Series: Take my word for it / ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤติ 2001

ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤติ ปี 2001

[Take my word for it]

จางจื้อหลิน รับบท หยางกวง

เหวินซ่งเสียน รับบท เยี่ยเข่อเหยิน

โอวหยางเจิ้นหัว รับบท เผิงกั๊วะต้ง

กัวเข่ออิง รับบท เจี่ยนเจี๊ยะ

Series: Take my word for it / ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤติ 2001 Tmwfi

พวกเขาคือนักเจรจาต่อรองชั้นยอดของกรมตำรวจ ที่มีผู้นำทีมคือเผิงกั๊วะต้ง (โอวหยางเจิ้นหัว) กับเจี่ยนเจี๊ยะ (กั๊วะเข่ออิง) ร่วมด้วยหยังกวง (จางจื่อหลิน) และเยี่ยเข่อเหยิน (เหวินซ่งเสียน) พวกเขาช่วยกันเจรจาแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายมากมาย โดยไม่เคยล้มเหลว ทว่าด้านความรักกลับไม่สมหวัง สามีของเจี๊ยะลักลอบมีสัมพันธ์กับภรรยาของกั๊วะต้ง เจี๊ยะ ขอหย่าทั้งที่เธอกำลังตั้งครรภ์ ขณะเดียวกัน กั๊วะต้งได้รับบาดเจ็บในหน้าที่ จนต้องกลายเป็นคนพิการ แต่เจี๊ยะและหยังกวงไม่ทอดทิ้งเพื่อน หนุ่มสาวที่ผิดหวังในความรักต่างเป็นกำลังใจให้กันและกัน จนเกิดเป็นความเข้าใจโดยมิต้องเอ่ยถ้อยคำใดๆ

บทวิจารณ์

โดยจางงี้

source : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=linguniang&month=09-2006&date=30&group=3&gblog=8

สำหรับ ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤต ถือได้ว่าเป็นหนังจีนแนวสากลเรื่องที่ 4 ของ จางจื้อหลิน ซึ่งถ้าดูตามบทบาทที่เขาต้องเล่นนั้น นับได้ว่าเขาคงไม่ต้องใช้ประสบการณ์ในการแสดงที่ผ่านมาเข้าช่วยมากมายนัก เพราะเข้าใจว่าเขาสามารถเล่นบทนี้ได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียว เพราะบทบาทแนวนี้ จางจื้อหลิน เล่นมาแล้วถึง 2 เรื่อง คือ สองพยัคฆ์เซี่ยงไฮ้ และ ลูกผู้ชายต้องสู้ บทแนวออกบู๊เล็กน้อย (ที่ผ่านมาเป็นตำรวจ หรือไม่ก็ต้องใช้ปืนในการแสดง) ความต่างกันของที่ผ่านมาและเรื่องนี้คือ ในเรื่องนี้เขารับบทตำรวจนักเจรจา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับปืนเหมือนเรื่องที่แล้วมาแต่อย่างใด สิ่งที่ต้องใช้ก็คือ วาทะศิลป์ ในการช่วยชีวิตคนนั่นเอง ดังนั้นหากต้องการให้วัดระดับการพัฒนาฝีมือของ จางจื้อหลิน ก็คงบอกไม่ถูกเช่นกัน พูดได้แค่ว่า จางจื้อหลิน เป็นดาราที่สามารถพัฒนาฝีมือการแสดงได้กับทุกบทบาทที่เขาได้รับ ก็อาจจะว่าได้ เอาเป็นว่าเขาโชคดีที่ได้รับเลือกให้เล่นละครจากบทประพันธ์ชั้นนำนั่นเอง

ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤต จางจื้อหลินต้องเพิ่มเติม ฝีมือด้านไหนกันบ้าง เริ่มตั้งแต่บุคลิกตามท้องเรื่องส่วนใหญ่ที่จะต้องแสดงกึ๋น และความสุขุมรอบคอบในการเจรจา เพื่อช่วยเหลือชีวิตคน ตรงนี้มองว่า จางจื้อหลิน สามารถแสดงได้ดีทีเดียว เขาสามารถสื่อสารให้เห็นถึงความขัดแย้งในบุคลิกของหยังกวง ในสายตาของคนรอบข้างได้ชัดเจน สังเกตจากการที่จะทำให้คนรอบข้างมีความเชื่อมั่น และเชื่อใจในตัวหยังกวง ได้ หยังกวงก็ต้องมีวิธีการที่เป็นแบบฉบับของตนที่จะโน้มน้าวให้บุคคลเหล่านั้นเปลี่ยนใจที่จะทำร้ายตนเองได้

ซึ่งตรงนี้ตามท้องเรื่องก็มีการปูเนื้อเรื่องไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ตั้งแต่การแสดงให้เห็นถึง ความสามารถพิเศษของหยังกวง ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเป็นคนที่ขี้เล่น ไม่จริงจังในการสอบหรือการทำงาน แต่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อหยังกวงต้องใช้ความรู้ ความสามารถที่เรียนมาในการช่วยเหลือคน เขาก็ทำได้ดี จนกลายเป็นดาวเด่นในหมู่เพื่อนร่วมงาน รวมทั้งเป็นที่ชื่นชอบของอาจารย์อีกด้วย

