Welcome To Charlianz world
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


Welcome to Charlian Thai fans
 
บ้านLatest imagesสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 The Swordsman of Devil

Go down 
+6
midori
Cipher
O-yohyo
ple-ple
lingu
tabtim
10 posters
ไปที่หน้า : Previous  1 ... 10 ... 16, 17, 18 ... 27 ... 37  Next
ผู้ตั้งข้อความ
Cipher
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
Cipher


จำนวนข้อความ : 1273
Registration date : 11/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyTue Jan 20, 2009 11:19 pm

เสาร์/อาทิตย์นี้เค้าสละสิทธิ์นะคะต้องไปงานรับปริญญาน้อง ต่อด้วยไปไหว้บรรพบุรุษคะ ถ้ากลับไม่ดึกมากจะตามละกันคะ


เพราะงั้นเชิญผู้กินกับทับทิมกรอบทรมานผู้อ่านได้ตามอัธยาศัยคะ
The Swordsman of Devil - Page 17 Pic27644
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyWed Jan 21, 2009 8:39 pm

The Swordsman of Devil - Page 17 904234340 ว๊ากกกก จะมีคนไปฟ้องพี่เฉาก๊วย ไม่นะๆ อย่าทำแบบนั้น

หนาวๆแบบนี้ถ้าพี่เฉาก๊วยให้มานอนนอกมุ้งจะทำยังไง

แบบนี้ก็ไม่ได้นอนกอดซบอกอุ่นๆของพี่เฉาก๊วยอ่ะจิ The Swordsman of Devil - Page 17 Yociexp51

ไม่ได้การแล้วแบบนี้ ต้องรีบไปปั่นตอนที่ 17 มาปิดปากซะแล้ว The Swordsman of Devil - Page 17 935486678
ขึ้นไปข้างบน Go down
Cipher
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
Cipher


จำนวนข้อความ : 1273
Registration date : 11/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyWed Jan 21, 2009 9:20 pm

ขอบคุณพี่หลินนะค่ะ ในที่สุดผู้กินกับก้อยอมรับปากจะปล่อยของจริงออกมาให้แฟนๆ ได้ยลโฉมกันสักที The Swordsman of Devil - Page 17 A6713342-196
ขึ้นไปข้างบน Go down
chuengngee
ศิษย์ใหม่ชาเรี่ยน..เอ๊าะๆเฟรชๆ
ศิษย์ใหม่ชาเรี่ยน..เอ๊าะๆเฟรชๆ



จำนวนข้อความ : 55
: 46
Registration date : 13/12/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyThu Jan 22, 2009 6:09 am

บอกตามตรง...แต่แรกยังไม่ทันได้ตามอ่านตอนที่ 17...ปรากฎว่าเห็นพูดกันในบ้านบอร์ด 3 แยะ...ก็เลยตามมามั่ง...

แล้วก็....5555555555...ผู้กำกับเล่นงี้เลยหรอฟระเนี้ย....มิน่าคนอ่านเรียกร้อง 17.1 กันเป็นแถว...สงสัยผู้กำกับงานเข้าแล้วค่ะ...แค่ .1 กะ .2 คงไม่พอมั้ง โทษฐานทำร้ายจิตใจคนอ่าน...สงสัยต้องต่อไปถึง .5 แหงเลย
ขึ้นไปข้างบน Go down
O-yohyo
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
O-yohyo


จำนวนข้อความ : 6683
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyThu Jan 22, 2009 9:47 pm

ส่งสุดหล่อมาร้องเพลงขับกล่อม ให้ผู้กินกับมีอารมณ์สุนทรีย์แต่งฟิคได้ไวไว


The Swordsman of Devil - Page 17 Taa111fo1
ขึ้นไปข้างบน Go down
tomtam
ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
ศิษย์ชาเรี่ยนขั้น 2
tomtam


จำนวนข้อความ : 167
: 43
Registration date : 14/12/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptySun Jan 25, 2009 5:29 pm

เว้นไม่ได้อ่านมาหลายตอน เพราะติดภาระกิจปั่นฟิคอยู่ค่ะ (ผู้กินกับ อย่าเพิ่งตัดออกจากกองมรดกนะคะ) ก็พระเอกดันหน้าตาคล้ายๆ กัน เล่นเอาคนอ่านสับสน (หัวใจ Embarassed ) ไปหมด ฮ่าๆ

ตอนที่พี่ใหญ่บอกน้องสามว่า หากเป็นตนเองจะเลือกคนรัก ฟังแล้วดีใจแทนน้องหลาน ตอนแบ่งซาลาเปากันก็น่ารักมากมาย ทำเอาอยากกินซาลาเปา "ลูกนั้น" ไปด้วย อิๆ ฉากบอกรักของพี่หูน้องเซียงเนี่ย อ่านแล้วตายไปเลย ซึ้งมากๆ ในใจก็แอบไม่เชื่อพี่หูว่าจะรักษาสัญญาได้จริง

เห็นด้วยกับหลินกุค่ะ คะแนนพี่ลู่ฟงตอนนี้ตกอย่างแรง เจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่ยอมรับว่าแพ้อ่ะ เริ่มสงสารพี่หู ถึงแต่ก่อนจะร้ายมากก็เหอะ แผนเจ็บเพื่อก่อ นี่ได้คะแนนทั้งน้องเซียงและผู้อ่านด้วยค่ะ I love you

เรื่องพ่อลูกระหว่างขุนพลเจิ้นกับพี่หูชักจะยังไง บางครั้งก็ดูเหมือนรัก บางรักก็ดูเหมือนใจร้าย รึว่าจะเกี่ยวกับแม่ของพี่หูหรือเปล่าคะ เพราะไม่เคยเห็นผู้แต่งกล่าวถึงเลย น่าสงสัยจริงๆ สองพ่อลูกคู่นี้

แว๊บบบไปอ่านตอนต่อไปก่อนค่ะ

&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&

อ้าววววววววว เฮ๊ยยยยยยยย ไหนฟระตอนที่ 17 กรรม หลอกกันนี่หน่า หลงนึกว่าตัวเองไม่ได้อ่านมาหลายตอน ที่ไหนได้ ตอนที่ 17 และ 17.1 มันช่าง... เอ่อ... No โดนผู้กินกับทำพิษซะแล้ว อย่างนี้ต้องให้พี่ลี่หูจับตี (ด้วยหัวใจ) โหะๆๆ แงงงงงงง
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://forums2.popcornfor2.com/index.php?showtopic=56077&st=
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:26 pm

ตอนที่ 17 (เรท 13 ปีขึ้นไป)

อี้หลานเหมือนคนใจลอยนึกทบทวนในคำพูดของจื่อหลงที่บอกกับนางว่าเจ้าของถุงผ้าที่อยู่ในมือของนางตอนนี้เป็นของภรรยาที่จื่อหลงรักเป็นคนทำให้ ถึงแม้ภรรยาของจื่อหลงจะจากไปถึงหกปีแล้ว แต่เขาก็ยังไม่อาจลืมเลือนไปได้ คนที่รักกันและอยู่ด้วยกันจนมีลูกชายไว้เป็นพยานรักเช่นนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะไม่คิดถึง หญิงสาวถอนหายใจกับตัวเองแล้วเปิดประตูห้องออกมาหาจื่อหลงที่เดินตามอี้หลานมาเอาถุงผ้าคืนที่ยืนรออยู่ด้านนอก
“ถุงผ้าที่ท่านฝากข้าไว้อยู่นี่แล้ว” นางพูดเสียงเศร้าๆพร้อมทั้งคืนของให้ จื่อหลงได้ฟังน้ำเสียงของอี้หลานก็พอจะเข้าใจว่านางรู้สึกอย่างไรบ้าง
“คุณหนูโกรธข้าอยู่รึเปล่า น้ำเสียงดูไม่ค่อยดีเลย”
“ท่านจะให้ข้าโกรธท่านเรื่องอะไรล่ะ แล้วน้ำเสียงแบบนี้เขาเรียกว่าโกรธอยู่หรอ” อี้หลานทำเป็นหันหน้าไปทางอื่น คำพูดที่นางพูดออกมาทำให้จื่อหลงก้มดูถุงผ้าในมือแล้วยิ้มที่มุมปาก
“งั้นก็แสดงว่าไม่ได้โกรธแต่กำลังหึง”
“จะให้ข้าไปหึงใคร” จากน้ำเสียงที่ดูเศร้าในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนไปเป็นแสดงออกถึงความหงุดหงิดที่อีกฝ่ายมาพูดยั่วโมโหแบบนี้
“ก็ไม่รู้สิ ถ้าไม่หึงก็แสดงว่าโกรธ”
“จื่อหลง...ข้าไม่พูดด้วยแล้วนะ” อี้หลานขึ้นเสียงทั้งน้ำตา จะบอกว่านางรู้สึกเจ็บนั้นก็คงใช่เมื่อรู้ว่าชายที่มีใจให้มาตลอดนั้น ในหัวใจของเขามีแต่ภรรยาที่ตายไปแล้ว อี้หลานพอพูดจบประโยคก็หันหลังจะเดินเข้าห้อง แต่จื่อหลงไม่ยอมให้นางเดินหนีรีบคว้าของข้อมือหญิงสาวเอาไว้ก่อน
“คุณหนูอย่าเพิ่งไป ฟังข้าพูดก่อน ที่ข้าเล่าถึงที่มาของถุงผ้านี้ให้คุณหนูฟังเพราะว่าข้าอยากให้คุณหนูได้รับรู้อดีตของข้าว่าข้าเคยมีภรรยาและลูก ถึงแม้ว่าพวกเขาสองคนจะตายไปแล้วแต่ข้าก็ไม่เคยลืมพวกเขาสองคนได้ พวกเขาคอยเป็นแรงใจให้ข้าต่อสู้และมีลมหายใจอยู่ต่อจนได้มาเจอคุณหนูในวันนี้ ข้ารู้ว่าตัวข้าต่ำต้อยเป็นแค่จอมยุทธ์ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่คุณหนูก็ไม่เคยรังเกียจ คุณหนูเห็นข้าเป็นเพื่อนและมีน้ำใจให้ข้ามาตลอดจนข้ารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก” จื่อหลงหยุดพูดและจึงกุมมือของอี้หลานไว้ “ข้าสัญญากับคุณหนูไว้แล้วว่าจะไม่ทำให้คุณหนูต้องเสียใจ แต่ถ้าหากอดีตของข้าทำให้คุณหนูต้องรู้สึกไม่ดี ข้าก็ขอโทษ ข้าเพียงอยากบอกให้คุณหนูรู้ว่า..ถึงแม้ข้าจะเคยรักภรรยาของข้าแต่นางก็จากไปแล้ว ข้าไม่ควรจมอยู่กับอดีตแต่ควรจะมองไปที่อนาคต อนาคตที่มีคุณหนูเดินร่วมทางไปด้วย อี้หลาน...มันจะพอเป็นไปได้ไหมที่ดอกฟ้าจะโน้มกิ่งลงมาหา ให้โอกาสข้าได้ดูแลเจ้าไปตลอดชีวิต” น้ำเสียงนุ่มลึกออกมาจากใจ หน้าที่กับความรักมักสวนทางกันเสมอแต่จื่อหลงก็ได้เลือกแล้ว เขาไม่อยากผิดต่อคนรัก เขาถึงได้เลือกเดินทางนี้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะนำเขาเข้าไปสู่เส้นทางแห่งความตาย เขาก็ไม่สนใจ ขอเพียงวันนี้จื่อหลงได้สามารถปกป้องดูแลคนที่ตัวเองรัก แม้ต้องตายเขาก็ไม่เสียดายอีกแล้ว อี้หลานพอได้ฟังคำพูดจากใจของจื่อหลง ความรู้สึกที่เศร้าเสียใจเมื่อครู่ก็เลือนหายไปจนหมดสิ้น นางไม่ได้หูฝาดและไม่ได้ฝันไป ตอนนี้ใบหน้าของนางเป็นสีแดงระเรื่อและก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม
“อี้หลาน...เจ้าจะให้โอกาสข้าได้ไหม”
“ข้า...ข้าให้โอกาสท่านมาตั้งนานแล้ว อยู่ที่ว่าท่านจะคว้ามันไว้ได้รึเปล่าเท่านั้น” น้ำเสียงอายๆค่อยๆหลุดออกมาจากริมฝีปากบางของหญิงสาว ทำให้คนฟังยิ้มจนตาประกาย
“ข้าต้องคว้าไว้ได้อยู่แล้ว และจะไม่ยอมปล่อยมือด้วย” ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวเอาไว้แน่นบอกให้นางรู้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งนางเป็นแน่ “เจ้ามากับข้าสิ” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวให้เดินมาด้วยกันจนถึงในสวนบ้านไป๋และไปหยุดที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ อี้หลานไม่รู้ว่าจื่อหลงพานางมาทำอะไรที่นี่ แต่นางก็เห็นเขาย่อตัวลงไปกับพื้นและหากิ่งไม้มาขุดดินขึ้นมาเป็นหลุมเล็กๆลึกลงไปประมาณหนึ่งคืบ พอขุดหลุมได้ตามต้องการแล้วเขาก็หยิบถุงผ้าที่ใส่เครื่องหอมที่ภรรยาเป็นคนทำให้ออกมาถือไว้ และค่อยๆวางลงไปในหลุม อี้หลานที่ยืนดูอยู่รีบย่อกายลงมาดูด้วยแววตาสงสัย เหตุใดจื่อหลงถึงทำเช่นนี้ แต่ความสงสัยนั้นก็มีอยู่ไม่นานเมื่อนางได้ยินจื่อหลงพูดเบาๆ ขอให้ภรรยาที่ล่วงลับหลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงใยเขาอีกแล้ว ชายหนุ่มขอให้อี้หลานช่วยกันใช้ดินกลบถุงผ้าไว้ที่ก้นหลุมด้วยกัน ให้ภรรยาได้รับรู้ในการตัดสินใจของเขาครั้งนี้
“ข้าอยู่กับอดีตที่ปวดร้าวมาแสนนาน ตอนนี้ข้าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ อาซิ่วที่อยู่บนสวรรค์พร้อมกับลูกตงคงจะดีใจมาก” จื่อหลงก้มหน้ามองหลุมดินที่ฝังถุงผ้าไว้พูดออกมาและจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับหญิงสาวที่อยู่ด้านข้าง
”อี้หลาน...ข้าจะถนอมวันเวลาที่มีค่านับจากนี้ไว้ ข้าจะไม่ทำผิดต่อเจ้า ข้าให้สัญญา” ชายหนุ่มกุมมือหญิงสาวไว้แน่น น้ำเสียงของเขานุ่มลึกและมั่นคงหนักแน่น
“ท่านไม่ต้องสัญญากับข้าก็ได้ เพราะข้ารู้ดีว่าท่านจะไม่ทำให้ข้าต้องเสียใจ”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าอยากให้เจ้าเชื่อข้าว่าข้าจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า เจ้าจะเชื่อในคำพูดของข้าได้ไหม” สายตาของจื่อหลงมองหญิงสาวอย่างต้องการคำตอบ
“ข้าเชื่อท่านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ และก็ตลอดไป” อี้หลานน้ำเสียงเขินอายหากแต่สิ่งที่นางตอบออกมานั้นไม่เคยลังเล ชายหนุ่มค่อยๆประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นและยิ้มให้นางอย่างหวานซึ้ง รอยยิ้มที่ห่างหายไปถึงหกปี บัดนี้มันได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจื่อหลงอีกครั้ง
“อี้หลาน..ถ้าข้าไม่ชนะการประลอง ไม่ได้เป็นแม่ทัพ ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โต เจ้าจะยังยอมรับข้าอยู่อีกไหม”
“ข้าก็บอกท่านไปแล้วไง ไม่ว่าท่านจะเป็นอะไรข้าก็ยอมรับได้เสมอ”
“ถ้าข้าต้องตกยาก เจ้าก็จะยอมไปลำบากกับข้าใช่ไหม” อี้หลานได้ฟังคำถามที่ดูจะกังวลของจื่อหลงแล้ว นางก็ได้แต่ยิ้ม
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:28 pm

