The Swordsman of Devil

หนีห่าว !!!!

ขอกราบสวัสดีงามๆอาซ้อบ้านจาง พี่ๆน้องๆบ้านเสอน้อง เอเลี่ยนแกงค์ แฟนคลับลำน้ำ บ้านเฮียเค และอีก...ทุกๆคน ที่แวบเข้ามาคะ

เผลอแปบเดียวคนเขียนก็เข็นฟิคโครงการ 1 สำเร็จจนปิดกล้องไปเรียบร้อย ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เข็นโครงการ 2 ออกมาเสียที หลังจากวางโครงการไว้ข้ามปีแล้ว สำหรับผลงานเรื่องที่ 2 นี้ ก็ยังเป็นแนวจอมยุทธกำลังภายในเหมือนเดิมนะเจ้าคะ จะสนุกและฮาเหมือนเรื่องแรกรึเปล่า อันนี้คงต้องฝากไว้ในอ้อมกอดน้อยๆของท่านผู้อ่านทุกคนให้พิจารณาคะ

ถ้าชอบก็ทิ้งเม้นท์ไว้ ไม่ชอบก็ทิ้งเม้นท์ไว้ได้เหมือนกันคะ เพราะเป็นกำลังใจน้อยๆให้คนเขียนได้เป็นอย่างดี ทุกๆคำติชมน้อมรับไปแก้ไขปรับปรุงค่า เขียนไม่ค่อยเก่งแต่ทุ่มหมดใจเหมือนเดิม

ขอบคุณค่ะ
ทับทิม (กรอบ)

** นิยายเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์กรีนมายด์แล้วนะคะ ทับทิมขออนุญาตลบเนื้อหาทั้งหมดค่ะ **

ป.ล. ขอบคุณอาแมร์เหมือนเดิม ไม่มีอะไรก็คนนี้อ่ะเพื่อนคุยและแรงใจที่ดีเสมอมา

เรื่องนี้อัพไม่บ่อยเหมือนเรื่องแรกนะคะ มาอัพตอนใหม่ช้าไปก็อย่าโกรธอย่างอน อย่าลืมกันน๊า



โปสเตอร์ อภินันทนาการจากพี่หลิน

ปกนิยาย เล่ม 1



ปกนิยาย เล่ม 2



มาทำความรู้จักกับนักแสดงของเรากันก่อนนะคะ เป็น DCTS แล้วจ้า ครบทีม




ชายหนุ่มผู้อยู่ระหว่างความดีและเลว - จางจื่อหลง





ชายหนุ่มผู้ทะเยอทะยานและต้องการเป็นที่หนึ่ง - เจิ้นลี่หู




คุณชายเจ้าสำราญที่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ - ลู่ฟง



หญิงสาวผู้มีหัวใจอันบริสุทธิ์ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ - ไป๋อี้หลาน




หญิงสาวที่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อชายอันเป็นที่รัก - หยูเยี่ยน




สาวน้อยที่ดื้อรั้น เอาแต่ใจ แต่หัวใจกลับอ่อนแอ - ไป๋อี้เซียง

เรื่องย่อ

ราชวงศ์ซ้องรัชสมัยฮ่องเต้เจินจง ยุทธภพได้เกิดองค์กรลับซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของยอดฝีมือทั้งห้าประกอบด้วย “มังกรเงิน” เจ้าของเพลงกระบี่ที่พลิ้วไหวดั่งกิ่งหลิวต้องสายลมแต่แข็งแกร่งดุจหินผา “วิหคเหิน” เข็มเงินดังสายฝนเยือกเย็นแต่รุนแรง วิชาตัวเบาดุจนางแอ่นน้อย “พยัคฆ์ขาว” เพลงกระบี่ดุดันทรงพลัง ว่องไวรวดเร็วดังสายฟ้าฟาด “มัจฉาเพลิง” พลังดาบแข็งแกร่งไม่เคยปราณี และ ”อาชาเหล็ก”ลูกตุ้มเหล็กหนักพันชั่ง แม้สมญานามจะเหมือนอยู่ฝ่ายธรรมะ หากแต่แท้จริงแล้วบุคคลทั้งห้าไม่ต่างอะไรกับปีศาจร้ายที่พร้อมจะปลิดชีพทุกคนตามคำสั่งของผู้เป็นนายใหญ่ภายใต้หน้ากากสีเงิน และไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใครก็ไม่อาจรอดพ้นความตายจากเงื้อมมือของพวกเขาทั้งห้าได้ ชาวยุทธทั้งหลายจึงขนานนามให้พวกเขาทั้งห้าว่า “ห้าปีศาจ”

