| The Swordsman of Devil | |
|
+6midori Cipher O-yohyo ple-ple lingu tabtim 10 posters |
|
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
Cipher ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1273 Registration date : 11/09/2008
| |
| |
O-yohyo ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6683 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 7:20 pm | |
| ขอแสดงความยินดีกับแม่นางมลเยี่ยด้วยนะคะ จะได้เป็นฮูหยินขุนนางอันดับ 4 แห่งต้าซ้องแล้ว ช่วงนี้ฝากพี่อี้หลานด้วยนะ ส่วนพี่ต้องไปกล่อม Sam Ho น้อยค่ะ สอนไว้แต่เด็กเนี่ยแหล่ะว่าเป็นสนมไม่ดี เป็นภรรยาท่านองครักษ์ดีกว่า โตขึ้นมาจะได้ฝังในจิตใต้สำนึกไปเลยไง แล้วก็ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า Sam Ho โดนจับเป็นสนมเมื่อไหร่ จะต้องหาทางกีดกันฮ่องเต้สุดตัวค่ะงานนี้ เพราะงั้นฝากมลเยี่ยดูแลพี่อี้โหยวชั่วคราวนะ | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 7:45 pm | |
| มลเยี่ย..ระหว่างนี้ก็ไปเข้าคอร์สเพื่อเตรียมตัวเป็นฮูหยินของขุนนางระดับ 4 ไว้นะค่ะ คือต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่า สามีคงแต่งานและก็งาน แม่นางมลเยี่ยต้องเข้าใจนะค่ะ อย่าโกรธ อย่างนเป็นเด็ดขาด พี่โย่ว..ถ้าพี่ไปกล่อม Sam Ho น้อยแล้ว งั้นเดี๋ยวทับทิมไปกล่อมองครักษ์เควินให้ค่ะ ว่ามีภรรยาเป็นนางกำนัลดียังไง โดยเฉพาะนางกำนัลที่ชื่อ Sam Ho นะค่ะ เพราะมีถึง 3 ดี คือ พูดดี ทำดี คิดดี | |
|
| |
O-yohyo ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6683 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 8:54 pm | |
| โอเคเลยค่ะทับทิม นี่พี่ก็กะว่าจะไปกล่อมท่านแม่ของ Sam Ho ด้วย
ให้ยก Sam Ho ให้กับองครักษ์เควินไว้ตั้งแต่เด็กๆ เลย
อิอิ . . ต้องรีบคลุมถุงชนค่ะ ขืนช้าเดี๋ยวไปเจอฮ่องเต้ก่อนล่ะยุ่งเลย | |
|
| |
Cipher ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1273 Registration date : 11/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 9:15 pm | |
| | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 9:22 pm | |
| พี่โย่ว..ไม่ต้องห่วงค่ะ องครักษ์เควินต้องเป็นของ Sam Ho คนเดียว ต้องกล่อม ต้องพูดใส่หูทุกวั จะได้ทั้งรัก ทั้งหลง Sam Ho
มล...อะไรกันเนี่ย พี่เจี้ยนยังไม่ทันส่งเกี้ยวเจ้าสาวมารับมลเยี่ยเลยนะ มลเยี่ยก็เตรียมแอบจะหนีไปเล่น "บิหลง" แล้วหรอ พี่เจี้ยนน้อยใจแน่เลยอ่ะ | |
|
| |
Cipher ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1273 Registration date : 11/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 9:35 pm | |
| ก้อมลเยี่ยมีสโลแกนว่า
"อย่าหยุดหื่น" คะ (กร๊ากกกกกกก)
เพราะงั้นพี่เจี้ยนต้องทำใจหน่อยนะคะ | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 9:42 pm | |
| โอเคค่ะ..พี่เจี้ยนฝากมาบอกว่า "พี่เจี้ยน เข้าใจน้องมลเยี่ยเสมอ แต่น้องอย่าเล่นบิหลงเพลินจนลืมพี่เจี้ยนล่ะกัน" | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Mon Apr 27, 2009 11:48 pm | |
| ก่อนจะไปเม้นเรื่องเศร้าๆ ขอขำกับมุขง้อพี่สาวของอีเซียงก่อน ง้อได้น่ารักมากเลยค่ะ อี้แต๋มฟังแล้วยังเคลิ้ม ใครจะไปโกรธลงเนอะ มาถึงฉากสำคัญที่อี้เซียงรู้ตัวว่าท้อง ตอนแรกก็ลุ้นอยู่ค่ะว่าท่านไป๋จะตีลูกไหม แต่สุดท้ายพอเห็นลูกร้องไห้ก็ยอมใจอ่อน ฉากนี้สงสารทั้งท่านไป๋ อี้เซียง และก็อี้หลานด้วยค่ะ มีกันแค่สามคนพ่อลูก ยังไงก็ต้องให้อภัยแหละค่ะ แต่ฉากที่เศร้าสุดๆ ก็คือ ฉากที่พี่ลี่หูบอกเลิกอี้เซียงอ่ะ มันช่างบีบคั้นเหลือเกิน รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ เฮ้อออ ไม่รู้จะเลือกสงสารใครดี เศร้ากันไปหมด ทั้งพี่ลี่หู น้องเซียง ลู่ฟงนี่ก็ทำเพราะหึงนะ กลายเป็นรักสาม "เศร้า" อย่างแท้จริง เพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครที่มีความสุขเลย นึกว่าฉากข้างบนนี่เศร้าสุดๆ แล้วนะ ยังมีฉากที่เศร้ามากกว่าฉากที่เศร้าสุดๆ อีก นั่นก็คือ ความรักที่เสียสละของแม่นางหยูเยี่ยน ไม่นึกเลยว่า สุดท้ายเธอจะใจเด็ด ยอมแพ้ต่อความรักของพี่หลงและอี้หลาน นับถือเลยอ่ะค่ะ เป็นบทที่วางได้เลิศมากๆ (ว่าแต่ฉากนี้ แอบคิดว่าตอนพี่หลงรับเข็มพิษแทนอี้หลานเนี่ย กรี๊ดดด เท่ห์ชะมัดเลย จิ้นว่าตนเองกำลังถูกปกป้องอีกแล้ว ฮ่าๆๆ) ประกาศ ถ้าขืนน้องมลย่องมาเล่น บิหลง บ่อยๆ พี่จะเอาคืนด้วยการไปเล่น บิเจี้ยน บ้างนะคะ ระวังให้ดี | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Tue Apr 28, 2009 12:40 am | |
| ภาพประกอบฟิค มาแล้วจ้า ฮุๆๆ 1. ตามนั้น 2. อี้แต๋มโน้มตัวเข้าโอบกอดจื่อหลงไว้ และเอาปากจุ๊บไปที่แก้มของชายหนุ่ม “อี้แต๋ม” จื่อหลงไม่เคยคิดว่าอี้แต๋มจะทำเช่นนี้มาก่อน น้ำเสียงของเขาบอกให้อี้แต๋มรู้ว่าเขาต้องการมันมากขึ้นอีก “เจ้าไม่ควรทำแบบนี้นะ” ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวแล้วยิ้มจนเห็นแก้มบุ๋ม “ทำไมล่ะค่ะ ข้าก็แค่อยากแสดงให้พี่หลงเห็นเท่านั้น ว่าข้ารู้สึกยังไงกับท่านบ้าง หรือว่ามีแต่ท่านคนเดียวที่ทำแบบนี้ก่อนได้” จื่อหลงเห็นสายตาอ้อนวอนของอี้แต๋มแล้วก็ยากที่จะต้านทานหัวใจของสาวยุคใหม่ได้ “อี้แต๋มงั้นเราต้องไปในที่ลับตาคน” ชายหนุ่มพูด "อ๊ากกก โหะๆๆๆ" อี้แต๋มได้แต่ซับน้ำลายที่ไหลย้อยเต็มปากนางตอนนี้ 3. หลังจากหยูเยี่ยนรู้เรื่อง นางโกรธมาก และตรงเข้ามาทำร้ายอี้แต๋ม | |