“ท่านเห็นข้าเป็นคุณหนูแล้วจะทำตัวติดดินไม่ได้รึยังไงค่ะ จื่อหลง..ขอเพียงมีท่านอยู่ด้วย ต่อให้ลำบากแค่ไหนข้าก็ไม่กลัว” จากน้ำเสียงที่ล้อเล่นในประโยคแรกเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่จริงจังในประโยคถัดมา ทำให้ชายหนุ่มคนตรงหน้าโน้มร่างของหญิงสาวเข้ามากอดอย่างลืมตัว อ้อมแขนอบอุ่นที่อี้หลานไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน แม้จะรู้สึกขัดเขินอยู่บ้างแต่นางก็เต็มใจรับ จื่อหลงค่อยๆคลายอ้อมแขนออกช้าๆเมื่อรู้ตัวว่าตนเองเผลอกอดหญิงสาวเข้าให้แล้ว ชายหนุ่มกำลังจะพูดขอโทษ หากแต่เมื่ออี้หลานเงยหน้าขึ้นมาสบตากับจื่อหลง ความรู้สึกรักที่มีอยู่เต็มเปี่ยมล้นทำให้ริมฝีเขาค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาหาหญิงสาวที่ตอนนี้ค่อยๆหลับตาพริ้มรอรับสัมผัสอุ่นจากเขาอยู่ แต่ก่อนที่ริมฝีปากของชายหนุ่มจะได้ประทับรอยจุมพิตไปที่ริมฝีปากบางของหญิงสาว จื่อหลงกลับหยุดการกระทำที่เรียกร้องมาจากหัวใจของตัวเองเอาไว้พร้อมแสดงสีหน้าที่รู้สึกถึงความไม่ถูกต้องขึ้นมาได้
“คุณหนู ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรทำแบบนี้” อี้หลานลืมตาขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดของจื่อหลงด้วยความรู้สึกที่เขินอายไม่รู้กี่เท่า นางก็ว่าไม่ถูกต้อง หากใครผ่านมาเห็นเข้าก็คงไม่ดีเป็นแน่ สองคนค่อยๆผละออกจากกันช้าๆ หากแต่สองมือยังคงยึดกุมกันเอาไว้
“เรียกข้าว่าอี้หลานแบบเมื่อกี้สิค่ะ” นางพูดด้วยน้ำเสียงอายๆก้มหน้าลงต่ำ
“อี้หลาน...แต่ข้าขอเรียกเจ้าว่าคุณหนูเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเหมือนเดิมนะ”
“ได้สิคะพี่หลง” ชายหนุ่มพอได้ยินหญิงสาวเรียกตัวเองแบบนี้ก็อมยิ้มอย่างมีความสุข
“ข้าว่าข้าควรจะรีบไปศึกษาหนังสือที่เจ้าเพิ่งให้ไปอ่านดีกว่า เหลือเวลาแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเดี๋ยวจะไม่ทัน” จื่อหลงหยิบหนังสือที่ซุกไว้ในอกเสื้อออกมา
“รู้แบบนั้นก็ดีแล้ว ถึงข้าจะไม่ได้คาดหวังให้ท่านต้องชนะ แต่ก็อยากให้ท่านทำให้ดีที่สุดค่ะ”
“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องผิดหวังแน่ๆ“ อี้หลานพยักหน้าให้จื่อหลง บอกให้เขารู้ว่านางเชื่อ
“ข้ารู้ว่าท่านจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง แต่ก็อย่ากดดันตัวเองจนเกินไปนะค่ะ ถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“ทราบแล้วครับ” จื่อหลงลากเสียงยาวๆพร้อมทั้งก้มหน้าลงไปใกล้ๆ ทำให้อี้หลานที่ไม่เคยได้ยินจื่อหลงทำน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนถึงกลับหัวเราะชอบใจยกใหญ่
“ไปค่ะไปได้แล้ว รีบไปเตรียมตัวนะค่ะ เดี๋ยวข้าจะทำของบำรุงอร่อยๆไปให้” หญิงสาวเอามือดันหลังจื่อหลงให้รีบเดิน แต่เขากลับหันมาทำหน้าตาขึงขัง
“รีบไล่กันจังเลยนะ”
“ไม่ได้ไล่ แต่อยากให้รีบไปอ่านหนังสือเตรียมตัวให้พร้อมต่างหาก ขืนมัวแต่ยืนคุยแบบนี้เมื่อไหร่จะได้ไปอ่านล่ะค่ะ” ชายหนุ่มเอาหนังสือตบกับฝ่ามืออีกข้างเบาๆ
“เข้าใจแล้ว” จื่อหลงมองซ้ายขวาพอเห็นว่าปลอดคนก็ฉวยโอกาสตอนที่หญิงสาวเผลอขโมยหอมแก้มของอี้หลาน หญิงสาวไม่รู้จะแก้เขินได้เช่นไร จึงได้แต่ใช้มือตีที่ต้นแขนของจื่อหลงเบาๆ ส่วนจื่อหลงก็ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้เขาทำเช่นนี้จึงได้แต่ยืนเฉยๆให้อี้หลานตีต้นแขนของตนไปสองสามที
“ข้าไม่คุยเล่นด้วยแล้ว ข้าไปดูน้องเซียงก่อนนะค่ะ”
“จะไปดูทำไม ไปเป็นก้างขวางคอพวกเขาเปล่าๆ” จื่อหลงกอดอกพูดเมื่ออี้หลานหันหลังให้เตรียมจะเดินไปหาน้องสาว
“พี่ลี่หูยังไม่ฟื้น ข้าจะไปขัดคอได้ยังไง”
“นั่นสิ แต่ข้ารู้สึกว่าห้องที่คุณชายเจิ้นพักรักษาตัวอยู่จะไปทางด้านนี้ ไม่ใช่ทางนั้นนะ” จื่อหลงชี้นิ้วไปทางซ้ายมือของตัวเองบอกอี้หลาน เขารู้ว่านางกำลังเขินถึงได้เดินผิดทิศผิดทางแบบนี้ อี้หลานพอนึกขึ้นมาได้ก็ยิ่งเขินจนหน้าแดง จื่อหลงกำลังทำให้นางไม่กล้ามองเขาแล้วตอนนี้ พอตั้งสติได้อี้หลานก็รีบหันไปทางซ้ายและเดินไปอย่างรวดเร็ว จื่อหลงที่มองอี้หลานจนลับตาสีหน้าเริ่มฉายแววกังวลออกมาให้เห็น เขากำลังคิดว่าสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปครั้งนี้มันจะถูกต้องที่สุด เขาอยากปกป้องคนที่ตัวเองรัก ไม่อยากทำให้นางเสียใจ ถึงมันจะผิดต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา จื่อหลงก็ไม่หวั่นเกรง เรื่องที่เขาได้รู้เห็นในห้องทำงานของอำมาตย์ไป๋วันนี้ มันจะกลายเป็นความลับต่อไป นายใหญ่จะไม่มีวันรู้ตราบที่เขายังอยู่ที่นี่ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคนที่เขารัก ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายทุกคนในครอบครัวของนางในดวงใจ

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:28 pm

เวลาใกล้เที่ยง..เพราะร่างกายที่ยังคงอ่อนเพลียและไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้อี้เซียงต้องนั่งเอาหลังผิงเสาเตียงเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจนในที่สุดก็เผลอหลับไปจนได้ ส่วนเสี่ยวเจาเมื่อเห็นนายสาวหลับไปแล้วก็ไม่ยอมปลุกหากแต่ปล่อยให้อี้เซียงได้พักผ่อนสักครู่และจึงค่อยๆย่องออกไปจากห้องเพื่อไปเตรียมอาหารเที่ยงให้ พอเสี่ยวเจาออกไปแล้วภายในห้องก็เหลือเพียงอี้เซียงที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องกับลี่หูที่ยังคงนอนเจ็บอยู่บนเตียง จะด้วยการรักษาของหยูเยี่ยนหรือเพราะกำลังใจจากคนรักก็ตาม ทำให้เวลานี้คนเจ็บเริ่มขยับเปลือกตาอีกครั้ง ใบหน้าที่เคยซีดเซียวบัดนี้กลับมีเลือดฝาดให้เห็น ความรู้สึกทั้งหมดของลี่หูค่อยๆกลับคืนมาอย่างช้าๆเมื่อเขาสามารถลืมตาขึ้นมาเห็นแสงสว่างจากแสงแดดที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างห้องนอน

ชายหนุ่มกวาดสายตาสำรวจสิ่งต่างๆรอบห้องแต่ไม่มีสิ่งใดดึงความสนใจของเขาไปได้มากกว่าหญิงสาวที่นั่งหลับอยู่ข้างเตียง เขากำลังจะยันกายลุกขึ้นนั่งขึ้นมาดูหน้าของคนรักใกล้ๆแต่ว่าเขาต้องหยุดความคิดนั้นและรีบหลับลงเมื่อเห็นอี้เซียงนั่งสัปหงกจนสะดุ้งรีบตกใจตื่นขึ้นมา หญิงสาวพอรู้สึกตัวได้ก็รีบก้มหน้าลงไปมองลี่หู พอเห็นเขายังไม่ฟื้นขึ้นมาก็ได้แต่ถอนหายใจใบหน้าเศร้าลงทันที อี้เซียงหารู้ไม่ว่าลี่หูที่สติฟื้นคืนขึ้นมาแล้วกำลังหยอกนางเล่นและเขากำลังฝืนตัวเองไม่ให้เผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่รู้สึกได้ถึงความห่วงใยของอี้เซียงที่มีต่อเขาเช่นนี้ มือบอบบางของอี้เซียงยึดกุมมือของลี่หูไว้ นางไม่อยากปล่อยมือด้วยความรู้สึกที่กลัวว่านางจะสูญเสียเขาไปเหลือเกิน

เสี่ยวเจาที่ไปเตรียมอาหารเที่ยงให้นายสาวเดินถือถาดอาหารกลับเข้ามาในห้องพร้อมสาวใช้อีกคนที่ถือถาดวางถ้วยข้าวต้มและถ้วยยาของลี่หูเข้ามาด้วย แม้ลี่หูจะยังไม่ฟื้นแต่เสี่ยวเจาก็ต้องเตรียมมาเผื่อไว้ตามคำสั่งของอี้เซียงทุกครั้ง และครั้งนี้เสี่ยวเจาคงไม่รู้ว่าข้าวต้มกับยาที่เตรียมไว้คงได้ให้คนเจ็บกินเสียที แต่เจ้านายน้อยของเสี่ยวเจานี่สิไม่รู้จะยอมกินบ้างรึเปล่า สาวใช้หน้าใสซื่อเริ่มหวั่นใจเมื่อวางอาหารที่เตรียมมาไว้ที่โต๊ะแล้วจึงเดินเข้าไปหานายสาว
“คุณหนูรอง กินข้าวก่อนนะค่ะ ถ้าไม่ยอมกินอะไรเลยแบบนี้แล้วคุณหนูจะมีเรี่ยวแรงที่ไหนมาเฝ้าไข้คุณชายเจิ้นได้ล่ะค่ะ” เสี่ยวเจายังคงทำหน้าที่กล่อมอี้เซียงหมือนทุกครั้งด้วยประโยคเดิมๆ ซึ่งมันก็ได้ผลทำให้อี้เซียงยอมมากินข้าวแม้จะแค่สองถึงสามคำก็ยังดี หญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้หยิบตะเกียบขึ้นมาเขี่ยข้าวในถ้วยไปมา จนเสี่ยวเจาต้องพูดกล่อมอีกรอบ นางถึงได้ยอมกินข้าวไปหนึ่งคำ แต่ในขณะที่เสี่ยวเจากำลังจะกล่อมเจ้านายของตนเป็นรอบที่สาม สายตาของสาวใช้ก็พลันไปเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงพลิกกายมามองอี้เซียงและกำลังส่งยิ้มให้ เสี่ยวเจาดีใจกำลังจะรีบอ้าปากบอกข่าวดีกับอี้เซียงให้รู้ แต่ลี่หูกลับโบกมือห้ามและยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะปากเป็นสัญญาณบอกไม่ให้เสี่ยวเจาพูด สาวใช้หัวไวรีบระงับความดีใจของตนไว้และพยักหน้ารับทราบอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูเดี๋ยวข้าไปเอาของหวานมาให้คุณหนูก่อนนะค่ะ เดี๋ยวข้ามา” สาวใช้คนฉลาดรู้งานรีบเปิดโอกาสให้เจ้านายทั้งสองได้มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง ใช่ว่าเสี่ยวเจาจะไม่รู้เรื่องที่อี้หลานและจื่อหลงไปเจออี้เซียงกับลี่หูหมดสติอยู่ด้วยกันกลางป่า เพียงแต่ว่าเสี่ยวเจาไม่คิดจะพูดให้ใครฟังเท่านั้น มิหนำซ้ำอี้หลานยังกำชับพวกบ่าวชายในบ้านที่ตามไปด้วยให้ปิดปากให้สนิท เรื่องนี้ยิ่งต้องเป็นความลับสุดยอด แต่เสี่ยวเจาก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเวลานี้คือเวลาของเจ้านายทั้งสองคน พอพูดจบประโยคสาวใช้คนฉลาดก็รีบลากสาวใช้อีกคนให้รีบออกไปจากห้องด้วยกัน พอก้างขวางทางรักของลี่หูไปกันหมดแล้ว ชายหนุ่มก็ยันกายขึ้นมานั่งและมองดูอี้เซียงที่ยังคงทำหน้าเศร้ามองดูอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ จากที่เคยคิดจะหยอกนางเล่นไปอีกสักพักสุดท้ายก็ต้องใจอ่อนจนได้
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:29 pm