ในราชสำนักมีขุนพลเจิ้นปังเป็นยอดขุนนางฝ่ายบู๊ บุตรชายของเขานามว่าเจิ้นลี่หูเป็นถึงองครักษ์หลวงชั้นสี่ พยัคฆ์หนุ่มรูปงามที่ผู้เป็นบิดาหมายหมั้นให้เป็นเขยของมหาอำมาต์ไป๋เส้าหยางให้ได้ แต่จนแล้วจนเล่าไป๋อี้หลานว่าที่คู่หมั้นก็มิยอมเปิดใจให้เขาเสียที มิหน้ำซ้ำเจิ้นลี่หูยังเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของไป๋อี้เซียง บุตรสาวคนเล็กของอำมาตย์ไป๋ ในคืนที่ฉลองตำแหน่งองครักษ์ขั้นสี่ให้ลี่หูนั่นเอง ยามดึกสงัดในขณะทุกคนนอนหลับใหลปีศาจร้ายภายใต้หน้ากากสีเงินได้เด็ดลมหายใจครอบครัวอดีตผู้คุมสอบจอหงวนปีที่แล้วสามสิบห้าชีวิต โศกนาฎกรรมครั้งนี้เป็นข่าวใหญ่ในเช้าวันรุ่งขึ้น และนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของมังกรเงินและพยัคฆ์ขาว มือสังหารที่ไร้ความปราณี ไร้รัก ไร้หัวใจให้ต้องสั่นคลอน ความบาดหมางที่เริ่มก่อตัวภายใต้พายุร้ายที่กำลังทวีความรุนแรง

ทางด้านลี่หูยังคงพยายามสานความสัมพันธ์กับอี้หลาน แต่ฝ่ายหญิงก็เหมือนจะปฏิเสธน้ำใจจากชายหนุ่มทุกครั้ง จนกระทั่งนางได้รับการช่วยเหลือจากจางจื่อหลงโดยบังเอิญ จอมยุทธหนุ่มที่นางไม่รู้จักหัวนอนปลายทางแต่กลายมาเป็นผู้ติดตามของนางไม่ต่างจากองครักษ์คุ้มกาย หลังจากที่นางต้องสูญเสียพี่ชายที่เป็นแม่ทัพไปด้วยการตายที่เป็นปริศนา อำมาตย์ไป๋สืบเรื่องการตายลูกชายของตัวเอง ยิ่งค้นหาก็ยิ่งรู้ความลับบางอย่างที่เกี่ยวโยงไปถึงความปลอดภัยของแผ่นดินต้าซ้อง ความลับนี้ได้นำมาซึ่งภัยมหันต์ต่อตระกูลไป๋อย่างที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้

ในเรื่องของความรักที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆของอี้หลานที่มีต่อจื่อหลง แต่ฝ่ายชายกลับปฏิเสธความรักของหญิงสาวด้วยท่าทางที่เย็นชา หากแต่ในใจของชายหนุ่มนั้นหวั่นไหวทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้อี้หลาน ความรู้สึกที่คุณหนูผู้งามพร้อมมีให้กับผู้ติดตามที่ต่ำต้อย สร้างความไม่พอใจให้กับลี่หูเป็นอย่างมาก องครักษ์หนุ่มพยายามกลั่นแกล้งจื่อหลงทุกครั้งเมื่อมีโอกาส แต่ทว่าจื่อหลงก็ได้รับความช่วยเหลือจากหยูเยี่ยน หญิงสาวที่แอบมีใจให้ ความรักสามเส้าที่แสนวุ่นวายระหว่างจื่อหลงที่มีใจให้อี้หลานแต่ไม่อาจยอมรับความรู้สึกของตัวเองกับลี่หูได้แสดงความรักให้หญิงสาวอย่างเปิดเผย อี้หลานคงตัดสินใจได้ไม่ยากถ้านางไม่ได้รู้ความจริงที่แสนโหดร้ายที่พี่ชายของนางต้องตายด้วยมือของชายอันเป็นที่รัก ด้วยเหตุนี้ทำให้ลี่หูได้มีโอกาสใกล้ชิดอี้หลานมากขึ้น แต่มันเป็นเพียงเพื่อหวังประโยชน์หาใช่ความรักที่แท้จริงอย่างที่นางเข้าใจ จื่อหลงจะมีวิธีการจัดการเรื่องนี้อย่างไรเพื่อพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง ความรักของเขากับอี้หลานจะลงเอยได้หรือไม่ ความทะเยอทะยานของลี่หูจะสิ้นสุดลงได้อย่างไร และเบื้องหลังของมือสังหารภายใต้หน้ากากสีเงิน ใครจะเป็นผู้กระชากหน้ากากนี้ หาบทสรุปทั้งหมดได้ใน The Swordman of Devil