|
| |
Cipher ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1273 Registration date : 11/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Tue Apr 28, 2009 8:59 am | |
| โอ้โนวววว อะไรกันเนี๊ยะ อี้หลินเผลอหน่อยเดียว พี่หลงกลายเป็นของอี้แต๋มไปแล้วเหรอ แถมยังกุ๊กกู๋กู๊กกู๋กันตอนกลางวันอีก แม่นางมลเยี่ย พี่อี้หลินขอหลบเข้าป่าไปรักษาแผลใจก่อนนะคะ ตอนนี้มิมีแรงแม้จะเดินเลยค่ะ ต้องคลานสถานเดียว เสียใจ อกหักมาก ต้องไปให้พี่จั๋วปลอบใจซะแระ กระซิกๆๆ | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Tue Apr 28, 2009 9:13 am | |
| โอ๊ย...ขำก๊ากกกกแทบตกเก้าอี้ไปเลย จริงๆตอนที่ 23 มันเศร้ารันทดนะ แต่ทำไมพอมาเจอแม่นางอี้แต๋มจีบพี่หลงจากเศร้าๆกลายเป็นหัวเราะจนกรามค้งได้ล่ะเนี่ย น่าสงสารแต่แม่นางอี้หลิน ที่แม่นางคงอดเชยชมพี่หลงอีกต่อไปแล้ว ก็พี่หลงอ่ะ เค้เป็นของแม่นางอี้แต๋มไปแล้วนี่นา ดูดิ ประกาศออกชัดเจนซะขนาดนั้น ตอนแรกยังคิดว่าแค่จุ๊บนะเนี่ย แต่พอแอบไปในที่ลับตาคนเท่านั้น พี่หลงก็....เรียบร้อยซะล่ะ
น้องมล..พี่แนะนำว่าต่อไปอย่าคิดไปเล่น "บิหลง" อีกนะค่ะ เพราะพี่หลงคงไม่สามารถมาเล่นกับน้องมลได้อีกแล้ว ทางที่ดีกลับไปเลน "บิเจี้ยน" แทนจะดีกว่านะค่ะ ปลดภัย ยังไงพี่เจี้ยนก็ต็มใจเสมอค่ะ
พี่หลิน..ต้องการน้ำใบบัวบกสักแก้วไหมค่ะ ถ้ายังไงไปขอจากพี่ลี่หูได้ค่ะ พี่แกยังดื่มไม่หมดเหลืออีกครึ่งเยือกนะค่ะ | |
|
| |
Cipher ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1273 Registration date : 11/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Tue Apr 28, 2009 10:00 am | |
| ได้ก็ดีค่ะทับทิม แบบว่าพี่อี้หลินวิงเวียนคล้ายจะเป็นโลมมมมม ระทวยโรยแรง น้ำบัวบกสักครึ่งเยือก น่าจะดีขึ้น ฝากขอบคุณพี่ลี่หูด้วยนะคะที่แบ่งปัน อ่านประโยคที่น้องมลเยี่ยบอกข้างบนแล้ว สยิวไม่หายค่ะ ความหื่นของพี่อี้หลินหายแว๊บไปโม้ดดดเลย แบบว่าเจอหื่นกว่า เรี่ยวแรงหมดไปเลยค่ะ ยังไม่ทันได้ให้พี่หลงซบอกเลยอ่ะ แต่ว่าระยะนี้อี้หลินขอไปทำมาธิในป่าเพื่อรักษาแผลใจก่อน จะให้ตัดใจจากพี่หลงนี่ช่างยากค่ะ ไว้ถ้าแข็งแรงแล้วจะแอบมาชวนพี่หลงเล่น "บิหลง" ทีหลัง รักนะ พี่หลง | |
|
| |
tomtam ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
จำนวนข้อความ : 167 : 43 Registration date : 14/12/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Tue Apr 28, 2009 8:30 pm | |
| น้องมลคะ อี้แต๋มหาได้มีความสามารถเขียนฉาก "อย่างว่า" ไม่ ข้าน้อยไปก๊อบมาจากผู้กินกับทับทัมต่างหาก และก็เปลี่ยนคำพูดนิดหน่อย (เปลี่ยนแค่นิดหน่อย จริงๆ นะ ไม่เชื่อดูดิ ) - อ้างอิงจาก :
- แต่แทนที่หยูเยี่ยนจะหันหลังกลับ นางกลับเดินอ้อมไปทางด้านหลังเก้าอี้ที่จื่อหลงนั่งอยู่และจึงโน้มตัวเข้ามาหาโอบกอดเขาไว้และเอาหน้าซบไปที่แผ่นหลัง
“หยูเยี่ยน” จื่อหลงไม่เคยคิดว่าหยูเยี่ยนจะทำเช่นนี้มาก่อน น้ำเสียงของเขาบอกให้หยูเยี่ยนรู้ว่านางกำลังถูกปฏิเสธ “เจ้าไม่ควรทำแบบนี้นะ” ชายหนุ่มแกะมือของหยูเยี่ยนออกและจึงรีบลุกขึ้น หญิงสาวสีหน้าผิดหวังแต่ยังคงนิ่งเฉยไว้ มีเพียงแต่รอยยิ้มที่เย็นชาที่มุมปากเท่านั้น “ทำไมล่ะค่ะ ข้าก็แค่อยากแสดงให้พี่ใหญ่เห็นเท่านั้น ว่าข้ารู้สึกยังไงกับท่านบ้าง หรือว่ามีแต่อี้หลานคนเดียวที่ทำแบบนี้ได้” จื่อหลงเห็นสายตาอ้อนวอนของหยูเยี่ยนกลับยิ่งปฏิเสธ หลินกุอยากมาเล่น บิหลง บ้างหรือคะ ได้ค่ะ ไว้อี้แต๋มเบื่อ บิหลง เมื่อไหร่ จะยกให้ แล้วหันไปเล่น บิหัง แทน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ | |
|
| |
Cipher ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1273 Registration date : 11/09/2008
| |
| |
lingu ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6491 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Tue Apr 28, 2009 9:51 pm | |
| น้องมลเยี่ย แม่นางอี้แต๋ม เปลี่ยนบทแค่ นิ๊ดดดดดดดโหน่ยย จริงๆค่ะ ประโยคที่ขีดเส้นใต้ พี่ก็จิ้นไปถึงไหนๆแล้วค่ะ พี่หลงหน้อพี่หลง เห็นซื่อๆเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้ ยังต้องการอะไรมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น อีกคะ อี้หลินแสนจะชีช้ำระกำทรวง เห็นวลีด้านบนแล้ว อี้หลินต้องตัดใจจากการเล่นบิหลงกับพี่หลงแล้วค่ะ หันไปคุ้มครองพี่อี้หังดีกว่า เด๋วหาเกราะให้พี่อี้หังใส่ กุญแจให้อี้หลินถือแต่เพียงผู้เดียว | |
|
| |
O-yohyo ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
จำนวนข้อความ : 6683 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Thu Apr 30, 2009 10:28 pm | |
| อ้ายหยา . . จิตตกกลัว Sam Ho ตกเป็นของฮ่องเต้จนเบลอ แก้ตัวใหม่ค่ะ ให้มลเยี่ยช่วยดูแลอี้หลาน มิใช่อี้โหยวเน้อ เพราะอี้โหยวจะไปอยู่กับ Sam Ho ค่า ไม่ว่างมาให้ดูแล ขำก๊ากกับแม่นางอี้แต๋มจริงๆ ด้วย ไม่คิดว่าแม่นางมาปุ๊บ ก็จัดการรวบหัวรวบหางพี่หลงได้ก่อนใคร 55 งานนี้อี้หลินคงต้องเร่งฝึกวิทยายุทธ์แล้วล่ะ | |
|
| |
ทะเล ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
จำนวนข้อความ : 1285 : 39 Registration date : 13/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Sun May 03, 2009 11:02 am | |
| | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Sat May 09, 2009 8:00 pm | |
| ตอนที่ 24
แสงแดดอันอบอุ่นในยามเช้าเล็ดลอดผ่านหน้าต่างห้องนอนขับไล่ความหนาวเย็นของยามรัตติกาลที่เพิ่งผ่านพ้น ทันทีที่ไป๋อี้เซียงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากแสงสีทองในยามเช้าจนลืมตาตื่นขึ้นมา อาการเวียนหัว คลื่นไส้ของคนที่กำลังมีครรภ์ในช่วงสามเดือนแรกก็เริ่มคุกคามจนนางต้องรีบยันกายลุกขึ้นมาก้มหน้าอาเจียนโดยมีเสี่ยวเจาคอยช่วยเหลือลูบหลังให้ช้าๆ จนผ่านไปสักพักอาการของอี้เซียงจึงเริ่มดีขึ้น หญิงสาวถึงได้ประคองร่างกายที่อ่อนล้ามานั่งพักที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อให้เสี่ยวเจาช่วยนางหวีผม ในยามนั้นเสี่ยวเจาจึงได้เห็นสายตาที่เหม่อลอยของนายสาวสะท้อนบนกระจกที่อยู่ตรงหน้า น้ำตาที่เคยเลือนหายไปแล้วกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง “คุณหนูของเสี่ยวเจา อย่าร้องไห้อีกเลยนะค่ะ เสี่ยวเจาเคยได้ยินมาว่าคนท้องต้องทำจิตใจให้แจ่มใสเข้าไว้ ถ้าคุณหนูเอาแต่ร้องไห้แบบนี้จะกระทบถึงลูกได้นะค่ะ” พอเสี่ยวเจาพูดคำว่าลูกออกมา อี้เซียงก็ก้มหน้าลงค่อยๆส่งผ่านความรักของนางถึงลูกน้อยด้วยสัมผัสอุ่นจากมือบางของคนที่เป็นแม่ “ข้าไม่ร้องแล้ว แต่เจ้าก็อย่าบอกท่านพ่อกับพี่รองนะว่าข้าแอบร้องไห้ ข้าไม่อยากทำให้ท่านพ่อกับพี่รองต้องคอยเป็นห่วง ข้ามันไม่รักดีเองถึงต้องมานั่งเสียใจอยู่แบบนี้” คนพูดบอกว่าจะไม่ร้องไห้ แต่สุดท้ายน้ำตาก็ยังไหล “โถ..คุณหนูของเสี่ยวเจา เสี่ยวเจารู้ว่าคุณหนูเสียใจ ถ้าคุณหนูอยากจะร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะค่ะ ร้องออกมาให้พอ เสี่ยวเจาจะไม่บอกใครทั้งนั้น” สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์คุกเข่าลงกับพื้นข้างๆอี้เซียง นางมิรู้จะหาคำพูดใดมาปลอบใจคุณหนูที่นางทั้งรักและห่วงใยคนนี้ได้อีกแล้ว นอกเสียจากยอมให้คุณหนูผู้อาภัพของนางใช้น้ำตาเป็นเครื่องปลอบประโลมหัวใจที่บอบช้ำ “สัญญาแล้วนะว่าเจ้าจะไม่บอกใคร” อี้เซียงก้มหน้าลงถามสาวใช้ เพียงเสี่ยวเจาพยักหน้ารับปาก นางก็ซบหน้าลงบนบ่าของเสี่ยวเจาร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาที่ช่วยชะล้างความทุกข์ในใจของอี้เซียงจนเสื้อของเสี่ยวเจาชุ่มชื้น แต่นั่นก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความทุกข์ที่อี้เซียงกำลังแบกรับไว้เท่านั้น “เสี่ยวเจา..สภาพของข้าตอนนี้ถ้าเดินออกไปข้างนอก คนอื่นเขาจะรู้ไหมว่าข้า..กำลังท้อง” อี้เซียงเงยหน้าขึ้นมาถามสาวใช้คนสนิททั้งน้ำตา มือบางของนางลูบท้องของตัวเองเบาๆอย่างนึกกังวล “ไม่รู้หรอกค่ะ ท้องสาวแล้วยิ่งเป็นท้องแรกด้วย ดูไม่ออกแน่ๆค่ะ” เสี่ยวเจาบอกกับอี้เซียงตามตรง เจ้านายของนางนอกจากรูปร่างที่อวบอิ่มขึ้นและผิวพรรณที่ดูมีน้ำมีนวลกว่าเมื่อก่อน นอกนั้นก็แทบจะไม่มีสิ่งใดที่บ่งบอกได้เลยว่าอี้เซียงกำลังตั้งครรภ์อยู่ ยกเว้นอาการแพ้ท้องซึ่งก็มีแต่คนในบ้านที่รับรู้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น “แต่ต่อไปท้องของข้าก็ต้องใหญ่ขึ้นจนฟ้องออกมาอยู่ดี ถึงไม่มีใครรู้ต่อๆไปก็ต้องมีคนรู้ เสี่ยวเจา..เรื่องที่เกิดขึ้นข้าเป็นก่อขึ้นมาเอง ข้าไม่เคยกลัวความอับอาย แต่ท่านพ่อ..ข้าไม่อยากทำให้ท่านต้องอับอายที่ลูกสาวต้องมาท้องคาบ้านโดยที่หาพ่อให้ลูกไม่ได้ ข้ารู้ว่าท่านพ่อเสียใจแล้วก็ผิดหวังในตัวข้าแค่ไหน แต่ที่ท่านไม่ว่าข้าสักคำก็เพราะว่าท่านพ่อรักข้ามาก แล้วแบบนี้ข้ายังจะอกตัญญูทำให้ท่านพ่อต้องอับอายคนอื่นได้อย่างไร” อี้เซียงพูดพลางก็ลูบท้องตัวเองไปพลางเหมือนกำลังใช้ความคิดตัดสินใจกับเรื่องไม่งามที่นางเป็นคนก่อ “คุณหนูอย่าบอกเสี่ยวเจานะค่ะว่า คุณหนูจะ..จะ..จะทำแท้ง” เสี่ยวเจาน้ำเสียงตกใจเมื่อคิดขึ้นมาได้ตามคำพูดของอี้เซียงที่ไม่อยากทำให้ท่านไป๋อับอาย “อย่านะค่ะคุณหนู มันจะเป็นการสร้างบาปนะค่ะ เด็กไม่มีความผิด คุณหนูอย่าทำแบบนั้นนะค่ะ” เสี่ยวเจาแตกตื่นตกใจรีบกอดเอวของอี้เซียงไว้แน่น “เจ้าพูดอะไรเสี่ยวเจา ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นเลยนะ” อย่าว่าแต่เสี่ยวเจาจะตกใจในความพูดของอี้เซียง เพราะแม้แต่อี้เซียงก็ยังตกใจในคำพูดของเสี่ยวเจาไม่น้อย “ข้าบอกเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าข้าจะไม่เก็บเด็กคนนี้ไว้ เขาเป็นลูกของคนที่ข้ารัก ข้าจะเก็บเขาไว้ จะไม่มีวันทำร้ายเขาเด็ดขาด” ถูกต้องแล้ว เด็กคนนี้คือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของอี้เซียงในยามนี้ เขาคือตัวแทนของคนที่นางรักจนหมดหัวใจ เขาคือความรักจากผู้ชายคนนั้นที่เคยมอบไว้ให้ และเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกให้อี้เซียงรู้ว่าผู้ชายคนนั้นยังอยู่กับนางตลอดเวลา “เสี่ยวเจาขอโทษค่ะ เสี่ยวเจาโง่เขลานัก ไม่เข้าใจความหมายของคุณหนู” “ช่างเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้ารักข้า หวังดีต่อข้าแค่ไหน แต่ความหมายของข้าก็คือข้ามิอาจทนอยู่ในบ้านหลังนี้สร้างความอับอายให้ท่านพ่อต่อไปได้อีกแล้ว ข้าจึงกำลังคิดว่าข้าจะไปจากที่นี่” “อะไรนะค่ะคุณหนู คุณหนูจะไปจากที่นี่ คุณหนูจะไปไหน” น้ำเสียงของเสี่ยวเจาครั้งนี้แตกตื่นตกใจไม่แพ้ครั้งแรก “ข้าก็ยังไม่รู้เลย อาจจะเป็นที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีคนรู้จัก