“แคร่กๆ” ลี่หูแกล้งทำเสียงไอออกมาเบาๆ แต่มันก็ดังพอให้อี้เซียงได้ยินจนนางต้องรีบหันมาดู พอเห็นลี่หูที่นั่งอยู่บนเตียงเท่านั้น นางก็รีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความที่ไม่เชื่อสายตาของตัวเอง
“พี่ลี่หูๆๆ” นางเรียกชื่อของเขาซ้ำๆพร้อมน้ำตาที่เอ่อล้น
“ข้ากลับมาหาเจ้าแล้ว เด็กขี้แยอย่าร้องไห้” ลี่หูใช้มือไล้น้ำตาที่ข้างแก้มของอี้เซียง พอเห็นนางยังไม่หยุดร้องไห้สุดท้ายเขาต้องดึงร่างของนางมาแนบไว้กับตัว “เจ้ารู้ไหมว่าขาของข้าเดินเข้าประตูนรกไปแล้วข้างนึง แต่เพราะเสียงเรียกของเจ้าที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ข้ารู้ว่าข้าจะผิดสัญญากับเจ้าไม่ได้ ข้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อเจ้า ข้าต้องรีบกลับมาหาเจ้า” ลี่หูซบหน้าลงที่ซอกคอขาวของอี้เซียงเพื่อรับกลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนกายของคนรักอย่างโหยหา เขาคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกลิ่นหอมอันรัญจวนใจเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว
“ข้ารู้ว่าพี่ต้องไม่ผิดสัญญา พี่ต้องไม่ผิดคำพูด แต่ต่อไปพี่อย่าทำให้ข้าตกใจแบบนี้อีกนะ” ลี่หูได้ยินคำพูดของหญิงสาวที่ยังอยู่ในอ้อมกอดก็แย้มยิ้ม
“ข้าไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว อี้เซียง..เมื่อยามที่ข้าอยู่ใกล้ความตายข้าถึงได้รู้ว่าข้ารักเจ้ามากเพียงใด ข้ารักเจ้าเหลือเกิน” ลี่หูกอดอี้เซียงไว้แน่น อี้เซียงพอได้ยินลี่หูบอกรักนางอีกครั้งเช่นนี้ก็รู้สึกหัวใจพองโต
“พี่รักข้าเหมือนน้องสาวแท้ๆไม่ใช่หรอ” นางแสร้งถาม
“เด็กโง่ คนที่ใกล้จะตาย เขาไม่พูดโกหกหรอกนะ”
“พี่ห้ามพูดว่าตายอีกนะ ข้าไม่ชอบแล้วก็ไม่อยากได้ยินด้วย” อี้เซียงผละออกจากอ้อมกอดของลี่หูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ความตายแม้อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่นางก็ไม่อยากรับรู้ถึงการสูญเสียเป็นครั้งที่สองหลังจากที่พี่ชายเพิ่งจะจากไปได้ไม่นานเท่าไหร่
“ไม่พูดแล้วๆ” ลี่หูยกมือยอมแพ้ให้อี้เซียง “แต่เจ้าจะเชื่อข้ารึเปล่าว่าข้าไม่เคยรักเจ้าเหมือนน้องสาว”
“ถ้าไม่เชื่อจะมานั่งเฝ้าไข้อยู่แบบนี้หรอ กินก็ไม่ได้กิน นอนก็ไม่ได้นอน ลำบากจะตาย” อี้เซียงหันหน้าหนีกลบเกลื่อนความเขินอายที่กำลังเกิดขึ้นอย่างสุดชีวิต
“นึกว่าจะไม่เชื่อซะแล้ว” ลี่หูหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางของอี้เซียงที่กำลังเขินอายอย่างน่ารัก แต่เสียงหัวเราะนั้นก็ดังขึ้นได้ไม่นานนักเมื่อมีเสียงไอขึ้นมากลบทับจนทำให้อี้เซียงต้องรีบหันกลับไปแล้วช่วยลูบอกลี่หูเบาๆ
“พี่เพิ่งจะฟื้น อย่าเพิ่งพูดอะไรมากเลยนะคะ” ลี่หูพยักหน้าแต่ยังคงไออยู่ อี้เซียงเห็นแบบนั้นจึงรีบลุกไปรินน้ำมาให้เขาดื่ม คนเพิ่งจะฟื้นน้ำสะอาดๆคงช่วยได้มากที่สุด เสียงไอของลี่หูค่อยๆเบาลงจนเงียบหาย แต่มือของเขายังกุมที่หน้าอกเอาไว้แน่น
“ข้าไม่เป็นไร อย่าทำหน้าแบบนั้น” น้ำเสียงที่แสดงถึงความเหนื่อยล้าบอกอี้เซียง ทำให้นางเริ่มเป็นเด็กขี้แยน้ำตาจะไหลเพราะความสงสาร
ข้าไม่เป็นไรจริงๆ คงเพราะเมื่อกี้ออกแรงไอมากไปเลยรู้สึกเจ็บที่หน้าอกนิดหน่อย แต่อีกเดี๋ยวก็คงจะหาย” เขายิ้มให้อี้เซียงเชื่อว่าเขาไม่เป็นไรแล้ว เพื่อที่นางจะได้ไม่ห่วง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งลี่หูพูดแบบนี้นางก็ยิ่งอยากจะร้องไห้
“นี่เจ้ากลายเป็นเด็กขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้หญิงที่ข้ารักต้องปากเก่งคอยหาเรื่องข้าไม่ใช่เจ้าน้ำตาแบบนี้นะ” ลี่หูพูดล้อและใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาของอี้เซียงที่เริ่มไหลออกมาช้าๆ “ข้าหิวแล้ว อยากกินข้าว” ลี่หูพูดพร้อมทั้งเบนสายตาไปยังถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ข้าให้เสี่ยวเจาเตรียมข้าวต้มมาเผื่อพี่แล้ว เดี๋ยวข้าไปเอามาให้นะค่ะ” อี้เซียงเช็ดน้ำตาให้แห้งและจึงรีบลุกไปเอาถ้วยข้าวต้มเดินกลับมาหาลี่หู นางใช้ช้อนตักและใช้ปากค่อยๆเป่าให้ข้าวต้มอุ่นเสียก่อนจะส่งเข้าปากของชายหนุ่ม ข้าวต้มที่อี้เซียงป้อนให้ลี่หูคำแล้วคำเล่า ในขณะที่เขาเอาแต่จ้องมองใบหน้าของอี้เซียง นี่เขายังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าหลงรักสาวน้อยที่คอยหาเรื่องเขามาตลอดตั้งแต่เมื่อไหร่ หากตอนนี้เขามั่นใจว่าเขารักนางมากเหลือเกิน รักจนมิอาจยอมเสียนางให้ใครได้อีกแล้ว
“เจ้าอย่าไปยุ่งกับลู่ฟงอีกเลย รับปากข้าได้ไหม” ลี่หูพูดโพล่งออกมาในขณะที่อี้เซียงกำลังป้อนข้าวต้มคำสุดท้ายให้ลี่หู “อี้เซียง ข้ารักเจ้า หวงเจ้า ไม่อยากให้เจ้าไปใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นโดยเฉพาะลู่ฟง เจ้ารับปากข้าได้ไหม อย่าไปยุ่งกับเขา” น้ำเสียงที่ไม่เหมือนคำพูดล้อเล่นต้องการคำตอบ อี้เซียงกำลังจะตอบคำถามแต่เสียงเคาะประตูของเสี่ยวเจาที่ไม่ได้ตั้งใจมาขัดจังหวะก็ดังขึ้น พออี้เซียงบอกให้เสี่ยวเจาเข้ามาได้ สาวใช้ก็รีบรายงานให้ทราบว่าลู่ฟงมาพบตอนนี้รออยู่ในห้องโถง อี้เซียงรับรู้และบอกให้เสี่ยวเจาเชิญลู่ฟงให้ไปรอนางที่ศาลาพักร้อนในสวน ซึ่งเสี่ยวเจาก็รีบไปจัดการให้อย่างรวดเร็ว ที่เหลือตอนนี้ก็คืออี้เซียงต้องหาวิธีง้อคนเจ็บที่กำลังทำหน้าไม่พอใจนางอยู่ให้ได้เสียก่อน
“พี่ดื่มยาก่อนนะค่ะ จะได้นอนพัก” หญิงสาวเดินไปหยิบถ้วยยามาให้ลี่หู แต่เขากลับหันหน้าหนีทำเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ “ถ้าพี่ไม่ดื่มก็จะไม่หายนะ” เงียบ..ลี่หูยังคงเงียบ “ไม่อยากดื่มยาก็ไม่เป็นไร งั้นพี่ก็นอนพักผ่อนเถอะ ข้าจะได้ไปหาพี่ลู่ฟง” อี้เซียงพูดแค่นั้นก็ทำท่าจะลุกขึ้น แต่นางก็ถูกลี่หูรั้งเอาไว้
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:29 pm

“ข้าดื่มยาก็ได้ แต่เจ้าอย่าไปหาลู่ฟงนะ ข้าหึง” อี้เซียงอมยิ้มชอบใจ ไม่คิดว่าพี่ลี่หูที่นางเคยรู้สึกว่าทั้งหยิ่ง ทั้งถือตัวจะกล้าพูดจาแบบนี้ออกมาได้ ลี่หูเห็นอี้เซียงยังทำเฉยจึงพยายามขยับตัวไปใกล้ๆแล้วก็ยื่นมือไปหยิบถ้วยยาจากอี้เซียงมาดื่มรวดเดียวจนหมด เขาเป็นคนที่ถือศักด์ศรีของตัวเองเป็นที่หนึ่ง ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้กับใครได้ง่ายๆ แต่เขาก็ยังยกเว้นไว้ให้คนรัก เมื่อเห็นอี้เซียงยังไม่ยอมหันหน้ามาทั้งที่เขาก็ยอมดื่มยาไปแล้ว ลี่หูจึงต้องใช้ลูกอ้อนแผนที่สองตรงเข้าไปสวมกอดนางทางด้านหลัง “ข้าขอโทษ ข้าไม่หึงก็ได้ แต่เจ้าอย่าไปหาลู่ฟงคนเจ้าชู้คนนั้นนะ เขาไม่จริงใจกับเจ้าเท่าข้าแน่ ข้าสาบานได้เลย ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ข้าจะ...”
“พูดพอรึยัง” อี้เซียงพูดแทรกขึ้นมาทำให้ลี่หูถึงขนาดอ้าปากค้าง มันเป็นเรื่องน่าอายอย่างมากเมื่อพยัคฆ์ที่เคยองอาจต้องกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆเมื่ออยู่ตรงหน้าแม่แมวดุ “พี่อย่าดื้อกับข้า นอนพักผ่อนซะ แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมากด้วย” อี้เซียงหันหน้ามาพูดแล้วจัดแจงประคองให้ลี่หูล้มตัวลงนอนเอาผ้ามาห่มให้จนถึงคอ ชายหนุ่มลืมตามองอี้เซียงที่กำลังยกมือขวาขึ้น อย่าบอกนะว่าถ้าเขาไม่ยอมหลับตา นางจะตีเขาเหมือนเด็กๆ “ข้าจะเอาแหวนวงนี้ไปคืนพี่ลู่ฟง พี่ก็หลับตาได้แล้ว ว่าง่ายๆจะได้หายไวๆนะ” อี้เซียงยิ้มหน้าระรื่นพอให้ลี่หูดูแหวนหยกที่นิ้วกลางข้างขวาแล้ว นางก็ยื่นมือไปหยิกแก้มทั้งสองข้างเบาๆ พอแสดงความรักในแบบของนางแล้ว อี้เซียงถึงได้ออกไปจากห้อง ปล่อยให้ลี่หูยังคงทำหน้าตาไม่เชื่อเอามือไปจับแก้มที่ถูกอี้เซียงหยิก พร้อมกับพูดพึมพำเบาๆ “หลงรักสาวน้อยมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง” พอพูดจบลี่หูก็หลับตาอมยิ้ม ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่าเจ็บตัวคราวนี้มันช่างคุ้มค่าเสียจริง จนเขาเริ่มคิดว่าไม่อยากหายเจ็บแล้วสิ