ตอนที่ 7

** นิยายเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์กรีนมายด์ ขออนุญาตลบเนื้อหาทั้งหมดค่ะ **

ร่วมแสดงความยินดี งานเปิดกล้อง The Swordsman of Devil

tomtam พิมพ์ว่า:

มาเปิดบ้านนิยายใหม่ ดีใจจังเลยค่ะ ทับทิมทำ mv ได้สวยแอนด์เนียนมากๆ เทคนิคใส่แสงอาทิตย์ตอนต้นๆ ทำไงคะ แล้วตอนเปลี่ยนฉาก ภาพจะแว๊บๆ เหมือนเรืองแสงทำไงคะ ใช้โปรแกรมอะไรทำอ่ะ เนียนมากๆ ดูเพลินเชียว

อ่านเรื่องย่อแล้วแต่ยังงงๆ อยู่ เรื่องนี้จื้อหลงเปลี่ยนบุคลิกจากพี่ฮ่วยหลังมือเป็นหน้ามือเลยเนอะ

ผู้กินกับ SOD พิมพ์ว่า:

เอ็มวีใช้โปรแกรม Ulead VideoStudio 9 ทำคะ เทคนิคแสงอาทิตย์ก็ใส่ Video Filter เข้าไป ส่วนการเปลี่ยนภาพก็ใช้ Transition แบบ Flashback มันก็จะเป็นภาพแวบๆแบบในเอ็มวีคะ ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะแต๋ม

สำหรับเรื่องนี้จื่อหลงเปลี่ยนไปคะ ไม่เหมือนพี่หลี่ฮ่วยนะ คนนั้นปากบอกว่าเลว แต่ตัวจริงๆไม่ได้เลว แล้วก็อีกคนก็คือลี่หู ถ้าเรื่องที่แล้วชอบพี่ลี่จิง เรื่องนี้อาจจะเกลียดลี่หูขึ้นมาก็ได้คะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

ตามนักข่าวพิเศษไปแอบดูนักแสดงนำของเรื่อง 2 คนไปแล้ว เดี๋ยวเราตามไปดูนักแสดงอีกคนนะคะ



นั่นไงคะ เควิน แอบมานั่งหม่ำอยู่นี่เอง




นักข่าว : Hi..เควิน รู้สึกว่าวันนี้คุณจะแต่งตัวหล่อกว่าเพื่อนเลยนะ (นักข่าวแซว)

เควิน : ก็ผมเป็นพระเอกนี่ครับ ก็ต้องแต่งตัวหล่อกว่าใครอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ

นักข่าว : จริงหรอ ?




เควิน : ผมล้อเล่น คุณก็รู้ว่าเรื่องนี้ผมร้ายมากๆ จะเป็นพระเอกได้ยังไง

ผมว่าจะมีคนเกลียดผมเพิ่มขึ้นแน่ๆ วันนี้เลยขอผู้กำกับแต่งหล่อเรียกคะแนนความเห็นใจก่อน (เควินยิ้มหล่อๆเรียกคะแนน)


นักข่าว : แล้วคุณรู้สึกยังไงบ้างคะกับบทเจิ้นลี่หู เมื่อเทียบกับเหยาลี่จิงจากเรื่องที่แล้ว

เควิน : ลี่หูเลวได้ใจมากครับ ผมไม่ได้เล่นบทแบบนี้มานานมากแล้ว หวังว่าพวกคุณคงไม่เกลียดผมนะครับ (เควินย้ำคำนี้มากๆ)



ส่วนลี่จิง เรื่องนั้นผมว่าเขาดีเกินไป ฮ่าๆ (หัวเราะชอบใจ) ผมว่าถ้าผมเป็นลี่จิง ผมไม่รอขนาดนั้นหรอก

นักข่าว : หมายความว่าไงคะ ?

เควิน : ไม่บอกครับ คอยดูลี่หูแล้วกัน ผมว่าเขาเป็นด้านมืดของลี่จิงนะ

นักข่าว : ไม่บอกก็ไม่บอกคะ (ยิ้ม)




นักข่าว : แล้วคุณรู้สึกยังไงบ้างคะกับการได้ร่วมงานกับนักแสดงจากจีนอีกเป็นเรื่องที่สอง

เควิน : คุณหมายถึงน้องไป๋นะหรอ เธอก็น่ารักดีครับ เป็นเด็กดี ไม่ดื้อครับ

นักข่าว : นั่นแน่ ชมสาวอื่นน่ารัก ไม่กลัวมีคนงอนหรอคะ

เควิน : ไม่หรอกครับ น้องไป๋เหมือนน้องสาวของผมมากกว่า

นักข่าว : แล้วเรื่องนี้เป็นคู่รักกันอีกรึเปล่าคะ แบบว่ารักเด็กอีกแล้วแบบนี้

เควิน : ไม่บอกครับ แต่ที่แน่ๆเธอทำให้ผมปวดหัวมากๆ

นักข่าว : เควิน คุณเป็นนักแสดงที่ดีมากเลยนะ ไม่บอกอะไรเลย (นักข่าวแอบค้อน)

เควิน : ฮ่าๆ

นักข่าว : คุณนึกยังไงทำท่านี้เนี่ย (นักข่าวมองหน้า)

เควิน : ผมทำท่านี้ให้น้องสาวผมต่างหาก (นักข่าวหันไปทางด้านหลัง)



ไป๋เสว่ : Hi...พี่ชาย (เธอกำลังถ่ายรูปอยู่ หันมาทักทายทางเรา)

นักข่าว : อ๋อ...แล้วตกลงคุณชอบอาเส่ในเรื่องบ้างรึเปล่า

เควิน : ไม่บอกครับ

นักข่าว ถอนหายใจ




นักข่าว : คุณอยากจะฝากอะไรถึงแฟนๆบ้างคะ

เควิน : ผมขอฝากผลงานเรื่องใหม่ของผมด้วยนะครับ เรื่องนี้ถึงผมจะร้าย

พวกคุณก็อย่าเกลียดผมนะครับ ขอบคุณครับ

นักข่าว : ขอบคุณคุณเช่นกันคะ ขอให้ผลงานเรื่องใหม่ของคุณเรตติ้งพุ่งไปเกิน 30 จุดนะคะ

ตะลุยกองถ่าย The Swordsman of Devil

หนีห่าว...วันนี้ฉัน..ทิมมี่ยังคงทำหน้าที่นักข่าวพิเศษ จะพาพวกคุณไปรู้จักน้องสาวคนเล็กของเรื่องนี้คะ

เดี๋ยวเราตามไปด้านในกันเลยนะคะ เธอกำลังนั่งพักผ่อนรอเข้าฉากอยู่คะ




นักข่าว : Hi..อาเส่ว ขอสัมภาษณ์คุณได้ไหมคะ

อาเส่ว : ได้คะ ยินดีมากๆเลย

นักข่าว : คุณรู้สึกยังไงบ้างคะ ที่ได้กลับมาร่วมงานกับทีมงานชุดนี้อีกเป็นเรื่องที่สอง

อาเส่ว : ดีใจมากคะ แล้วก็มีความสุขมาก ทุกคนเป็นกันเองมากเลยคะ

นักข่าว : ทำไมผู้กำกับถึงให้คุณมารับบทอี้เซียงคะ แล้วคุณรู้สึกยังไงกับบทนี้บ้าง

อาเส่ว : ผู้กำกับบอกว่าติดใจฉันจากบทนางฟ้าน้อยในเรื่องเซียวฮื้อยี้คะ ก็เลยให้ฉันลองเล่นเป็นอี้เซียงดู

ซึ่งก็มีส่วนคล้ายกันอยู่ แล้วฉันก็ชอบบทนี้นะคะ สนุกดีค่ะ




นักข่าว : แล้วถ้าเทียบกับเรื่องที่แล้วล่ะคะ คุณคิดว่าไง

อาเส่ว : เทียนฟ่งหรอคะ อืม...ฉันก็ชอบนะ เธอดูเรียบร้อยดี แต่ฉันคิดว่าบทอี้เซียงเหมาะกับฉันมากกว่า

นักข่าว : แสดงว่าคุณเป็นคนดื้อ แล้วก็ไม่ค่อยเรียบร้อยล่ะสิ (นักข่าวแซว)

อาเส่ว : ฮ่าๆ แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ

นักข่าว : ???





