต้นหน่อยก็ฉากเครื่องบิน ฉากวัง นอกนั้นไม่ได้มีเทคนิกพิเศษ
แต่คนดูก็อินกับความหวานซึ้ง และลุ้นไปกับการเดินทางของพระนาง เนื้อเรื่องออกแนวใสๆ
ท่วงทำนองฟังแล้วติดหูรู้สึกถึงมนต์ขลังของความเป็นดินแดนทะเลทราย
สรุป . . “ฟ้าจรดทราย” ให้ความรู้สึกถึงละครเพลง “แม่นาค” ให้ความรู้สึกถึงความเป็นละครเวที
มาที่แม่นาคกันต่อ . . .
สิ่งที่ขอชมก็คือเนื้อเรื่อง ทำออกมาได้ครบรส ทั้งหวาน ซึ้ง ขำ น่ากลัว เศร้า
แม่นาคก็ไม่ได้ดูร้ายน่ากลัวแบบที่เคยดูๆ มา แต่ว่าร้ายแบบมีเหตุมีผล
ดูมาทั้งเรื่องไม่ได้คิดด้วยว่าแม่นาคร้าย แต่แม่นาคโดนกระทำซะมากกว่า
บทแม่ปริกดูเหมือนร้าย แต่เมื่อคิดดีๆ ก็คือคนแก่ที่ยึดถือขนบธรรมเนียม มีเหตุมีผลเช่นกัน
(แม้จะหมั่นไส้แม่ปริกมากมายก็เถอะ ก็ต้องยอมรับแหล่ะค่ะ)
คนเล่นเก่งๆ ทั้งนั้น แต่ที่คิดว่ายังไม่โดนใจพอก็มีบท
1. พ่อมาก เห็นความพยายามของอาร์นะ แต่รู้สึกว่าอารมณ์ในการแสดงยังไม่ถึงค่ะ
ถ้ามองในด้านประสบการณ์ก็คิดว่าอาร์ใช้ได้ทีเดียวสำหรับมือใหม่แบบนี้
แต่ว่ายังไงก็ต้องพัฒนาอีกหน่อยนึงล่ะค่ะ
2. อาจารย์คง ไม่รู้เป็นเพราะติดภาพตลกของติ๊ก ชิโร่ รึเปล่านะ
เลยรู้สึกว่าอาจารย์คงดูไม่ขลัง ไม่น่ากลัวเลย ส่วนตัวรู้สึกว่า
หมอผีน่าจะน่ากลัว น่าหวาดเกรง เห็นแล้วชวนขนลุกมากกว่านี้
3. แม่สร้อย รู้สึกว่าปนัดดาส่งอารมณ์ยังไม่ถึงสำหรับบทหญิงสาวที่หลงรักเพื่อนวัยเด็ก
กับฉากที่ต้องเข้าใจว่าไม่รักก็คือไม่รัก คือไม่รู้สึกถึงพลังที่นักแสดงส่งมาเลยค่ะ
บทสร้างสีสัน ยกให้เจ้าโอ่งกับเจ้าเตี้ย “ฉากวิธีหนีผี” เล่นได้เข้าขากันดีมาก
ประโยคประทับใจของเจ้าโอ่งก็คือ “แรงงงง อ้ะ”
บทเด่นม้ามืดโดนใจยกให้ “เจ้ายอด” เปิดตัวมาตอนแรกก็ดูเหมือนเพื่อนหัวโจกธรรมดา
ดูไปดูไป บทนี้มีอะไรมากกว่าที่คิด ฉากนำเพื่อนไปดูบ้านพ่อมาค
ฉากเจอแม่นาค ฉากเจ้ายอดเปลี่ยนไป ฉากเจ้ายอดแย่งสร้อยพระจากแม่ปริก
ฉากแม่นาคขอโทษเจ้ายอด ฉากเจ้ายอดช่วยแม่นาค ฉากเจ้ายอดสู้กับอาจารย์คง
ประทับใจนักแสดงในทุกๆ ฉากจริงๆ ค่ะ ยกให้เป็นบทเด่นม้ามืดโดนใจไปเลย
บทประทับใจ “แม่นาค” ค่ะ เป็นใครไปไม่ได้อีกแล้ว ออกมาแต่ละครั้ง
ทำเอางงมากๆ ว่านัททำไมเร็วแบบนี้ คิดว่าเข้าฉากปุ๊บต้องวิ่งไปอีกที่ปั๊บ
แต่เสียงร้องของนัทไม่มีตกเลยจริงๆ พลังสุดยอดไปเลย อารมณ์ที่ส่งมาก็ทำให้ประทับใจ
ฉากงานวันลอยกระทงก็หวานนนนน โดนใจ สีเสื้อสวยมากๆ เข้ากับผิวนัทสุดๆ
ฉากเป็นผี สีเสื้อเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็ให้พลังความรู้สึกอีกแบบ แล้วบุคลิกนัทก็เปลี่ยนไปด้วย
ทุกฉากที่นัทออกมา ทำเอาน้ำตาซึมตลอด ยิ่งองก์ 2 ไม่ต้องพูดถึงค่ะ
กลั้นเสียงสะอื้นแทบตาย (เพราะเค้าไม่ให้ส่งเสียง) ตอนนี้ก็ยังแสบตาไม่หายเลย
สุดท้ายก็ต้องขอชมนักแสดงทุกคน แสดงกันได้ไม่มีสะดุด ซ้อมมาดีจริงๆ
ทีมงานเบื้องหลังก็คงทุ่มกันสุดๆ เพราะฉากออกมาดีจริงๆ สุดยอดไปเลย
การวางพล็อบประกอบฉาก อันนี้สุดยอดค่ะ มาไวไปไว จับไม่ทันจริงๆ
เสียงดนตรีไพเราะดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือเสียงปี่ดังแสบแก้วหู ระบบเสียงดังจนปวดหัวไปหน่อย
ระบบแสง เทคนิกดี ทำให้ช่วยพรางตัวนักแสดงได้ดีมากๆ
ดูแล้วก็อยากชวนอาเส่มาดูจริงๆ เลย คิดว่าอาเส่คงดูได้เพราะว่ามีรอบภาษาอังกฤษด้วย
ยิ่งตอนนี้อาเส่ว่างๆ อยู่เพราะว่ากำลังพักร้อน อยากให้อาเส่มาดู “แม่นาค เดอะมิวสิคัล”
ที่เมืองไทยจริงๆ เลยล่ะ พอดูละครเวทีก็อยากให้อาเส่เล่นละครเวทีบ้างจังค่ะ