คนเจ็บเพิ่งหลับตาไปได้ครู่เดียวก็พลันได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง คนที่ก้าวเข้ามาใหม่นั้นแม้ยังไม่เห็นหน้าแต่ลี่หูก็รู้ได้ว่าไม่ใช่อี้เซียงเป็นแน่
“พี่ใหญ่จะมาเยาะเย้ยข้าใช่ไหมที่ข้าต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้” ลี่หูชิงพูดขึ้นก่อนเมื่อผู้มาใหม่เดินมาหยุดที่ข้างเตียง
“เปล่าเลย ข้าเพียงมาเยี่ยมเจ้าเท่านั้น แล้วเจ้าเป็นไงบ้าง ดีขึ้นบ้างรึเปล่า” จื่อหลงยังคงใจเย็นนั่งลงพูดกับลี่หู
“ข้าจะดีขึ้นหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ เพราะยังไงการประลองที่กำลังจะเกิดขึ้น ข้าจะไม่ยอมแพ้ให้กับท่านเป็นแน่”
“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องไม่ยอมให้ข้า แต่ตัวเจ้าบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้คงจะฟื้นตัวได้ยาก” จื่อหลงยื่นขวดยาที่ถือมาด้วยส่งให้ลี่หู “น้องรองฝากยามาให้เจ้าด้วย เจ้ารับไปเถอะมันจะช่วยเจ้าได้อย่างมาก”
“ทำไมพี่ใหญ่ต้องช่วยข้า เพราะถ้าข้าไม่หาย ท่านก็จะชนะข้าได้โดยไม่ต้องเปลืองแรง ท่านน่าจะชอบใจนะ”
“เจ้าคิดผิดแล้ว ข้าไม่ใช่คนที่จะเอาเปรียบกับพี่น้อง และไม่เคยคิดที่จะใช้โอกาสที่เจ้ายังบาดเจ็บหาประโยชน์ใส่ตัว น้องสาม..ข้ารู้ว่าเจ้าอยากเอาชนะข้าเพื่ออี้เซียง เพราะฉะนั้นเจ้าต้องรีบรักษาตัวให้หายดีเข้าใจไหม” จื่อหลงเอาขวดยาวางใส่มือของลี่หู ชายหนุ่มรุ่นน้องมองขวดยาที่ถือไว้ด้วยความรู้สึกที่ยังขัดแย้งในใจ ระหว่างทิฐิกับบุญคุณ
“ท่านไม่จำเป็นต้องแสดงน้ำใจต่อข้าแบบนี้ เพราะถึงยังไงข้าก็ไม่มีวันที่จะซาบซึ้ง”
“ข้าก็ไม่ได้หวังให้เจ้าต้องมาซาบซึ้ง เพราะที่ข้าทำไปทั้งหมดมีเพียงเหตุผลเดียว ”
“เหตุผลอะไร หรือว่าต้องการใช้เป็นข้อแลกเปลี่ยนให้ข้าละเว้นอี้หลาน” ลี่หูถามเสียงแข็งใขณะที่จื่อหลงยังคงใจเย็น สีหน้าไม่ได้แสดงความโกรธหรือไม่พอใจแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่เพราะอี้หลาน แต่เป็นเพราะ...เจ้าเป็นน้องของข้า” จื่อหลงตบหลังมือของลี่หูเบาๆแล้วลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ “เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าไม่กวนเจ้าแล้ว” ชายหนุ่มพูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้อง ทิ้งให้ลี่หูนอนใช้ความคิดนึกทบทวน คนที่ลี่หูไม่เคยนับถือว่าเป็นพี่กลับเห็นเขาเป็นน้องชาย มันช่างน่าขำเสียจริง จื่อหลงคงมองเขาผิดไปเสียแล้ว แค่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคจะทำให้เขาซาบซึ้งอย่างงั้นหรือ มันคงง่ายเกินไปนัก คนอย่างลี่หูไม่มีวันจะสำนึกในบุญคุณ ตราบใดที่เขายังมีความทะเยอทะยาน

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:30 pm

“ทำไมเจ้าต้องคืนแหวนให้ข้าก็ในเมื่อข้าให้เจ้าไปแล้ว” ลู่ฟงสีหน้าบึงตึ้งมองดูแหวนที่อี้เซียงคืนให้
“ข้าขอโทษ แต่ข้าคงเก็บมันไว้ไม่ได้อีกแล้ว พี่ลู่ฟงที่ผ่านมาเป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ข้าไม่ควรรับน้ำใจของท่านตั้งแต่แรกทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้”
“ที่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเจ้าไม่อยากให้มันเป็นไปได้มากกว่า” ลู่ฟงขึ้นเสียง ยิ่งคุยก็เหมือนยิ่งไม่รู้เรื่อง
“ไม่ใช่นะ พี่ลู่ฟงข้ารู้ว่าข้าผิด ข้าไม่ดี ทั้งที่รู้ว่าใจของข้ามีคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว แต่ข้าก็ยังฝืนไปคบกับท่าน ให้ความหวังกับท่าน และสุดท้ายก็ทำให้ท่านต้องเสียใจ ข้ารู้ว่าแค่คำขอโทษมันคงไม่พอแต่ข้าก็ไม่รู้จะหาคำพูดใดมาพูดกับท่านได้อีกแล้ว ที่ผ่านมาท่านดีกับข้ามากแต่ความรักที่ข้าให้ท่านได้ก็เป็นเพียงพี่ชาย พี่ลู่ฟงอภัยให้ข้าด้วย” อี้เซียงกล่าวโทษตัวเอง ถ้าไม่เป็นเพราะนางขาดที่พึ่งในยามที่ลู่ฟงเข้ามาพอดี เขาก็คงไม่ต้องเจ็บปวดถึงขนาดนี้ ชายหนุ่มคนตรงหน้าพยายามระงับอารมณ์โกรธ ทั้งที่เตรียมใจมาก่อนแล้วว่าจะต้องมารับฟังคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ ทำให้ตอนนี้ที่ลู่ฟงทำได้คือก้มยอมหน้านิ่งยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น
“พี่ชาย...เจ้าบอกว่ารักข้าเหมือนพี่ชาย แต่เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่เคยรักเจ้าแบบน้องสาว”
“ข้ารู้ พี่ลู่ฟงข้าขอโทษ” อี้เซียงเริ่มร้องไห้ ยื่นแหวนคืนให้ลู่ฟงทั้งน้ำตา
“เจ้าเก็บแหวนวงนี้ไว้เถิด ในเมื่อเจ้ารักข้าเหมือนพี่ชาย ก็จงคิดเสียว่าแหวนวงนี้พี่ชายให้ป็นของขวัญแล้วกัน” ลู่ฟงจับมืออี้เซียงให้กำแหวนไว้ในมือแล้วถอนหายใจยาวๆ
“ข้าควรจะทำใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าข้าเอาชนะใจของเจ้าไม่ได้ แต่เป็นเพราะข้าไม่ยอม ข้ามีความหวังถึงไม่เคยยอมแพ้ แต่ในที่สุดวันนี้ข้าก็ต้องยอมรับ เฮ้อ..ไม่เป็นไรอี้เซียง ถ้าวันนี้ข้าจะมีน้องสาวสักคน ไม่ต้องร้องแล้วนะ” ลู่ฟงเอามือไปดึงจมูกอี้เซียงเบาๆ
“พี่ลู่ฟงไม่โกรธข้าหรอค่ะ”
“จะโกรธทำไม ถ้าโกรธแล้วข้าจะไปแหย่ใครกันล่ะ ข้ามีน้องสาวน่ารักๆแบบนี้ต้องถนอมเอาไว้ให้มาก” ชายหนุ่มเอามือทั้งสองข้างไปจับแก้มของอี้เซียง ออกแรงกดเบาๆ “ฮ่าๆ ยัยหมูอ้วน” ลู่ฟงล้ออี้เซียงที่ตอนนี้โดนเขาบีบแก้มจนปากยื่นเหมือนหมู
“กล้าว่าข้าเป็นหมูอย่างงั้นหรอ” อี้เซียงชี้นิ้วทำตาดุจนลู่ฟงรีบถอยออกมาแต่ยังแลบลิ้นปลิ้นตาให้
“ใช่แล้ว ยัยหมูอ้วน” ลู่ฟงทำปากยื่นเหมือนหมูแล้วก็ร้องเป็นหมูยั่วอี้เซียงมากขึ้นไปอีก
“ตาบ้าลู่ฟง........ตาย” อี้เซียงทำทีเป็นโกรธวิ่งไล่ลู่ฟงที่กำลังวิ่งหนี เขาแหย่นางแบบนี้ทำให้อี้เซียงรู้สึกสบายใจขึ้นที่ลู่ฟงสามารถยอมรับความจริงและไม่นึกโกรธ อี้เซียงกำลังเบิกบานใจในความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่เพิ่งจะเริ่มขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์เช่นนี้ยิ่งทำให้บาดแผลในใจของลู่ฟงยิ่งบาดลึกจนเกินจะเยียวยา

หลังจากลู่ฟงทำทีเป็นยอมรับฐานะพี่ชายของอี้เซียงแล้ว เขาก็เดินออกมาจากบ้านไป๋ด้วยสีหน้าที่บึงตึ้ง ระหว่างทางคนที่เขาไม่อยากจะพบก็ปรากฏตัวขึ้นจากตรอกแคบๆ เสียงหวานใสของนางแม้เพียงหลับตาลู่ฟงก็ยังจำได้
“คุณชายลู่ ในที่สุดข้าก็เจอตัวท่านแล้ว วันก่อนข้ารู้ตัวว่าผิดแต่ที่ข้าทำไปก็เพราะรักท่าน คุณชายลู่อย่าโกรธข้า อภัยให้ข้านะค่ะ” เสียงใสของหยูม่งร้องทักลู่ฟงที่กำลังอารมณ์ไม่ดี
“ดูเหมือนเจ้าจะมาดักรอข้าสินะ คงคิดถึงข้ามากเลยใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ข้าคิดถึงท่านมาก ข้าเลยมาดักรอท่านแถวนี้แล้วในที่สุดข้าก็เจอท่านจนได้ “ หยูม่งกอดแขนซบไหล่ “คุณชายลู่ดูสีหน้าไม่ดีเลย หรือว่าท่านโดนคุณหนูคนนั้นขัดใจหรอค่ะ” นางเบียดกายให้เนินอกอวบอิ่มสัมผัสกับท่อนแขนของลู่ฟงให้มากขึ้น ในขณะที่มือก็ทำหน้าที่ลูบไล้ไปที่แผ่นอกกว้างของชายหนุ่มขึ้นลงช้าๆ ทำให้ลู่ฟงก้มหน้าลงมามองหญิงงามที่กำลังใช้สายตายั่วยวนให้เขาเกิดความรู้สึกต้องการนางขึ้นมาให้ได้
“เจ้ารู้ตัวบ้างไหมว่าทำแบบนี้กับข้าแล้วเจ้าจะต้องเดือดร้อนแค่ไหน” ลู่ฟงผลักร่างของหยูม่งเข้าไปในตรอก จับร่างของนางให้หลังพิงกำแพง หยูม่งเห็นสายตาของลู่ฟงที่เหมือนเสือที่กำลังจะกินเหยื่อเช่นนั้น นางยิ่งรู้สึกพอใจ “ข้ารู้ แต่เพื่อท่านแล้ว ข้าเต็มใจที่จะเดือดร้อน” หยูม่งกัดริมฝีปากตัวเองและจิกสายตายั่วยวนลู่ฟง จนชายหนุ่มฉาบรอยยิ้มบนใบหน้า
“เจ้าพูดเองนะ ว่าเต็มใจ” เพียงหยูม่งพยักหน้ารับ ลู่ฟงก็ช้อนร่างของนางลอยขึ้นจากพื้นหายเข้าไปในตรอกแคบๆแห่งนั้นที่ทั้งเงียบและแคบไร้ผู้คนผ่านไปมา แต่เหตุใดเวลานี้จึงมีเสียงครวญครางดังแว่วมาให้ได้ยิน
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:30 pm