นักข่าว : คุณรู้สึกยังไงบ้างคะที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงจากฮ่องกง

อาเส่ว : โอ้ว...ดีใจมากเลยคะ เพราะทุกคนล้วนเป็นซุปเปอร์สตาร์กันทั้งนั้น ฉันรู้สึกดีมากๆ

ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับนักแสดงมืออาชีพ แล้วพวกพี่ๆก็ช่วยฉันได้เยอะเลยคะ ตอนแรกคิดว่าจะเหงาซะแล้ว

แต่พอเริ่มถ่ายทำจริงๆ สนุกมากเลยคะ พวกพี่ๆไม่ถือตัวเลย แล้วก็ดีกับฉันมากๆ

นักข่าว : รู้สึกว่าคุณจะสนิทกับเควินมากนะ เมื่อวานตอนที่เปิดกล้อง มีแฟนๆเห็นคุณทักทายเควินแบบสนิทสนม



อาเส่ว : อ๋อ...พี่เควินเป็นพี่ชายที่ดีมากคะ แต่ฉันไม่ได้สนิทกับพี่เขาคนเดียวนะ มีพี่เส่ แล้วก็พี่ชิแลมด้วย

พวกเขาดีกับฉันแล้วก็เอ็นดูฉันมากคะ ในฐานะน้องคนเล็กแล้วก็มาจากจีนด้วย

(อาเส่ว เหมือนกำลังก้มหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า ก่อนจะเงยหน้ามาให้สัมภาษณ์ต่อ)

อาเส่ว : วันเกิดของฉันปีที่แล้ว บังเอิญว่าฉันอยู่ในกองถ่ายพอดี ฉันซาบซึ้งใจมากๆ

ที่พวกพี่ทั้งสามคน เอาเค้กมาอวยพรวันเกิดให้ฉันคะ ฉันมีรูปจะให้ดูด้วยว่าพี่ๆเอ็นดูฉันแค่ไหน



นักข่าว : ห๊า.....ดูท่าว่าพี่ๆทั้งสามของคุณจะรักคุณมากนะเนี่ย แล้วใครเป็นคนเริ่มก่อน

อาเส่ว : ฉันจำไม่ได้แล้วคะว่าใครเริ่มก่อน รู้แต่ว่ามีมือหลายมือช่วยกันกดหัวฉันแค่นั้นเอง

อ๋อ..เหมือนจะเป็นเสียงพี่ชิแลมพูดว่า...สุขสันต์วันเกิดน้องสาว แล้วตามด้วยมือของพี่เค้าคะ

แต่ตอนนั้นฉันดันมือพี่เค้าไว้ แต่ก็มีมืออีกมือมาช่วยโปะหน้าฉันแทนพี่ชิแลมทางด้านหลังคะ

นักข่าว : เป็นมือเควินรึเปล่า ไม่ก็อาเส่

อาเส่ว : ฉันว่าทั้งหมดล่ะคะ พวกเขารักฉันมากจริงๆ

(แล้วอาเส่วก็โชว์อีกรูปให้ดู)



นักข่าว : คุณรู้ตัวไหมว่าคุณดูไม่ได้จริงๆ

อาเส่ว : ฉันก็ว่างั้นคะ แต่ฉันก็ได้ยินเสียงพวกพี่ทั้งสามหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ฉันก็โอเคนะ

ทำให้พวกเค้าหัวเราะได้ แล้ววันปิดกล้องฉันก็ได้ของขวัญที่น่ารักมากจากพี่เส่คะ

แต่พี่ชิแลมกับพี่เควินบอกว่าพวกเค้าก็มีเอี่ยว เพราะพาพี่เส่ไปซื้อมาให้ฉัน




อาเส่ว : รูปเจ้าเหมียวตอนนี้คะ ฉันถ่ายคู่กับเจ้าเหมียว กะจะเอามาอวดพี่เส่คะว่าฉันเลี้ยงมันอย่างดี




นักข่าว : ขออีกคำถาม ตกลงเรื่องนี้ลี่หู (เควิน)รักคุณอีกรึเปล่า ฉันดูตัวอย่างเห็นเค้าร้องไห้

มีแฟนๆสงสัยคะว่าผู้หญิงที่เค้ากอดใช่คุณรึเปล่า

อาเส่ว : ไม่บอกคะ พี่เควินสั่งฉันไว้ว่าไม่ให้บอก บอกได้แต่ว่าฉันจะทำให้เค้าปวดหัวมากๆ

นักข่าว : พวกคุณสองคนช่างเป็นพี่น้องที่เหมือนกันจริงๆ เอาล่ะคะ คุณอยากจะฝากอะไรถึงแฟนๆบ้างคะ

อาเส่ว : ฉันขอฝากผลงานเรื่องนี้ด้วยคะ หวังว่าทุกคนคงจะชอบคะ ขอบคุณคะ

หลังจากสัมภาษณ์เสร็จอาเส่วก็กลับไปเข้าฉากต่อ โอกาสหน้าฉันจะพาพวกคุณไปตะลุยกองถ่ายโอกาสต่อไปนะคะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามคะ บะบาย......