ข้าจะอยู่ที่นั่นรอจนกว่าข้าจะคลอด” อี้เซียงยิ้มน้อยๆลูบท้องของนางเบาๆ นางอยากจะสัมผัสลูกให้มากๆอยากให้ลูกรู้ว่านางรักเขาแค่ไหน “คุณหนูคิดดีแล้วหรอค่ะ คุณหนูกำลังท้องอยู่แบบนี้จะดูแลตัวเองได้ยังไง ยิ่งต่อไปถ้าคุณหนูท้องแก่ใกล้คลอดก็ยิ่งลำบาก ถ้าคุณหนูจะไปจริงๆขอเสี่ยวเจาติดตามคุณหนูไปด้วยนะค่ะ ให้เสี่ยวเจาได้อยู่ดูแลรับใช้คุณหนูนะค่ะ” เสี่ยวเจาเงยหน้าบอกเจ้านายที่นางแสนรัก “ถึงเจ้าไม่ขอ ข้าก็ต้องให้เจ้าไปกับข้าอยู่แล้ว เจ้าก็รู้นี่ว่าข้าไม่เอาไหนแล้วจะมีปัญญาดูแลตัวเองกับลูกได้ยังไงล่ะ จริงไหม” เสี่ยวเจาพอได้ฟังเช่นนี้ก็โผเข้ากอดอี้เซียงไว้แน่น นางจะไม่มีวันทิ้งคุณหนูให้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพังเป็นอันขาด “แล้วเราจะไปกันเมื่อไหร่ค่ะ เสี่ยวเจาจะได้ช่วยเตรียมข้าวของเครื่องใช้ไว้ให้พร้อม” “เร็วที่สุด อาจจะเป็นพรุ่งนี้ ไม่ก็มะรืนนี้” เสี่ยวเจาทำตาโต เหตุใดจึงเร็วถึงเพียงนี้ยิ่งนัก แต่ทว่านางก็เข้าใจเพราะยิ่งไปได้เร็วเท่าไหร่ คุณหนูของนางก็จะลืมเลือนเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เสียใจได้เร็วขึ้น | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Sat May 09, 2009 8:01 pm | |
| “แต่พ่อไม่ให้เจ้าไปไหนทั้งนั้น” “พี่ก็ไม่ให้เจ้าไปไหนเหมือนกัน” อี้เซียงกับเสี่ยวเจาหันไปตามเสียงก็เห็นท่านไป๋กับอี้หลานยืนอยู่ตรงประตู ทั้งสองคนตั้งใจมาหาอี้เซียงถึงห้องนอน จึงได้ยินทุกอย่าง รู้ทุกอย่างแม้กระทั่งอี้เซียงแอบร้องไห้ ยามที่อยู่ลับหลังพ่อและพี่สาว “พ่อไม่มีวันยอมให้เจ้าไปไหนเด็ดขาด ลูกของพ่อ หลานของพ่อ พ่อจะปล่อยให้ไปตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกได้อย่างไร” เสี่ยวเจาเห็นท่านไป๋เดินเข้ามาหาลูกสาวคนเล็ก นางก็รีบเลี่ยงไปยืนอยู่ด้านข้าง “แต่ข้าทำเรื่องน่าอายไว้ ท่านพ่อให้ข้าไปเถอะค่ะ ข้าอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” อี้เซียงร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความละลายใจ หากแต่ท่านไป๋ไม่เห็นด้วย “อี้เซียงฟังพ่อนะลูก ไม่ว่าเจ้าจะทำเรื่องอะไรไว้ ใครจะพูดยังไงพ่อก็จะไม่สนใจทั้งนั้น เจ้าเป็นลูกของพ่อ พ่อจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ห่างจากอ้อมอกของพ่อเป็นอันขาด” ท่านไป๋พูดพลางดึงลูกสาวเข้ามากอด อี้เซียงได้ซบอกอุ่นของบิดาก็ยิ่งร้องไห้ “น้องเซียง เรายังมีกันและกันอยู่ ท่านพ่อกับพี่จะอยู่เคียงข้างเจ้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เจ้าไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ท่านพ่อกับพี่ยินดีรับความจริงทุกอย่างไปพร้อมๆกับเจ้า” อี้หลานสวมกอดน้องสาวไว้ในอ้อมกอดของบิดาอีกหนึ่งชั้น “แต่ข้าจะทำให้ท่านพ่อกับพี่รองต้องอับอาย ทำให้บ้านเราต้องเป็นขี้ปากของคนอื่น ที่ลูกสาวบ้านนี้ท้องไม่มีพ่อ” “ต้องอายทำไม เจ้าท้องไม่มีพ่อแล้วเป็นยังไง เจ้าเป็นลูกของพ่อ ลูกของเจ้าก็เป็นหลานของพ่อ ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดไปสิ พ่อไม่สนใจทั้งนั้น” น้ำเสียงของท่านไป๋หนักแน่นโดยที่ไม่ลังเลในทุกคำพูดที่เอ่ยออกมาแม้แต่น้อย “แต่ข้าไม่สนใจไม่ได้ ท่านพ่อเป็นถึงอำมาตย์ มีแต่คนนับหน้าถือตา ข้าทนไม่ได้ที่จะได้ยินคนพูดนินทาท่านพ่อ” “งั้นพ่อจะลาออก ในเมื่อตำแหน่งอำมาตย์ทำให้พ่อต้องเสียลูกรักคนนี้ของพ่อไป พ่อก็ไม่ต้องการมันอีกแล้ว” คำพูดของคนที่เป็นพ่อเด็ดเดี่ยว การตัดสินใจของท่านล้วนเพื่อลูกสาวอันเป็นที่รัก หากตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ต้องทำให้อี้เซียงตัดสินใจหนีหน้าไปอยู่ไกลตา ท่านก็ขอสละมันทิ้งไปเสียดีกว่าเพื่อให้ได้ของรักที่หวงแหนมาอยู่ใกล้ตัว “ท่านพ่อ..อย่านะค่ะ ข้าไม่ต้องการแบบนี้” “พ่อก็ไม่ต้องการให้เจ้าทำแบบนี้ อี้เซียงอย่าไปนะลูก อยู่กับพ่อ อยู่ที่บ้านของเรา ไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าที่นี่ ไม่มีใครให้ความรัก ความอบอุ่นเท่าพ่อกับพี่สาวของเจ้าอีกแล้ว อี้เซียง..พ่อเหลือเจ้ากับพี่ของเจ้าเท่านั้น อย่าไปไหนอีกเลยนะ ลูกรักของพ่อ” ท่านไป๋ประคองใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาของลูกสาว “อยู่กับพ่อนะลูก อยู่ที่บ้านของเรา” อี้เซียงน้ำตาคลอมองบิดาและพี่สาว คงไม่มีความรักใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่ออีกแล้ว และอีกไม่นานนางก็คงได้รู้ซึ้งของความรักที่แม่มีต่อลูก “ท่านพ่อ..ข้าขอโทษ ข้าจะไม่ไปไหนแล้ว” อี้เซียงโผเข้ากอดบิดาไว้แน่น และรับความรักของบิดาที่ส่งผ่านถึงลูกสาวด้วยการลูบหัวของนางเบาๆ “เจ้ารับปากกับพ่อได้ไหมว่าจะไม่คิดแบบนี้อีก” “ข้าสัญญาค่ะ ข้าจะไม่คิดแบบนี้อีกแล้ว ท่านพ่อ..ข้าขอโทษ พี่รอง..ข้าขอโทษ” อี้เซียงรับปาก เสียงสะอื้นของนางเลือนหาย เหลือเพียงรอยยิ้มที่ยังคงมีคราบน้ำตาบนใบหน้าให้เห็น แต่อีกไม่นานมันก็จะหายไปด้วยความรักจากคนในครอบครัว เสี่ยวเจามองภาพความรักของสามคนพ่อลูกที่โอบกอดกันและกันไว้ด้วยความซาบซึ้งใจ จนมือน้อยๆของเสี่ยวเจาต้องยกขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตา
+++++++++++++++++++++++++++