เวลาบ่ายวันรุ่งขึ้น..วันนี้อำมาตย์ไป๋ก็จะเดินทางมาถึงบ้าน พอบ่าวชายไปรายงานว่าอำมาตย์ไป๋เห็นเกี้ยวของอำมาตย์ไป๋ตรงโค้งข้างหน้าใกล้จะถึงบ้านแล้ว สองพี่น้องก็รีบออกมารอรับ อี้เซียงยืนชะเง้อคอมองหลังคาเกี้ยวที่อยู่ข้างหน้าในขณะที่อี้หลานยืนยิ้มจแก้มแทบจะปริ บิดาไปราชการเพียงไม่กี่วันเหมือนท่านไม่อยู่ไปเป็นปี จึงไม่แปลกที่ลูกทั้งสองจะทั้งดีใจปนความความคิดถึง และเมื่อคนแบกเกี้ยววางเกี้ยวลงที่หน้าประตูใหญ่ของบ้าน ลูกสาวคนเล็กก็รีบวิ่งไปรับบิดาทั้งที่ท่านเพิ่งจะก้าวขาลงมาจากเกี้ยวได้แค่ข้างเดียว เสียงออดอ้อนฉอเลาะของลูกรักอย่างอี้เซียงทำให้ท่านไป๋หายเหนื่อยจากการเดินทาง ยิ่งมาเห็นหน้าลูกรักอีกคนอย่างอี้หลาก็ยิ่งชื่นใจ สามคนพ่อลูกกอดกันให้หายคิดถึงก็กำลังจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน แต่เกี้ยวอีกหลังก็ใกล้เข้ามาจนมาจอดที่หน้าจวนเช่นกัน
“พี่ไป๋...โชคดีจริงๆที่มาทันต้อนรับท่านกลับบ้าน” ผู้อาวุโสที่เพิ่งมาถึงประสานมือคารวะ
“พี่เจิ้นเกรงใจไปแล้ว เชิญดื่มน้ำชาที่ด้านในก่อน” อำมาตย์ไป๋เชื้อเชิญอีกฝ่าย ในขณะที่ลูกสาวทั้งสองก็ย่อกายคำนับผู้อาวุโส
“เป็นอย่างไรบ้างหลาน หายดีแล้วใช่ไหม” ขุนพลเจิ้นทักทายอี้เซียงเช่นนี้ทำให้อำมาตย์ไป๋สงสัยหันไปหาลูกสาวคนเล็ก
“เจ้าไม่สบายหรอ แล้วเป็นไรมากรึเปล่า อี้หลานไปตามหมอมาดูน้องรึยัง” คนเป็นพ่อเอามือไปแตะหน้าผาก จับตัวลูกสาวคนเล็ก ซึ่งอี้เซียงได้แต่กระพริบตาถี่ๆ
“พี่ไป๋อย่าเพิ่งร้อนใจ ข้าดูจากสีหน้าของหลาน คิดว่านางคงจะหายดีแล้ว แต่ลี่หูนี่สิไม่รู้ว่าดีขึ้นรึยัง เมื่อวานนี้ข้าก็งานยุ่งเลยไม่ได้มาเยี่ยมลูกชาย ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง” ขุนพลเจิ้นทำทีเป็นหนักใจ ทำให้อำมาตย์ไป๋ยิ่งสงสัย
“ลี่หูเป็นอะไรหรือพี่เจิ้น”
“พี่ไป๋เรื่องมันยาวมาก ถ้ายังไงเราเดินคุยกันไปจะดีกว่า ข้าจะเล่าให้ท่านฟัง” ขุนพลเจิ้นพาตัวอำมาตย์ไป๋เข้าบ้าน ในขณะที่สองสาวจับมือกันไว้แน่น อี้หลานตั้งใจไว้แล้วว่าจะค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับอี้เซียงให้พ่อฟัง พ่อจะได้ไม่ตำหนิจื่อหลงที่ทำหน้าที่บกพร่อง แต่ไม่นึกเลยว่าท่านต้องมารู้จากปากของขุนพลเจิ้นแบบนี้ ไม่รู้ว่าพ่อจะว่าอย่างไรบ้าง อาการที่วิตกกังวลของอี้หลานทำให้จื่อหลงที่ยืนหลบมุมอยู่ตรงประตูต้องรีบเดินเข้ามาหา
“คุณหนูอย่ากังวลใจไปเลย อำมาตย์ไป๋เป็นคนมีเหตุผลคงไม่ตำหนิข้ามากนักหรอก”
“ใช่ค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นท่านพ่อต้องไม่ว่าพี่จื่อหลงแน่ๆ ก็โจรชุดดำคนนั้นมันลอบทำร้ายข้าตอนที่พี่จื่อหลงไม่อยู่นี่นาแล้วพี่เขาจะมาช่วยข้าได้ยังไง ถ้าท่านพ่อจะว่าพี่จื่อหลง ข้าจะช่วยออกหน้ารับให้เอง” อี้เซียงรีบออกหน้าช่วยเหลือว่าที่พี่เขยสุดตัว “พี่รองอย่าเพิ่งคิดมากนะค่ะ”
“จ๊ะ พี่เชื่อว่าท่านพ่อมีเหตุผล และหวังว่าท่านพ่อจะไม่ไล่พี่หลงออกจากบ้านเพราะเหตุนี้”
“พี่รองอย่าห่วง ถ้าท่านพ่อจะไล่พี่จื่อหลงออกจากบ้าน ข้าจะใช้ไม้ตายกับท่านพ่อช่วยพี่จื่อหลงให้พี่รองเองค่ะ” อี้เซียงกอดอกมั่นใจ หันไปกระพริบตาให้จื่อหลง “แต่เอ๊ะ..เมื่อกี้พี่รองเรียกพี่จื่อหลงว่าพี่หลงอย่างงั้นหรอ แล้ว...เปลี่ยนคำเรียกกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” อี้เซียงเอียงหน้าไปล้อพี่สาวเล่นๆ หัวเราะคิกคักชอบใจ
“นี่ๆ อารมณ์ดีเข้าหน่อยก็เล่นใหญ่เลยนะ” จื่อหลงทำเสียงเข้มใส่อี้เซียง ถึงเขาจะทำหน้าตาขึงขังก็ใช่ว่านางจะกลัว ในเมื่อมีพี่สาวอยู่ด้วยทั้งคน
“อย่ามัวแต่คุยอยู่เลยค่ะ ท่านพ่อกับท่านลุงเดินเข้าไปในบ้านสักพักนึงแล้ว เรารีบตามเข้าไปดีกว่า ข้าไม่รู้ว่าท่านพ่อจะว่ายังไงบ้าง ยิ่งพี่ลี่หูมานอนเจ็บอยู่ที่บ้านอีกด้วย เผลอๆท่านลุงเกิดเกรงใจขึ้นมาพาพี่ลี่หูกลับบ้านวันนี้ สงสัยคงได้เห็นใครบางคนน้ำตาซึมอีกแน่ๆ” อี้หลานทำทีเป็นพูดจริงจังหากแต่ประโยคสุดท้ายเป็นการเอาคืนน้องสาวทางอ้อม กว่าอี้เซียงจะตามมุขนี้ของอี้หลานได้ทัน ทั้งพี่และอาจารย์ก็เดินเข้าไปข้างในทิ้งไว้แต่สาวน้อยที่ทำแก้มป่องเดินก้มหน้าที่ถูกพี่สาวเอาคืนโดยไม่ทันตั้งตัว

แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่อี้หลานกังวล เมื่ออำมาตย์ไป๋ทราบเรื่อง ท่านไม่เพียงไม่ตำหนิจื่อหลงซ้ำยังขอบคุณที่เขาไปช่วยอี้เซียงกลับมาได้ ทำให้ความกังวลใจของอี้หลานหายไปจนหมดสิ้น แต่คนที่กำลังเศร้าใจในตอนนี้คืออี้เซียง เมื่อขุนพลเจิ้นเอ่ยปากจะขอรับลี่หูกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน แม้อำมาตย์ไป๋จะขอให้ลี่หูได้พักอยู่ที่นี่จนหายดีก็ตาม แต่ขุนพลเจิ้นก็ยังปฏิเสธน้ำใจ ในเมื่อเป็นความต้องการของบิดาคนเจ็บ สุดท้ายอำมาตย์ไป๋จึงไม่กล้าขัดยินยอมให้ขุนพลเจิ้นพาลี่หูกลับบ้านทั้งที่ท่านเพิ่งได้เข้าไปเยี่ยมและขอบคุณลี่หูที่ช่วยเหลืออี้เซียงเท่านั้น พ่อลูกบ้านไป๋เดินออกมาส่งขุนพลเจิ้นและลูกชายถึงตัวเกี้ยว ทำให้ทุกคนไม่เว้นแต่ขุนพลเจิ้นได้เห็นสายตาที่อาลัยอาวรณ์ของลี่หูยามที่มองอี้เซียง

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:32 pm

สองวันต่อมา... ในตรอกแคบๆมีขอทานน้อยคนนึงกำลังเดินหาเศษอาหารมาร้องท้องเพื่อประทังชีวิต มือน้อยๆค่อยๆรื้อค้นเข่งใส่ผักเน่าที่แม่ค้าเอามาทิ้งไว้ทีละใบแต่ก็ยังไม่เจออะไรที่สามารถเอามากินแทนข้าวได้ ทำให้ขอทานน้อยต้องเดินเข้าไปในตรอกแห่งนั้นเข้าไปอีก แต่ยิ่งเดินก็เริ่มได้กลิ่นไม่พึงปรารถนาลอยมาแตะจมูกมากขึ้นเรื่อยๆ จะว่าเป็นกลิ่นเน่าของพวกผักที่ถูกเอามาทิ้งไว้ก็คงไม่ใช่ ด้วยความสงสัยทำให้ขอทานน้อยมองหาที่มาของกลิ่นจนเริ่มรู้สึกว่ากลิ่นนั้นแรงขึ้นเมื่อขอทานน้อยเดินมาถึงเข่งใบใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ในเข่งมีแต่ความว่างเปล่าหากแต่มีรองเท้าของผู้หญิงหล่นอยู่ข้างๆ เข่งใบนั้น และเมื่อเดินอ้อมไปดู สีหน้าที่ตกใจถึงขีดสุดทำให้ขอทานน้อยต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ
“มีคนตาย.....ช่วยด้วยมีคนตาย” ขอทานน้อยวิ่งล้มลุกคลุกคลานอย่างคนที่ขวัญเสีย เมื่อได้พบเห็นร่างที่ปราศจากลมหายใจของสตรีนางนึง ที่เนื้อตัวของนางมีรอยถูกเฆี่ยนตีจนยับเยิน ใบหน้าก็บวมช้ำ ไม่นานพวกมือปราบก็เดินทางมาถึงพร้อมเจ้าของหอโคมเขียว เจ้าของหอเคยไปแจ้งความไว้ว่าหยูม่งหายตัวไปสามวัน พอมีข่าวว่ามีคนพบศพผู้หญิงทำให้เจ้าของหอต้องรีบตามมาดูให้รู้แน่ว่าใช่หยูม่งหรือไม่ แต่ด้วยสภาพของศพที่เริ่มขึ้นอืดทำให้จำหน้าไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าของหอโคมเขียวถึงกลับเข่าอ่อนก็คือปิ่นรูปดอกโบตั๋น ที่หญิงคณิกาในหอโคมเขียวทุกคนต้องปักประดับไว้ มันเป็นสิ่งใดที่สามารถยืนยันได้ว่าศพที่ถูกขอทานน้อยมาพบเจอก็คือหยูม่งดาวเด่นประจำหอโคมเขียวที่หายตัวไปนั่นเอง

ที่ห้องพักของจื่อหลง ชายหนุ่มกำลังตั้งใจอ่านตำราเตรียมตัวเข้าแข่งขันในรอบแรกของวันรุ่งขึ้น หลังจากอำมาตย์ไป๋ทราบว่าจื่อหลงเปลี่ยนใจเข้าประลอง ท่านก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ ทำให้สามวันมานี้ท่านไป๋ไม่ให้จื่อหลงทำอะไรทั้งนั้นนอกจากเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าแข่งขัน โดยมีอี้หลานคอยหาของบำรุงมาให้ชายหนุ่มมิได้ขาด การคบหากันของทั้งสองคนดูจะไร้อุปสรรคใดๆมาขัดขวาง ผิดกันกับอี้เซียงที่มั่นเอาของบำรุงไปให้ลี่หูถึงบ้านสามเวลา แต่กลับไม่ได้พบหน้าลี่หูสักครั้ง ด้วยเพราะเหตุผลของขุนพลเจิ้นที่ต้องการให้ลี่หูได้พักผ่อนเต็มที่ อี้เซียงหวังไว้พรุ่งนี้นางคงได้พบลี่หูที่สนามประลอง

เช้าวันรุ่งขึ้นที่กรมการปกครอง บริเวณลานด้านหน้าถูกจัดให้เป็นสนามสอบคัดเลือกรอบแรกของผู้เข้าประลองหาผู้ชนะดำรงตำแหน่งแม่ทัพปราบเหลียวคนใหม่ อำมาตย์ไป๋ในฐานะประธานต้องเดินทางมาที่นี่แต่เช้าตรู่พร้อมด้วยลูกสาวทั้งสองที่ขอติดตามมาด้วย แน่นอนว่าอี้หลานย่อมมาเพื่อให้กำลังใจจื่อหลง ส่วนอี้เซียงก็เพื่อมาให้กำลังใจลี่หู หลายวันมานี้ที่อี้เซียงไม่ได้พบหน้าของลี่หูเลยทำให้สาวน้อยต้องชะเง้อคอมองหาด้วยความคิดถึง และรอว่าเมื่อไหร่เขาจะมาถึงสนามสอบคัดเลือก
“พี่หลง ข้าเป็นกำลังใจให้นะค่ะ ข้ารู้ว่าท่านเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว ทำให้เต็มที่นะค่ะ” อี้หลานพูดให้กำลังใจจื่อหลงที่กำลังจะไปยืนเข้าแถวรอกับคนอื่นๆ
“ข้าต้องทำได้อยู่แล้ว รอข้าอยู่ตรงนี้นะ” จื่อหลงกล่าวสั้นๆแล้วจึงเดินไปเข้าแถวรวมกับคนอื่น อี้หลานใช้สายตาส่งจื่อหลงแล้วจึงหันมาหาน้องสาวที่ยังคงชะเง้อคอมองหาลี่หูด้วยความร้อนใจ
“น้องเซียง เดี๋ยวพี่ลี่หูก็มาจ๊ะ อย่าร้อนใจไปเลย”
“แต่ใกล้จะถึงเวลาแล้วนะค่ะ หรือว่าพี่ลี่หูยังไม่หายดีเลยมาลงแข่งไม่ได้” อี้เซียงจับมือพี่สาวไว้แน่น
“ไม่หรอกจ๊ะ ตอนที่ท่านลุงมารับพี่ลี่หูกลับบ้านไป อาการของพี่เขาก็ดีขึ้นมากแล้วนี่จ๊ะ พี่ว่าที่พี่ลี่หูมาช้าอาจจะติดขัดอะไรบางอย่าง แต่พี่เชื่อว่าเขาต้องมาแน่ๆจ๊ะ” อี้หลานพยายามปลอบใจน้องสาวแล้วก็ช่วยกันมองหาลี่หูตรงประตูใหญ่ แต่ก็ยังไม่เห็นคนที่ต้องการเจอตัวเดินผ่านเข้ามาเสียที จนอำมาตย์ไป๋ที่เดินไปดูความเรียบร้อยเดินมาตามลูกสาวทั้งสองให้ไปนั่งยังที่ที่เตรียมไว้ ทั้งอี้หลานและอี้เซียงจึงจำต้องเดินตามพ่อไป แต่ทว่าในตอนที่อี้เซียงกำลังจะหันหลังเดินตามพี่สาว สายตาของนางที่คอยมองหาลี่หูก็พลันไปเห็นชายหนุ่มในชุดสีขาวสะอาดเดินเข้ามาพอดี อี้เซียงเห็นชายผู้นั้นแล้วรอยยิ้มก็เปิดกว้าง สายตาเป็นประกาย
“พี่รองๆ เขามาแล้ว เขามาแล้ว” นางเขย่าแขนพี่สาวยกใหญ่ แต่อี้หลานก็เข้าใจว่าเขาคนนั้นที่น้องพูดถึง หมายถึงใครอยู่
“พี่บอกแล้วไงว่าเขาต้องมา” อี้หลานกระซิบบอกอี้เซียงให้เดินไปหาชายหนุ่มชุดขาวนั้นก่อนก็ได้แล้วค่อยเดินตามนางแลพ่อไป อี้เซียงพอได้ยินพี่อนุญาตแบบนี้ก็รีบเดินไปหาชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงอย่างรวดเร็ว
“พี่ลี่หู ข้ารอพี่ตั้งนาน พี่หายดีแล้วใช่ไหม แล้วพี่เป็นยังไงบ้าง พี่ไหวรึเปล่า” อี้เซียงพอเดินมาถึงหนุ่มชุดขาวก็ถามเป็นชุด
“ไหวสิ ถึงข้ายังไม่ค่อยหายดีแต่ข้าก็ยังไหว เจ้าไม่ต้องห่วงนะ แข่งขันรอบแรกใช้สติปัญญาไม่ต้องใช้กำลัง ข้าต้องทำได้แน่ๆ” ลี่หูจับมือของอี้เซียงให้ความหวัง
“ข้ารู้ว่าพี่เก่ง พี่เป็นจอหงวนบู๊ ทดทอบแค่นี้สบายพี่อยู่แล้วล่ะ” อี้เซียงยิ้มจนตาหรี่เล็กลง ส่วนลี่หูก็ยิ้มตอบ สองคนยืนจับมือสบตายังไม่ทันได้ใช้ภาษาใจคุยกันให้หายคิดถึง ขุนพลเจิ้นที่เดินตามหลังของลี่หูมาก็เดินมาถึงและหยุดตรงข้างๆลูกชายพอดี ทพให้ทั้งสองคนต้องรีบปล่อยมืออกจากกัน
“ลี่หูจะได้เวลาอยู่แล้ว ยังไม่รีบเข้าไปอีก ถ้าอยากจะคุยก็เอาไว้ทีหลังก็ได้ อี้เซียงไม่หนีเจ้าไปไหนหรอกน่า” ขุนพลเจิ้นทำเสียงดุลูกชาย แต่หันไปยิ้มให้สาวน้อยที่ยืนอยู่ด้วย
“ครับท่านพ่อ ข้าจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มรีบรับคำ หากแต่ตอนที่เดินผ่านหน้าอี้เซียง เขากลับแอบกระซิบบอกนางว่า “คืนนี้จะไปหา” แล้วจึงรีบเดินไปเข้าแถวรวมกับคนอื่นๆ พอลี่หูไปแล้วอี้เซียงก็ย่อตัวคำนับให้ขุนพลเจิ้นเพื่อจะขอแยกไปหาพ่อกับพี่สาว แต่ผู้อาวุโสที่พยักหน้าอนุญาตแล้วกลับมีเสียงพูดตามหลัง
“ช่วงนี้ลี่หูต้องเตรียมตัวเข้าประลอง ข้าไม่อยากให้เขาเสียสมาธิ ถ้าจะให้ดีเจ้าก็อย่าเพิ่งไปกวนใจเขาให้มากเลยนะ คิดเสียว่าลุงขอร้อง” อี้เซียงรู้สึกใจเสียขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้จนไม่รู้จะตอบว่ายังไง จึงได้แต่หยุดยืนอยู่เฉยๆ
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:32 pm