ในด้านความรักระหว่าง หยังกวง กับ เยี่ยเข่อเหยิน กว่าที่จะสมหวังกันได้ผู้ชมก็อึดอัดหน้าดู ข้อนี้ จางจื้อหลินก็ไม่ต้องใช้ฝีมือกันมากมาย แสดงได้อย่างสบายเช่นกัน เพราะผ่านประสบการณ์มาก็หลายเรื่องแล้ว ผิดกันตรงที่เรื่องอื่นที่เขาต้องแสดงถึงความรักฉันท์หนุ่มสาวกับนางเอกนั้น ไม่ต้องปิดบังความรู้สึกกันมากมาย เพราะความรักที่มีให้กับนางเอกแต่ละเรื่องที่ผ่านมา พระเอกจะรักนางเอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่สำหรับ ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤต นั้น หยังกวงยังคาดหวังกับความรักครั้งแรกอยู่ เขาจึงไม่คิดที่จะมีความรักกับคนอื่นอีก แต่สำหรับความรู้สึกที่มีกับเยี่ยเข่อเหยิน นั้นเริ่มจากความเป็นคู่กัด ความเป็นเพื่อน จนถึงความสงสารและกลายมาเป็นความรัก ข้อนี้ จางจื้อหลิน จะต้องแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านความรักที่หยังกวงมีต่อเยี่ยเข่อเหยิน ซึ่งเขาก็สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน

โดยภาพรวมแล้ว ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤต คงไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าจางจื้อหลิน มีพัฒนาการด้านฝีมือการแสดงมากเพียงไร เพราะเข้าใจว่าเป็นบทบาทที่เขาสามารถแสดงได้อย่างสบายๆ เนื่องจากเป็นบทบาทที่ไม่ต้องใช้พลัง หรือสื่อความรู้สึกที่ขัดแย้งกันตามบทประพันธ์ เพียงแค่เพิ่มความสามารถในการแสดงความขัดแย้งสำหรับบุคลิกของตัวละคร ให้ผู้ชมเข้าใจแค่นั้นเอง รวมถึงการแสดงออกด้านความรักที่มีให้กับนางเอกของเรื่องก็ไม่ต้องพลิกแพลงอะไรมากมาย เพราะตามบทประพันธ์ก็ปูให้เห็นถึงพัฒนาการทางด้านความรักที่หยังกวงมีให้เยี่ยเข่อเหยินอยู่แล้ว เพียงแค่ จางจื้อหลิน ต้องสื่อสารจุดนี้ให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่ายก็เท่านั้นเอง

Create and Credit by Phanit A. …ซ้อจางงี้

บทวิจารณ์

โดยหลินกุเหนียง

ทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤติเป็นซีรี่ย์ของทีวีบีอีกเรื่องหนึ่งในปี 2001 ถัดจากหัวใจปรารถนาในปี 2000 ของจางจื้อหลินกับ tvb (ข่าวว่าเขารับงานของ tvb ปีละเรื่องเท่านั้น) บทชายหนุ่มอารมณ์ดีมีอุดมการณ์ในชีวิตต่างกับบทก่อนๆที่เขาเคยได้รับ จะว่าไปแล้วซีรี่ย์แนวสากลและกำลังภายในของจางจื้อหลินเขามักได้รับบทจอมยุทธ์ผู้สัตย์ซื่อและเคร่งขรึมหรือไม่ก็ชายหนุ่มสุขุมมาดดี แต่ในทีมพยัคฆ์หน่วยกู้วิกฤติเป็นบทที่แตกต่างออกไป หากไม่ได้ดูเรื่องนี้ก็คิดว่าเขาสามารถเล่นแต่บทเดิมๆ ไม่มีการฉีกแนว แต่เมื่อได้ดูแล้วจึงต้องเปลี่ยนความคิด

นอกจากบทเดิมๆที่ตรงกับบุคลิกจริงของเขาแล้ว จางจื้อหลินยังสามารถสวมบทหยางกวง หนุ่มอารมณ์ดีใช้ปากเป็นเอก ทะเล้นและน่ารัก มีเสน่ห์กับคนรอบข้าง ใครคบใครรักได้อย่างกลมกลืนไม่มีที่ติอีกเช่นกัน ภาพลักษณ์ในอีกรูปแบบของเขาเปลี่ยนตัวจริงของเขาเป็นหยางกวงได้อย่างกลมกลืน และที่สำคัญเขายังได้ร่วมงานกับนักแสดงคุณภาพอย่างโอหยังเจิ้นหัวอีกด้วยจึงยิ่งส่งให้เขาได้แสดงฝีไม้ลายมือออกมาได้อย่างเต็มที่ กอปรกับเนื้อหาของเรื่องไม่ซ้ำซากจำเจเป็นวิถีชีวิตของนักเจรจา อาชีพอีกแขนงหนึ่งของตำรวจที่เราๆไม่อาจเข้าไปสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดเหมือนตำรวจไล่จับผู้ร้ายธรรมดาทั่วไป

ความเข้มข้นของเนื้อหาเหล่านี้เป็นแนวถนัดของ tvb ที่สามารถเขียนบทได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้ได้รับความรู้ในอีกแขนงหนึ่งของอาชีพนี้ สรุปแล้วหยางกวงในเรื่องนี้ช่างมีเสน่ห์เหลือหลายที่น้อยรายนักเมื่อได้ดูซีรี่ย์เรื่องนี้แล้วจะไม่หัวเราะไปกับความทะเล้นแบบน่ารักและชื่นชมเขาที่สวมบทโดยจางจื้อหลินอีกครั้งหนึ่ง

หลินกุเหนียง