ภายในสถานที่นัดพบของมือสังหารปีศาจเงินและหัวหน้าใหญ่ ผนังทั้งสีด้านไร้ช่องลมหรือแม้แต่หน้าต่าง มีเพียงทางเข้าออกเพียงทางเดียว ลู่ฟงมายืนรอนายใหญ่ของตนอยู่ได้สักพักแล้ว จนกระทั่งประตูกลไกตรงผนังห้องด้านหน้าก็ถูกเปิดออก ผู้เป็นนายที่สวมหน้ากากสีเงินจึงเดินออกมา ชายหนุ่มเมื่อเห็นนายใหญ่มาถึงแล้วก็รีบประสานมือคารวะ จากนั้นก็รีบรายงานถึงเรื่องความสัมพันธ์ของลี่หูและอี้เซียงที่ต้องขาดสะบั้นลงด้วยน้ำมือของตัวเขาเอง ผู้เป็นนายใหญ่เพียงพยักหน้ารับรู้คล้ายว่าจะทราบเรื่องนี้ดีอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ยังถามต่อไปว่าลู่ฟงใช้วิธีใดทำลายความรักของคนทั้งคู่ ซึ่งเขาก็ตอบไปว่าเป็นเพราะลี่หูกลัวว่าเขาจะเผยความลับที่ลี่หูเป็นคนฆ่าไป๋เทียนเซิ่นให้อี้เซียงรู้ ลี่หูจึงจำใจตัดขาดจากอี้เซียง พอนายใหญ่รู้แบบนี้ก็หัวเราะลั่น “ข้านึกแล้วไม่มีผิด คนอย่างลี่หูสุดท้ายก็ต้องพ่ายเพราะผู้หญิง มันรักของมันมาก มันถึงได้กลัวความผิดที่ก่อไว้จะทำให้คนที่รักเกลียดมันไปชั่วชีวิต ลู่ฟง..เจ้าทำได้ดีมากที่รู้จักใช้จุดอ่อนของลี่หูให้เป็นประโยชน์ ข้าสะใจยิ่งนักที่ได้สั่งสอนไอ้คนไม่รักให้รู้จักถึงความเจ็บปวดซะบ้าง” นายใหญ่พลั้งปากพูดความไม่พอใจในตัวของลี่หูออกมา พอพูดจบประโยคก็หัวเราะ หากแต่ลู่ฟงที่ทำให้นายใหญ่พอใจกลับไม่รู้สึกยินดี สีหน้าของเขาเรียบเฉยไร้ความรู้สึก “ทำไม เจ้าไม่ชอบใจรึไงที่จะได้อี้เซียงคืนมา หรือว่าเจ้าไม่อยากรับผู้หญิงที่เคยเป็นเมียของคนอื่นมาแล้ว” นายใหญ่ถามจี้ใจดำของลู่ฟงอย่างไม่มีอ้อมค้อม อี้เซียงเป็นของลี่หูไปแล้วลู่ฟงรู้ดี แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะไม่ยอมรับนางแม้แต่น้อย “ไม่ใช่ขอรับ ข้ายินดีและเต็มใจที่ได้อี้เซียงคืนมา เพียงแต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ายังไม่เข้าใจนัก มิทราบว่าจะสามารถเรียนถามนายท่านได้หรือไม่” “อืม..เจ้ามีอะไรคาใจก็ว่ามา ถ้าข้าตอบได้ก็จะตอบ” ลู่ฟงกล่าวขอบคุณนายใหญ่ที่กรุณาและจึงตั้งสติให้แน่วแน่ ถามใจตัวเองเสียก่อนว่าควรจะถามคำถามนั้นหรือไม่ แต่สุดท้ายคำตอบที่อยู่ในใจก็ยังเหมือนเดิม เพราะมันคือสิ่งที่เขาใคร่รู้และต้องการเหตุผลหลังจากที่ต้องเห็นอี้เซียงร่ำไห้จนแทบขาดใจ “เรื่องที่ข้ามิอาจจะเข้าใจได้ก็คือ เหตุใดนายท่านถึงจงใจให้ข้าขัดขวางความรักระหว่างพี่สามกับอี้เซียงยิ่งนัก ทั้งที่ในเมื่อเขาก็เป็น..ลูกชายของนายท่าน” คำถามของลู่ฟงทำให้นายใหญ่ส่งเสียง ‘หึ’ ดังอยู่ในลำคอ “ทำไมเจ้าถึงคิดว่าลี่หูเป็นลูกชายของข้า” | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Sat May 09, 2009 8:01 pm | |
| “เพราะลี่หูคือคนที่นายท่านเลือกให้แต่งงานกับลูกสาวของอำมาตย์ไป๋ และลี่หูก็คือลูกชายของขุนพลใหญ่เจิ้นปัง และขุนพลเจิ้นปังก็คือนายท่าน มิทราบว่าข้าสามารถเดาได้ถูกต้องหรือไม่” ผู้เป็นนายส่งเดียง ‘หึ’ ดังอยู่ในลำคออีกรอบ แล้วจึงปลดหน้ากากสีเงินที่ปกปิดใบหน้าลงมา “เจ้าเดาได้ถูกต้อง” ชายหนุ่มมองหน้าตาของผู้เป็นนายใหญ่อย่างเต็มตา ไม่ว่ายามไหนขุนพลเจิ้นปังก็น่าเกรงขามเสียจนลู่ฟงมิอาจประสานสายตากับขุนพลเจิ้นได้นานนัก “วันนี้ข้าอารมณ์ดี เอาเป็นว่าข้าจะไขข้อข้องใจของเจ้าทั้งหมด รวมทั้งเรื่องที่ข้าส่งเจ้าไปแยกลี่หูกับอี้เซียงออกจากกันให้ได้ด้วย” นายใหญ่เดินกลับไปนั่งบนบัลลังก์และเริ่มเล่าแผนการที่วางไว้ทั้งหมด นับตั้งแต่ขุนพลเจิ้นสมคบคิดกับทางแคว้นเหลียวเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ก่อนที่จะตั้งกลุ่มมือสังหารปีศาจเงินขึ้นมา ขุนพลเจิ้นก็เฟ้นหาคนที่เหมาะสมเพื่อให้มารับใช้งานของท่าน พอได้มาแล้วก็ฝึกให้พวกเขาเป็นมือสังหาร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมลี่หูลูกชายคนเดียวที่ขุนพลเจิ้นฝากความหวังทั้งหมดไว้ด้วย ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาขุนพลเจิ้นใจเย็นพอที่จะวางแผนการณ์ทั้งหมดไว้อย่างรัดกุมและค่อยๆเดินหมากทีละตัวอย่างไม่มีผิดพลาด จนกระทั่งถึงเวลาที่ขุนพลเจิ้นต้องเป็นฝ่ายรุกเพื่อกุมชัยชนะ ท่านจึงได้ส่งลี่หู ลูกชายที่เชื่อฟังขุนพลเจิ้นมาโดยตลอดเข้าไปในบ้านไป๋เพื่อหวังจะให้เป็นเขยขวัญของอำมาตย์ไป๋ให้ได้ จุดมุ่งหมายก็เพื่อดึงขุนนางที่ฮ่องเต้ไว้ใจมากที่สุดคนนี้มาเป็นพวก แต่อำมาตย์ไป๋เส้าหยางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ จะไม่มีวันทรยศขายชาติเป็นแน่ ดังนั้นนี่จึงเป็นหนทางเดียวที่จะบีบให้อำมาตย์ไป๋ต้องกลายมาอยู่ข้างของตนอย่างไม่มีทางปฏิเสธ ในตอนแรกขุนพลเจิ้นมิได้เจาะจงเลือกอี้หลาน เพราะท่านหวังเพียงว่าลี่หูจะทำให้ลูกสาวของอำมาตย์ไป๋มาหลงรักและเมื่อถึงยามนั้น ทุกอย่างก็จะดำเนินไปตามแผน แต่แล้วเมื่อลี่หูต้องผิดใจกับอี้เซียงตั้งแต่แรกพบ และนางก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับลี่หูมาโดยตลอด ขุนพลเจิ้นจึงคาดคิดไปว่าอี้เซียงจะไม่มีทางมาหลงรักลี่หูได้ ดังนั้นท่านจึงได้ตัดสินใจเลือกอี้หลานให้เป็นหมากตัวต่อไปของท่านในทันที ซึ่งอี้หลานก็จัดได้ว่าเป็นหญิงงามที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ล้วนเป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มๆที่ยังโสด ตั้งแต่เชื้อพระวงศ์ไปจนถึงลูกชายของพวกคหบดีก็ล้วนปรารถนาที่จะได้แต่งงานกับนางทั้งนั้น แต่สาเหตุที่นางยังมิยอมเลือกผู้ใดทั้งที่อยู่ในวัยสมควรออกเรือนแล้วนั้นก็มีเพียงเหตุผลเดียวคืออี้เซียง ตราบใดที่น้องสาวของนางยังไม่โตพอที่จะดูแลตัวเองได้ นางก็ไม่อยากจากน้องสาวคนนี้ไปไหนทั้งนั้น
เมื่อขุนพลเจิ้นดีดลูกคิดในรางแก้วเห็นความเหมาะสมของอี้หลานแล้วว่านางเหมาะที่จะได้ขึ้นเป็นฮูหยินของลี่หูให้สมหน้าตาสะใภ้ของท่านอ๋องเจิ้นในอนาคต ท่านจึงให้ลี่หูพยายามทำทุกวิถีทางให้อี้หลานมาหลงรักให้ได้เพื่อที่นางจะได้อยู่ในโอวาทได้ง่ายขึ้น แต่หลายเดือนผ่านไปแล้วสิ่งที่คิดไว้ก็ยังไม่เป็นไปตามแผนเสียที ขุนพลเจิ้นจึงต้องมาวางแผนใหม่ให้รัดกุมมากกว่าเดิม “ก็เพราะลี่หูไม่เอาไหน ไม่สามารถพิชิตใจของอี้หลานได้ ข้าถึงต้องส่งเจ้าไปช่วย หนึ่งนั้นก็เพื่อให้เจ้าทำทีเป็นชอบพออี้เซียง อี้หลานจะได้วางใจว่าจะมีคนมาดูแลน้องสาวที่ไม่รู้จักโตของนางแล้ว นางจะได้คิดถึงเรื่องของตัวเองสักที และสองก็คือเพื่อช่วยกันอี้เซียงออกห่างจากลี่หู เพราะนังเด็กคนนี้ชอบกวนใจลูกชายของข้าอยู่เรื่อย ข้าไม่อยากให้ลี่หูต้องหวั่นไหว แต่สุดท้ายสิ่งที่ข้ากลัวก็เป็นจริง เจ้าก็ได้รู้ได้เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่าลี่หูรักอี้เซียงมากแค่ไหน รักมากถึงขนาดยอมตายแทนกันได้แบบนี้ แล้วเจ้ายังจะให้ข้าปล่อยให้พวกเขาสองคนรักกันต่อไปได้อีกรึไง จริงอยู่ถ้าลี่หูได้แต่งกับอี้เซียงมันก็อาจจะเป็นไปตามแผนของข้า แต่คนที่รักเมียหลงเมียถึงขนาดนี้ เจ้ายังจะให้ข้าไว้ใจเชื่อใจว่าวันนึงเขาจะไม่ฟังเมียมากกว่าพ่อของตัวเองได้เชียวรึ” “แต่ข้าคิดว่าลี่หูคงไม่คิดทรยศ ไม่เห็นผู้หญิงที่เขารักมากกว่าพ่อจนไม่เชื่อฟังคำสั่งเป็นแน่ นายท่านอาจจะระแวงเขาจนเกินไปก็ได้นะขอรับ” ขุนพลเจิ้นได้ฟังคำแก้ต่างของลู่ฟงให้ลี่หูถึงขนาดขมวดคิ้ว สายตาแข็งกร้าว “เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าพอถึงวันนั้นขึ้นมาจริงๆลี่หูจะไม่ไปยืนอยู่ข้างอำมาตย์ไป๋จนหันดาบเข้าหาพ่อตัวเอง แล้วที่เจ้าพูดเข้าข้างลี่หูแบบนี้แสดงว่าเจ้าก็เห็นว่าข้าทำไม่ถูกใช่ไหม” น้ำเสียงของขุนพลเจิ้นเกรี้ยวกราดจนลู่ฟงต้องรีบกล่าวขออภัยและรีบแก้ตัวว่าเขามิได้คิดเช่นนั้น “หามิได้ขอรับนายท่าน ข้าเพียงรู้สึกว่าถ้าหากนายท่านยอมให้ลี่หูได้แต่งงานกับอี้เซียง เขาจะยิ่งกตัญญูและเชื่อฟังนายท่านมากขึ้นกว่าเดิมนะขอรับ” คำพูดของลู่ฟงทำให้ขุนพลเจิ้นแสดงความสงสัยภายใต้สายตาที่ดุดันคู่นั้น หรือว่าลู่ฟงจะลืมเลือนความโกรธแค้นไปจนหมดสิ้นแล้ว ถึงได้มาแสดงความเห็นใจลี่หูถึงขนาดนี้ “นี่เจ้ากลายเป็นพ่อพระเสียตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าพอเห็นคนที่ตัวเองรักเสียน้ำตาเข้าหน่อยก็ใจอ่อนจนเลิกคิดเลิกแค้นไปแล้ว อย่าลืมสิที่ข้าส่งเจ้าไปหาอี้เซียงก็เพื่อแยกนางมาจากลี่หู แต่ไม่ได้ใช้ให้เจ้าไปหลงรักนางอีกคน ถ้าตอนนั้นเจ้าไม่ยอมตัดใจทำร้ายอี้เซียงตามคำสั่งของข้า ข้าคงจะไม่ให้อภัยเจ้าและไม่ใจดีถึงขนาดยกอี้เซียงให้เป็นรางวัล ลู่ฟง..ข้าดีกับเจ้าขนาดนี้ เจ้ายังมีหน้ามาพูดจาสั่งสอนข้าอีกรึ” ชายหนุ่มได้ฟังคำพูดที่แดกดันของผู้เป็นนายต้องรีบคุกเข่าลงเพื่อขออภัยโทษ “ข้าน้อยมิบังอาจสั่งสอนนายท่านขอรับ เพียงแต่ว่า...ถ้าเป็นความต้องการของนายท่านข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะคัดค้าน” ลู่ฟงก้มหน้าไม่กล้าที่จะไปสบตากับขุนพลเจิ้นที่กำลังโกรธจนเส้นเลือดบวมปูดที่ขมับทั้งสองข้าง “เจ้าคิดแบบนั้นได้ก็ดี ทีนี้คงไม่มีเรื่องที่สงสัยคาใจอีกแล้วใช่ไหม ว่าทำไมข้าถึงต้องขัดขวางความรักลูกชายของตัวเอง” “ไม่มีขอรับ ข้าเข้าใจที่นายท่านต้องให้ข้าทำแบบนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ในภายภาคหน้า ซึ่งข้าก็ขอน้อมรับเพื่อปฏิบัติตามขอรับ” | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Sat May 09, 2009 8:04 pm | |
| “ดีมาก เจ้าลุกขึ้นมาเถอะ” ขุนพลเจิ้นโบกมือให้ลู่ฟงลุกขึ้นมา น้ำเสียงของผู้เป็นนายเริ่มทุ้มต่ำลง “ถ้าลี่หูไม่จริงจังกับความรักจนเกินไป ไม่แสดงให้ข้าเห็นว่าเขารักคนอื่นมากกว่าชีวิตของตัวเอง จนทำให้ข้านึกหวาดระแวง บางทีข้าคงไม่ต้องหาทางป้องกันจนทำร้ายจิตใจของเขาถึงขนาดนี้ก็ได้ ลู่ฟง..ต่อไปข้าก็หวังว่าเจ้าจะไม่เป็นเหมือนลี่หู ลืมตัวตนที่แท้จริง” ผู้เป็นนายก้าวลงมาจากบัลลังก์ตรงเข้ามาจับหัวไหล่ของลู่ฟง “อี้เซียงควรเป็นของเจ้าตั้งแต่แรก ในเมื่อตอนนี้เจ้าได้นางคืนมาก็ควรจะรักษาไว้ให้ดี อย่าให้ใครแย่งนางไปจากเจ้าได้อีก เข้าใจไหม” รอยยิ้มเหี้ยมฉาบอยู่บนใบหน้าของขุนพลเจิ้นยามที่มองลู่ฟงคล้ายออกคำสั่งย้ำอีกครั้ง มิให้เขาใจอ่อนยอมคืนอี้เซียงให้ลี่หู “ข้าทราบครับ อี้เซียงเป็นของข้าคนเดียว ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งนางไปจากข้าได้อีกแล้วขอรับ” ลู่ฟงรับปากเสียงหนักแน่น ความรักที่เขามีต่ออี้เซียงเป็นเรื่องจริง และความแค้นที่เขามีต่อลี่หูก็ยังคงเป็นเรื่องจริง แต่ที่เขาต้องการรู้เหตุผลก็เพียงเพื่อจะได้หายคาใจในสิ่งที่สงสัยมาตลอดเท่านั้น เมื่อได้รู้เช่นนี้เขาจะได้ทุ่มเทความรักให้กับอี้เซียงอย่างเต็มที่ เพื่อให้นางลืมลี่หูให้จงได้ เมื่อลู่ฟงได้รับคำตอบเรื่องของอี้เซียงและลี่หูแล้ว เขาก็รายงานนายใหญ่ต่อเรื่องที่ฟู่เจี้ยนยังไม่ตายและได้มาพักรักษาตัวอยู่ที่ว่าการอำเภอ แต่ดูเหมือนว่าขุนพลเจิ้นจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่รู้ว่าฟู่เจี้ยนยังมีชีวิตอยู่ ในขณะที่ลู่ฟงกลับมีเรื่องให้สงสัยเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องที่ขุนพลเจิ้นไว้ชีวิตคนที่ล่วงรู้ความลับไปได้ “นายท่านขอรับ เหตุใดนายท่านถึงไม่จัดการฟู่เจี้ยนซะเลยล่ะครับ ในเมื่อเขารู้ฐานะที่แท้จริงของน้องห้า ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มันจะไม่เป็นผลดีเท่าไหร่ ไหนๆเขาก็อยู่ที่ว่าการอำเภอและข้าก็เป็นมือปราบอยู่ที่นั่นด้วย นายท่านจะให้ข้าช่วยลงมือให้ไหมขอรับ” “ไม่ ที่ข้าปล่อยมันไปเพราะข้าต้องการใช้มันให้เป็นประโยชน์ อยากจะยืมมือของฟู่เจี้ยนช่วยกำจัดคนที่ทรยศเพราะข้าเชื่อแน่ว่าฟู่เจี้ยนจะต้องไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้แน่ แต่ถ้าเจ้าอยากจะช่วยข้าจริงๆก็จงจับตาดูฟู่เจี้ยนไว้ว่าแอบติดต่อใครอยู่บ้างหรือไม่ เดิมทีหน้าที่นี้ขอยกให้หม่าถงเป็นคนจัดการ แต่ฐานะของเขาถูกเปิดเผยคงต้องเก็บตัวสักระยะหนึ่ง” ขุนพลเจิ้นหยุดคำเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “แล้วระหว่างที่ฟู่เจี้ยนอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอ เจ้าเคยเห็นอำมาตย์ไป๋ไปที่นั่นบ้างไหม” ลู่ฟงทบทวนความจำ นอกจากจอมยุทธ์คนนึงที่คอยดูแลความปลอดภัยของฟู่เจี้ยนก็ไม่เห็นมีใครที่ไหน “ไม่นะขอรับ อำมาตย์ไป๋ไม่เคยไปเยี่ยมฟู่เจี้ยนแม้แต่น้อย จะมีก็แต่พี่สาวของเขาสองคนเท่านั้น ที่มาเยี่ยมและจะพาฟู่เจี้ยนกลับบ้าน เพียงแต่ว่าเขาไม่ยอม” ลู่ฟงตอบตามจริงทุกอย่าง เพราะวันนั้นที่อำมาตย์ไป๋มาหาฟู่เจี้ยน เป็นเวลาเดียวกันที่ลู่ฟงอยู่ที่บ้านไป๋ ทำให้เขามิอาจทราบความจริงเรื่องนี้ได้ และพอหลังจากนั้นอำมาตย์ไป๋ก็ไม่ได้ไปที่นั่นอีก “เจ้าแน่ใจนะว่าไม่เคยเห็นอำมาตย์ไป๋” ขุนพลเจิ้นถามซ้ำให้มั่นใจ ซึ่งลู่ฟงก็ยืนยันคำตอบเหมือนเดิม “ถ้าไม่เคยเห็นก็ใช่ว่าอำมาตย์ไป๋จะไม่แอบติดต่อวางแผนกับฟู่เจี้ยน คนผู้นี้ฉลาดมาก ฉลาดเสียจนข้ามิอาจยอมไว้ใจได้โดยง่าย เพราะฉะนั้นเจ้าจะต้องใช้โอกาสที่เจ้าได้เข้าไปในบ้านไป๋ สืบเรื่องราวต่างๆ มาให้ได้มากที่สุด แต่ที่สำคัญอย่าให้ใครจับได้เหมือนหม่าถงเด็ดขาด” ลู่ฟงพอได้รับคำสั่งก็ประสานมือรับแต่โดยดี
หลังจากขุนพลเจิ้นสั่งงานลู่ฟงเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นนายใหญ่จึงบอกให้เขากลับไปได้ ซึ่งระหว่างทางที่ลู่ฟงกำลังเดินอยู่ในตลาดอยู่นั้น สายตาของเขาพลันไปเห็นเสี่ยวเจาสาวใช้คนสนิทของอี้เซียงเพิ่งเดินออกมาจากร้านขายยาพอดี ชายหนุ่มที่พอจะทราบอยู่บ้างว่าอี้เซียงป่วยแต่ไม่รู้ว่านางเป็นโรคอะไรก็อดที่จะสนใจมิได้ เพื่อให้คลายความสงสัยที่มีอยู่ลู่ฟง จึงตัดสินใจเข้าไปในร้านขายยานั้นเพื่อที่จะถามให้รู้เรื่อง โดยแกล้งบอกกับคนขายไปว่าหญิงสาวคนเมื่อครู่เป็นสาวใช้ประจำตัวของคนรักของตนเอง ซึ่งตอนนี้นางป่วยเป็นไข้หวัด ไม่รู้ว่าสาวใช้มาซื้อยาให้ถูกหรือไม่ เพราะสาวใช้คนนี้ไม่รอบคอบ มักหยิบใบสั่งยามาผิดอยู่เรื่อยๆ ทำให้คนรักของเขาไม่หายป่วยสักที พอคนขายได้ฟังเช่นนั้นก็ทำตาโตตกใจยกใหญ่ “แย่แล้วคุณชาย ทำไมท่านถึงได้ให้สาวใช้ที่ขาดความรอบคอบมาซื้อยาได้เนี่ย ดีนะที่ยาที่ข้าจัดไปไม่มีผลกับคนไข้ มิเช่นนั้นคนรักของท่าน มิต้องหายป่วยกันพอดี” คนขายที่เป็นเพียงผู้ช่วยหมอแต่มีความรู้ทางการแพทย์อยู่ใช่น้อยถึงขนาดส่ายหน้า แล้วจึงหันหลังไปหยิบสมุนไพรตามชั้นเพื่อมาจัดยารักษาไข้หวัดให้ลู่ฟงใหม่อีกหนึ่งชุด “เอานี่คุณชาย คนจัดยาให้ใหม่แล้ว ทีหน้าทีหลังก็ต้องระวังไว้ด้วยนะ ถ้าให้คนไข้ดื่มยาไม่ตรงกับโรคแบบนี้ ไม่เพียงไม่หาย ไม่แน่ว่าอาจจะมีอันตรายด้วยนะ” คนขายส่งหอยาให้ลู่ฟงโดยที่ไม่คิดเงินกับชายหนุ่ม “ยานี่รักษาโรคของคนรักของข้าได้แน่นะ” ลู่ฟงถาม คนขายก็เน้นย้ำว่าหายแน่นอน “แล้วไม่ทราบว่าเมื่อกี้ ท่านจัดยาอะไรให้นางไปอย่างงั้นหรอ มันคงไม่มีอันตรายใช่ไหม” สีหน้าของลู่ฟงแสร้างทำเป็นสงสัยและเป็นห่วง “ไม่มีอันตรายหรอก คุณชายสบายใจได้ ก็ยาที่ข้าจัดไปให้ผิดมันเป็นยาบำรุงครรภ์ คนรักของท่านกินเข้าไปก็แค่ไม่หายจากไข้หวัดเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” คนขายพูดอย่างสบายใจ แต่ลู่ฟงที่ได้ยินคำว่า ‘ยาบำรุงครรภ์’ กลับรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว อี้เซียงกำลังท้อง นางกำลังมีลูกให้ลี่หู มันคือความจริงที่ทำให้ลู่ฟงมิอาจยอมรับได้จนมือทั้งสองข้างบีบหอยาไว้แน่นจนแทบจะปริแตก | |
|
| |
tabtim ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
จำนวนข้อความ : 868 Registration date : 12/09/2008
| เรื่อง: Re: The Swordsman of Devil Sat May 09, 2009 8:05 pm | |
| “คุณชายเป็นอะไรไปรึเปล่า” คนขายสะกิดถามเมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของชายหนุ่ม “เปล่า ไม่มีอะไร” ลู่ฟงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ คลายมือที่บีบหอยาไว้จนแน่นออก คนขายเห็นท่าทางที่สงบของลู่ฟง ก็นึกอะไรขึ้นมาได้จึงรีบถามต่อด้วยความเป็นห่วง “คุณชาย ที่บ้านคนรักของคุณชายมีคนท้องอยู่ด้วยหรอ แล้วสาวใช้คนเมื่อกี้เป็นคนมาซื้อยาให้ด้วยรึเปล่า ถ้าให้นางมาซื้อให้ด้วยล่ะแย่แน่ๆ เพราะเดี๋ยวถ้าเกิดนางหยิบใบสั่งยามาผิดล่ะก็เป็นเรื่อง หญิงมีครรภ์จะกินยาส่งเดชไม่ได้เชียวนะ จะมีอันตรายถึงเด็กในท้อง” ลู่ฟงพอได้ยินก็ตาลุกวาว ถ้าหากอี้เซียงกินยาผิดมันจะเกิดอะไรขึ้น “ไม่..นางไม่ได้เป็นคนมาซื้อ” ลู่ฟงยิ้มที่มุมปาก เท้าแขนทั้งสองข้างพร้อมทั้งยื่นหน้าไปถามคนขายใกล้ๆ “แล้วมันมียาอะไรบ้างที่คนท้องกินแล้วจะมีอันตรายถึงลูก คือที่บ้านคนรักของข้ามีคนท้องอยู่จริงๆ นางเป็นภรรยาของคนทำสวน ข้าเลยอยากจะรู้ไว้จะได้ไปบอกสามีของนางให้ระวัง แล้วเวลาซื้อยาจะได้มาซื้อด้วยตัวเองอย่างถูกต้อง” “อ๋อ..ได้สิ แต่จริงๆมันก็มีเพียงไม่กี่ชนิดหรอกนะที่คนท้องกินไม่ได้ แล้วพวกที่กินไม่ได้เนี่ยมันก็มักจะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการขับเลือดสำหรับหญิงที่ระดูมาไม่ปกติ เดี๋ยวข้าจะจดไว้ให้เฉพาะที่อันตรายจริงๆแล้วกันนะ”คนขายพูดแล้วก็หันหลังไปหยิบกระดาษกับพู่กันมาจดชื่อสมุนไพรให้ลู่ฟงพร้อมทั้งอธิบายสรรพคุณไปด้วย “คุณชายจำชื่อสมุนไพรชนิดนี้ไว้ให้แม่นเลยนะ ชื่อว่าป๋ายฮัวตาน** จะใช้ประโยชน์จากใบและรากในการปรุงยา ซึ่งรากของมันมีผลโดยตรงกับหญิงมีครรภ์ โดยเฉพาะหญิงที่เพิ่งตั้งครรภ์อ่อนๆถ้ากินเข้าไปจะทำให้แท้งลูกได้ง่าย” คนขายย้ำกับลู่ฟงถึงสรรพคุณของสมุนไพรชนิดนี้หลายรอบ เพราะในบรรดารายชื่อสมุนไพรจดไปให้ทั้งหมด มันมีฤทธิ์รุนแรงที่สุด “ข้าจะจำไว้ ขอบคุณท่านมากเลยนะ” ลู่ฟงยิ้มขอบคุณและจึงเดินออกมาจากร้านขายยาร้านนั้น จนถึงทางแยกข้างหน้าจะมีร้านขายยาอีกหนึ่งร้าน สายตาของลู่ฟงซ่อนความเหี้ยมไว้ภายในและจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในนั้นโดยไม่ลังเล “พี่ชาย ข้าต้องการรากแห้งของต้นป๋ายฮัวตานหนึ่งตำลึง”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ยามบ่ายที่จวนอำมาตย์ไป๋ ในขณะที่ท่านไป๋ที่เพิ่งกลับมาจากทำงานกำลังนั่งตรวจดูเอกสารต่างๆอยู่นั้น โดยมีไป๋อี้หลานคอยช่วยเหลืองานของบิดาอยู่ใกล้ๆ แม้นางจะเป็นหญิงแต่ด้วยสติปัญญานั้นไซร้หาได้เป็นรองชายชาตรีแม้แต่น้อย อำมาตย์ไป๋ที่กำลังก้มหน้าดูเอกสารที่อยู่ในมือ ในใจพลันนึกถึงจอมยุทธ์หนุ่มลึกลับคนเมื่อคืนขึ้นมาได้ ท่านตั้งใจจะเล่าให้อี้หลานฟังตั้งแต่เมื่อเช้านี้ แต่ก็ลืมไปเสียสนิท พอนึกขึ้นมาได้อีกครั้งท่านจึงรีบเล่าให้ลูกสาวฟังเผื่อว่านางจะมีความเห็นอื่น หลังจากอี้หลานรู้ว่ามีจอมยุทธ์ลึกลับมาบอกให้พ่อของนางให้ไปเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลฝ่าบาทให้พระองค์ทรงเปลี่ยนพระทัยเรื่องการยกทัพไปรบกับแคว้นเหลียวแล้ว นางก็พอจะเดาได้ในทันทีว่าจอมยุทธ์ผู้นั้นคือใคร “ตามความเห็นของข้าในเมื่อท่านพ่อก็อยากจะกราบทูลฝ่าบาทเรื่องนี้เพื่อดูท่าทางของขุนพลเจิ้นอยู่แล้ว ข้าจึงคิดว่าถ้าท่านพ่อจะทำตามคำพูดของจอมยุทธ์คนนั้นก็ไม่มีผลเสียอะไร เพียงแต่ว่าท่านพ่ออย่าลืมทำทีเป็นชวนขุนพลเจิ้นไปเข้าเฝ้าด้วยกันนะค่ะ หรือไม่ก็แสร้างทำทีเป็นปรึกษาหารือกับขุนพลเจิ้นก่อน เพื่อที่ท่านพ่อจะได้คอยสังเกตขุนพลเจิ้นไปด้วย” ลูกสาวที่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับบิดาเสนอความคิดเห็น ท่านไป๋เพียงลูบหนวดช้าๆ “แต่พ่อคิดว่าถึงพ่อไม่ไปชวนขุนพลเจิ้นแต่เขาก็ต้องรู้อยู่ดี เพราะพ่อแน่ใจว่าในวังหลวงมีสายของขุนพลเจิ้นอยู่ เพียงพ่อจะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อกราบทูลเรื่องนี้ ขุนพลเจิ้นก็จะต้องรีบตามมา ดูอย่างคราวก่อนสิที่ฝ่าบาททรงถามพ่อถึงเรื่องแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่ ขุนพลเจิ้นก็ยังมาดักรอพ่อเพื่อถามเรื่องนี้ ในตอนนั้นพ่อคิดว่ามันคงเป็นความบังเอิญ แต่ตอนนี้พ่อกลับรู้สึกว่าเขาตั้งใจมากกว่า” “ถ้าอย่างงั้นท่านพ่อคิดว่าจะไปกราบทูลฝ่าบาทเมื่อไหร่ค่ะ เพราะข้าว่ายังไงเรื่องนี้จะรอช้าอยู่ไม่ได้นะค่ะ” ท่านไป๋ส่งเสียงครางในลำคออย่างเห็นด้วยในคำพูดของลูกสาว “พ่อคิดว่าไม่พรุ่งนี้ก็คงจะเป็นมะรืนนี้” ผู้อาวุโสถอนหายใจคล้ายยังมีความกังวลอยู่ “อี้หลาน..พ่อถามเจ้าตามตรง เจ้ารู้ใช่ไหมว่าอี้เซียงคบหากับใครอยู่ แล้วเจ้าก็รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้องของนางใช่ไหม” อี้หลานได้ฟังคำถามนี้สะดุ้งไปเล็กน้อยเพราะในเมื่อนางย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าน้องสาวคบหากับใครอยู่ แต่ไม่รู้ถ้าบอกบิดาไปแล้วท่านจะว่าอย่างไรหรือไม่ “ว่ายังไงอี้หลาน เจ้ารู้ใช่ไหม บอกพ่อมาเถอะ พ่อไม่ไปทำอะไรผู้ชายคนนั้นหรอก พ่อแค่อยากรู้ว่าผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบคนนั้นเป็นใคร” ท่านไป๋เห็นอี้หลานนิ่งเงียบไม่ยอมตอบเลยต้องถามอีกครั้ง หญิงสาวอ้ำอึ้ง ใจนึงก็อยากจะบอกแต่อีกใจก็คิดว่าไม่ควร ในขณะที่กำลังชั่งใจอยู่นั้นเสียงบ่าวในบ้านก็เข้ามารายงานว่าจอมยุทธ์เซี่ยงมาพบ ทำให้ท่านไป๋ต้องหยุดความสงสัยไปชั่วครู่และบอกให้บ่าวในบ้านไปเชิญจอมยุทธ์เซี่ยงให้มาที่ห้องทำงาน รอสักพักจอมยุทธ์หนุ่มจึงเปิดประตูเข้ามาและรีบรายงานที่เขาเพิ่งจะสืบมาได้ “ใต้เท้า ตอนนี้ข้าได้ความคืบหน้าเกี่ยวกับแม่นางหยูเยี่ยนแล้วนะครับ จากข้อสงสัยที่ว่านางจะเป็นมือสังหารที่ได้รับฉายาว่า ‘วิหคเหิน’ หรือไม่ ตอนนี้ได้ข้อสรุปแล้วว่านางเป็นคนเดียวกัน มิหนำซ้ำนางยังเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมจอหงวนบู๊ปีที่แล้วด้วยครับ” อำมาตย์ไป๋และอี้หลานพอได้ฟังต่างหันมามองหน้ากัน หลังจากหยูเยี่ยนบุกมาที่จวนเพื่อทำร้ายอี้หลาน ซ้ำยังใช้อาวุธลับส่วนตัวเพื่อทำงานอี้หลานด้วยนั้น ทำให้จอมยุทธ์เซี่ยงที่กำลังช่วยอำมาตย์ไป๋ตามสืบพวกมือสังหารปีศาจเงินอยู่ ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับตัวหยูเยี่ยน ดังนั้นจอมยุทธ์เซี่ยงจึงเบนความสนใจจากมังกรเงินและพยัคฆ์ขาวไปตามสืบเรื่องของวิหคเหินก่อน และเพียงข้ามวันเขาก็ได้ข้อมูลมาตั้งมากมาย | |
|
| |
| The Swordsman of Devil | |
|