“อี้เซียงเข้าใจที่ลุงพูดใช่ไหม” ผู้อาวุโสถามซ้ำอีกครั้ง
“ข้าทราบแล้วค่ะ” อี้เซียงตอบสั้นๆ
“ดีแล้ว เพื่ออนาคตของลี่หูนะ” ขุนพลเจิ้นพูดเท่านี้ก็เดินจากไปปล่อยให้อี้เซียงยืนนิ่งเหมือนถูกตบหน้าจนช้า ขุนพลเจิ้นคงไม่ชอบหน้านางแน่ๆถึงได้พูดแบบนี้ ก็เมื่อก่อนนางทำเรื่องไว้มาก มิหนำซ้ำนางยังเป็นต้นเหตุให้ลี่หูต้องเจ็บหนักอีกด้วย ท่านคงไม่ยอมรับนางง่ายๆ คิดแล้วมันก็ช่างเศร้าใจยิ่งนัก ทางด้านอี้หลานที่เห็นน้องยังไม่เดินมาหาสักทีเลยต้องออกมาตาม ถึงได้เห็นอี้เซียงนั่งชันเข่าอยู่กับพื้น ท่าทางเหมือนคนใจลอย
“น้องเซียงเป็นอะไรไปรึเปล่า” อี้หลานสะกิดแขนน้องสาว
“หา...พี่รองเรียกข้าหรอค่ะ”
“ใช่จ๊ะ แล้วทำไมเจ้าถึงมานั่งตรงนี้ไม่เข้าไปข้างในล่ะจ๊ะ นี่การสอบข้อเขียนก็เริ่มขึ้นแล้ว พี่ว่าเจ้าไปนั่งรอพี่ลี่หูข้างในกับพี่ดีกว่า” อี้เซียงเงยหน้าไปมองพี่สาวที่กำลังพยุงนางให้ลุกขึ้นยืน
“พี่รอง...พี่ว่าข้าเป็นคนที่ไม่เอาไหน นิสัยก็แย่มากๆเลยรึเปล่าค่ะ” อี้หลานได้ฟังคำถามใสซื่อของน้องรักก็เอามือไปลูบหัวน้องเบาๆ
“น้องสาวของพี่มีดีอยู่ในตัวตั้งมากมาย ทั้งร่าเริง แจ่มใส มีน้ำใจ แล้วยังน่ารักที่สุด ใครมองไม่เห็นแสดงว่าคนๆนั้นตาบอดแล้วจ๊ะ” คำพูดของอี้หลานยังไม่สามารถทำให้อี้เซียงยิ้มได้ นางยังทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบอยู่ “ไม่เอานะจ๊ะ ใครจะมองเจ้ายังไงก็ไม่ต้องไปสนใจทั้งนั้น พี่ลี่หูรักเจ้า เขาย่อมมองแต่ข้อดีของเจ้า เชื่อพี่นะ” อี้หลานพยายามพูดปลอบใจน้องสาว นางกำลังคิดว่าน้องกลุ้มใจกลัวลี่หูไม่รักเพราะนิสัยแย่ๆของอี้เซียงที่เคยทำไว้กับลี่หูเมื่อครั้งที่ผ่านมา อี้เซียงพอฟังคำปลอบใจของพี่ก็เหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายยังต้องถอนหายใจ
“ข้าไม่คิดอะไรแล้วค่ะพี่รอง รีบเข้าไปข้างในดีกว่า เดี๋ยวท่านพ่อจะดุเราสองคน” น้องสาวฝืนยิ้มให้พี่สาวแล้วจึงจูงมือเดินเข้าไปด้านใน ซึ่งตอนนี้การสอบข้อเขียนได้เริ่มขึ้นแล้ว

โจทย์ที่กรรมการตั้งมานั้นไม่ถือว่ายากแต่ก็ไม่ง่าย เพราะว่าด้วยเรื่องหลักการปกครองคนหาใช่เรื่องวางแผนการรบตามหลักตำราพิชัยสงครามของซุนจวื่อ เพราะการที่จะเป็นแม่ทัพที่ดีได้นั้น นอกจากจะฉลาดปราดเปรื่องแล้ว ยังต้องรู้จักใช้คนให้เป็น ได้ใจของลูกน้อง การรวมใจที่เป็นหนึ่งเดียวถึงจะสามารถเอาชนะข้าศึกได้ ใช่ว่าจะต้องเก่งแต่หลักการหรือมีปัญญาเท่านั้น และเพราะด้วยโจทย์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ทำให้บางคนอ่านแต่ตำรายึดติดแต่หลักการถึงขนาดมือไม้สั่นตวัดปลายพู่กันเขียนคำตอบไม่ได้ ส่วนบางคนก็เหงื่อแตกเต็มหน้า จนเม็ดเหงื่อหยดลงไปที่กระดาษคำตอบ แต่ก็ใช่ว่าคนทั้งสามสิบคนที่ผ่านเข้ามาคัดเลือกได้นั้นจะเป็นเหมือนกันทั้งหมด ยังมีอีกหลายคนที่เขียนคำตอบได้อย่างลื่นไหลไม่มีติดขัด และในจำนวนนั้นก็คือจื่อหลง จอมยุทธ์ที่มีเบื้องหลังเป็นถึงพี่ใหญ่ของมือสังหารอันดับหนึ่ง ใบหน้าที่สุขุมและใจที่สงบนิ่งยังคงตวัดปลายพู่กันได้อย่างไม่มีขาดตอน ส่วนลี่หูก็เฉกเช่นเดียวกัน เขาเป็นถึงจอหงวนบู๊ของปีนี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากมากมายสำหรับตัวเขาเลย ชายหนุ่มยังคงค่อยๆเขียนคำตอบใส่กระดาษด้วยลายมือที่บรรจงอย่างใจเย็น

เวลาเที่ยงพระอาทิตย์ตรงหัวคือสัญญาณบอกว่าหมดเวลาทำข้อสอบ ผู้เข้าคัดลือกทุกคนต้องส่งคำตอบให้ผู้คุมสอบทีละคนและจึงเดินออกไป บางคนออกมาได้ก็ถึงกลับเข่าอ่อน ในขณะที่บางคนก็เดินออกมาอย่างองอาจ อี้หลานกับอี้เซียงไปยืนรออยู่แล้ว พอเห็นทั้งจื่อหลงและลี่หูเดินออกมา สองสาวก็รีบเดินไปรับพร้อมทั้งจัดแจงเอาน้ำให้ดื่มแก้กระหาย
“เป็นไงบ้างคะ ทำได้ไหม” อี้หลานถามจื่อหลงก่อนคนแรก
“อีกสองวันก็รู้ผล ข้าคิดว่าเจ้าคงพอใจ” จื่อหลงเล่นคำแต่สื่อความหมายที่ทำให้อี้หลานยิ้มได้ อีกสองวันก็จะประกาศผลสอบข้อเขียน นางมั่นใจอยู่แล้วว่าต้องมีชื่อของจื่อหลง
“พี่เป็นไง ทำได้รึเปล่า” อี้เซียงถามบ้าง จ้องหน้าลี่หูตาแป๋ว
“ถ้าจื่อหลงทำได้ ข้าก็ต้องทำได้อยู่แล้ว ข้าจะยอมให้มีชื่อของเขาผ่านเข้ารอบคนเดียวได้ยังไง” ลี่หูประชดจื่อหลงแบบซึ่งๆหน้า แต่จื่อหลงก็ยังเฉย ไม่ถือสาหาความชายหนุ่มรุ่นน้องคนนี้
“พี่ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ไม่น่าฟังเลย” แม้จื่อหลงไม่ตอบโต้ แต่อี้เซียงก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่านิดหน่อย
“ข้าล้อเล่น ก็เห็นสอบมาเครียดๆก็ต้องผ่อนคลายกันบ้างสิจริงไหม” ลี่หูยิ้มให้จื่อหลง แล้วโอบไหล่อี้เซียงไว้ต่อหน้าคนทั้งสอง ทำให้อี้เซียงต้องรีบตีมือให้ลี่หูเอามือลง
“พี่ลี่หูดูอารมณ์ดีจังเลยนะค่ะ เหมือนไม่ค่อยเครียดเลย สงสัยเป็นเพราะน้องเซียงใช่ไหมเนี่ย” อี้หลานล้อ ทำให้อี้เซียงหน้าแดง สี่คนกำลังจะคุยกันต่อ แต่ขุนพลเจิ้นที่เดินมากับอำมาตย์ไป๋ก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน อี้เซียงพอเห็นขุนพลเจิ้นเดินมาเท่านั้นก็รีบเดินมายืนข้างพี่สาว
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:33 pm

“เป็นไงกันบ้างทั้งสองคน ทำข้อสอบกันได้ใช่ไหม” อำมาตย์ไป๋ถามทั้งจื่อหลงและลี่หู
“ทำได้ครับ ข้าต้องไม่ทำให้ท่านลุงต้องผิดหวังแน่ๆครับ ท่านลุงมีเมตตาสนับสนุนข้าถึงเพียงนี้ ข้าย่อมต้องทำให้เต็มที่ครับ” ลี่หูชิงตอบก่อน จะว่าไปที่เขาพูดมาก็ถูก อำมาตย์ไป๋สนับสนุนให้ลี่หูลงแข่ง แต่ก็สนับสนุนจื่อหลงด้วย
“แล้วเจ้าล่ะจื่อหลง ทำได้ไหม”
“ข้าทำอย่างเต็มที่แล้วครับ คิดว่าผลคงออกมาคงไม่ทำให้ใต้เท้าผิดหวัง” ผู้อาวุโสได้ฟังคำตอบก็ลูบหนวดพยักหน้าช้าๆอย่างพอใจ
“ดีจริงๆ ตอนนี้ข้ากำลังนึกไปไกลถึงขนาดที่ว่าให้จื่อหลงกับลี่หูไปเจอกันในรอบสุดท้ายแล้วนะเนี่ย คงสนุกน่าดูเชียว” ขุนพลเจิ้นได้ทีพูดแทรกขึ้นแล้วหันหน้าไปทางลูกชาย
“พี่เจิ้นอย่าเพิ่งนึกไปไกลขนาดนั้นเลย ตอนนี้ก็เที่ยงแล้วข้าว่าท่านกับลี่หูไปกินข้าวพร้อมกันดีกว่า”
“เห็นทีข้าคงจะต้องปฏิเสธน้ำใจของท่านแล้ว ข้าอยากพาลี่หูกลับบ้านไปพักผ่อน อาการของเขายังไม่หายดีคงต้องเก็บแรงไว้ให้มาก มิเช่นนั้นเกิดแข่งรอบต่อไปไม่ได้จะเสียโอกาสเปล่าๆ พี่ไป๋..เอาไว้โอกาสหน้าเถอะนะ” เมื่อขุนพลเจิ้นปฏิเสธถึงขนาดนี้ อำมาตย์ไป๋จึงต้องตามใจ พอสองพ่อลูกบ้านเจิ้นไปกันแล้ว ท่านไป๋ก็พาลูกสาวทั้งสองกลับบ้านพร้อมจื่อหลง สั่งให้บ่าวไพร่ตั้งโต๊ะกินข้าวด้วยกันตามประสาพ่อลูก โดยมีจื่อหลงนั่งรวมโต๊ะด้วยอีกคน ผู้อาวุโสแอบมองจื่อหลงเป็นบางครั้ง สายตาของท่านเหมือนมีความนัยแอบแฝงยามที่มองชายหนุ่มรุ่นลูกคนนี้ จื่อหลงอายุเท่ากับเทียนเซิ่นท่านถึงได้นึกเอ็นดูเหมือนเป็นลูกชายอีกคน แต่หลังจากที่กลับมาจากราชการแล้ว สายตาที่เคยดูเมตตากลับแฝงไว้ด้วยความคลางแคลงในใจ แม้ท่านจะไม่พูดแต่จื่อหลงที่รู้ตัวว่าท่านไป๋แอบมองอยู่ก็รู้สึกได้เช่นกัน หรือว่าท่านจะไม่เห็นด้วยที่จะให้อี้หลานมาคบกับตน ถึงได้มีท่าทีที่ปลี่ยนไป

ยามดึกจนพระจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้าแล้ว แต่อี้เซียงยังมิอาจข่มตาให้หลับลงได้ นางกำลังคิดในแง่ร้ายกับคำพูดของขุนพลเจิ้นในหลายวันที่ผ่านมา รวมถึงวันนี้ที่ดูเหมือนท่านจงใจจะขัดขวางนางกับลี่หู ถึงไม่อยากให้นางกับลี่หูได้พบกันหรือแม้แต่จะได้คุยกันก็ตาม สาวน้อยครุ่นคิดจนเริ่มถอนหายใจอย่างปลงตก ความรักเพิ่งจะเริ่มต้นแต่ต้องมาสิ้นสุดลงเพราะผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยหรือไร คนคิดเรื่อยเปื่อยกำลังจะเข้านอนพลันได้ยินเสียงคล้ายมีคนกำลังจะงัดหน้าต่างห้องเข้ามา ทำให้อี้เซียงตั้งท่าเตรียมพร้อมจะเล่นงานขโมยที่คิดจะบุกเข้าห้องของนางกลางดึกแบบนี้ แต่พอเห็นหน้าโจรเท่านั้น หมัดที่เตรียมไว้ก็ลดต่ำลงพร้อมดวงตาที่เบิกกว้าง
“พี่ลี่หู พี่...” อี้เซียงกำลังจะพูดต่อ ลี่หูที่ทำตัวเป็นโจรก็รีบเอามือมาปิดปากและทำท่าให้นางเงียบไว้ก่อน พออี้เซียงพยักหน้าเขาก็รีบปิดหน้าต่างและวิ่งไปดับไฟในห้องอย่างรวดเร็ว จนอี้เซียงตกใจในการกระทำของลี่หู ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดจะทำสิ่งใด จนเมื่อนางรู้สึกได้ว่าในยามนี้ที่ภายในห้องมีแต่ความมืด นางกลับได้ยินเสียงของลี่หูที่กระซิบอยู่ใกล้ๆต้นคอ “ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน”

-----------------------------------------------

จบตอนที่ 17

โปรดติดตามตอนต่อไป (เรท 18 up ก๊ากกกก)
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:40 pm

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ว่าด้วย "ตำราพิชัยสงครามซุนจวื่อ"

The Swordsman of Devil - Page 17 Sunzibingfawo3

“ซวุนจื่อปิงฝ่า”เป็นบทนิพนธ์ทฤษฎีการทหารยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยโบราณของจีน และก็เป็นหนึ่งในหนังสือโบราณของจีนที่มีบทบาท ต่อโลกมากที่สุดและกว้างขวาง ความคิดในการวางแผนกุศโลบาย และความคิดทางปรัชญาที่บรรยายไว้ในหนังสือเล่มนี้ ได้ถูกนำไปใช้ในด้านการทหาร การเมือง เศรษฐกิจและด้านอื่นๆอย่างกว้างขวาง

“ซวุนจื่อปิงฝ่า”เขียนในสมัยที่ห่างจากปัจจุบัน 2,500 ปีก่อน จึงถือได้ว่าเป็นบทนิพนธ์เกี่ยวกับทฤษฎีการทหารที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับ”On War” หนังสือทฤษฎีการทหารที่เขียนโดยนายคราว์เซวิทส์ นักการทหารชาวยุโรป “ซวุนจื่อปิงฝ่า”มีประวัติยาวนานกว่าถึง 2,300 ปี

นายซวุนหวู่ ผู้เขียน“ซวุนจื่อปิงฝ่า” เป็นนักการทหารผู้ยิ่งใหญ่ ในสมัยชุนชิวจั้นกั๋วของจีน เขาได้รับการยกย่องเป็น”ปรัชญาเมธี การทหาร” สมัยนั้น ประเทศจีนไม่ได้รวมตัวเป็นเอกภาพ ยังแบ่งเป็น ก๊กใหญ่น้อยต่างๆหลายก๊ก เพื่อหนีภัยสงคราม ซวุนหวู่ได้เดินทางไปอยู่ก๊กหวู กษัตริย์ก๊กหวูแต่งตั้งให้เขาเป็นแม่ทัพใหญ่ ซวุนหวู่ ผู้มีความสามารถพิเศษด้านการทหาร ได้บัญชาทหารก๊กหวูเพียง 3 หมื่นคนสามารถเอาชนะทหารรุกรานของก๊กสู่ที่มีจำนวนถึง 2 แสนคนได้ ได้สร้างชื่อเสียงและอิทธิพลอย่างสูงในบรรดาก๊กต่างๆ ต่อมา ซวุนหวู่ได้รวบรวมและบรรยายสรุปประสบการณ์การทหารและการทำศึกสงครามของสมัยก่อนและสมัยชุนชิวจั้นกั๋ว เขียนเป็น “ซวุนจื่อปิงฝ่า”ขึ้น ได้อธิบายกฎเกณฑ์การทหารทั่วไป สร้างเป็นระบบทฤษฎีการทหารที่สมบูรณ์ขึ้นทั้งชุด

“ซวุนจื่อปิงฝ่า”มีตัวอักษรจีนทั้งหมดกว่า 6,000 ตัว แบ่งเป็น 13 บท แต่ละบทมีความคิดหลักหนึ่งอย่าง เช่น บท”กลยุทธ์”ได้บรรยายเงื่อนไขในการทำสงครามว่า ภายใต้สภาพเช่นใดจึงจะดำเนินการรบได้ เขาได้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสงครามกับการเมืองและเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง และสรุปว่า ปัจจัย 5 ประการที่จะทำให้แพ้หรือชนะสงครามคือ การเมือง เวลา ความได้เปรียบ ทางภูมิประเทศ แม่ทัพผู้บัญชาการและระบบกฎหมาย ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือปัจจัยด้านการเมือง บทว่าด้วย”ศึกสงคราม” บรรยายว่าควรจะดำเนินการรบอย่างไร บทว่าด้วย“กลยุทธการโจมตี” แนะนำว่าจะเข้าโจมตีประเทสข้าศึกอย่างไร ซวุนหวู่เห็นว่า ช่วงชิงชัยชนะและ ความสำเร็จมากที่สุดด้วยค่าทดแทนที่น้อยที่สุด คือใช้กลยุทธ์ชนะสงครามโดยไม่ต้องรบ พิชิตเมืองของข้าศึก โดยไม่ต้องใช้กำลังเข้ารตีหักโหม

และกำจัดข้าศึกโดยไม่ต้องใช้เวลานาน เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ซวุนหวู่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่ การใช้กลยุทธ์ในการเอาชนะสงคราม เขาชี้ว่า กลยุทธ์์ดีที่สุดในการบัญชากองทหาร ก็คือการสามารถเอาชนะด้วยกุศโลบายทางการเมือง รองลงไปคือใช้วิธีการทางการทูต ถัดจากนั้นจึงจะเป็นการใช้กำลังอาวุธ ส่วนกลยุทธ์ที่ด้อยที่สุดคือยกทัพตีเมือง การที่จะใช้กลยุทธ์ในรการโจมตีอย่างได้ผล ไม่เพียงแต่ต้องตระหนักดีดึง กำลังที่แท้จริงของตนเองเท่านั้น หากยังจะต้องรู้สภาพของฝ่ายตรงข้าม ในบทว่าด้วย”การยุยงให้แตกสามัคคีกัน” ซวุนหวู่ชี้ให้เห็นว่า ถ้าอยากรู้สภาพข้าศึก ก็ต้องสันทัดในการใช้จารชนชนิดต่างๆไปรวบรวมสะสมข่าวกรองให้ได้มากที่สุด

ซวุนจื่อปิงฝ่า”ได้รวบรวมเอาความคิดทางปรัชญาอันล้ำค่ามากมาย เช่นสำนวน”รู้เขารู้ืเรา รบร้อยชนะร้อย” กลายเป็นสำนวนติดปาก ชาวจีน “ซวุนจื่อปิงฝ่า”เป็นตำราพิชัยสงครามที่เต็มไปด้วย ความคิดวิภาษวิธี หนังสือได้บรรยายถึงสภาพที่เป็นปฏิปักษ์และการเปลี่ยนแปลงของคู่ความขัดแย้งต่างๆ เช่น ข้าศึกกับตนเอง เจ้าภาพกับผู้มาเยือน กำลังมากกับกำลังน้อย ฝ่ายเข้มแข็งกับฝ่ายอ่อนแอ ฝ่ายโจมตีกับฝ่ายตั้งรับ ชัียชนะกับพ่ายแพ้ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับสิ่งเป็นภัยเป็นต้น “ซวุนจื่อปิงฝ่า”ได้กำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีบนพื้นฐานของการค้นคว้าศึกษาความสัมพัีนธ์ของคู่ความขัดแย้งและเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ความคิดวิภาษวิธีใน“ซวุนจื่อปิงฝ่า”มีฐานะสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์การพัฒนาของปรัชญาวิภาษวิธีของจีน

“ซวุนจื่อปิงฝ่า”ตำรงพิชัยสงครามเล่มนี้ เป็นคลังที่รวมแห่ง”กลยุทธและกุศโลบาย” นักการทหารแต่ละยุคสมัยได้ทำไปใช้กันอย่างกว้างขวาง ชื่อกลยุทธ์ ตำนาน เรื่องราวต่างๆในตำราเล่นนี้ เป็นที่แพร่หลายในหมู่ชาวจีนทั้งหลาย แม้กระทั่งเด็กและสตรีก็พูดกันติดปาก ระบบความคิดการทหารและระบบปรัชญาอันละเอียดรอบคอบ หลักตรรกะที่ลึกซึ้ง และยุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่พลิกแพลงผันแปรไม่สิ้นสุดใน“ซวุนจื่อปิงฝ่า”มีอิทธิพลกว้างขวางและยาวไกลต่อปริมณฑลความคิดทางการทหารในขอบเขตทั่วโลก ตำราพิชัยสงครามโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดังเล่มนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆถึง 29 ภาษา เช่นภาษาอังกฤษ รัสเซีย เยอรมนี ญี่ปุ่นและภาษาอื่นๆเป็นต้น เผยแพร่ไปในประเทศต่างๆทั่วโลก มีประเทศไม่น้อยได้กำหนดให้“ซวุนจื่อปิงฝ่า”เป็นตำราสอนของสถานบันหรือมหาวิทยาลัยการทหาร แหล่งข่าวแจ้งว่า ในระหว่างสงครามอ่าวเปอร์เซียที่เกิดขี้นในปี 1991 คู่สงครามต่างได้ศึกษาวิจัย“ซวุนจื่อปิงฝ่า” เพื่อนำความคิดการทหารอันล้ำค่าไปชี้นในำการศึกสงคราม

“ซวุนจื่อปิงฝ่า”ได้รถูกนำไปประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางในวงสังคม วงการค้าและด้านอื่นๆ วิสาหกิจและนักธุรกิจทั้งจีนและต่างประเทศจำนวนมาก ได้ประยุกต์แนวความคิดของ“ซวุนจื่อปิงฝ่า”ในการบริหารธุรกิจ และการตลาดอย่างได้ผล

Credit :web Thaisamkok
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 9:50 pm

ก่อนอื่นต้อง ส่งพี่ลี่หูมาอวยพรทั่นผู้อ่านในวันตรุษจีนก่อนค่ะ

ขอให้ทั่นผู้อ่านที่น่ารักทุกคน มีความสุข โชคดี เฮง เฮง เฮง

The Swordsman of Devil - Page 17 20174749in7


ตอนใหม่มาแล้วจ๊ะ สดๆร้อนๆจากเตาเหมือนเดิม ดอกรักกำลังเบ่งบานก็งี้ล่ะคะ อาจจะหวานมากไปนิดหน่อยให้มันกัดจิ๊ดๆ แต่ก็แอบหื่นเล็กๆ ให้คนอ่านแอบไปจิ้นเอาเอง อิอิ ส่วนตอนหน้าค่อยขึ้นเรท 18 up นะค่ะ ขอเวลาผู้กินกับไปเก็บตัวสัก 2 อาทิตย์ก่อนคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับตอนใหม่ในวันตรุษจีนจ้า The Swordsman of Devil - Page 17 920555869ci3
ขึ้นไปข้างบน Go down
Cipher
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
Cipher


จำนวนข้อความ : 1273
Registration date : 11/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 10:15 pm

ดีใจเอ้ยดีใจจัง ในที่สุดก้อได้ยลโฉม 17 full เสียทีThe Swordsman of Devil - Page 17 A6713342-196

แต่ดันเจอพิษงัวเงียนิทรา+มึนหัวเข้าแทรก The Swordsman of Devil - Page 17 A6954935-107

ขออิบอั๊บมาเมนต์พรุ่งนี้(ถ้าไหว)นะคะผู้กินกับ The Swordsman of Devil - Page 17 48
ขึ้นไปข้างบน Go down
lingu
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
lingu


จำนวนข้อความ : 6491
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 10:24 pm

ปิ้วววววววววววววววววว เข้ามาคนที่สองต่อจากน้องมล ผู้กินกับน่าร๊ากมาตามนัดจริงๆด้วย ไม่ผิดหวังเลยค่ะ lol!

