เรื่องเล่า . . เมื่อเราเจอกันวันนี้ในที่สุดก็ได้ไปเจอจางงี้ หนึ่งในนักเขียนตัวเอกของบ้านเอเลี่ยน
สมาชิกเอเลี่ยนคนที่สองที่ได้ออกหนังสือ (คนแรกก็อาแมรค่ะ ออกหนังสือลำน้ำจันทร์)
แล้วก็เป็นสมาชิกคนแรกที่นำฟิคชาเรี่ยนสู่สายตาชาวไทย
และอาจสู่สายตาชาวฮ่องกง (ก็จางพี่กับเสอน้องไง) ในไม่ช้า
ก่อนอื่นต้องขอบคุณทั้ง
มล มามิ จางงี้ ก่อนเลย ที่สามสาวเค้าพร้อมใจกันใส่แว่น
มาเจอกันเมื่อวันเสาร์ ทำให้ o-yo ได้จุดสังเกตแล้วก็ใส่แว่นไปบ้าง
พอถึงบูธก็ทำให้รู้ได้ทันที ว่าคนไหนคือจางงี้
ไปถึงงานตั้งแต่ 11 โมงเศษ แต่ว่าไปเดินหาซื้อพวกหนังสือนิทานก่อนเลยเพื่อไม่เสียเวลา
เพราะกะว่าจะไปเจอจางงี้ที่บูธ คืออยากรู้ว่าตัวเองจะทายถูกมั้ยว่าคนไหนนะจางงี้
ก็เลยไม่คิดจะโทรศัพท์ไปหา แบบกะเสี่ยงดวงดูเองเลย
เดินอยู่ 1 ชั่วโมง ชนคนและสิ่งของไปกว่า 10 ก็เพราะว่าจะใส่แว่นเนี่ยแหล่ะ
แว่นที่ใส่เป็นแว่นใหม่ค่ะ ทำให้ยังไม่ชินถ้ามองใกล้ๆ จะรู้สึกว่าทางเดินระดับมันต่างกัน
เหมือนเป็นภาพลวงตานิดๆ ก็เลยต้องมองไกลๆ พอมองไกลๆ ปุ๊บ
ก็ไม่ได้มองว่าคนที่เดินใกล้ๆ น่ะเค้าลากกระเป๋า ก็สะดุดโครม
บางคนจูงเด็กเล็กๆ มาด้วย ก็เดินไปชนเด็กที่ถูกฝูงชนบังไว้มิดเข้าอีก
พอมาเจอจางงี้ จางงี้ก็บอกว่าทำไมไม่มาถึงบูธก่อนล่ะค่อยใส่
เอ้อ . . จริงด้วย แต่ว่าสายไปแล้วล่ะจางงี้ ใส่มาตั้งแต่บ้านแล้วเนี่ย
อีกอย่างหอบหนังสือเยอะแยะ ถ้าใส่หน้าบูธอาจจะคลำหากล่องแว่นไม่เจอก็เป็นได้
ตอนที่เจอจางงี้ก็ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เอ๊ . . ใช่เปล่าน้า
แต่ทั้งบูธมีสาวคนนี้ใส่แว่นอยู่คนเดียว หยิบจับหนังสือ ช่วยโฆษณาคล่องแคล่ว
สายตาก็เห็นมองไปมาเหมือนหาใครอยู่ เอ้า . . คนว่างแล้วลองทักดูดีกว่า
โอโย่: จางงี้ (ทักด้วยเสียงแผ่วเบาประมาณว่าจางงี้ต้องอ่านปากเอาเอง เพราะกลัวหน้าแตก)
จางงี้: ว้าย . . ตัวเอง ดีใจจังเลย เดี๋ยวไปเจอกันตรงนู้นนะ
โอโย่: ซื้อหนังสือก่อน เอาเรื่อง ปม . . ปมปริศนา . . เอ้ย . . ปม ของจางงี้น่ะ
(คือว่าตื่นเต้นจัด ลืมชื่อเรื่องที่ท่องมาหมดเลย ดันไปจำเป็นปมปริศนาพยานมรณะ
ละครของอาเส่กับเฮียบ๊อบบี้ ตอนแรกจางงี้ก็ทำหน้างงๆ แต่สุดท้ายก็หยิบให้ค่ะ) จางงี้: ซื้อจอมนางด้วยรึยัง เอาด้วยมั้ย . . 4 เล่มเลยนะ
(นอกจากจางงี้จะเป็นนักเขียนแล้ว ยังช่วยสนพ PC ขายของเก่งอีกด้วย
แบบนี้พี่ๆ ทางสนพ น่าจะให้ส่วนแบ่งจางงี้เพิ่มขึ้นนะคะเนี่ย)หลังจากนั้นพวกเราก็ออกไปคุยกัน ให้จางงี้เซ็นหนังสือ ถ่ายรูปร่วมกัน
โม้เรื่องราวเกี่ยวกับแก๊งของเราและหนังสือ คุยเรื่องโครงการ
จางงี้บอกว่า
มลหน้าใสมาก
มามิก็ซื้อหนังสือไปเยอะ อ่านได้หลายแนวจริงๆ
หลินกุกับ
ทับทิมใช้บริการงี้เซอร์วิส จะจัดส่งหนังสือให้ก่อนสงกรานต์
คุยกันได้ประมาณ 15 นาที เพื่อนของจางงี้ก็โทรศัพท์มาบอกว่ามาถึงแล้ว
เพื่อนคนนี้เป็นแฟนคลับเฮียหม่าจิ่งเทาค่ะ เราก็เลยหยุดการคุยเพียงแค่นี้
เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนคนใหม่ได้มาใกล้ชิดกับนักเขียนคนดังบ้าง
บทส่งท้าย . . จางงี้บอกว่าอยากมีโอกาสนัดเจอแฟนคลับ
โดยเฉพาะหลินกุ ที่จางงี้อยากเจอมาก แต่หลินกุอยู่ไกลเหลือเกินไม่รู้จะมีโอกาสเจอไหม
ขากลับ o-yo เดินหลงอยู่นานกว่าจะเดินมาเจอจุดที่นัดไว้กับท่านพ่อ
เฮ่อ เฮ่อ . . ตอนที่เดินหลงนะ คิดถึง
น้องฟาร์มกับ
อาหมั่นมากๆ
แก๊งผู้ชำนาญการเรื่องทิศทาง มีความสามารถพิเศษเรื่องการหลงทาง
จำได้ว่าเมื่อครั้ง
น้องฟาร์มกับ
อาหมั่นเจอกันก็พากันหลงกรุงมาที
ครั้งนี้พี่เดินหลงบูธ พี่ล่ะคิดถึงน้องทั้งสองเป็นอย่างมาก อยากให้มาร่วมด้วยช่วยกันหลงจริงๆ
ปริศนาจากใจนักเขียน . . ชาวเอเลี่ยนทั้งหลายลองทายดูซิว่า นักเขียนคนดัง “จางงี้” คือคนไหนเอ่ย