ก่อนอื่นพาตาหลงมาอวยพรวันตรุษจีนนะคะ ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ขอให้ผู้อ่านทุกคนมีความสุข สดชื่น และผู้กินกับจินตนาการบรรเจิด สดชื่นแจ่มใส่ โชคดีๆ นะคะ santa

The Swordsman of Devil - Page 17 2009012020wq7
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=linguniang&group=3]Chil
lingu
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
lingu


จำนวนข้อความ : 6491
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 10:32 pm

อ่านจบตอนที่ 17 full แล้วรู้สึกอารมณ์ค้างค่ะผู้กินกับ ซิกๆ ก็ว่าวันนี้ถึงฉากสำมะคัญแล้วซะอีก 555 ลืมดูเรทติ้งว่าแค่เรท 13 ต่อไปเรท 18 แล้วจะมีเรท 25 up ป่าวจ๊ะ คริๆ

อ่านตอนนี้แล้วกองเชียร์รู้สึกระทวยค่ะ เคลิ้มมมมมมมมม อยากเป็นยายหลาน ผู้กินกับคะ หวีดมั่กๆค่ะ คำพูดพี่หลงหวานซะ น้องหลานไม่รักไม่หลงก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ววว แถมยังขโมยจุ๊บจนได้ ตาหลงเนี่ยไม่ธรรมดาเลยน้า
ใครว่าตาหลงทื่อๆซื่อๆ ไม่จริ้งง ดูคำพูดแต่ละคำสิช่างลึกล้ำมีความหมายซะ

ส่วนพี่ลี่หู แหมมมม ตะก่อนเคยเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ตอนนี้เจอพิษรักนะจังงันของน้องเซียงเข้า ทำเอาเป็นแมวเชื่องๆเลยค่ะ หวีดไม่เบานะเนี่ย แต่รู้สึกว่าพี่ลี่หูยังมีอะไรแอบแฝงแบบว่าปิดบังน้องเซียงอยู่นะคะ แล้วพ่อพี่ลี่หูยังดูกีดกันน้องเซียงไงไม่รุ เหมือนกับเห็นเฆมตั้งเค้ามาแต่ไกลเลยค่ะ

ส่วนแม่นางหยูม่งม่องซะแระ ดูจากรูปการณ์คุณชายลู่ฟงจะให้อภัยน้องเซียงแล้วยอมเป็นแค่พี่ชายจริงรึป่าวไม่รุ คิดว่าคดีนี้สาเหตุอาจไม่ใช่ฝีมือพี่ลู่ฟงก็ได้ค่ะ แบบว่าให้คะแนนสงสารคุณชายมานาน ไม่อยากเชื่อว่าคุณชายจะโหดกับคนที่เคยชอบขนาดนี้อ่ะ (แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะขนาดคนที่รักอย่างน้องเซียงยังทำมาแล้ว) แต่คิดว่าคดีมีคงซับซ้อนล่ะนะ

การประลองตอนนี้แค่เป็นน้ำจิ้ม แบบว่าลุ้นตามเลยค่ะ อยากให้ถึงรอบประลองไวๆ ว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นใดต่อไป ตอนนี้กองเชียร์แบ่งใจยากค่ะ ไม่รู้จะเชียร์ใครระหว่างพี่หลงกับพี่ลี่หู (แต่แอบเอียงไปทางพี่หลงนิ๊ดนึง Embarassed)
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=linguniang&group=3]Chil
Cipher
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 3 กระบี่ไร้เงา
Cipher


จำนวนข้อความ : 1273
Registration date : 11/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyMon Jan 26, 2009 10:48 pm

ยังอ่านไม่จบ แอบอ่านไปติ๊ดเดียวเอง แค่อยากจะ "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" คะ

ทำไมพี่หลงหวานได้ใจขนาดนี้คะ พี่หลงเลือกถูกแล้วล่ะคะ หัวใจย่อมสำคัญกว่าหน้าที่คะ The Swordsman of Devil - Page 17 66

ผู้กินกับทำเอาคนอ่านจิ้นไปว่า ถ้าผู้กินกับอยู่กับพี่ลี่หูสองต่อสองนี่ จะหวานสักขนาดไหนเนี่ย Embarassed

ปล.ขออนุญาตมาอ่านต่อพรุ่งนี้จริงๆ แล้วคะ ไม่ไหวแล้ว
ขึ้นไปข้างบน Go down
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyTue Jan 27, 2009 8:20 pm

พี่หลิน...ค้างไหมค่ะ หมายถึงอารมณ์ค้างไหมค่ะ อิอิ ให้ทายสิเอ่ย หลังจากพี่หูดับไฟแล้วจะทำอะไรต่อ ระหว่าง

ข้อ 1 ชวนน้องเซียงไปนอนเล่นปูไต่

ข้อ 2 ชวนน้องเซียงไปนอนเล่นจ้ำจี้

ข้อ 3 ชวนน้องเซียงไปนอนดูดาว

ข้อ 4 ชวนน้องเซียงไปนอน........... (จิ้นเอาเอง)

ตอนที่ 17 full ปลอบใจทั่นผู้อ่านที่โดนผู้กินกับกลั่นแกล้งด้วยตอนที่ 17.1 คะ เป็นไงบ้างคะทำเอาเคลิ้มเลยใช่ไหมล่ะ ยายหลานตอนแรกก็งอนๆตาหลงอยู่นะ แต่พอเจอคำง้อของตาหลงไปแต่ละคำ ทำเอาอายม้วนไปเลย ดูดิ ขนาดเดินผิดทิศผิดทาง ตาหลงไม่น่าแกล้งยายแบบนี้เลยเนอะ ฝากพี่หลินไปอบรมตาหลงหน่อยนะคะว่าอย่าแกล้งยายหลานแบบนี้บ่อยๆ เดี๋ยวเกิดยายเขินแล้วเดินผิดทางไปเข้าห้องตาหลงขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น (จิ้นเอาเอง) กรี๊ดดด

ส่วนคุณพี่ลี่หูคนหยิ่ง เดี๋ยวนี้หยิ่งไม่ออกแล้วค่ะ ตั้งแต่ยอมรับกับป๊ะป๋าว่าอินเลิฟน้องเซียง ก็เดินหน้าแจกขนมจีบน้องเซียงไม่มีกั๊ก สงสัยตั้งใจจะผลิตหลานซินเอ๋อให้ตาหลงกับยายหลานมากๆเลยค่ะ เลยต้องหวานเข้าไว้ น้องเซียงจะได้ยอมร่วมมือ อิอิ (ยิ่งใกล้ตอนที่ 18 ผู้กินกับยิ่งหื่นวุ้ย เฮ้อ) นี่ทับทิมเพิ่งนึกออกนะว่ามันช่างพอเหมาะมากๆ ที่หลานซินเอ๋อจะมากำเนิดในตอนที่ 18 พอดี ก็หมายถึงตอนที่ 18 คือเรท 18 up อ่ะคะ แต่พี่ลู่ฟงยังไงก็ยังน่าสงสารอยู่ รักมากก็แบบนี้ล่ะคะ ถึงจะร้ายแต่ก็ยังน่าสงสารอยู่

รอตอนที่ 18 นะค่ะ การประลองที่เข้มข้น หยูเยี่ยนจะปรากฏตัว ขอเวลาผู้กินกับเก็บตัว 2 อาทิตย์ค่ะ เพื่อฉากที่ตื่นเต้นในการประลอง และฉากรักที่ความสวยงาม (น้ำลายหก)


น้องมล...เจ็บคอไหมค่ะ กรี๊ดซะลั่นเชียว ดีนะที่พี่เตรียมอุดหูมาก่อนไม่งั้นล่ะแย่เลย ค่อยๆอ่านไปนะค่ะ ขอบอกว่าตอนนี้คู่พี่กับคู่น้องแข่งกันหวานน่าดูเชียวล่ะคะ

ส่วนคำถามที่ว่าถ้าพี่ลี่หูอยู่กับผู้กินกับสองต่อสองจะหวานสักขนาดไหน แหมๆ ไม่หวานหรอกค่ะ พี่ลี่หูเค้าหวานกับน้องเซียงคนเดียว แต่ถ้าเป็นพี่เฉาก๊วยอยู่กับผู้กินกับสองต่อสองล่ะก็...เสียผีค่ะ โหะๆๆ
ขึ้นไปข้างบน Go down
lingu
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 4 กระบี่ไร้น้ำตา
lingu


จำนวนข้อความ : 6491
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyTue Jan 27, 2009 8:38 pm

ค้างสิเค๊อะ ถามด้ายผู้กินกับล่ะก็ ทำเอาน้ำหมากที่กำลังจะหยดแห้งเหือดหายโม้ดดดด 555

คำถามคราวก่อนผู้กินกับยังไม่เฉลยเลยนะคะ หรือว่าต้องรอให้ตอนที่ 18 ออนแอร์ก่อนเอ่ย แต่จะตอบคำถามสะสมโบนัสตอนนี้ก่อนก็ได้ค่ะ ตุนไว้ๆ

ข้อที่ 1 ชวนน้องเซียงไปเล่นปูไต่ คิดว่าไม่น่าจะใช่ค่ะ เพราะน้องเซียงเล่นกับพี่สาวมาเยอะแระ ขืนพี่ลี่หูมาชวนเล่นอีก ต้องหยิกให้เนื้อเขียวเลยค่ะ ข้อนี้ผ่าน

ข้อที่ 2 ชวนน้องเซียงไปนอนเล่นจำจี้มะเขือเปาะ อันนี้ก็ไม่ใช่อีกแระ ก็น้องเซียงเล่นกับพี่สาวมาตั้งกะเด็กแล้ว จะมาเล่นอะไรกันตอนนี้อีก น่าเบื่อแย่เลยค่ะ ข้อนี้ผ่าน

ข้อที่ 3 ชวนน้องเซียงไปนอนดูดาว ข้อนี้ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เพราะดาวน่ะมีบ่อยๆ แทบทุกคืน ดูเมื่อไหร่ก็ได้ แถมจำได้ว่าพี่หูเคยชวนน้องเซียงดูดาวแล้วครั้งหนึ่งถ้าจำไม่ผิด ขืนชวนอีกต้องไม่รอดแน่ คือ ไม่รอดที่จะถูกงอนค่ะ อย่าคิดลึก ฮิๆ ข้อนี้ก็ผ่าน

ข้อ 4 ชวนน้องเซียงไปนอนในห้องหอค่ะ สองเรารักกัน พี่ลี่หูรักน้องเซียง น้องเซียงรักพี่ลี่หู เพราะงั้นจะช้าอยู่ใย พี่หูอาจบอกว่า พี่ช้ำในจะแย่แล้ว อาจไม่รอดถึงพรุ่งนี้ เพราะงั้น อะคึๆๆ เรามาช่วยกันผลิตเซียงเอ๋อให้ตาหลงกับยายหลานดีกว่า จะได้เป็นโซ่ทองคล้องรักของเราสองคน แม้ในอนาคตไม่ได้ครองคู่เราก็เป็นสามีภริยากันแล้ว กิ๊ดดดด (ทำไมคนอ่านบรรยายไปน้ำหมากกระจายไปไม่รุค่ะผู้กินกับ หน้างี้ไม่ต้องบอกเลย หื่นเชียว 555)
ข้อนี้แหล่ะ ฟันธง!!

ผู้กินกับทับทิมกรอบคะ กองเชียร์พี่หลงไม่ขอเอาพี่หลงไปอบรมค่ะ เพราะทำดีแล้ว แกล้งเข้าไปเลยยายหลานอ่ะ กองเชียร์ชอบค่ะ ยิ่งทำให้ยายหลานรักมากเท่าไหร่ เขินมากเท่าไหร่ ยิ่งชอบค่ะ ต้องบอกว่าจะหาอะไรมาเป็นรางวัลให้ตาหลงดีกว่า หวีดหวานแบบนี้ดีแล้วค่ะตาหลง Laughing

ส่วนแม่นางหยูเยี่ยนก็รอคอยอยู่ว่าชีจะชุบตัวเสร็จเมื่อไหร่ล่ะค่ะ ไม่รุเนื้อตัวเปื่อยไปเท่าไหร่แล้ว แทบอดใจไม่ไหวว่าชีจะมีดีอะไรมาทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น หวังว่าแม่นางหยูเยี่ยนจะไม่ทำให้แฟนๆผิดหวังนะคะ
ผู้กินกับจะเก็บตัวอีก 2 อาทิตย์ก็ยินดีรอเสมอค่ะ เอาใจช่วยนะคะ king
ขึ้นไปข้างบน Go down
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=linguniang&group=3]Chil
tabtim
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
ศิษย์พี่ชาเรี่ยน 2 กระบี่มังกรหยก
tabtim


จำนวนข้อความ : 868
Registration date : 12/09/2008

The Swordsman of Devil - Page 17 Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: The Swordsman of Devil   The Swordsman of Devil - Page 17 EmptyTue Jan 27, 2009 8:56 pm

อ่านคำตอบของพี่หลินแล้ว ขำแทบตกเก้าอี้ ไม่คิดว่าพี่หลินจะจิ้นไปได้ไกลและบรรยายออกมาได้จริงจังและมีหลักการมากๆ คำถามข้อนี้ไม่มีคะแนนให้เก็บสะสมนะคะ ผู้กินกับเอามาให้พี่หลินทายโดยเฉพาะ แหม ก็ดูแต่ละข้อเลือกสิคะ มันชวนให้จิ้นไปได้หมดล่ะค่ะ เล่นปูไต่งี้ จ้ำจี้งี้ ดูดาวงี้ แต่ดูเหมือนว่าพี่หลินจะจิ้นไปได้ไกลกับข้อ 4 ที่สุดนะค่ะ ฮ่าๆๆ พี่หลินบรรยาว่าพี่ลี่หูช้ำในอยู่แล้วนี่ยังมีแรงเหลือชวนน้องเซียงเข้าหออีกหรอค่ะ ไม่เอาๆนะไม่เอา อย่าหักโหมค่ะ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ

คำถามสะสมแต้ม ยังไม่เฉลยคำตอบนะค่ะ จะเฉลยในตอนที่ 18 ค่ะ อดใจรอกันหน่อย ขอบอกว่ามีคนตอบถูกแล้วด้วย แถมการวิเคราะห์คำตอบก็ใกล้เคียงจริงๆด้วยล่ะคะ ไม่บอกๆว่าใครจะได้ 2 คะแนนนี้ไปนะค่ะ

ตาหลงทำดีแบบนี้งั้นก็ไม่ต้องส่งไปอบรมก็ได้ค่ะ เปลี่ยนเป็นหาของรางวัลมาให้พี่หลงแล้วกัน เอาเป็นของบำรุง ไก่ตุ๋น เป็ดตุ๋น หมูตุ๋น โสมตุ๋นรังนก ต้องเตรียมความพร้อมให้พี่หลงสำหรับการประลองคะ บำรุงมากๆหน่อย

ตอนหน้าหยูเยี่ยนมาแล้วค่ะ ไม่เก็บตัวไว้แล้ว คือที่เจ๊โซเนียคนสวยมีบทน้อยช่วงแรก เพราะเจ๊ติดถ่าย D.I.E 2 อยู่อ่ะคะ เทคิวมาให้ผู้กินกับได้นิดหน่อย แต่เจ๊บอกว่าเดี๋ยวจะเริ่มเทคิวให้ผู้กินกับแล้วค่ะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
The Swordsman of Devil
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 17 จาก 37ไปที่หน้า : Previous  1 ... 10 ... 16, 17, 18 ... 27 ... 37  Next

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
Welcome To Charlianz world :: Fiction & Recreation :: Fiction & Recreation-
ไปที่: